บทที่ 1584 สังหารหมู่

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1584 สังหารหมู่

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“เขตแดนอมตะ…นี่ไม่ใช่เรื่องตลก!”

 

“ท่านฟางหยวน เราอยู่ฝ่ายเดียวกัน!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

 

ในโลกยุคปัจจุบัน มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอํานาจเหนือเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะเหล่านี้อาศัยอยู่ในแดนน้ําแข็งอย่างสิ้นหวัง พวกเขามีแรงกดดันมหาศาลในการเอาชีวิตรอด ท่ามกลางสภาพแวดล้อมนี้มนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะถือว่าไม่ใช่คนไร้ประโยชน์

 

หากไม่ใช่เพราะกลิ่นอายระดับเจ็ดและพลังการต่อสู้ระดับแปดของฟางหยวนผู้อมตะ เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ระดับหกเหล่านี้อาจโจมตีไปแล้ว

 

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขามองผู้อมตะระดับเจ็ดคนเดียวที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์และถอนหายใจ “อย่าตกใจ ข้าเป็นพันธมิตรของพวกเจ้า ข้าจะทําร้ายพวกเจ้าได้อย่างไร? แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแพ้การต่อสู้ มีเพียงข้าที่สามารถหลบหนี เราแพ้เพราะมีคนทรยศในหมู่พวกเรา!”

 

“กระไรนะ!? เราแพ้!?”

 

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกวังสวรรค์ยึดครองงั้นหรือ?”

 

“เรามีคนทรยศงั้นหรือ?”

 

คํากล่าวของฟางหยวนทําให้กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ตกตะลึง

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์หิมะขมวดคิ้วลึก “ท่านฟางหยวน โปรดเปิดเขตแดนอมตะให้พวกเราสื่อสารกับเผ่าของเรา!”

 

แต่ก่อนที่เขาจะกล่าวจบ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขึ้น เขากรีดร้อง “วิญญาณอมตะของข้า!”

 

มันเป็นมือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนอีกครั้ง

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆรู้สึกสับสน พวกเขาถามด้วยความเป็นห่วง “ท่านปิงเจา เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

ถูกต้อง ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์หิมะที่อยู่ดูแลฐานทัพของพวกเขาก็คือปิงเจา เขามีความสัมพันธุ์ที่ค่อนข้างดีกับฟางหยวน ครั้งหนึ่งเขาเคยเชิญฟางหยวนดื่มสุราหมาป่าน้ําแข็งของเขา

 

ปิงเจามองฟางหยวนด้วยความโกรธ เขากําลังจะกรีดร้องแต่ฟางหยวนกลับชี้นิ้วมาที่เขาและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่จริงจัง “เจ้าคือคนทรยศ!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์รู้สึกตกใจอีกครั้ง

 

“ข้าไม่ใช่คนทรยศ! ฟางหยวน เจ้าขโมยวิญญาณอมตะของข้าและกล่าวหาข้า เจ้ามีเจตนาใด?” ปิงเจาโกรธจัด เขาคว้าอากาศและสร้างหอกน้ําแข็งเอาไว้ในมือ

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชาและกล่าวด้วยความโกรธและโศกเศร้า “ข้ากล่าวความจริง พวกเจ้าได้ยินถูกต้องแล้ว ดูข้อตกลงพันธมิตรไม่ได้ทําสิ่งใดข้า ปิงเจาผู้นี้คือสายลับของวังสวรรค์! ปิงเจาตัวจริงเสียชีวิตไปนานแล้ว!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆมองหน้ากัน เซี่ยเอ๋อคู่หมั้นของฟางหยวนถาม “มีเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่? ท่านปิงเจาอยู่กับเรามาตลอด”

 

“ข้าไม่ใช่คนทรยศ! ต้องมีเรื่องเข้าใจผิด ท่านฟางหยวน ท่านอาจตกลงสู่หลุมพรางของศัตรู รีบคืนวิญญาณอมตะให้ข้า!” ปิงเจากล่าวด้วยการแสดงออกที่เย็นชา

 

แต่ในเวลาต่อมาร่างของเซี่ยเอ๋อก็สั่นสะท้านขึ้นขณะที่นางแสดงออกด้วยความหวาดกลัว “วิญญาณอมตะของข้า!”

 

ปิงเจาป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้อีก ขณะที่เซียเอ๋อเป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่า

 

“ฟางหยวน!” เชี่ยเอ้อมองฟางหยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

ปิงเจาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนและตะโกนด้วยความโกรธ “ข้ารู้ว่ามนุษย์เช่นเจ้าไม่สามารถเชื่อถือ!”

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน “น่าขัน”

 

หลังกล่าวจบคํา กองทัพบุตรแห่งภูตก็ปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีปิงเปารวมถึงผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดทันที

 

ฟางหยวนเผยเจตนาร้ายออกมาในที่สุด ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ไม่ลังเลอีกต่อไป พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนหลังจากหายตกใจ

 

แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเปรียบเทียบกับบุตรแห่งภูตที่มีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ดได้อย่างไร?

 

หลังการปะทะครั้งแรก กองกําลังผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ก็แตกพ่ายและถูกบังคับให้ตกสู่ความสิ้นหวังไปแล้ว

 

ฟางหยวนในร่างราชันภูตยืนควบคุมสถานการณ์อยู่ห่างๆและปล่อยให้กองทัพบุตรแห่งภูต โจมตีฝ่ายตรงข้าม

 

บุตรแห่งภูตไร้ประโยชน์ต่อฟังจิวเก้อและผู้อมตะวังสวรรค์ แต่สําหรับผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ มันเพียงพอแล้ว

 

หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนตั้งใจถ่วงเวลา ผู้อมตะระดับหกเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คงตายไปนานแล้ว

 

มีเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดปิงเจาที่ยังดิ้นรนต่อสู้อย่างยากลําบากแต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนี

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

ฟางหยวนใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณอย่างต่อเนื่องและค่อยๆขโมยวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้ามที่ละดวง

 

นี่คือเหตุผลที่ฟางหยวนถ่วงเวลาเอาไว้ หากเขาบังคับศัตรูมากเกินไป พวกเขาอาจสิ้นหวังและทําลายวิญญาณอมตะรวมถึงทรัพยากรทั้งหมดของตนเอง หากเป็นเช่นนั้นฟางหยวนจะสูญเสียผลประโยชน์

 

แต่ตอนนี้พวกเขายังมีความหวัง ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ต้องการต่อสู้จนถึงที่สุด มีเพียงไม่กี่คนที่จะมีความเด็ดเดี่ยวและระเบิดตัวเองเช่นเฉิงตู

 

นอกจากนี้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ยังใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ พวกเขามีประสบการณ์การต่อสู้เพียงเล็กน้อยและไม่ได้ข้อมรบมากนัก

 

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญา ฟางหยวนเข้าใจความคิดของพวกเขาเป็นอย่างดี แม้กลยุทธ์ของเขาจะเรียบง่าย แต่มันมีประสิทธิภาพอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

เมื่อวิญญาณอมตะของพวกเขาถูกขโมย ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยิ่งลดลง

 

“ฟางหยวน ข้าคิดผิดเกี่ยวกับเจ้า! เหตุใดเจ้าจึงไร้ยางอายถึงเพียงนี้ เจ้าทําร้ายพันธมิตรของเจ้าเอง!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินตะโกนด้วยความโกรธ

 

ปิงเจาเผยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้าไม่รู้งั้นหรือว่าคนผู้นี้กําจัดข้อตกลงพันธมิตรไปแล้ว เขาไม่ใช่พันธมิตร เขาเป็นศัตรู!”

 

“เห้อ…พวกเจ้าช่างพูดมากนัก” ฟางหยวนถอนหายใจเบาๆและทําให้บุตรแห่งภูตระเบิดตัวเอง

 

ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!

 

ปิงเจาเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด แต่บุตรแห่งภูตมีมากเกินไป เขาไม่สามารถหลบเลี่ยง หลังจากถูกโจมตี เขาก็กลายเป็นซากศพไปในที่สุด

 

“ท่านปิงเจา!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น

 

เซี่ยเอ้อเกือบเป็นลม

 

ฟางหยวนแสดงออกอย่างเย็นชา เขาขโมยวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้ามได้เกือบทั้งหมด แล้วสําหรับบางคนที่มีวิธีป้องกันที่ดี มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขา ขณะเดียวกันฟางหยวนก็มีเวลาจํากัด เขาไม่สามารถยื้อเวลานานเกินไป ดังนั้นเขาจึงต้องเริ่มต้นการสังหารหมู่

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เสียชีวิตทีละคน มีเพียงเซี่ยเอ๋อเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้เป็นคนสุดท้าย

 

“เจ้าปีศาจ ข้าจะไม่ยอมจํานนต่อเจ้าแม้จะกลายเป็นผี!” เชี่ยเอ๋อกล่าวประโยคสุดท้ายของนางด้วยความเกลียดชัง

 

ทันใดนั้นกองทัพบุตรแห่งภูตก็พุ่งเข้าฉีกกระชากร่างของนางออกเป็นชิ้นๆ

 

สําหรับดวงวิญญาณของนาง มันถูกเก็บรักษาไว้ในสนามรบราชันภูตรวมกับดวงวิญญาณของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆ

 

คันวิญญาณ!

 

ด้วยการค้นวิญญาณ ฟางหยวนจึงเข้าใจรายละเอียดต่างๆของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะ

 

ฟางหยวนเก็บเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตก่อนจะไปยังแดนน้ําแข็ง

 

การสังหารหมู่ครั้งนี้ใช้เวลาพอสมควร แต่กระบวนการนี้ไม่ถูกขัดขวางโดยกองกําลังภายนอก ไม่มีการอนุมานหรือการโจมตีสนามรบราชันภูต สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านั้นคือผู้อมตะกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่นี่

 

ฟางหยวนเดินทางไปยังที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะ

 

ต่อมาเขาก็ย้ายเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะทั้งหมดเข้าไปในมิติของว่างของเขา

 

เขายังขุดค้นคลังสมบัติของทั้งสองเผ่าและเก็บพวกมันไว้เช่นกัน

 

ทรัพยากรเหล่านี้ต่างเป็นสมบัติล้ําค่าจากยุคโบราณ กระทั่งสวรรค์สีเหลืองก็ไม่มีขาย

 

สําหรับมิติช่องว่างของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ตายแล้ว ฟางหยวนปิดผนึกพวกมันไว้ชั่วคราว เขาไม่ต้องการวางพวกมันลงที่นี่

 

วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ด!

 

ด้วยการใช้วิญญาณอมตะดวงนี้ ฟางหยวนทิ้งบ้านเดิมของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะที่ถูกทําลายเอาไว้เบื้องหลัง

 

ในเวลาต่อมาเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ภาคใต้

 

“ผู้ใด?” ผู้อมตะภาคใต้สองคนตะโกนขณะที่ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะราชันภูต

 

เขาชี้นิ้วออกไปด้วยรอยยิ้มเย็นชา

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

หลังจากระเบิดวิญญาณถึงหกครั้ง ผู้อมตะภาคใต้ทั้งสองก็วิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่รู้ว่าคนบ้าผู้นี้เป็นผู้ใดแต่เขาโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง

 

ผู้อมตะภาคใต้สองคนจากไปด้วยความช่วยเหลือจากค่ายกลวิญญาณอมตะ ฟางหยวนไม่ได้ขัดขวางพวกเขา

 

หลังจากนั้นเขาก็ทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะดังกล่าวลงอย่างง่ายดาย

 

เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะถูกทําลาย สิ่งที่อยู่ภายในก็เผยตัวออกมา

 

ฟางหยวนยิ้มเมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มหมอกควันที่ส่องประกายระยิบระยับ

 

อาณาจักรแห่งความฝัน!