ตอนที่ 624: ท้าทายตระกูลเจียเต๋อ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 624: ท้าทายตระกูลเจียเต๋อ

มีสถานที่ในลานด้านหลังของตระกูลเจียเต๋อที่คนส่วนใหญ่ถูกห้ามไม่ให้เข้าไป สถานที่ต้องห้ามนี้เป็นสิ่งที่สมาชิกในตระกูลหลาย ๆ คนถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในทางปฏิบัติทุกคนได้แต่โค้งคำนับไปทั่วบริเวณเหล่านี้เมื่อยืนอยู่ใกล้ ๆ

บรรพชนตระกูลเจียเต๋อมักจะหลบซ่อนตัวเองจากโลกภายนอกอยู่ภายในสถานที่ต้องห้ามนี้ เพื่อมุ่งเน้นการบ่มเพาะพลังของเขา เขาเป็นเซียนผู้คุมกฎเพียงคนเดียวภายในตระกูลเจียเต๋อ และเป็นเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้สถานะของตระกูลเจียเต๋อนั้นเป็นตระกูลลึกลับ

ภายในสวนดอกไม้ในเขตหวงห้าม ดอกไม้ทุกชนิดเติบโตขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง กลิ่นหอมอบอวลลอยขึ้นมาในอากาศและสามารถมองเห็นผีเสื้อฝูงใหญ่กระพือปีกของพวกมันเบา ๆ ขณะที่พวกมันบินไปในอากาศทำให้พื้นที่ซึ่งเงียบสงบและปิดตายนี้ดูมีชีวิตชีวา

ที่กลางสวนดอกไม้เป็นบ้านไม้หลังหนึ่ง บ้านไม้หลังนี้ดูราวกับว่ามันอยู่มานานมากนัก มันเป็นไม้โบราณ แต่อย่างไรก็ตาม มันยืนหยัดอยู่พร้อมกับร่องรอยของความเสียหายจากกาลเวลา มันเห็นได้ชัดว่ามันมาถึงจุดที่มันดูราวกับว่ามันจะพัง เช่นเดียวกับชายชราที่เหมือนไม้ไกล้ฝั่ง บ้านหลังนี้ดูราวกับว่ามันกำลังจะพังมิพังแหล่

ภายในบ้าน บรรพชนตระกูลเจียเต๋อนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ตรงกลางห้อง คิ้วของเขาขมวดเข้ามาหากันอย่างคิดหนัก และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความกังวลใจ

นับตั้งแต่หลบหนีจากเมืองทหารรับจ้าง เขาก็ตกอยู่ในความวิตกกังวลตลอดมา เมื่อเขาได้ตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองทหารรับจ้าง เขาได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากสิ่งนี้ เจี้ยนเฉินสามารถทำตามใจเขาได้ในเมืองทหารรับจ้างโดยไม่มีข้อจำกัด และสำหรับเขาแล้วนั้น เขาไม่อาจเข้าใจว่ามันเป็นเพราะเหตุอันใด

ในฐานะที่เขาเป็นเซียนผู้คุมกฎมา 2,000 ปี บรรพชนตระกูลเจียเต๋อรับรู้เรื่องราวมากมายภายในโลก แม้กระทั่งม่านพลังของเมืองทหารรับจ้าง เขารู้จักแทบจะทุกซอกทุกมุมและเขารู้ว่าความสามารถของมันเป็นสิ่งที่เซียนสวรรค์ไม่อาจที่จะต่อกรได้

เจี้ยนเฉินได้ละเมิดกฎของเมืองทหารรับจ้างแต่เขาไม่เคยถูกลงโทษ ในสายตาของคนภายนอก เจี้ยนเฉินมีการเชื่อมโยงบางอย่างเกี่ยวกับผู้มีอำนาจของเมือง แต่บรรพชนตระกูลเจียเต๋อไม่เชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้น

เขารู้ว่าม่านพลังของเมืองมีชีวิตซึ่งทำให้เกิดข่าวลือเรื่องจิตวิญญาณของม่านพลัง นับเป็นเวลานับไม่ถ้วนนับตั้งแต่มันเกิด และสถานะของมันในเมืองทหารรับจ้างนั้นจริงแท้ ไม่มีใครสามารถแตะต้องได้นอกจากผู้ก่อตั้งเมือง โมเทียนหยุน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถสั่งการจิตวิญญาณของม่านพลัง แม้แต่ผู้อาวุโส

บรรพชนตระกูลเจียเต๋อเชื่อว่าเหตุผลที่เจี้ยนเฉินไม่ถูกลงโทษนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการที่เขามีความสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจของเมืองทหารรับจ้าง ผู้อาวุโสได้แต่สับสนกับวิธีการที่เจี้ยนเฉินนั้นหลบหนีการลงโทษ

เขากังวลมากขึ้นเกี่ยวกับพรสวรรค์ของเจี้ยนเฉินและข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่สามารถหากระบี่ตันหยวนได้ มากกว่าวิธีการที่เจี้ยนเฉินใช้ในการหลบหนีการลงโทษ

บรรพชนตระกูลเจียเต๋อรู้ดีว่าเจี้ยนเฉินมีฝีมือพอที่จะเข้าถึงขอบเขตของเซียนผู้คุมกฏได้ในเร็ว ๆ นี้ ด้วยมีศัตรูที่มีอำนาจเช่นนี้ บรรพชนรู้ดีว่าจะไม่มีผลใด ๆ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ของยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎนั้นทำให้เขาไม่เต็มใจที่จะลืมเรื่องนี้

ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎไม่เพียงแต่เป็นสมบัติของตระกูลเจียเต๋อ แต่นั่นยังเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ มันก็ถูกส่งลงมาจากรุ่นสู่รุ่น จากประมุขคนก่อนหน้านี้ มันมีความหมายเหนือสิ่งอื่นใดและจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับเขา เมื่อเขาพยายามที่จะผสานกับมันเพื่อที่จะกลายเป็นเซียนราชา

เซียนผู้คุมกฎในชั้นสวรรค์ที่ 9 จะสามารถหลอมรวมกับยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ และในกรณีที่ประสบความสำเร็จในการทำเช่นนั้น โอกาสของเซียนผู้คุมกฏที่ก้าวขึ้นเป็นเซียนราชาจะเพิ่มขึ้นมาก

ข้าไม่สามารถกลับไปเมืองทหารรับจ้างได้ แต่ถ้าเจี้ยนเฉินใช้เวลาที่เหลือในชีวิตของเขาในเมืองทหารรับจ้างโดยไม่ต้องออกไป แล้วข้าจะทำเช่นไร ? แม้กระทั่งเวลาที่เขาจะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ และเมื่อถึงเวลาแล้ว เขาจะสามารถจัดการกับมันได้อย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าข้าไม่มีทางเลือกอื่น แม้ว่าข้าจะไม่ได้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎกลับมา แต่ข้าก็ไม่อาจยินยอมให้เจี้ยนเฉินมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป มิฉะนั้นเขาจะนำความพินาศและหายนะไปสู่ตระกูลเจียเต๋อ บรรพชนพึมพำกับตัวเอง

ทันใดนั้นพลังมหาศาลจากภายนอกก็ทำให้เขารู้สึกตัว การตรวจจับกลิ่นอายนี้ บรรพชนนั่งตรง พลังอะไร! มันเป็นใครกันที่มาทำเช่นนี้? เขาถามตัวเองก่อนที่จะออกไปข้างนอก เพื่อต้อนรับผู้รุกรานในดินแดนของเขา

อยู่ห่างจากตระกูลเจียเต๋อเพียงไม่ถึง 100 เมตร เจี้ยนเฉินสวมเสื้อคลุมสีขาวอยู่ในสถานที่ ดวงตาของเขาขุ่นเคืองและกลิ่นอายของเขาไม่ได้ถูกปกปิดเลย มันอยู่ที่นั่น เพื่อให้ตระกูลเจียเต๋อสังเกตได้และสร้างความสั่นสะเทือนภายใต้มัน

ทันใดนั้นมีคนจำนวนสิบคนขึ้นไปต้อนรับเขา พวกเขาค่อย ๆ ล้อมรอบเจี้ยนเฉินทีละคนเป็นวงกลมด้วยสีหน้าไม่พอใจ

โฮก! โฮก! โฮก! โฮก!

สามารถได้ยินเสียงคำรามจากสวรรค์ถึง 4 ครา เนื่องจากสัตว์อสูรทั้ง 4 ตัว ต่างก็บินไปมาจากทิศทางที่แตกต่างกัน ไม่นานหลังจากนั้นป่าทั้งสองดูเหมือนจะสั่นไหว ขณะที่กลุ่มสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ระดับ 6 รับรู้สึกถึงความผิดปกติในพื้นที่และมาทักทายเจี้ยนเฉิน

เหล่าสัตว์อสูรอัจฉริยะระดับ 6 ไม่เหมือนกับพวกสัตว์ป่าที่เกิดในเทือกเขาครอส พวกมันเกิดและเติบโตขึ้นมาจากความเอาใจใส่และความขยันหมั่นเพียรของตระกูลเจียเต๋อ เป็นผลให้เกิดมิตรภาพระหว่างสัตว์อสูรและมนุษย์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สัตว์อสูรระดับ 6 เหล่านี้ใช้ชีวิตอยู่ตลอดชีวิต ปกป้องตระกูลอย่างเงียบ ๆ จากผู้บุกรุกหรือทหารรับจ้างที่กล้าเข้ามาใกล้เกินไป

บูม! บูม! บูม!

หลังจากมีการระเบิด 3 ครั้งแยกออกจากกัน สี่สัตว์อสูรขนาดใหญ่ได้เข้าสู่สายตาของเจี้ยนเฉิน กระโดดจากเทือกเขา สัตว์อสูรเป็นเหมือนภูเขาเล็ก ๆ ของตัวเอง ทุกย่างก้าวของพวกมันทำให้ดินที่อยู่ข้างใต้พวกมันสั่นสะเทือน

พวกมันมีสีดำสนิทและยืนอยู่บนขาทั้งสองข้างเหมือนมนุษย์ยืนอยู่ ข้อยกเว้นอย่างหนึ่งก็คือความสูงของพวกมันมีความสูงประมาณ 30 เมตร สูงกว่าความสูงของมนุษย์

บูม! อีกหนึ่งเสียงระเบิดดังก้องอยู่บนท้องฟ้า ขณะที่สัตว์อสูรระดับ 6 จำนวน 4 ตัวตั้งอยู่ห่างจากเจี้ยนเฉิน ราว 200 เมตร พวกมันยืนล้อมรอบเจี้ยนเฉินอีกครั้ง

วานรกระหายเลือด เจี้ยนเฉินจำได้ว่าเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย วานรกระหายเลือดเป็นสัตว์ที่มีแนวโน้มที่กระหายเลือดและดุดัน พวกมันเป็นสิ่งที่ยากที่จะเชื่องได้ แต่ตระกูลเจียเต๋อก็สามารถเลี้ยงดูพวกมันทั้งสี่ได้อย่างดีเยี่ยมในฐานะผู้พิทักษ์

ท่านเป็นใคร ? ! ระบุชื่อและเหตุผลในการมาของท่าน ! ชายชราส่งเสียงข่มขู่อย่างหนักที่หูของเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินได้เข้ามาแทรกแซงตระกูลเจียเต๋อด้วยพลังอันยิ่งใหญ่นี้ อย่างเห็นได้ชัดว่า ตั้งใจจะยั่วยุบรรดายอดฝีมือของตระกูล

เจี้ยนเฉินเอาแขนกอดอกของเขาและจ้องมองไปที่เซียนสวรรค์หลายคนรอบ ๆ ตัวเขาด้วยรอยยิ้ม ข้าเป็นคนที่เจ้ากำลังมองหา เจี้ยนเฉิน ข้ามาวันนี้ เพื่อเยี่ยมเยียนตระกูลเจียเต๋อของเจ้า

อะไรนะ? เจ้าคือเจี้ยนเฉิน ?

เช่นนั้นเจ้าคือเจี้ยนเฉิน …

เจ้ามีความกล้าที่จะเคาะประตูของเรา เพื่อรนหาที่ตายของเจ้า …

ทันทีที่พวกเขารู้ว่าเขาเป็นใคร ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ ไม่นานหลังจากที่พวกเขาประหลาดใจ พวกเขาทั้งหมดก็หัวเราะออกมา พร้อมกับเจตนาฆ่าที่ระเบิดขึ้นอย่างฉับพลันจากร่างกายของพวกเขา

โฮก ! รับรู้ถึงความเกลียดชังในตัวเจ้าของของพวกเขา วานรกระหายเลือดทั้งสี่ระบุได้ทันทีว่าเจี้ยนเฉินเป็นศัตรู พวกมันเปล่งเสียงคำรามราวกับสายฟ้าทีละตัว

ลูกเสือบนไหล่ของเจี้ยนเฉินไม่พอใจเป็นอย่างมาก ในพฤติกรรมการรุกรานของสัตว์อสูรทั้ง สี่ คน ลูกเสือตัวน้อยยืนขึ้นเปล่งเสียงคำรามใส่วานรทั้งสี่ ถึงแม้ว่าลูกสัตว์ตัวนี้จะแข็งแกร่งมาก แต่มันก็ยังคงเป็นสัตว์อสูรระดับ 4 พลังอำนาจนั้นยังไม่มากพอพอที่จะรับมือกับสัตว์อสูรระดับ 6 ได้ ดังนั้น สัตว์อสูรระดับ 6 นั้นไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัว กลับทำให้มันผยองตัวขึ้น

ตามที่คาดไว้ ทั้งสี่ตัวจะปล่อยเสียงโห่ร้องด้วยความโกรธก่อนจะทะยานเข้าหาเจี้ยนเฉินในฉับพลัน

ตระกูลเจียเต๋อไม่เพียงแต่ไม่ทำอะไรเพื่อหยุดยั้งวานรกระหายเลือด 4 ตัวเท่านั้น พวกเขาก็ก้าวออกไปหลายก้าวเพื่อให้มีพื้นที่ว่างในการสู้รบ

พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินและวิธีการที่เขาใช้รับมือกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขามองข้ามได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้วานรทั้ง 4 ตัวทดสอบพลังก่อน

ราวกับว่ามีการประสานงานกัน ลิงทั้ง 4 ตัวกระโจนเข้าหาเจี้ยนเฉิน ก่อนกระโดดขึ้นไปในอากาศ ร่างกายประหนึ่งภูเขาของพวกมัน เป็นเหมือนปั้นจั่นขนาดใหญ่ ขณะที่พวกมันทะยานขึ้น ทำให้พวกมันอยู่ห่างออกไปจากเจี้ยนเฉิน 100 เมตรในอากาศ

มองไปลิงทั้งสี่ตัว ในขณะที่พวกมันพุ่งเข้าใส่เขา เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างโหดร้าย ด้วยการพลิกมือของเขา พลังบรรพกาลห้อมล้อมมือของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะสะบัดฝ่ามือใส่พวกมัน