บทที่ 21 หน้าของลิง แก้หน้า Ink Stone_Fantasy
มีคนกำลังทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าประตูโรงพยาบาลสัตว์…แอบอยู่ด้านหลังเสาไฟฟ้าบนถนน
ใส่แว่นกันแดดมุมเพชรสีดำ สวมเสื้อกันฝนสีเหลืองขนาดใหญ่กับหมวกชาวประมง…ใช่แล้ว ยังถือหนังสือพิมพ์แผ่นหนึ่งเพื่อเอาไว้บังหน้าอีกด้วย
เสี่ยวเซิ่งเกอรู้สึกว่าตนเองปลอมตัวได้ดีมาก
“แม่ครับ…ตรงนั้นมีคนแปลกๆ อยู่ด้วย!”
“ชู่ เด็กน้อยอย่าพูดจาเหลวไหล รีบไปๆ…”
เสี่ยวเซิ่งเกอ…เสี่ยวเซิ่งเกอมองเงาแผ่นหลังของแม่ที่ลากลูกออกไปไกล ส่งนิ้วหนึ่งออกไปทักทาย “ฮา พวกเจ้าจะไปรู้อะไร?”
เสี่ยวเซิ่งเกอกัดฟัน จะไม่ยอมถูกคำพูดของมนุษย์โจมตีให้พ่ายแพ้ง่ายๆ แบบนี้ เขาเป็นถึงปีศาจเฒ่าซุนเสี่ยวเซิ่งนะ
เสี่ยวเซิ่งเกอเงยหน้าขึ้นมา มองเข้าไปในศูนย์สัตว์เลี้ยงตรงหน้าต่อ ขมวดคิ้วขึ้น “ฮา ไม่มีเหตุผลเลย…ในเมื่อจื่อจวินกลับมาแล้ว จะไม่มาอยู่ที่นี่งั้นหรือ?”
เสี่ยวเซิ่งเกอไม่สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายปีศาจของซูจื่อจวินในศูนย์สัตว์เลี้ยงแห่งนี้ได้เลย…ไม่ต้องพูดถึงซูจื่อจวิน แม้แต่กลิ่นอายปีศาจของหลงซีรั่วก็ยังไม่มี
ถึงจะพูดว่าระดับปีศาจเฒ่ามีวิธีซ่อนกลิ่นอายปีศาจได้นับไม่ถ้วน แต่เสี่ยวเซิ่งเกอมาถึงระยะใกล้ขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่ได้กลิ่นอะไรเลย แปลกประหลาดเกินไปแล้ว
หน้าประตูของโรงพยาบาลสัตว์ติดกระดาษแดงแผ่นหนึ่งเอาไว้: มีเรื่องมงคล หยุดพักหลายวัน
ดวงตาของเสี่ยวเซิ่งเกอเริ่มกลอกไปกลอกมา พึมพำเอ่ยว่า “หรือจื่อจวินกลัวว่าข้าจะมาหานางถึงที่นี่ ดังนั้นถึงได้หลบหน้าข้าไปอีกแล้ว…ช่างเขินอายจริงๆ”
เสี่ยวเซิ่งเกอหัวเราะเงยหน้ามองท้องฟ้า
“แม่ครับ…ตรงนั้นมีลุงแปลกๆ อยู่คนหนึ่ง ดูน่ากลัวมาก!”
“ชู่…เด็กน้อยอย่าพูดเหลวไหล รีบไปๆ!”
“โอ๊ย แม่ครับ เหมือนมีอะไรมาตีก้นผม…”
ใต้เสาไฟฟ้าไม่มีเงาร่างของคนใส่แว่นตาดำสวมเสื้อกันฝนสีเหลืองถือหนังสือพิมพ์อีกแล้ว เด็กน้อยเอามือกุมก้นตนเองไป พึมพำกับแม่ไป
…
สำหรับเสี่ยวเซิ่งเกอปีศาจเฒ่าที่สามารถถอดกางเกงเหวี่ยงเล่นในเอลิเซียมบาร์ได้โดยไม่อายแล้ว ก็จะไม่ยอมเขินอายเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของเด็กน้อยข้างทางแน่นอน…เขาเพียงแต่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายปีศาจอันเย็นยะเยือกลับๆ ล่อๆ อยู่ใกล้ๆ ถึงได้มองไปเพราะแปลกใจเท่านั้น
…
ในตรอกเล็กๆ ตรอกหนึ่งไม่ไกลจากศูนย์สัตว์เลี้ยง ในช่องเล็กๆ บนตึกอาคารสองชั้นมีกลิ่นอายปีศาจทั้งหมดสองสายถูกส่งออกมา
เจ้าของกลิ่นอายปีศาจที่อ่อนแอกว่า ขณะนี้กำลังนั่งพิงผนัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เอกลักษณ์ของปีศาจบนตัวเขากำลังเริ่มปรากฏออกมา
จมูกและหูสุนัข น่าจะเป็นปีศาจสุนัขตัวหนึ่ง
“ใต้ ใต้เท้า…ท่านมาจากภูเขานั้น…ข้า ข้าน่าจะไม่เคยล่วงเกินท่าน…” ปีศาจสุนัขสั่นสะท้าน ไม่กล้ามองคนที่อยู่เบื้องหน้าของตนตรงๆ
รอบกายมีกลิ่นอายปีศาจที่ทำให้เขาหวาดกลัวพุ่งออกมา…เป็นกลิ่นอายปีศาจที่นำพาความตายมาด้วย
“ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่เจ้าต้องบอกข้ามาว่าพวกที่อยู่ในโรงพยาบาลไปไหนกันหมด?” เงาร่างนั้นเอ่ยถาม
“ข้า…ข้าไม่รู้” ปีศาจสุนัขพูดอย่างหวดกลัว “วันนี้ข้ารู้สึกปวดเอวถึงได้มาหาใต้เท้าหลง ข้าไม่รู้ว่าที่นี่จะปิดพักผ่อนมาหลายวันแล้ว…”
“ไม่พูดความจริงงั้นหรือ?” น้ำเสียงนั้นหัวเราะเยาะ
ปีศาจสุนัขนอนหมอบลงบนพื้น ใช้สองมือกุมหัวของตนเอง พูดอย่างหวาดกลัวว่า “ใต้เท้า ใต้เท้า! ข้าเป็นเพียงแค่ปีศาจตัวเล็กจ้อย ไม่เคยได้พูดอะไรกับใต้เท้าหลง…นางไปไหนนั้น ข้าไม่รู้จริงๆ!”
“ที่ข้าถามถึงไม่ใช่หลงซีรั่ว แต่เป็นอีกคน!”
“อีกคน?” ปีศาจสุนัขชะงัก พูดอย่างไม่รู้ตัวว่า “ปีศาจผีเสื้อน้อยที่มาใหม่ตนนั้นนะหรือ? พวกเราก็ไม่สนิทกัน…เคยเห็นเพียงไม่กี่ครั้งก็เท่านั้น…ไม่ใช่ตนนั้น? หรือว่าจะเป็นอีกคน?”
“ที่ข้าพูดถึงก็คือนาง”
ปีศาจสุนัขกลืนน้ำลายลงคอและพูดว่า “ใต้เท้าท่านนี้ ผู้ที่ท่านพูดถึงข้าก็ยิ่งไม่สนิทเลย ข้ารู้ว่านางชื่อจื่อจวิน ตามปกติก็ไม่ค่อยปรากฏตัว…อย่างอื่นข้าก็ไม่รู้แล้ว”
“ชิ เป็นพวกชั้นต่ำจริงๆ” น้ำเสียงนั้นเย็นชาขึ้น “ดูแล้วหากไม่เห็นโลงศพคงไม่หลั่งน้ำตา…”
พูดแล้ว เจ้าของเสียง ผู้สวมชุดกันฝนสีดำและสวมหมวกก็ยื่นนิ้วทั้งห้าออกมา แสงสีม่วงหมุนวนอยู่ระหว่างนิ้วของเขา
“ใต้ ใต้เท้า!” ปีศาจสุนัขหวาดกลัวมาก “อย่านะ…ใต้เท้าหลงเคยตรากฎเอาไว้ ไม่อนุญาติให้ปีศาจเข่นฆ่าในเขตของนาง…”
“หลงซีรั่ว?”
เขาสบถออกมา กางนิ้วออก กำลังจะครอบหัวของปีศาจสุนัข แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่สำเร็จ เพราะก่อนหน้านั้นมีคนยื่นมือออกมาขวางมือของเขา
และก็คว้าจับเอาไว้
“ฮา พี่ชาย รังแกเด็กน้อยเหล่านี้ คงไม่สนุกหรอกมั้ง?”
คนที่มาก้มหน้า ยื่นมือขึ้นจับหมวกชาวประมงสีน้ำตาลบนหัว ชุดกันฝนสีเหลืองขนาดใหญ่บนตัวของเขายังคงปลิวไสว เพราะมาอย่างเร่งด่วน ลมจึงยังพัดไหว
เป็นเสี่ยวเซิ่งเกอ!
“ยุ่ง!” เงาร่างชุดดำสบถเสียงเย็น แสงสีม่วงในมือขยายใหญ่ขึ้น
เพียงได้ยินเสียงแสดงความไม่พอใจดังออกมา เสี่ยวเซิ่งเกอก็ขมวดคิ้วและสบถออกมาเบาๆ
ในชั่วพริบตาเดียวที่เขาปล่อยมือ พลังไร้รูปก็ระเบิดออกสร้างระยะห่างระหว่างเขากับเงาร่างชุดดำพร้อมกัน
หมวกและแว่นดำของเสี่ยวเซิ่งเกอถูกพัดตก ส่วนหมวกของอีกฝ่ายก็ถูกพัดออก เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของทั้งสอง
เสี่ยวเซิ่งเกอที่ถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวชะงัก พูดขึ้นมาว่า “หัวล้าน…คิ้วสีม่วง?”
เงาร่างชุดดำถอยหลังหนึ่งก้าวครึ่งหรี่ตาลง พูดอย่างเรียบเฉยว่า “ได้ยินว่าระยะห้าสิบปีมานี้มีคนแปลกประหลาดมาคนหนึ่ง คิดแล้วคงเป็นเป็นเจ้าสินะ…ซุนเสี่ยวเซิ่ง”
“ฮา ที่แท้เจ้าก็เคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของข้าด้วยหรือ?” เสี่ยวเซิ่งเกอกะพริบตา “ในเมื่อรู้จักข้า ยังไม่รีบถอยไปอีก!”
“ข้าเคยได้ยินว่าเจ้าเป็นเพียงแค่ลิงหินธรรมดาตัวหนึ่งที่มีวาสนาได้รับเต๋า แต่ยังกล้าเรียกตนเองว่าเทพอีกหรือ?”
“ฮา พี่ชาย! มองไม่ออกเลยว่าเจ้ามีความสามารถยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่กลับปากดีจริงๆ! ข้าชอบ!”
เสี่ยวเซิ่งเกอยิ้มแปลกๆ และเอ่ยว่า “มา มา มา มาเถียงแข่งกัน ข้ามีร้อยวิธีที่จะทำให้เจ้าคุกเข่าบนแป้นพิมพ์! ไม่รู้ซะแล้วว่าชื่อเสียงของข้ายังมีอีกชื่อว่านักเลงแป้นพิมพ์”
“ข้าไม่รู้จัก! เกียรติของปีศาจถูกปีศาจแบบเจ้าทำให้อับอายขายหน้าหมดแล้ว!” เขาสบถเสียงเย็น “เป็นถึงปีศาจเฒ่า แต่ไม่รู้จักฟื้นฟูความรุ่งเรืองของปีศาจ รู้จักแต่เที่ยวเล่นอยู่ในโลกมนุษย์ เปิดบาร์พังๆ แห่งหนึ่ง มึนๆ งงๆ ไปวันๆ เหมือนพวกเศษสวะ!”
“ฮา พวกจิตใจบกพร่อง!” เสี่ยวเซิ่งเกอหัวเราะแปลกๆ ขึ้นมาอีกครั้ง หยิบหมวกบนพื้นขึ้นมาใส่ใหม่ “ฮา ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาจากไหน แต่ได้ยินจากคำพูดของเจ้าเมื่อครู่ ดูเหมือนเจ้าคิดจะมาหาเรื่องให้ผู้หญิงที่ข้าชอบ…”
เสี่ยวเซิ่งเกอลูบๆ คอเสื้อ ยิ้มและพูดว่า “ฮา ข้านั้นเป็นคนง่ายๆ คนที่รู้จักข้าล้วนแต่รับรู้ดี แต่ก็มีข้อแม้บางอย่าง นั่นก็คือ…”
ไม่ยอมเสียหน้า
“หากไม่ชอบหน้า ข้าก็จะตี!”
มองไม่เห็นว่าเสี่ยวเซิ่งเกอเคลื่อนไหวอย่างไร หลังจากร่างกายวาบไป ปีศาจสุนัขที่กองอยู่บนพื้นเอามือกุมหัวก็ได้ยินเพียงเสียงดังขึ้นเสียงหนึ่ง พื้นดินเกิดสั่นสะเทือนขึ้นมา!
เขาลืมตาขึ้นก็เห็นแขนข้างหนึ่งของเสี่ยวเซิ่งเกอตกลง…ส่วนคนในชุดดำก็ถูกเสี่ยวเซิ่งเกอใช้หมัดชกหน้าอกและทำให้พื้นแตกออกเป็นรอยแยกนับสิบสาย
ไม่ใช่ฉีเทียนต้าเซิ้น*ในตำนาน เพียงแต่เป็นซุนเสี่ยวเซิ่ง และก็เป็นราชา!
…
…
อยู่ดีๆ ซูจื่อจวินก็สั่นสะท้านขึ้นมา นัยน์ตาฉายแววแปลกใจหยุดฝีเท้าลง
เพิ่งจะออกมาจากสมาคมก็ดูเหมือนได้ออกจากโลกใบหนึ่งมาสู่โลกอีกใบหนึ่ง…ซูจื่อจวินขมวดคิ้วขึ้น มองไปยังมุมๆ หนึ่งของเมือง
ลั่วเพียนเซียนที่ออกมาพร้อมนางพูดอย่างแปลกใจว่า “พี่จื่อจวิน พี่ลืมของไว้ที่เจ้าของสมาคมงั้นหรือ?”
“…” ซูจื่อจวินชะงัก “ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันลืมของ?”
ลั่วเพียนเซียนกะพริบตา “เพราะว่าฉันก็ลืมของนะสิ…พี่ดู!”
ลั่วเพียนเซียนชูกระเป๋าเป้ในมือขึ้น ครั้งก่อนปีศาจผีเสื้อน้อยไปอย่างรีบร้อน จำได้ว่าต้องกล่าวขอบคุณ แต่ก็ลืมแบกกระเป๋าเป้ของตนเองออกมา
“ฉันไม่ได้ลืมของ” ซูจื่อจวินเอ่ย “เพียงแต่เมื่อครู่รู้สึกอยากคลื่นไส้ขึ้นมากะทันหัน…เอาเถอะ คิดไปก็ยิ่งรู้สึกคลื่นไส้ รีบเดินเถอะ พวกเราต้องรีบไปถึงสถานที่ผนึกแห่งที่สองก่อนฟ้าสว่าง”
“ค่ะ!”
*ฉีเทียนต้าเซิ้น ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน เป็นชื่อของซุนหงอคง