ตอนที่ 665 วางไม่ได้ ลืมไม่ลง (5)

อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!

ตอนที่ 665 วางไม่ได้ ลืมไม่ลง (5) โดย Ink Stone_Romance

ไป๋ซู่เย่รู้ว่านี่เป็นถ้อยคำที่กำลังทำลายศักดิ์ศรีของเขา หากพูดออกมาเธอกับเย่เซียว…จะถูกไล่ต้อนเข้าไปในตรอกซอยทางตันอย่างแท้จริง…แต่ก็แอบคาดหวังกับคำตอบของเขาโดยไม่รู้ตัว

“ไป๋ซู่เย่ คุณอย่าคิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปหน่อยเลย!” ไม่ต่างกับที่คาดไว้ เขากัดฟันกรอดจ้องเธอด้วยสายตาดุดัน ดวงตาคู่นั้นคล้ายจะถลกหนังเธอทั้งเป็น

ในหัวไป๋ซู่เย่มีแต่คำพูดของน่าหลันเมื่อสักครู่ลอยเต็มไปหมด เธอกำมือแน่นหยิกฝ่ามือตัวเองเพื่อเบี่ยงเบนความเจ็บตรงหน้าอก สูดหายใจเข้าลึกกล่าวกับเขา “เย่เซียว คุณรู้ไหมว่าอะไรเรียกว่า ‘ไม่อิจฉา’ อะไรเรียกว่า ‘ไม่สนใจ’ และอะไรที่เรียกว่า ‘ลืมไปแล้ว’ ไหม?”

เขามองเธอ รอเธอพูดต่อ

“คุณกับน่าหลันอยู่ด้วยกันฉันไม่เคยโกรธและไม่เคยรู้สึกเศร้า ยิ่งไม่เคยอิจฉา กลับกัน…ฉันรู้สึกว่าเธอรักคุณมาก ฉันปลื้มใจแทนคุณ เย่เซียว ถ้าคุณรักกับเธอ ฉันจะอวยพรคุณ…อย่างจริงใจ”

สามพยางค์สุดท้ายเธอต้องสูดหายใจอย่างแรงถึงจะพูดมันได้จบประโยค

สิบปีก่อนที่ทรยศหัวใจตัวเอง มันทรมานกว่าการตาย ยอมไปตายเสียยังดีกว่า…

สิบปีหลังเป็นอีกครั้งที่พบว่าความเจ็บปวดจากการที่พูดไม่ได้ตามใจหวัง มันไม่ได้น้อยหน้ากว่ากันเลย…

ถ้อยคำของเธอที่กล่าวออกมา ทำให้รอบข้างเต็มไปด้วยเสียงหายใจของเย่เซียว

หนักอึ้ง

เรียบนิ่ง

อัดอั้น

ยากจะหายใจ

สายตาคู่นั้นจดจ้องเธออย่างดุดัน ขอบตาแดงเป็นริ้วๆ ภายใต้แสงไฟกลับดูน่ากลัวพอสมควร

ไป๋ซู่เย่รู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบากมากพอแล้ว วินาทีถัดไป…วินาทีถัดมา ทุกการเสแสร้งของเธออาจจะพังทลายลงต่อหน้าเขาทั้งอย่างนี้…

“ดีจริงๆ เลยที่ไม่โกรธ ไม่เสียใจ ไม่อิจฉา!” ในที่สุดเย่เซียวก็อ้าปากพูดและย้ำประโยคของเธอใหม่ ทุกคำพูดกระแทกเสียงคล้ายจะกัดกระดูกเธอให้แหลกเหลว “ผมต้องขอบคุณคำตักเตือนของคุณจริงๆ ไม่อย่างนั้น…ผมเย่เซียวอาจจะต้องจบในมือคุณอีกครั้งจริงๆ”

พูดถึงตรงนี้เขายิ้มแล้ว

แต่รอยยิ้มนั่นกลับไม่ให้ความอบอุ่นสักนิด เรียกให้คนมองคนลุกวาบ

“คุณเก่งมากนะ ในเวลาสั้นๆ ไม่ถึงยี่สิบวันก็ทำให้ผมรังเกียจคุณถึงที่สุดได้ รังเกียจที่สุด!”

สี่พยางค์สุดท้ายเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่กระแทกหัวใจเธอทีละครั้งๆ จนเธอรู้สึกเจ็บแม้กระทั่งหายใจ

เธอพยายามหาเสียงตัวเอง “งั้นสัญญาของเราจบลงแค่นี้ใช่ไหม?”

“จบ?” เย่เซียวเลิกคิ้วสูง หัวเราะ ต่อจากสีหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นความดุดัน “ยังมีโอกาสเล่นคุณอยู่ เล่นวีรสตรีที่ทุกคนยกย่องนับถือและชื่นชมคนนี้ คุณว่า ผมจะยอมปล่อยโอกาสอันดีนี้ให้หลุดมือไปเหรอ?”

ฉะนั้นไม่ถึงวินาทีสุดท้ายไม่มีทางจบ

ไป๋ซู่เย่เข้าใจความคิดของเย่เซียว

เย่เซียวกลับไม่อยู่นานกว่านี้ ก่อนกลับ สายตาที่มองเธอยังฉายแววรังเกียจถึงขีดสุด

…………………………

เขากลับไปแล้ว

ห้องโล่งขึ้นมาทันตา

ต่อให้เปิดไฟอยู่แต่เธอกลับรู้สึกหนาวเย็นอย่างบอกไม่ถูก หนาวเสียจนคนอยู่รู้สึกเจ็บไปถึงกระดูก

ไม่ ไม่ใช่แค่กระดูก เจ็บกระทั่งตอนหายใจ เจ็บไปทุกเซลล์ในร่างกาย…

ความรู้สึกนั่นชอนไชไปที่หัวใจ

ไป๋ซู่เย่หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาจ้องโทรทัศน์ แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งดูต่อไปภาพตรงหน้ากลับยิ่งพร่ามัว…สุดท้ายถูกหยาดน้ำบดบังทั้งหมด บดบังจนมองอะไรไม่เห็น…

……………………

ครั้งนี้ถังซ่งไม่ได้ถูกโทรปลุกแต่เย่เซียวบุกเข้าบ้านเขาโดยตรง

ถังซ่งเปลี่ยนคู่นอนอีกแล้ว เห็นเย่เซียวพังประตูเข้ามาด้วยท่าทางเต็มไปด้วยแรงอาฆาตนั่นเจ้าตัวก็สะดุ้งตกใจจนตัวสั่น กอดห้าผ่มหลบอยู่ตรงมุม

“เย่เซียว พอแล้วนะ ฉันจะตกใจจนสมรรถภาพร่างกายแย่ลงเพราะนายแล้วนะ!”

“ให้เวลานายหนึ่งนาที ใส่เสื้อผ้าออกไปกับฉัน!”

“ไปไหน?” ถังซ่งไม่มีอารมณ์จะปลอบโยนผู้หญิงบนเตียง รีบสวมกางเกงขายาวใส่เสื้อเชิ้ต

เย่เซียวหันหลังเดินออกไปทิ้งท้ายให้เขาเสียงเย็นชาสั้นๆ ว่า “ซื้อเซ็กส์!”

“…” ถังซ่งตกใจจนตัวโยน คิดว่าตัวเองฟังผิดเลยรีบถามผู้หญิงข้างๆ “ที่รัก เมื่อกี้เขาพูดอะไรนะ?”

“ซื้อ…ซื้อเซ็กส์”

“บ้าเอ๊ย! เจ้าหมอนี่ถูกอะไรกระตุ้นมาเนี่ย?” ถังซ่งไม่กล้าชักช้ารีบใส่เสื้อผ้าลวกๆ แล้ววิ่งออกไปทั้งที่ยังไม่ทันติดกระดุมด้วยซ้ำ

…………

ขึ้นรถเย่เซียวพบว่ามีแต่กลิ่นบุหรี่เต็มรถ ที่ใส่ก้นบุหรี่มีก้นบุหรี่สิบกว่าชิ้นได้

ในมือยังคีบบุหรี่อีกหนึ่งมวน

“นายบ้าไปแล้วเหรอ? เย่เซียว ไม่คิดถึงสุขภาพบ้างหรือไง!” ถังซ่งย่นคิ้วรีบแย่งบุหรี่จากมือเขาแล้วบดขยี้ลงที่เขี่ยบุหรี่ให้ดับมอด “ฉันเคยเตือนนายแล้วใช่ไหมว่าร่างกายของนายตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน! นายทำร้ายตัวขนาดนี้ โรคเก่าพร้อมจะแย่ลงเสมอ ถึงตอนนั้นฉันกลัวว่าฉันจะช่วยนายไม่ได้!”

…………………………

“คาดเข็มขัดซะ!” เย่เซียวทิ้งแค่ประโยคเดียว

ถังซ่งไม่กล้าชักช้ารีบคาดเข็มนิรภัยทันที รถยนต์พุ่งทะยานออกไปเสียงดังปานจรวด ถังซ่งตกใจโวยวายอย่างบ้าคลั่ง“ให้ตายสิ! นายไม่กลัวตายแต่ฉันยังไม่อยากตายนะ! ก็แค่ไปซื้อเซ็กส์ไม่ใช่หรือไง นายต้องรีบร้อนถึงขนาดนี้เลยหรือไง! ฉันว่านายรีบไปหายมบาลมากกว่า!”

เย่เซียวไม่ตอบกลับสักคำแต่ความเร็วรถก็ไม่ชะลอลงแต่อย่างใด

“เพื่อน เรามีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จา ได้ไหม?”

ไม้แข็งไม่ได้ ถังซ่งจำต้องใช้ไม้อ่อน “นายว่า แค่ผิดหวังเรื่องความรักนิดหน่อย เราไม่เห็นต้องรนหาที่ตายเลยใช่ไหมล่ะ?”

เย่เซียวกลับฟังคำพูดเขาไม่เข้าหูเลยแม้แต่นิดเดียว สองมือกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดหลังมือปูดโปนเต้นตุบๆ ถังซ่งตกใจหน้าซีดเซียว “ก็มีแค่ไป๋ซู่เย่ที่ทำเอานายเป็นอย่างนี้ได้ล่ะ หน้าสวยเป็นภัย หน้าสวยเป็นภัยจริงๆ! อย่ามาซวยถึงฉันนะ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!”

หากต้องตายทั้งอย่างนี้ เขาไม่ได้ตายเพราะรถชนแต่ตายเพราะความไม่ยุติธรรมต่างหาก!

“ถ้านายกล้าพูดชื่อนั่นอีกที ฉันจะให้นายรู้ตอนนี้เลยว่าอะไรคือหายนะ!” ในที่สุดเย่เซียวก็ปริปากพูดสักทีแต่กลับไม่น่าฟังเท่าไร

“ได้ ฉันไม่พูด! นายรีบลดความเร็วลงเร็วๆ เรากำลังจะไปซื้อเซ็กส์ นี่ตกใจจนหมดแรงไปหมดยังจะซื้ออะไร?!”

เย่เซียวเพิกเฉยต่อคำพูดของเขาไปเลย

ผลสุดท้ายรถยนต์แทบบินมาถึงผับ เดิมทีระยะทางที่ต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงถูกเขาหดเหลือเพียงครึ่งชั่วโมง ขณะที่จอดรถถังซ่งแทบคลานลงจากรถ อาเจียนอย่างไม่รักษาภาพพจน์อีกแล้ว

ชั่วขณะในใจนั้นกลับไม่รู้ว่าควรก่นด่าตัวต้นเหตุอย่างไป๋ซู่เย่ดีหรือควรด่าเจ้าบ้าเย่เซียวดี

ทั้งคู่เดินเข้าไป แต่เดิมแค่เห็นถังซ่ง ไล่ตั้งแต่ผู้จัดการร้านจนถึงพนักงานร้านต้องรีบมาเอาอกเอาใจ ในเมื่อคุณถังไม่ใช่แค่ขึ้นชื่อบุคคลที่คุยง่ายแต่ยังใจป้ำอีกด้วย ให้ทิปเยอะมาก ทำเอาทุกคนอยากให้เขาแช่อยู่ในร้านทุกวัน แต่วันนี้กลับไม่เหมือนเช่นเคย วันนี้พอทุกคนเข้าใกล้หนึ่งก้าว วินาถัดมาก็รีบเบี่ยงตัวหลบห่างไกลสามวาราวกับหนียมบาลก็ไม่ปาน

…………………………