”ต้องบอกเลยนายน่ะเหอเฟิงจากที่เป็นลูกศิษย์ของตาแก่เลาหมิง แล้วกลายมาเป็นรักษาการณ์ตำแหน่งแทนชูฮันที่เขี้ยวหมาป่า นายนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ รวมถึงการวิเคราะห์จากข้อมูลที่นายมีไล่เป็นขั้นตอนก่อน ทุกอย่างถูกต้องแล้ว” เกาช้าวฮุ่ยพูดไปยิ้มมุมปากกวาดสายตามองทุกคนในเต้นท์ไปด้วย
ทุกคนเกิดอารมณ์ปั่นป่วนอยู่ในใจกันสักพักหนึ่งยิ่งเพราะไม่รู้ว่าชายแปลกหน้านี้คือใคร แต่พอได้ยินสิ่งที่ออกจากปากชายแปลกหน้าแล้ว ทุกคนจึงยิ่งตกใจและสับสนกันมากขึ้นกว่าเดิม
ชายแปลกหน้าคนนี้คือใคร?ทำไมถึงรู้รายละเอียดสถานการณ์ภายในของเขี้ยวหมาป่าดี? เขามีพละกำลังมากขนาดไหนกัน? ขนาดที่ซูเฟิงที่อยู่ตรงหน้ายังไม่กล้าขยับ?
เหอเฟิงตัวเย็นเฉียบเนื้อตัวชุ่มได้ด้วยเหงื่อ เขาพยายามสงบสติต่อหน้าทุกคน แม้ว่าตอนนี้ตัวเขาได้เปิดสถานะเตือนภัยสูงสุดไปแล้ว และยิ่งได้ยินคำพูดของเกาช้าวฮุ่ย เหอเฟิงก็คิดอะไรต่อไม่ออกอีก ที่อีกฝ่ายพูดมันคืออะไร?
สุดท้ายแล้วสถานการณ์เป็นอย่างไรกันแน่?!
”น่าเสียดายที่นายวิเคราะห์ผิดไปอย่างหนึ่งซึ่งส่งผลให้ทุกอย่างผิดไปหมด” เกาช้าวฮุ่ยไม่สนใจปฏิกิริยาระแวงระวังของเหอเฟิงเลยสักนิด เขายังคงพูดต่อด้วยท่าทางสบายๆ “พฤติกรรมของชูฮันไม่มีทางวิเคราะห์ได้เลย”
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ทุกคนในห้องก็แทบลืมหายใจด้วยความตกใจอย่างแรง!
”นายนายหมายความว่ายังไง?” นัยน์ตาดำของเหอเฟิงหดวูบอย่างแรง ในหัวพยายามคิดทบทวนหาคำตอบของคำพูดของเกาช้าวฮุ่ยไม่หยุด แต่เนื่องจากความตกใจที่มากเกินไป ทำให้เขาหาเงื่อนงำอะไรไม่เจอเลย
”ไม่มีความหมายอะไรเลย”เกาช้าวฮุ่ยยิ้มกว้างและพูดต่อ “สองข้อนะ ข้อแรกเลยชูฮันจะมาถึงพร้อมกับกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 คนในอีก 5 นาที ข้อสอง ไม่ต้องกังวลเรื่องของฉัน ฉันแค่มาในฐานะตัวแทนของชูฮันมาแจ้งพวกนายล่วงหน้า”
ท่าทางสบายๆของเกาช้าวฮุ่ยราวกับกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศทว่าสำหรับทุกคนสิ่งออกจากปากเกาช้าวฮุ่ยนั้นเปรียบเสมือนสายฟ้าที่ฟาดลงกลางหัวพวกเขา!
”พลเอกชูฮัน?”เจียงเทียนชิงตัวแข็งไปทันที “หมายถึง กองกำลังที่กำลังมุ่งหน้ามาคือทีมที่หัวหน้านำทัพมางั้นเหรอ?”
แล้วที่พวกเขากังวลกันแทบตายก่อนหน้านี้มันเพื่ออะไร?ดูเหมือนคนโง่…
เหอเฟิงต้องตกใจอีกครั้งทวนคำพูดของเกาช้าวฮุ่ยซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวตัวเอง เขาได้แต่ยืนพูดพึมพำอยู่กับตัวเองด้วยความสับสน “หมายความว่ายังไง? รูปแบบพฤติกรรมของชูฮันไม่สามารถวิเคราะห์ได้ มันมีเหตุผลมากมายก่อนหน้านี้ที่ถูกต้องทุกอย่าง แต่กองกำลังที่กำลังมุ่งหน้ามาคือชูฮัน กองกำลังที่เคลื่อนไหวราวกับผีและ…”
เกาช้าวฮุ่ยสบตากับเหอเฟิงอย่างเงียบๆท่ามกลางความวุ่นวายที่กำลังก่อตัวขึ้น”ใช่ อ้อ! น่าเสียดายที่นายอนุมานว่าชูฮันจะต้องใช้เวลาจัดการกับพวกหนอนบ่อนไส้นานเกินไป ที่จริงแล้วชูฮันใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงก็จัดการแก้ปัญหาทั้งหมดได้เรียบร้อย และทันทีที่ทีมกองทัพเขี้ยวหมาป่า 500 คนที่นายคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้เดินทางมาถึง หลังจากนั้นก็จะมีทหารที่เกณฑ์มาใหม่อีก 3,000 คนตามหลังมา คาดว่าคงจะมาถึงช่วงบ่ายวันนี้แหละ”
ทั้งเต้นท์ตกอยู่ในความเงียบกริบทันทีที่ได้ยินคำบอกของเกาช้าวฮุ่ย
หนอนบ่อนไส้ที่แฝงตัวภายในค่ายชูฮันจัดการได้หมดเรียบร้อยในชั่วโมงเดียว?
ชูฮันกำลังพากองทัพเขี้ยวหมาป่า500 คนมาที่นี้?
แล้วทหารเกณฑ์ใหม่3,000 คนคืออะไร?
หัวหน้าไปหาคนมากถึง3,000 คนมาจากไหนในเวลาสั้นๆแบบนี้?!
เป็นเวลาพักหนึ่งที่ทุกคนในเต้นท์ตกอยู่ในภวังค์พยายามขบคิดถึงข้อมูลจำนวนมากที่พึ่งได้รับรู้จากเกาช้าวฮุ่ย แม้จะตกใจมากก็จริง หากอีกใจหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
นานเท่าไหร่แล้วนะ?
นานเท่าไหร่แล้วที่พวกเขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเพราะหัวหน้าชูฮันแบบนี้?
หัวหน้ามักทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายเสมอ!ทำให้ทุกคนตะลึงครั้งแล้วครั้งเล่า!
เหอเฟิงที่ไม่ได้รู้จักชูฮันดีเท่าคนอื่นๆหลังจากที่เกาช้าวฮุ้ยพูดจบ เหอเฟิงก็ช็อคจนกู่ไม่กลับแล้ว ในใจคิดถึงแต่การวิเคราะห์ที่ผิดพลาดไปหมดของตัวเอง ชูฮันมักจะทำการตัดสินใจที่เหนือความคาดหมายอยู่เสมอ ตัวเขาก็ควรที่จะคุ้นชินและเรียนรู้ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นในอนาคตมันอาจจะเกิดผลกระทบร้ายแรงจนคาดไม่ถึงมาสู่ทุกคนได้
แต่นั้น… เหอเฟิงเปลี่ยนความสนใจมาที่เกาช้าวฮุ่ย…คนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นกระทันหันและพูดถึงเรื่องชูฮันไม่หยุดซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
สมาชิกของตระกูลลึกลับ…นายน้อยแห่งตระกูลเกาถึงกับมาที่นี้ล่วงหน้าเพื่อส่งข่าวให้แทนชูฮันเนี่ยนะ?
ระหว่างทั้งสองคนนี้คือความสัมพันธ์อะไรกันแน่?
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทั้งสองคนรู้จักกัน?
แล้ววิธีที่ทั้งคู่ทำงานด้วยกันมันไม่ควรจะเป็นไปได้เลย!
เกาช้าวฮุ่ยไม่สนใจว่าเหอเฟิงจะคิดยังไงเขาเพียงแค่นั่งอยู่ที่เก้าอี้อย่างสบายๆและจ้องไปที่ถุงดำที่ตัวเองถือมาตลอดทางด้วยความสงสัย นี้คือถุงที่ชูฮันให้เขาถือเอาไว้ตั้งแต่ที่ตกลงจะให้เขาเข้าร่วมสงครามด้วย มันคือถุงที่มีกล่องใส่ของบางอย่างอยู่ข้างใน แต่ชูฮันไม่พูดอะไรเลยสักคำ ปล่อยให้เกาช้าวฮุ่ยคันหัวใจยิบๆด้วยความอยากรู้ ”ขออนุญาตครับท่าน!”ท่ามกลางความเงียบที่ทุกคนต่างตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองกันหมด มีนายทหารคนหนึ่งรีบพุ่งเข้ามาในเต้นท์ด้วยท่าทางตื่นๆพร้อมกับรายงานเสียงดัง “แฮ่ก! พลเอกชูฮันกำลังมา! แฮ่ก! แฮ่ก! พลเอกชูฮัน!”
ในขณะเดียวกันด้านนอกเต้นท์ก็เกิดเสียงวุ่นวายเล็กน้อยเมื่อเหล่าทหารเริ่มตื่นกันขึ้นมาทักทายพูดคุยดังไล่ตามกันมา ในเวลานั้นพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดี ความมืดยังคงปกคลุมทั้งหมดอยู่ทำให้หลายคนที่อยู่หลังๆไปมองเห็นไม่ค่อยชัดเจน
ในตอนนั้นเองหลายคนโดยเฉพาะคนที่เป็นมนุษย์สายพันธ์ใหม่สัมผัสได้ถึงเสียงฝีเท้าจำนวนมากที่เดินขบวนกันมาอย่างเป็นระเบียบกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา และเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นจู่ๆเสียงฝีเท้าก็หยุดลงอย่างพร้อมเพรียงตรงด้านหน้าของขบวนเต้นท์
พวกเขาคือกองทัพเขี้ยวหมาป่าทั้งหมด500 คน!
ชูฮันมาถึงแล้ว!
เหอเฟิงพลันได้สติแม้จะยังคิดไม่ตกถึงสถานการณ์ระหว่างเกาช้าวฮุ่ยและชูฮัน แต่ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าที่เกาช้าวฮุ่ยพูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริงหรือไม่ เพราะตอนนี้…ทุกคนมาถึงแล้ว!
”เร็วเข้า…”เหอเฟิงกำลังเอ่ยบอกทุกคน หากยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค
”ฟึบ!”ผ้าใบเต้นท์ถูกเปิดออกทันที ตามมาด้วยร่างของคนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนในเต้นท์สะดุ้ง สีหน้าราบเรียบที่คุ้นเคยของชูฮัน “ไง ทุกคนยังโอเคอยู่มั้ย?”
ความตื่นเต้นความรู้สึกไร้หนทาง อารมณ์ที่ขาดช่วง อารมณ์ทุกรูปแบบปะทุขึ้นในใจของทุกคนในเต้นท์ ชูฮันเป็นเหมือนอากาศที่เคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า เขามาถึงสนามรบได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?!
ชูฮันรู้สึกอายเล็กน้อยเพราะความเร่งรีบและร้อนใจเสื้อผ้าเขาจึงค่อนข้างเลอะเทอะไปหน่อย เขารีบเข้ามาเอ่ยทักทุกคน ซึ่งทุกคนในเต้นท์ก็รีบยืนตรงด้วยความตกใจทันที ยกเว้นเพียงแต่เกาช้าวฮุ่ยที่ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้เหมือนเดิม
เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้เป็นอีกครั้งที่หัวใจของเหอเฟิงแทบจะวายตาย…ดูเหมือนว่าเขาไม่มีความสามารถจะคำนวณการสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้เลย ในจังหวะที่ทุกคนยังคงมีความสุขกับการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของชูฮันกันอยู่
ในตอนนั้นเอง…
”ปั่ก!”
ทันใดนั้นชูฮันก็เตะเข้าที่เกาอี้ที่เกาช้าวฮุ่ยนั่งและตะคอกใส่อย่างหยาบคาย”นั่งทำบ้าอะไร! ลุก! นี้มันตำแหน่งของฉัน!”
”กึก!”เสียงตะคริวขึ้นคอของเหอเฟิงด้วยความเกร็งอย่างรุนแรง สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความสยองขวัญ เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองกับพฤติกรรมของชูฮันที่ได้เห็น นี้ชูฮันรู้รึเปล่าว่าคนที่เขาพึ่งเตะเก้าอี้ใส่ไปคือใคร?
แต่ที่น่าตกใตสำหรับเหอเฟิงยิ่งกว่านั้นก็คือตัวเกาช้าวฮุ่ยที่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยหลังจากโดนชูฮันเตะใส่เก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่แถมยังทำท่าบิดขี้เกียจ ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน เอื้อมไปคว้าถุงสีดำตรงเท้าขึ้นมา และเดินไปยืนที่มุมหนึ่งของเต้นท์
”หึ!กล้าดียังไงมานั่งที่ฉัน อยากโดนสินะ!”