บทที่ 57 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 57 เพื่อนเก่า (7)

ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำสนิท ค่อยๆ แทรกตัวกันหนาแน่นราวกับน้ำหมึกสีดำที่หยดลงมาได้ ดวงดาวสุกใสไม่กี่ดวงกระจัดกระจายอยู่ตรงกลาง เผยความอ้างว้างออกมาให้เห็น ผู้คนในสวนสนุกทยอยจากไป เสียงหัวเราะก็ค่อยๆ เบาบางจนเงียบลงในที่สุด อี้เป่ยซีเดินออกมาจากสวนสนุกกับฉู่ซ่ง พลังทั้งร่ายกายราวกับถูกสูบออกจนหมดในพริบตาที่ก้าวออกจากประตู เธอก้มหน้ายิ้ม

            “รู้สึกฟ้ามืดเหมือนฝนจะตกเลย”

            ฉู่ซ่งเงยหน้าขึ้นตามเธอ “จะเป็นไปได้ยังไง หลายวันนี้อากาศก็แจ่มใสดี”

            เธอไม่ได้รับคำเขา พูดกับตัวเองว่า “นายรู้ไหม ฉันเกลียดวันฝนตกที่สุดเลย อากาศชื้นๆ ทำให้ฉันรู้สึกว่าของที่ตัวเองเก็บไว้จะขึ้นรา ไม่ทันรู้ตัวก็เอาพวกมันออกมาตรวจดูแล้ว พลิกไปพลิกมาก็รู้สึกว่าปล่อยให้มันเน่าอยู่ตรงนั้นก็แล้วกัน ความรู้สึกที่เป็นแบบนี้ตลอดเวลามันแย่มากๆ เลย”

            ฉู่ซ่งขยับนิ้ว แต่ยังจูงมือของเธออยู่ มือของอี้เป่ยซีที่เล็กๆ เย็นๆ วางอยู่ในมือของเขาอย่างว่าง่าย

            “ทำไมมือของเธอเย็นจัง? เธอหนาวเหรอ?” เขาพูดพลางทำท่าจะถอดเสื้อตัวนอกของตัวเอง อี้เป่ยซีห้ามเขา

            “นายเป็นเด็กขี้โรคยังจะกล้าถอดเสื้อให้ฉันอีก ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากดูแลคนป่วย”

            “นั่นมันเป็นเรื่องตอนเด็กๆ ตอนนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว”

            เธอส่ายหัว “ฉู่ซ่ง ขอบคุณนะ แล้วก็ขอบคุณลั่วจื่อหานแทนฉันด้วย”

            “ฉู่เซี่ย”

            อี้เป่ยซีดึงมือของตัวเองออกมา ยิ้มแล้วมองเขา “ฉู่เซี่ยไม่อยู่แล้ว ฉู่ซ่ง ฉันคืออี้เป่ยซี ยินดีที่ได้รู้จักเธอนะ”

            “ฉู่เซี่ย เธอก็คือฉู่เซี่ย ฉันไม่สนหรอก เธอคือฉู่เซี่ย” ฉู่ซ่งกอดเธอไว้ทันที “ไม่น่าล่ะเธอถึงไม่ยอมหยุดเลย ที่แท้ก็คิดแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วเหรอ? คิดไว้แล้วว่าคืนนี้จะเตะฉันออกไปอย่างไม่ใยดี ฉู่เซี่ย เธอใจร้ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ฉันตามหาเธอมาสิบกว่าปี สิบกว่าปีเพื่อให้เธอบอกฉันว่าไม่มีฉู่เซี่ยแล้วงั้นเหรอ?

            ฉันไม่ต้องการ เธอคืนฉู่เซี่ยของฉันมาให้ฉัน ฉันไม่สนว่าฉู่เซี่ยจะอยู่กับอี้เป่ยเฉิน แต่ว่าเธอจะฆ่าฉู่เซี่ยฉันไม่ได้ อี้เป่ยซี เธอทำไม่ได้”

            อี้เป่ยซีคิดจะตบๆ หลังของเขา ถึงเพิ่งนึกได้ว่าเขาบาดเจ็บ จึงทิ้งมือลงข้างลำตัวอย่างอ่อนแรง “ฉู่ซ่ง ฉันไม่ได้หมายความว่าจะเตะนายออกไป ฉันยังเป็นพี่สาวของนาย ในฐานะอี้เป่ยซี”

            “อี้เป่ยซีอะไร ฉันไม่รู้จักเขา ฉันรู้จักแต่ฉู่เซี่ย และเธอก็คือฉู่เซี่ยไง ทำไมถึงไม่ยอมรับ”

            “ฉันไม่เข้าใจ อี้เป่ยซีกับฉู่เซี่ยก็เป็นแค่ชื่อเท่านั้น ฉันก็คือฉัน ทำไมพวกนายต้องยึดติดขนาดนี้ด้วย ฉันก็เหนื่อยมากเหมือนกันนะ เกือบโดนพวกนายบีบจนเป็นบ้าอยู่แล้ว”

            “ฉู่เซี่ย”

            อี้เป่ยซีถอนหายใจ “ฉู่ซ่ง ปกตินายน่ะฉลาดที่สุด นายน่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉัน พี่เป่ยเฉิน เขาไม่ชอบให้ฉันติดต่อกับพวกนาย…”

            “งั้นตอนนี้เธอจะไปแล้วเหรอ? ให้ความหวังกันแล้วก็ถีบส่งฉันอย่างโหดเหี้ยม?”

            “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันหมายถึง…”

            “ฉันไม่อนุญาต ฉู่เซี่ย ฉันไม่อนุญาต”

            “นายฟังฉันให้จบก่อน” อี้เป่ยซีรู้สึกสมองจะระเบิดอยู่แล้ว ทำไมพวกเขาต่างต้องยึดติดกับอะไรแปลกๆ พวกนี้ด้วย พี่เป่ยเฉินก็ด้วย ฉู่ซ่งก็ด้วย เธอเป็นตัวเธอเอง เธอจะกลายเป็นคนอีกคนเพราะเปลี่ยนชื่อตัวเองได้อย่างไร “อย่าขัดฉัน ถ้านายขัดฉันอีกฉันจะต่อยนายเลย

            พี่เป่ยเฉินเขาดีกับฉันมาก ฉันก็ไม่อยากเห็นเขาไม่มีความสุข แน่นอนว่าฉันก็ไม่อยากเห็นน้องชายคนโปรดของตัวเองเสียใจเหมือนกัน ชื่อไม่สำคัญเลยจริงๆ แต่ฉันหวังว่านายจะเคารพการตัดสินใจของฉัน ตอนนี้ฉันคืออี้เป่ยซี นี่คือความจริงที่ไม่จำเป็นต้องเถียงกัน

            ฉันไม่อยากเห็นนายกับพี่เป่ยเฉินไม่มีความสุข ฉันจะไม่มีทางปล่อยคนใดคนหนึ่งไป แต่ว่านะฉู่ซ่ง ตอนนี้พวกเราไม่ควรจะสนิทกันให้มาก แต่นายเชื่อฉันเถอะ อีกหน่อย อีกหน่อยฉันจะทำให้พี่เป่ยเฉินค่อยๆ ยอมรับนายเอง”

            ฉู่ซ่งเบะปาก “เขาไม่ใช่พี่ชายฉัน”

        “นายดูสิ ตอนนี้เขาก็ต่อต้านนายเหมือนที่นายต่อต้านเขานั่นแหละ”

            “มันไม่เหมือนกัน เขาเป็นโจรที่ขโมยเธอไป ฉันไม่เหมือนกัน”

            อี้เป่ยซีส่ายหัว “ฉันว่าตอนนี้พี่เป่ยเฉินก็คิดแบบนี้เหมือนกัน”

            มือของฉู่ซ่งแข็งทื่อ ปล่อยมือขณะมองตาเธออย่างจริงจังมาก “ไม่เหมือนกัน มันไม่เหมือนกัน ฉันบอกว่าไม่เหมือนก็ไม่เหมือนสิ”

            “นายยังเป็นเด็กจริงๆ”

            “ก็ฉันยังเป็นเด็กอยู่ ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายคุ้มครองเยาวชน ฉู่เซี่ย เธอต้องระวังหน่อย อย่าลงมือลงไม้กับฉันสุ่มสี่สุ่มห้านะ”

            อี้เป่ยซีเตะไปที่น่องของเขาทันที ทั้งสองคนหัวเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

            “ถ้าพี่ชายเธอไม่ยอมไปตลอดล่ะจะทำยังไง?”

            “ไม่หรอก พี่เป่ยเฉินรักฉันที่สุดแล้ว เขาน่ะที่จริงก็คุยง่ายอยู่นะ” ตัวอี้เป่ยซีเองก็ไม่แน่ใจเท่าไร

            ฉู่ซ่งมองเธอด้วยความสงสัยเล็กน้อย “แค่ก ฉู่เซี่ย ฉันมีคำถาม คือว่า คนอื่นที่เป็นพี่ชายน้องสาวกันเขาก็เรียกว่าพี่ชายหรือพี่สาวเฉยๆ ไม่ก็เรียกชื่อกัน เธอเรียกเขาว่าพี่เป่ยเฉินอะไรนั่น มันรู้สึกแปลกๆ แล้วก็…แค่ก”

            “พวกเราไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ นะ นายไม่รู้เหรอ?”

            เขาตบๆ หัวเงียบๆ “ประเด็นของฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้น่ะ”

            อี้เป่ยซีกะพริบตาปริบๆ จงใจหลบเลี่ยงคำถามนี้ แต่ฉู่ซ่งกลับเริ่มพูดต่อ “ฉู่เซี่ย หรือว่าเธอ…”

            เธอคว้านิ้วของฉู่ซ่งที่ยื่นมาไว้ “มองออกแล้วก็ไม่ต้องพูด รู้หรือเปล่า”

            “อืมๆๆ”

            “ที่จริง” เธอปล่อยมือเขาอย่างเศร้าสร้อย “ระหว่างฉันกับพี่เป่ยเฉินมันเป็นไปไม่ได้ พวกเราเป็นแค่พี่ชายกับน้องสาว” และก็เป็นได้เพียงแค่พี่ชายน้องสาว เธอไม่สามารถแบกรับเรื่องราวเหล่านั้นเหมือนกับคนไร้หัวใจ และชอบอี้เป่ยเฉินต่อไปได้

            “เป็นเพราะว่าลู่เยี่ยหวา เหมือนจะเป็นชื่อนี้นะ เพราะเขาใช่ไหม”

            อี้เป่ยซีเบิกตาโต “นายรู้ชื่อเขาได้ยังไง ตอนนี้ที่มหา’ลัยก็รู้แล้วเหรอ?”

            “ก่อนหน้านี้ลู่เยี่ยอิ่งทำเธอร้องไห้ไม่ใช่เหรอ ฉันก็เลยสืบดู แล้วเธอชอบลู่เยี่ยหวาไหม?”

            “ฉันไม่อยากคุยเรื่องพวกนี้กับด้วย” เธอเบือนหน้าหนี

            ฉู่ซ่งวิ่งไปยังทิศทางที่เธอหันหน้าหนี พูดเอาใจว่า “ก็ได้ ไม่พูดถึงพวกเขาแล้ว แล้วลั่วจื่อหานล่ะ เธอคิดว่าพี่จื่อหานเป็นยังไง รู้สึกว่าก่อนหน้านี้เขา…”

            รถที่เคลื่อนมาข้างหน้าบีบแตร อี้เป่ยซีเห็นรถที่คุ้นตาก็แย้มยิ้ม “เรื่องของอนาคตไว้คุยกันในอนาคตเถอะ รบกวนนายฝากไปบอกด้วยนะ ฉันกลับก่อนล่ะ บาย”

            ฉู่ซ่งยังไม่ทันเรียกเธอให้หยุด อี้เป่ยซีก็ขึ้นรถไปแล้ว เธอนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ แอบมองอี้เป่ยเฉินด้วยความอึดอัดเล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าที่ขึงขังของเขา คำพูดที่ต้องการพูดวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจะต้องเอ่ยปากอย่างไร

            “เสี่ยวซี วันนี้ไปเที่ยวสนุกเหรอ?”

ใบหน้าเล็กๆ ของอี้เป่ยซีก้มต่ำลงทันที “ขอโทษนะพี่เป่ยเฉิน ทำให้พี่เป็นห่วงแล้ว คราวหน้าฉันจะไม่ทำอีก”

………………………….