AST
บทที่1855 – เพลงหมัดหัตถ์เมฆา
”เจินเอ๋อเปาเอ๋อชอบเจ้า พ่อรับรองได้ว่าเขาชอบเจ้าจากใจจริง พ่ออยากเห็นเจ้าพบกับคนที่ให้ความสุขเจ้าได้”ชายผู้แสนสุภาพค่อยๆอธิบายอย่างช้าๆ นึกในใจแล้วเขาเองก็ดูไม่มีความสุขนัก
ไม่มีพ่อคนใดอยากเห็นลูกสาวอยู่กับความทุกข์แต่เพราะหลายสิ่งหลายอย่างเหนือการควบคุม มิฉะนั้นเขาเองก็คงไม่เห็นด้วยเหมือนกัน
”แต่ข้าไม่ได้ชอบเขาข้าไม่อยากแต่งงานกับเขา “เฉินเจินกล่าว
เธอคือความภาคภูมิใจของตระกูลหากเธอสามารถผ่านทุกอย่างได้เธอก็ได้อะไรข้อพันธะ เพียงแต่มันน่าเสียดายที่อีกฝ่ายเป็นคนของนิกายสวรรค์ดาราอมตะ ไม่ใช่เป็นนิกายต้อยต่ำ นอกจากนี้พวกเขายังกำบุญคุณที่ต้องชำระเอาไว้เป็นข้อต่อรอง เหลียนเฉินเปาก็เป็นถึงอัจฉริยะแห่งตระกูลเหลียนเฉินแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกชายคนโต แต่ก็ถือยศศักดิ์ตำแหน่งสูงส่งภายในตระกูล ดังนั้นทุกคำพูดของเขาจึงเต็มไปด้วยน้ำหนักที่ต้องแบกรับเหมือนคำสั่งที่ทุกคนต้องทำตาม
อันที่จริงแล้วเหลียนเฉินเปาก็พร้อมจะแต่งงานกับหญิงสาวอีกหลายคน แต่เขาก็ยังคงพูดจาเหมือนกับว่าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากเฉินเจิน
”เจ้าอยากให้คนอื่นเลิกนับถือพ่อของเจ้าหรือไง?พันธสัญญาทุกอย่างถูกสร้างขึ้น ย่อมต้องมีความรับผิดชอบ ทุกคนมีชะตากรรมและมีหน้าที่ของตนเอง บางครั้งเจ้าก็ไม่สามารถทำตามที่ใจเจ้าต้องการได้ ทุกคนบนโลกย่อมต้องเจอกับสถานการณ์บีบคั้น สิ่งเดียวที่ทำได้คงต้องปรับตัวให้เข้ากับมัน”ชายที่ดูสุภาพจ้องมองเฉินเจินพร้อมกับกล่าวอย่างเชื่องช้า
”ในฐานะที่ข้าเองก็เป็นพ่อไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าก็ไม่มีวันเอาความสุขของลูกสาวไปแลกเปลี่ยนเป็นผลประโยชน์ของตน เมื่อเจ้าได้ตัดสินใจลงไปแล้ว มันก็ต้องแลกระหว่างเจ้าจะยอมสูญเสียฐานะพ่อที่ดี หรือจะยอมสูญเสียตำแหน่งของตน” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ
คำพูดของชิงสุ่ยเหนือความคาดหมายอย่างมากหลายคนที่กำลังมองดูอยู่คิดเพียงแค่ว่าชิงสุ่ยนั้นเป็นเพียงแค่ทาสรับใช้ ไม่ควรกล่าวยุ่งเกี่ยวกับบทสนทนาทั้งหมดครั้งนี้
”เจ้าเป็นใครกัน?เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะพูดแบบนี้ออกมา?”เหลียนเฉินเปาจ้องมองชิงสุ่ยพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงหยิ่งผยอง
”มันไม่สำคัญหรอกว่าข้าคือใครแต่ที่ข้าคิดคือคนไม่ควรบีบบังคับผู้อื่นให้ต้องแลกความสุขเพื่อนำมาซึ่งความสุขของตนเอง เจ้าเห็นด้วยกับความคิดของข้าหรือไม่?”ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่เหลียนเฉินเปา
”พิธีแต่งงานของพวกเราถูกจัดเตรียมไว้ตั้งนานแล้วเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? ถ้าหากพูดอีกคำเดียว ข้าจะปิดชีพเจ้า”เหลียนเฉินเปากล่าวด้วยความขุ่นเคือง หากไม่ใช่เพราะชายที่โต้เถียงกับเขาเป็นคนใช้ของเฉินเจิน เหลียนเฉินเปาก็คงกำจัดเขาไปนานแล้ว
”อย่าพูดอีกเลยข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเก่งพอจะฆ่าข้าได้ อ่อ แล้วอีกอย่าง นางจะไม่แต่งงานกับเจ้า ถ้าหากจะให้ข้าพูดจริงๆ เจ้าไม่แม้แต่จะเหมาะสมกับนาง หรือจะพูดว่า คางคกไม่ควรกินเนื้อหงส์” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
”เจ้าเป็นใครกันแน่?แล้วเจ้ามีความสัมพันธ์อะไรกับน้องเจิน?”เหลียนเฉินเปาตรวจสอบชิงสุ่ยอย่างระมัดระวัง เขารับรู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา
”พวกเราก็แค่เพื่อนเพื่อนที่สนิทกันมากๆ”ชิงสุ่ยยิ้ม
คำพูดของชิงสุ่ยทำให้เหลียนเฉินเปาอารมณ์เสียมากยิ่งขึ้นเพราะเขารู้ดีว่าเฉินเจินแทบไม่ผูกมิตรกับใครง่ายๆ
”ข้าไม่อยากสนทนากับเจ้าอีกแล้วในเมื่อเจ้าคือเพื่อนที่สนิทของน้องสาวเจิน คำแนะนำที่ดีที่สุดของข้าคือขอให้เจ้าออกห่างจากนางไปให้ไกลที่สุด และข้าไม่อยากเห็นเจ้าเข้าใกล้น้องสาวเจินอีกเป็นอันขาด”ดวงตาของเหลียนเฉินเปาเต็มไปด้วยความเย็นชากระหายเลือด
ชิงสุ่ยรู้ดีว่าชายคนนี้กำลังวางแผนที่จะฆ่าเขาไม่ว่าเขาจะจากไปหรือไม่ สุดท้ายเหลียนเฉินเปาก็คงตามมาฆ่าเขาอยู่ดี
แน่นอนว่าชิงสุ่ยมิได้เกรงกลัวคำพูดของเหลียนเฉินเปาเลยเขาจึงยิ้มกลับไป “ทำไมข้าจะต้องเป็นคนไป? สถานที่ที่แสนสวยงาม นอกจากนี้ยังมีหญิงสาวโฉมงามอีกคนคอยดูแล คอยเป็นเพื่อนดื่มสุรา คอยพูดคุยสารทุกข์สุขดิบต่างๆ ชีวิตของคนๆหนึ่งยังจะมีอะไรต้องการไปมากกว่านี้แล้วงั้นรึ”ชิงสุ่ยยิ้มก่อนจะพูดเรื่องไร้สาระ
”ในเมื่อเจ้าขอเช่นนี้ก็จงอย่าโทษสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่านลุงเฉิน ข้าฝากท่านจัดการเด็กบัดซบคนนี้ด้วย”เหลียนเฉินเปายิ้มก่อนจะหันไปมองชายวัยกลางคนที่มีความสุภาพ
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ชิงสุ่ยก็เริ่มสงสัยว่าทำไมเขาถึงขอให้พ่อของเฉินเจินเป็นคนจัดการแทน หรือว่ามันจะมีเหตุผลเบื้องลึกมากกว่านั้น
ชายผู้มีอัธยาศัยดีมีความสุภาพไม่กล้าปฏิเสธเขาพยักหน้าและเดินเข้าหาชิงสุ่ยอย่างช้าๆ
”ท่านพ่อเขาคือเพื่อนของข้านะ”เฉินเจินรีบเดินมายืนอยู่ด้านหน้าชิงสุ่ย
”ผู้ชายซ่อนตัวอยู่หลังผู้หญิงช่างหน้าไม่อายจริงๆ”เหลียนเฉินเปากล่าวคำพูดกระแทกแดกดัน
ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวว่า”ดีกว่าเจ้าหนูน้อยบางคน ที่ยืมมือผู้ใหญ่จัดการเด็ก น่าสมเพช ลองออกมาจากการข้าด้วยตัวเองสิ ถ้าเจ้ากล้านะ”
คำพูดของชิงสุ่ยปักกลางใจเหลียนเฉินเปา”ในเมื่อเจ้าอยากตายด้วยน้ำมือของข้า ข้าก็จะทำตามความปรารถนาของเจ้า!!”
ทันทีที่เหลียนเฉินเปากล่าวจบเขาก็พุ่งเข้าหาชิงสุ่ยโดยไม่พูดจาอะไรกับพ่อของเฉินเจินเลย
ชิงสุ่ยเดินออกไปยืนอยู่ด้านหน้าเฉินเจินและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า”ในฐานะที่เจ้าเป็นผู้หญิง เจ้าแม่จำเป็นต้องยืนอยู่หน้าผู้ชายหรอก อย่าทำให้ร่างกายที่งดงามของเจ้าเปรอะเปื้อนเลย”
เมื่อชิงสุ่ยกล่าวจบเขาก็พุ่งทะยานเข้าหาเหลียนเฉินเปาเฉินเจินหน้าปากทางโดยไม่พูดอะไรเลย คำพูดของชายผู้นี้มักจะทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรดี
ชิงสุ่ยพุ่งเข้าใส่เหลียนเฉินเปาเนื่องจากคู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช้อาวุธ เขาจึงไม่ใช้อาวุธเช่นกัน มันคือการเผชิญหน้าโดยอาศัยกำลังล้วนๆผสมปนเปไปกับความหยิ่งผยอง
เพลงหมัดหัตถ์เมฆา!!
เพลงหมัดหัตถ์เมฆาของชิงสุ่ยเกิดจากส่วนผสมระหว่างความอ่อนโยนและความทึกทนเขาสามารถโต้ตอบการโจมตีสวนกลับไปด้วยความอ่อนโยน ทันทีที่เหลียนเฉินเปาปล่อยเพลงหมัดปะทะเข้ากับกำปั้นของชิงสุ่ย เขารู้สึกทันทีว่าหมัดของเขากำลังทะลุผ่านกองดอกไม้จำนวนมาก ซึ่งมันก็แฝงไปด้วยความรู้สึกอึดอัดเช่นกัน