ตอนที่ 0

Kill the Hero

Kill the Hero 000 Prologue

ฉันเกลียดโลกใบนี้

พอฉันเกิดมา ฉันก็โดนทิ้งไว้ในถุงขยะ

แน่นอนว่าฉันไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องปกป้องโลกนี้ เพราะฉันได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นแค่สัตว์มาตลอดชีวิต

ฉันเกลียดโลก ที่ทำให้ฉันกลายเป็นแบบนี้

ฉันเบื่อกับความจริงที่ว่าฉันเป็นมนุษย์ จับกลุ่มกับพวกปลิ้นปล้อนหลอกลวงในหน้ากากมนุษย์ พวกเขาตาบอดเพราะความโลภกับความทะเยอทะยานของตัวเอง

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่เชื่อใจมนุษย์

อะไรที่ฉันต้องทำ ฉันจะทำมันคนเดียว

ความคิดนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแม้กระทั่งหลังจากที่โลกได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงก็ตาม

 

วันที่ 1 มกราคม 2020 โลกได้เปลี่ยนไปสู่รูปแบบที่คล้ายกับเกม

 

ดันเจี้ยนกับมอนสเตอร์ ปรากฏขึ้น และผู้เล่นก็มีพลังที่จะหยุดพวกมันได้

การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ได้เริ่มขึ้นแล้ว

จากมุมมองของฉัน โลกก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักหรอก

สำหรับคนที่แข็งแกร่งก็ยังคงเอาเปรียบคนอ่อนแอ และความจริงที่ว่า คนที่มีเอาทุกอย่างจากคนที่ไม่มี ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป

ผู้เล่นใช้การคุกคามของดันเจี้ยนและมอนสเตอร์ ที่ทำให้ทั้งโลกหวาดกลัว เป็นโอกาสในการเติมเต็มความทะเยอทะยานของพวกเขาเอง

ไม่มีใครที่สามารถไว้ใจได้ในโลกใบนี้

เพียงคนเดียว

มีเพียงคนเดียวที่ดูเหมือนจะแตกต่างจากคนอื่น ๆ

“ฉันจะฆ่าลาสท์บอสของเกมนี้ แล้วหยุดทุกอย่างเอง”

ลีเซจุน

หนึ่งในเจ็ดผู้เล่นกลุ่มแรก และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้รับเลือกจากแสงศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เล่นระดับสูงสุด นับตั้งแต่ที่เขาได้เข้าร่วมในพิธีกรรมแสงศักดิ์สิทธิ์

มีแค่เขาที่แตกต่างออกไป

“ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้ช่วยโลก”

ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ ทำเหมือนกับโลกนี้เป็นแค่เวทีเกมของพวกเขา มีไว้แค่สร้างความพอใจ และความโลภของตัวเอง มีแค่ลีเซจุนเท่านั้นที่เสียสละ และอุทิศตัวเองเพื่อช่วยโลก

เขาล่ามอนสเตอร์ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเขาก็ตาม เขาทำลายดันเจี้ยนสุดอันตรายที่ทุกคนหลีกเลี่ยงได้ และเขายังตัดสินผู้เล่นและสมาคมที่ท้าทายกฎ

พูดอีกอย่างหนึ่งคือเพื่อช่วยโลก เขาจึงต่อสู้กับโลกนั่นเอง

เขาเป็นคนแรก

มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันได้พบคนแบบนี้ ใครสักคนที่ฉันรู้สึกว่าสามารถไว้ใจ และทำตามอย่างไร้ข้อกังขาในโลกที่น่ารังเกียจนี้

นั่นเป็นเหตุผล

“หมาล่าเนื้อคิมวูจิน ผมต้องการความแข็งแกร่งของนาย”

เมื่อลีเซจุนยื่นมือออกมา ฉันก็ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะยอมรับมัน

ฉันจะตามเขาไปจนจบเกมบ้านี่ ฉันเต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้

ชีวิตในฐานะเพื่อนร่วมทางของผู้กอบกู้ ที่สักวันหนึ่งจะกอบกู้โลก ได้กลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง เมื่อเทียบกับชีวิตที่ไร้กังวล

ผู้เล่นที่มีส่วนได้เสียไม่ต้องการให้เกมนี้จบลง ดังนั้นยิ่งสมาคมเมสสิอาห์ใกล้จะทำลายเกมนี้มากเท่าไร เสียงความไม่พอใจของโลกก็ยิ่งรุมล้อมพวกเขามากขึ้นเท่านั้น

ถึงอย่างนั้นฉันไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้แม้แต่ครั้งเดียว

เราจะช่วยโลกนี้ ฉันเชื่อว่าการเสี่ยงชีวิตเพื่อเพื่อนร่วมทีมของฉัน พวกเราที่รวมตัวกันด้วยเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นั้น ไม่เคยเสียเปล่า

ฉันเชื่อว่าตราบใดที่ฉันยังอยู่กับพวกเขา ฉันจะสามารถเปลี่ยนโลกที่น่ารังเกียจนี้ได้

“มาสเตอร์ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ เหลือแค่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว”

“ไม่มีการต่อสู้ครั้งสุดท้ายหรอก”

“อะไรนะครับ? “

“ฉันไม่เคยคิดที่จะจบเกมนี้เลย”

“คุณว่ายังไงนะ…”

ฉันมั่นใจว่าฉันต้องฟังผิดแน่ ๆ

“มันต้องมีหมาป่า เพื่อขู่ให้แกะยอมเชื่อฟัง”

ปึก*!*

ต่อหน้าบัลมุง แม้แต่หนังมังกรก็ถูกแทงทะลุราวกับกระดาษ ช่วงเวลาที่บัลมุงเจาะทะลุหน้าอกของเขา คิมวูจินก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ

 

[คุณได้รับผลกระทบจากคำสาปบัลมุง]

[ความต้านทานทั้งหมดลดลง 90%]

[สถานะป้องกันทั้งหมดลดลง 90%]

[ผลการรักษาทั้งหมดลดลง 90%]

 

“นายทำได้ดีมากคิมวูจิน ถ้าไม่มีนาย พวกเราคงจะไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้”

สิ่งที่ฉันได้ยินหลังจากนั้นคือเสียงของลีเซจุน

ดังนั้นเสียงของลีเซจุน ที่ไม่ทับซ้อนกับการแจ้งเตือนของระบบจึงเข้าสู่หูของคิมวูจินโดยตรง

“คุณหมายความว่ายังไง? ”

คิมวูจินไม่เข้าใจสิ่งที่ลีเซจุนพูดแม้แต่คำเดียว

“ทำไม…คุณหมายความว่ายังไง ที่คุณไม่เคยคิดจะจบเกมนี้มาตั้งแต่แรก”

“ฉันหมายความว่ายังไงเหรอ? ”

ยังไงก็ตามคำถามของคิมวูจิน ก็ไม่มีคำตอบจากลีเซจุน แต่เป็นอีกคน

หนังสีแดงเข้มราวกับว่าถูกตัดออกมาจากเปลวไฟอันโชติช่วง สร้างสรรค์เสื้อคลุมแห่งความงามที่น่าหลงใหล ยืนอยู่ด้านหลังของลีเซจุน และมองดูคิมวูจินที่คุกเข่าอยู่ข้างหน้าเธอ จากนั้นเธอก็พูดขึ้น

“ถ้าเกมจบลง และระบบเกมหายไป พลังและไอเท็มที่เราได้รับจะหายไปพร้อมกับดันเจี้ยนกับมอนสเตอร์ทั้งหมด และเหตุผลที่ผู้คนเชื่อฟังทุกคำของเราจะหายไปเช่นกัน”

ปาร์คชินเฮ

ทายาทของฮันซองกรุ๊ป กลุ่มแชบอลที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของลีเซจุน ในช่วงแรก ๆ ของการก่อตั้งสมาคมเมสสิอาห์

“ถ้าเราจบเกมนี้ เราจะปกครองโลกได้ยังไง? ”

คิมวูจินมองลีเซจุนด้วยสายตาแข็งกร้าว หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ

ถึงอย่างนั้น ลีเซจุนก็ไม่ได้พูดอะไรเลย

มันเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด

คิมวูจินกัดฟันแน่นกับสิ่งที่ได้ยิน

‘ฉันต้องดึงดาบออกก่อน ฉันทำอะไรไม่ได้เลยถ้าบัลมุงยังเสียบตัวฉันอยู่แบบนี้ ‘

สัญชาตญาณดิบของเขาคือการเอาชีวิตรอด เขายังอยากมีชีวิตอยู่ และฟังคำอธิบายจากลีเซจุน

‘ฉันต้องการฟังคำอธิบายอย่างละเอียด … ‘

เขาไม่ต้องการได้ยินมันจากคนอื่น แต่ต้องการฟังจากปากของลีเซจุนคนเดียว

[พิษงูพันตัว ได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของคุณ]

ในขณะนั้นการแจ้งเตือนใหม่จากระบบดังขึ้นในหูของคิมวูจิน

“แค่ก…”

ขณะเดียวกัน คิมวูจินก็พ่นเลือดออกจากปากของเขา

ชี่*!*

เลือดที่คิมวูจินพ่นออกมาถึงกับทำให้พื้นละลายได้

‘พิษงูพันตัว? ’

“อย่างที่คิด มันน่าประทับใจจริง ๆ ”

คนที่พูดกับคิมวูจินผู้น่าสังเวชอีกครั้ง ก็ยังไม่ใช่ใครอื่นนอกจากปาร์คชินเฮ

“คิดว่าน่าจะได้รับพิษจากการถูกบัลมุงแทงเท่านั้น คนอื่น ๆ ก็จะได้รับการดูแลอย่างดีจากพิษงูพันตัวด้วยเหมือนกัน “

“คนอื่น? ”

ในทันใดนั้น ใบหน้าของหลาย ๆ คนปรากฏขึ้นในใจของคิมวูจิน

“อย่าบอกนะ…”

เพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาเพื่อมนุษยชาติ และผู้ที่ยินดีจะเสียสละชีวิตเพื่อคนเหล่านี้

ทันทีที่เขานึกถึงใบหน้าของเพื่อนรักได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

ดวงตาของเขาเริ่มเปล่งประกายออร่าที่เจตนาฆ่าฟันอย่างรุนแรงด้วยความแค้น

นี่คือหลักฐานการยอมรับ

นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าในที่สุด คิมวูจินเข้าใจของสถานการณ์นี้จริง ๆ และยอมรับมัน

“ลีเซจุน เพราะแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว แกไม่เคยคิดที่จะเป็นวีรบุรุษหรือช่วยโลกเลยสินะ”

ความเงียบของลีเซจุนก็เป็นหลักฐานที่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน จากนั้นปาร์คชินเฮก็พูดขึ้น

“ใช่ ก็อย่างที่แกพูดนั่นแหละ นั่นเป็นแผนของเราตั้งแต่ต้นแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ แกคิดว่ากลุ่มของฮันซองจะเสี่ยงทุกอย่างเพื่อสนับสนุนสมาคมเมสสิอาห์งั้นเหรอ? ”

ลีเซจุนที่ยังนิ่งเงียบกับคำอธิบายที่มาจากปาร์คชินเฮนั้นพิสูจน์ว่าทุกอย่างเป็นความจริง

ลีเซจุนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่วีรบุรุษ

“ตั้งแต่เริ่ม แผนของเราคือการสร้างอาณาจักรที่สามารถปกครองโลกนี้ทั้งใบได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เราจำเป็นต้องกำจัดคู่แข่ง และเล่นเป็นฮีโร่ เพื่อแยกตัวเองออกจากคู่แข่งพวกนั้น”

วายร้ายภายใต้หน้ากากของฮีโร่

เขาเป็นคนหลอกลวงที่ไม่แม้แต่จะพูดความจริงออกจากปากของตัวเอง

“ในที่สุดการเตรียมการทั้งหมดก็เสร็จสมบูรณ์”

ปาร์คชินเฮพูดทุกอย่างแทนลีเซจุน

“ทั้งนักล่ามังกร, ไก่ป่า, ราชาแห่งพิษมรณะ หรือแม้กระทั่งราชาแห่งอันเดด ที่จริงแล้ว ตั้งแต่แรกพวกเราก็ทำการแลกเปลี่ยนกับราชาแห่งอันเดดแล้ว เพราะฉันคงต้องเสี่ยงตายมาก ถ้าฉันพยายามจะฆ่าเขา แต่พอคิดว่ามีหมาล่าเนื้อที่ฆ่าสัตว์ประหลาดแบบนั้นได้ ช่างเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ”

ลีเซจุนฉันอุทิศชีวิตให้กับแก แต่พอคิดว่าฉันไม่แม้แต่จะได้ยินเหตุผลของการทรยศของแกปากแกได้ แต่ได้ยินแค่จากปาร์คชินเฮ

“เอาล่ะ ฉันควรจะจบชีวิตแกสักที หลังจากที่ได้ร่วมมือกับราชาแห่งอันเดดแล้ว มันไม่น่าตลกใช่ไหม ฉันหมายถึงชื่อเล่นของแกคือ ‘หมาล่าเนื้อ’ “

มันยากมากที่จะกดความรู้สึกสับสนวุ่นวายเกินคำบรรยายนี้ไว้

“รู้สึกยังไงละ? ”

ไม่มีทางอยู่แล้วที่ฉันจะมีความสุขหรือว่ารู้สึกเหี้-อะไร

‘เขาไม่แม้แต่จะแก้ตัวเลยสักนิดเดียว’

ท่าทีของลีเซจุนไม่เปลี่ยนไปเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ เขารู้สึกว่าถูกทรยศ

ความจริงที่ว่าเขาไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว จากปากของตัวเองในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ต่างอะไรจากคนขี้ขลาดเลย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริงแบบนี้เขารู้สึกเดือดดาลมาก

‘แกยังจะฆ่าคนที่เชื่อใจพวกเหี้-แบบแกอีกงั้นเหรอ? ‘

ผู้คนนับไม่ถ้วนเสียสละชีวิตเพื่อให้ลีเซจุนมาถึงจุดนี้ ที่นี่ตอนนี้

การเมินเฉยต่อสิ่งที่พวกเขาทำ ความมุ่งมั่นอันไร้ขอบเขาของพวกเขา และการพยายามช่วยโลกไว้คือเหตุผลเดียวที่ผลักดันพวกเขาไปข้างหน้า

แต่แกจะกำจัดพวกเขา เพราะตอนนี้พวกเขาขวางทางพวกแกเนี่ยนะ?

แกจะไม่พูดอะไรจากปากเน่า ๆ ของตัวเองหน่อยเหรอ?

พร่วด*!!*

นี่คือสิ่งที่เราไม่สามารถคิดหรือทำความเข้าใจได้ด้วยเหตุและผล

“ลีเซจุน ถ้าแกมีอะไรจะพูดก็พูดออกมาจากปากตัวเอง”

เหตุผลสุดท้ายที่เขาถามคำถามนี้

“ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกับคนที่กำลังจะตายแบบแกด้วย? ”

“หุบปากไปเลย ฉันกำลังพูดกับลีเซจุน”

ถึงอย่างนั้น ลีเซจุนก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้คิมวูจินจะเรียกร้อง

กลับกันลีเซจุนหันหลังให้เขา

ในช่วงเวลานั้น ทุกอย่างมันชัดเจนมาก

“สุดท้าย ในโลกนี้ก็ไม่มีใครที่ไว้ใจได้เลยแม้แต่คนเดียว”

เขาอุทิศชีวิตให้กับวีรบุรุษที่เขาคิดว่าถูกลิขิตมาให้ช่วยโลก อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีอะไรนอกจากเรื่องโกหก ในที่สุดเขาก็ถูกวีรบุรุษหักหลัง

ยิ่งกว่านั้น เหมือนกับที่เขาเชื่อมาตลอด ไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถเชื่อหรือไว้วางใจได้ ไม่มีแม้แต่คนเดียว

เขาเป็นความหวังเดียวของพวกเรา

สถานการณ์ของคิมวูจินเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

เป็นสิ่งที่ชัดเจนมากว่าคิมวูจินต้องทำอะไร

“ฉันฆ่าทุกคน และทุกสิ่งทุกอย่างที่ขัดขวางความฝันในการจบเกม ดังนั้นถ้าแกจะฆ่าฉัน แกก็ควรจะทำให้จบไป เพราะถ้าฉันรอด ฉันก็จะทำทุกอย่างเพื่อหยุดคนเหี้-แบบแก”

ทำให้คนทรยศต้องตอบแทนการทรยศของพวกมัน

นั่นคือตอนจบเรื่องราวของคิมวูจิน

 

วันที่ 7 มีนาคม 2023 สิ่งที่เขาจำได้หลังจากตื่นขึ้นมา คือ เรื่องราวของเขาในอนาคต