ตอนที่ 792 จุดจบของตระกูลเฮ่อหลาน
กลุ่มของซิงเหอยืนอยู่หน้าเพลิงไหม้ที่กำลังลุกโหม ดวงตาของพวกเธอสะท้อนภาพเปลวไฟที่กำลังโชติช่วงไปถึงท้องฟ้า อารมณ์ของทุกคนกำลังเร่าร้อนเช่นเดียวกับเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่เบื้องหน้า เพราะเปลวไฟนี่เป็นสัญลักษณ์ถึงจุดสิ้นสุดของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลและจุดจบของตระกูลเฮ่อหลาน!
ใช่แล้ว นี่จะเป็นจุดจบของตระกูลเฮ่อหลาน คนพวกนั้นคิดว่าไฟจะสามารถปกปิดร่องรอยได้แต่หารู้ไม่ว่าเปลวเพลิงนี้จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเปลวเพลิงจากนรกที่กำลังรอคนพวกนั้นอยู่!
เฮ่อปินไม่ได้ทำตามคำสั่งของคนพวกนั้นเพื่อปกปิดทุกอย่าง อันที่จริง เขาจะให้เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ในการเปิดโปงทุกสิ่ง!
เหตุเพลิงไหม้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิลกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของประเทศ R ในวันต่อมา ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนเช่นเดียวกับนักข่าวต่างพากันมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ในเวลาเพียงวันเดียว แทบทุกคนต่างได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแองเจิล
ทุกคนติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดและชุยเชี่ยนระดมกำลังเข้าจับกุมทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อหลานในทันที การทำการบ้านมานานหลายปีของเขาในที่สุดก็ให้ผลตอบแทน ในแบล็กลิสต์ของเขามีรายชื่อทุกคนที่เคยทำงานให้ตระกูลเฮ่อหลาน ด้วยคำสั่งของประธานาธิบดี เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล้อมจับกุมคนพวกนี้และไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้หลบหนี
แม้แต่ที่ฐานปล่อยดาวเทียมยังถูกแวดล้อมไปด้วยกองกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ที่นั่นถูกปิดล้อมและคนที่ถูกจับกุมวิ่งพล่านไปทั่ว!
กลุ่มของซิงเหอเองก็ไปถึงที่นั่นตั้งแต่แรกเช่นกัน เธอคิดว่าเธอจะสามารถหาที่อยู่ของผู้เป็นแม่ได้จากที่ฐานแห่งนั้นและอีเฉินเองก็คิดแบบเดียวกัน แต่กระนั้นหลังจากจับกุมตัวทุกคนแล้วก็ยังไม่พบตัวพ่อแม่ของพวกเธอ
พวกเธอแทบจะพลิกฐานปล่อยดาวเทียมเพื่อค้นหาแต่ก็ไม่พบ
ซิงเหอรู้สึกสับสน “ทำไมพวกเขาไม่อยู่ที่นี่”
เธอคิดว่าพวกเขาจะต้องอยู่ที่นี่อย่างแน่นอนเพราะเหล่าเมล็ดพันธุ์ที่ดีและถูกจัดเลือกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะถูกส่งมาทำงานที่นี่ ซิงเหอยังสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติเพราะไม่มีคนในวัยหนุ่มสาวที่ซึ่งดูเก่งกาจเป็นพิเศษทำงานอยู่ที่ฐานแห่งนี้เลย
เป็นเรื่องน่าสงสัยเพราะสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะส่งเด็กที่มีความสามารถมาที่นี่ทุกปี พูดกันตามหลักแล้วควรจะมีคนทุกวัยอยู่ที่นี่และจำนวนของแต่ละช่วงอายุก็ไม่ควรจะแตกต่างกันมากนัก แต่กระนั้นพวกเธอกลับพบว่าที่นี่แทบไม่มีผู้ใหญ่ที่อยู่ในอายุช่วงยี่สิบถึงสามสิบปีเลย คนในช่วงอายุดังกล่าวดูเหมือนจะหายตัวไป
คนพวกนั้นควรจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมาสานต่องานวิจัยของพวกเขา ดังนั้นฐานแห่งนี้ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากแต่คนพวกนั้นกลับหายไปอยู่ที่ไหนกัน
“พาตัวคนที่รับผิดชอบที่นี่มาแล้วสืบให้รู้เรื่อง ที่นี่จะต้องมีความลับซ่อนอยู่อีกมากเหมือนกัน” มู่ไป๋กระซิบบอกซิงเหอ
ซิงเหอพยักหน้าและให้ตำรวจพาพวกเธอไปพบกับผู้รับผิดชอบซึ่งถูกจับตัวเอาไว้แล้ว ผู้จัดการคนนั้นมีชื่อว่าเฮ่อหลานหลง เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฮ่อหลานชาง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาไม่คิดว่าฐานของเขาจะถูกตำรวจเข้าจู่โจมอย่างกะทันหันเช่นนี้
เมื่อซิงเหอและคนอื่นๆ เดินทางมาถึง เฮ่อหลานหลงกำลังอยู่ระหว่างการต่อปากต่อคำกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติการในครั้งนี้ “ที่นี่ไม่มีสิ่งผิดปกติอะไรสักหน่อย และมันเป็นสถานที่ส่วนบุคคลด้วย พวกแกไม่มีสิทธิ์มาจับกุมใครที่นี่ทั้งนั้น! ฉันจะบอกให้นะว่าตระกูลเฮ่อหลานของเราไม่ใช่อะไรที่พวกแกจะมาล่วงเกินได้ ถ้าแกไม่ถอนกำลังไปตั้งแต่ตอนนี้ พวกแกทุกคนไม่มีทางแบกรับสิ่งที่จะตามมาได้แน่!”
“ฉันอยากจะเห็นว่าผลลัพธ์แบบไหนที่ตระกูลเฮ่อหลานซึ่งกำลังจะล่มสลายจะยังสามารถสร้างขึ้นมาหาเรื่องคนอื่นได้” ซิงเหอเอ่ยปาก
เฮ่อหลานหลงกันไปมองเธอและสีหน้าของเขาดำมืดขึ้น “แกว่าอะไรนะ!”
ซิงเหอหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน “ฉันบอกว่า ตระกูลเฮ่อหลานกำลังจะล่มสลาย”
“เป็นไปไม่ได้!” เฮ่อหลานหลงปฏิเสธอย่างควบคุมไม่ได้เพราะเขารู้ดีว่าตระกูลเฮ่อหลานนั้นทรงพลังมากแค่ไหน
ตอนที่ 793 โลกกำลังจะถึงจุดจบ
ตระกูลเฮ่อหลานใช้เวลานานหลายปีในการสร้างอำนาจและอิทธิพลของพวกเขาขึ้นมา จึงไม่มีทางที่พวกเขาจะถูกโค่นอำนาจลงได้ภายในคืนเดียว หากพวกเขาล่มสลาย ทั้งประเทศก็จะได้รับผลกระทบ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินถึงอันตรายใดที่จะมีผลกระทบกับตระกูลมาก่อน ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่อยู่ๆ จะเกิดขึ้นได้
“เป็นไปไม่ได้งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกคุณทุกคนถึงได้ถูกจับล่ะ สมาชิกของตระกูลเฮ่อหลานทุกคนอยู่ภายใต้การควบคุมหมดแล้วและตำรวจได้พบหลักฐานการกระทำผิดทั้งหมดของพวกคุณด้วย ดังนั้นคุณควรจะเก็บลมหายใจของตัวเองเอาไว้ดีกว่าเพราะไม่มีพวกคุณคนไหนหนีไปได้หรอก”
สีหน้าของเฮ่อหลานหลงซีดเผือดทันที ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อในสายตาของคนอื่นๆ เรื่องนี้เป็นเหมือนสายฟ้าที่ผ่าลงในเวลากลางวันแสกๆ โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ทุกอย่างยังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาไม่มีแม้แต่เวลาจะเตรียมตัว พวกเขาไม่อาจยอมรับความจริงนี้ได้เพราะมันหมายถึงการทุ่มเทนับสิบปีและการเสียสละที่ผ่านมาทั้งหมดของพวกเขากำลังจะสูญเปล่า!
“เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ ฉันจะไม่เชื่อเรื่องนี้!” เฮ่อหลานหลงร้องอุทานด้วยความปั่นป่วน ความเกรี้ยวกราดที่กำลังปะทุอยู่ในตัวเขาพุ่งตรงไปยังซิงเหออย่างเต็มที่ “ตระกูลเฮ่อหลานของเราไม่มีวันล่มสลายลงง่ายๆ ไม่มีใครสามารถบั่นทอนพลังของพวกเราได้ พวกเราเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่มีใครสามารถทำอันตรายพวกเราได้ทั้งนั้น!”
“แล้วถ้าคนคนนั้นคือเฮ่อหลานฉีล่ะ” ซิงเหอถาม
เฮ่อหลานหลงชะงัก “แกว่าไงนะ”
แซมเป็นคนที่ชอบทรมานคนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้พบกับคนที่สมควรโดนทรมาน เขาพูดเสริมขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก “เฮ่อหลานฉีเป็นคนให้หลักฐานทั้งหมดในการทำลายตระกูลเฮ่อหลานจากข้างในไงละ!”
“อะไรนะ…” เฮ่อหลานหลงชะงักไปด้านหลังเล็กน้อย ร่างกายของเขาโงนเงนไปมาราวกับว่าเขาจะทรุดลงไปเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นฝีมือของเฮ่อหลานฉีที่เป็นคนเปิดโปงทุกอย่าง… ถ้าอย่างนั้นนี่ก็เป็นจุดจบจริงๆ แล้ว!
“ไอ้คนทรยศ!” เฮ่อหลานหลงตะโกนด้วยความอาฆาต เขาหวังให้เฮ่อหลานฉียืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้เพื่อที่เขาจะได้สามารถฉีกอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ ได้ คนอื่นๆ ต่างรู้สึกโกรธแค้นไม่ต่างกัน
“เฮ่อหลานฉีขายพวกเราอย่างนั้นเรอะ! ไอ้คนทรยศนั่นทำลายทุกอย่าง!”
“มันไปช่วยคนนอกทำลายทุกอย่างที่พวกเราสร้างขึ้นมาแบบนี้ได้ยังไง มันกำลังคิดอะไรอยู่!”
“เฮ่อหลานฉี ฉันจะฆ่ามัน!”
ทุกคนที่นั่นปั่นป่วนและเกรี้ยวกราด จนดูเหมือนเฮ่อหลานฉีได้ลงมือฆ่าพ่อแม่ของพวกเขาหรืออะไรแบบนั้น กลุ่มของซิงเหอตกใจเล็กน้อยเพราะพวกเขาไม่รู้มาก่อนว่าคนพวกนี้จะร่วมใจกันต่อต้านศัตรูที่คุ้นเคยกันแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ภายในความโกรธแค้นของพวกเขานั้นมีความบ้าคลั่งแอบซ่อนเอาไว้อยู่
มู่ไป๋ดึงซิงเหอมาอยู่ข้างกายโดยอัตโนมัติด้วยกลัวว่าคนพวกนี้จะพุ่งเข้าจู่โจมพวกเขาอย่างกะทันหัน กลุ่มของทหารและตำรวจยืนประจำที่และเตรียมพร้อม หากมีใครคิดจะก่อจลาจลพวกเขาจะยิงโดยไม่ลังเล
“เฮ่อหลานฉีทำแบบนี้เพราะเขาไม่อาจทนเห็นความชั่วที่พวกคุณก่อได้อีกต่อไป สุดท้ายพวกคุณเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าได้ลงมือทำชั่วอะไรเอาไว้บ้าง” ซิงเหอโพล่งขึ้นอย่างฉับพลัน
เฮ่อหลานหลงเหลือบมองซิงเหอด้วยสายตาอันชั่วร้ายและเริ่มหัวเราะ “พวกเราเป็นคนบาปงั้นเรอะ ไม่เลย โลกนี้ต่างหากที่ทำให้พวกเราเป็นแบบนี้ ผู้ชนะมีสิทธิ์ได้ทุกอย่าง! ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้มีราชาและราชินีอยู่มากมายในหน้าประวัติศาสตร์แต่พวกเรากลับถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาปเพียงเพราะพวกเราปรารถนาจะทำแบบเดียวกัน ใครที่มีอำนาจ คนนั้นย่อมเป็นคนควบคุมทุกอย่าง นี่เป็นกฎของทุกสิ่ง โลกใบนี้เป็นของพวกเราตระกูลเฮ่อหลาน ดังนั้นจะมารีรออะไรเอาตอนนี้ล่ะ ทุกอย่างมันถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเป็นของพวกเรา! แล้วพวกแกทั้งหมดจะต้องตาย”
เฮ่อหลานหลงเริ่มพูดจาเหลวไหลด้วยเสียงสูงราวกับคนบ้า ทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
“อีกไม่นาน พวกแกจะได้รู้ว่าทำเรื่องโง่เง่าแค่ไหนลงไป พวกแกทำลายทุกอย่างแล้วโลกนี้กำลังจะถึงจุดจบ…”