บทที่ 1271 เธอแต่งงานหรือยัง / บทที่ 1272 แบดเจอร์หวนกลับทุ่งหญ้ากว้าง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1271 เธอแต่งงานหรือยัง

หลายวันที่ผ่านมา เยี่ยหวันหวั่นผ่านทางคดเคี้ยวหลายรอบ เปลี่ยนเครื่องบินหลายหน ข้ามน้ำข้ามมหาสมุทร ลำพังแค่เรือก็ไม่รู้นั่งไปกี่รอบ

เยี่ยหวันหวั่นสาบานว่าเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่า จะถึงกับมีสถานที่ที่จำเป็นต้องทุ่มทุนทุ่นแรงขนาดนี้จึงจะไปถึงอยู่…

ประเทศที่อยู่ใกล้รัฐอิสระมากที่สุด ไม่มีเที่ยวเรือของรัฐอิสระแม้แต่น้อย กระทั่งว่ารัฐอิสระยังไม่มีบนแผนที่ของประเทศรอบๆ!

เข้าสู่รัฐอิสระก็ดี ออกจากรัฐอิสระก็ดี มีวิธีการอยู่สามแบบ

แบบที่หนึ่ง เรือข้ามฟาก

แบบที่สอง เครื่องบินส่วนตัว

แบบที่สาม ว่ายน้ำ…ว่ายในทะเลเก้าเก้าแปดสิบเอ็ดวันก็เกือบถึงแล้ว

“รัฐอิสระ ทวดแกเถอะ!”

เยี่ยหวันหวั่นอยู่ในถ้ำของแถบเทือกเขาแห่งหนึ่ง กำลังบิดน้ำบนเสื้อผ้าให้แห้ง

เยี่ยหวันหวั่นว่ายน้ำจริงๆ ว่ายจากในทะเล…ไปถึงรัฐอิสระ…

วินาทีสุดท้ายของเรือข้ามฟากเกิดอุบัติเหตุ เรือเอียงจากนั้นก็จมลงช้าๆ

ต่อมาเจ้าหน้าที่บนเรือก็ติดต่อทีมกู้ภัยของรัฐอิสระมา

ภายใต้ความจนหนทาง เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ต้องกระโดดลงทะเล

เธอไม่ได้โง่ ตัวเองไม่มีบัตรผ่านเข้ารัฐอิสระ…ถึงตอนนั้นทีมกู้ภัยพวกนั้นจะทำเธอตายเอาได้…

โชคดีที่พื้นที่ที่เรือข้ามฟากเกิดอุบัติเหตุ อยู่ห่างจากรัฐอิสระแค่ไม่กี่ร้อยเมตร

หลังขึ้นฝั่งแล้วท่าเรือชายฝั่งเต็มไปด้วยหน่วยลาดตระเวนแถมยังมีหมาล่าเนื้อ เหมือนทำหน้าที่เป็นบุคคลศุลกากร

เยี่ยหวันหวั่นเห็นทุกอย่าง คนที่เข้ารัฐอิสระทั้งหมดต่างพากันหยิบบัตรผ่านออกมา

เยี่ยหวันหวั่นที่ไม่มีบัตรผ่านได้แต่ต้องแอบวิ่งเข้าไปในแถบเทือกเขาที่อยู่ใกล้เคียง

ภายในถ้ำภูเขา ความหิวและความเหนื่อยล้าปกคลุมเธอนานแล้ว

ตอนนี้พาสสปอร์ต บัตรประจำตัว บัตรเอทีเอ็มของเยี่ยหวันหวั่นหายไปในมหาสมุทรหมดแล้ว บนตัวเธอเหลือแค่ปืนพกที่ซื้อมาป้องกันตัวจากประเทศข้างเคียง…

ถึงรัฐอิสระไม่อนุญาตให้ครอบครองอาวุธ แต่เธอกลับไม่ตั้งใจจะโยนปืนพกไป

ตอนนี้อย่างแรกตัวเธอไม่มีบัตรผ่าน อย่างต่อมาเธอไม่เข้าใจรัฐอิสระแม้แต่น้อย มีปืนพกกับตัวก็พอมีความกล้าขึ้นมาหน่อย ใครทิ้งก็โง่แล้ว

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เยี่ยหวันหวั่นมึนหัว ตกเข้าสู่สภาวะหลับใหล

ในฝันปรากฏฉากมากมาย หน้าตาของคุณตารางเลือน…แล้วก็มีคนแปลกหน้าจำนวนหนึ่งที่หน้าตาดูคุ้นตาอย่างยิ่ง

ในฝัน…เธอเหมือนเห็นชายงามงดงามหน้าตาโดดเด่นจนเหมือนกับเดินออกมาจากภาพวาดคนหนึ่ง…

และคนคนนั้น ที่แท้ก็คือคู่หมั้นที่มีกำหนดหมั้นหมายกับเธอตั้งแต่ยังเล็ก…

วันๆ เธอไล่ตามก้นของคนคนนั้นแจ แต่ส่วนลึกของรอยยิ้มบางที่ราวกับลมวสันต์ชำระล้างของคนงามกลับไม่มีความอบอุ่นใดๆ เขาอนุญาตให้เธอเข้าใกล้ แต่ไม่เคยทุ่มเทความรู้สึกใดๆ ให้แก่เธอ

เธออยากอยู่กับเขาชั่วชีวิต แต่เขากลับแค่มองเธอเป็นเด็ก เป็นน้องสาว

ในความฝัน ความเจ็บปวดหัวใจและเสียใจนั้นสมจริงเกินไป ถึงขั้นทำให้หัวใจของเยี่ยหวันหวั่นปวดหนึบอยู่บ้าง

สุดท้ายเธอก็จากคนคนนั้น ไปอย่างที่ห่างไกล…

เธอไปในหลายสถานที่ ได้พบปะคนมากมาย ทำเรื่องไร้สาระมากมาย…

ต่อมาเธอพบกับคนคนหนึ่ง…

แถมยังเหมือนเป็นการพบพานความรัก…

ถึงแม้ ‘การพบพานความรัก’ นี้ไม่ได้น่ารักอะไรแม้แต่น้อย แต่ในฝันฉากที่ได้อยู่ร่วมกันพวกนั้นกลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นมาก…

ย่ำเช้าของวันถัดมา เยี่ยหวันหวั่นตื่นขึ้น

ลืมสองดวงตา เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวราวกับจะแตก บนร่างเต็มไปด้วยกลิ่นเค็มของน้ำทะเล

เธอพยายามนึกย้อนความฝันเมื่อคืน แต่ไม่ว่ายังไงก็นึกไม่ออกแม้แต่เสี้ยวเดียว

สัญชาตญาณบอกเยี่ยหวันหวั่นว่า ความฝันนั้น สำคัญมากสำหรับเธอ แต่ทำไงได้ ตัวเธอนึกไม่ออกเลยว่าฝันอะไรไปกันแน่

รอจนร่างกายสบายขึ้นหน่อยแล้ว เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นเดินออกไปนอกป่าเขา

ป่าเขาผืนนี้ไม่รู้อยู่ในพื้นที่ไหน ยังดีที่มันก็ไม่นับว่าใหญ่มาก หลังผ่านไปครึ่งวัน เยี่ยหวันหวั่นก็เดินออกมาจากป่าได้ในที่สุด

———————————————————————————————

บทที่ 1272 แบดเจอร์หวนกลับทุ่งหญ้ากว้าง

เยี่ยหวันหวั่นเรียกได้ว่าไม่รู้อะไรกับรัฐอิสระแม้แต่น้อย เมื่อก่อนตอนอยู่ประเทศจีน เธอเคยตั้งใจหาข้อมูลที่เกี่ยวกับรัฐอิสระ แต่กลับไม่ได้อะไร

ราวๆ ช่วงเที่ยง เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเดินเข้าเขตเมือง

สิ่งก่อสร้างในเมืองของรัฐอิสระใกล้เคียงกับของประเทศจีนมาก บนถนนการจราจรติดขัด ถนนหนทางมากมาย รถราผู้คนหลั่งไหลไม่ขาดสาย เปี่ยมความคึกคัก

ไม่ว่าบนถนนสายไหนก็มีร้านขายอาวุธที่ค่อนข้างโบราณเรียบง่าย กระทั่งว่าสามารถได้ยินเสียงชายร่างใหญ่ตัวเปลือยถือค้อนทุบแผ่นเหล็ก

เยี่ยหวันหวั่นเดินๆ หยุดๆ ราวกับค้นพบทวีปใหม่ไม่ปาน สีหน้าฉายแววสนใจใคร่รู้เข้มข้น

ถึงแม้บรรยากาศของรัฐอิสระใกล้เคียงกับประเทศจีนมาก แต่ในด้านเนื้อแท้กลับแตกต่างกันอยู่บ้าง วัฒนธรรมศิลปะการต่อสู้แฝงเร้นอย่างเข้มข้น นำพากลิ่นอายของวัฒนธรรมวิทยายุทธเก่าแก่โบราณ และสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่าง ก็กลับดูใกล้เคียงกับพวกอารีน่า โคลอสเซียมของประเทศตะวันตก

เดินบนแผ่นดินของรัฐอิสระ เยี่ยหวันหวั่นรับรู้ถึงวัฒนธรรมต่างแดนที่เป็นเอกลักษณ์ถึงขีดสุดได้

“นี่ก็คือบ้านเกิด…ที่ถังถังแล้วก็พวกเนี่ยอู๋หมิงอยู่เหรอ…” เยี่ยหวันหวั่นพินิจมองรอบด้าน พึมพำในปากเบาๆ

ไม่พูดไม่ได้ เป็นประเทศที่มหัศจรรย์จริงๆ ด้วย

ผ่านไปสักพัก เยี่ยหวันหวั่นเดินไปหยุดข้างร้านอาหารหลังหนึ่ง กลิ่นอาหารอบอวลลอยออกมาจากในร้านอาหาร กระทั่งถึงเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นที่ถูกความหิวปกคลุมแล้วจึงได้สติ เธอไม่ได้เติมท้องมาสองวันเต็มแล้ว

ก่อนหน้านี้ตอนนั่งเรือมายังรัฐอิสระ เพราะเมาเรือเธอเลยแทบไม่ได้กินอะไร ต่อมาเรือเกิดอุบัติเหตุ เยี่ยหวันหวั่นโดดลงทะเล นอกจากถืออาวุธ ของทั้งหมดก็หายไปในทะเลแล้ว รวมถึงพวกบัตรประจำตัวและบัตรเอทีเอ็ม

ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นไม่มีเงินติดตัวสักแดง คิดว่ายังแย่กว่าแม้แต่ขอทาน

คนอยู่ต่างแดน ของติดตัวก็หายเกลี้ยง สองวันไม่ได้กินข้าว…ยังมีเรื่องแย่ยิ่งกว่านี้ไหม แน่นอนว่าย่อมมี ต่างเดนนี่…คือรัฐอิสระ!

ไม่นาน ชายหญิงที่สวมชุดแปลกๆ สีขาวจำนวนหนึ่งก็ดึงดูดสายตา บนหน้าอกติดเหรียญตราที่ดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง บนหลังพิมพ์อักษรตัวใหญ่คำว่า ‘สหพันธ์วิทยายุทธ’

“หลายวันนี้เจ้าหน้าที่รัฐของสหพันธ์วิทยายุทธ…ปรากฏตัวถี่ไปหน่อยแล้ว…”

คนเดินถนนเห็นเจ้าหน้าที่สหพันธ์วิทยายุทธก็ทยอยกันหยุดเท้า จากนั้นหยิบบัตรผ่านของรัฐอิสระออกมา

“ไม่นานมานี้มีคนนอกจำนวนหนึ่งลอบเข้ามาแล้วถูกสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธค้นพบ เพราะงั้นหลายวันนี้เลยค่อนข้างขยันตรวจค้น”

“ฉันว่าไม่แค่เรื่องคนนอกพวกนั้นหรอก ช่วงนี้การกระทำของพันธมิตรอู๋เว่ยก็ถี่พอตัว แค่เดือนเดียวหกตระกูลวิทยายุทธที่อยู่ละแวกนี้ ก็ถูกพวกต่อต้านสหพันธ์ส่งหมายเจ็ดสังหารแล้ว”

พูดถึงหมายเจ็ดสังหาร สีหน้าของคนเดินถนนไม่น้อยก็พากันเปลี่ยนสี

พันธมิตรอู๋เว่ยก็คือสมาคมทรงอำนาจที่มีชื่อเสียงใหญ่หลวงของรัฐอิสระ เพียงแต่ชื่อเสียงนั้นแย่สุดขีด อย่าว่าแต่ตระกูลวิทยายุทธทั่วไปพวกนั้น ต่อให้เป็นสี่ตระกูลใหญ่ของรัฐอิสระก็ไม่ค่อยอยากยั่วยุเท่าไรนัก

ยุคทองของพันธมิตรธ์อู๋เว่ยน่าจะเป็นเมื่อเจ็ดปีก่อน ภายใต้การนำของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแบดเจอร์ พันธมิตรธ์อู๋เว่ยจึงกลายเป็นสวรรค์ของผู้หลบหนี คนชั่วเท่าไรแย่งชิงกันเข้าร่วมพันธมิตรอู๋เว่ย ถึงขั้นว่าหลายปีก่อนมีทหารรับจ้างระดับ SS ที่มีประสบการณ์แก่กล้าแต่ไม่เคยปฏิบัติตามกฎของสหพันธ์ทหารรับจ้างเข้าร่วมพันธมิตรอู๋เว่ย…

แต่สองสามปีที่ผ่านมา ตามการหายตัวไปของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแบดเจอร์ กำลังของพันธมิตรอู๋เว่ยก็ลดลงอย่างมาก ไม่ดีเท่าอดีตแล้ว แต่ถึงเป็นเช่นนี้ คำว่าพันธมิตรอู๋เว่ยสำหรับรัฐอิสระ โดยเฉพาะในพื้นที่แถบนี้ ก็ยังคงเป็นเสมือนเสียงฟ้าผ่าเสียดหู เหมือนฝันร้ายไม่ปาน