ตอนที่ 626 เผชิญหน้ากับเซียนผู้คุมกฎ (2)
การปะทะกันของพลังงานจำนวนมหาศาลกินเวลาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเริ่มกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้ว่าแนวสันเขาที่คอยปกป้องตระกูลเจียเต๋อซึ่งถูกแตะต้องก่อนหน้านี้ได้ลดขนาดลงเป็นที่เรียบร้อย มันไม่ได้ตั้งตระหง่านดั่งเช่นที่มันเคยเป็นมาก่อน
การต่อสู้ระหว่างเซียนผู้คุมกฏมีพลังและความรุนแรงมากกว่าการต่อสู้ระหว่างเซียนสวรรค์
เจี้ยนเฉินและบรรพชนตระกูลเจียเต๋อลอยห่างออกไปหลายร้อยเมตร ในการต่อสู้ครั้งนี้ระหว่างพวกเขา ฝีมือของพวกเขาทัดเทียมกันและไม่ได้มีใครได้เปรียบกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง
บรรพชนเผยให้เห็นความยุ่งยากบนสีหน้าของเขา ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันและไม่ไกลเกินกว่าจินตนาการของเขา มันทำให้เกิดรสเปรี้ยวในปากของเขา เซียนผู้คุมกฎอายุหลายพันปีถูกบังคับให้ต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก การโจมตีของเจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งจนเขาไม่สามารถจัดการได้
แต่เขานั้นบ่มเพาะพลังอย่างรวดเร็วได้อย่างไร ? มันเป็นเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่ความแข็งแกร่งของเขาได้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดและไปถึงขอบเขตที่ความแข็งแกร่งของเขาเพียงพอที่จะเปรียบเทียบกับข้า พรสวรรค์ของเขาสูงมาก ถ้าเขาสามารถบรรลุได้ถึงระดับนี้ในวัยหนุ่มสาวของเขา ข้าคิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกเพียงร้อยปีในการเป็นเซียนราชา บรรพชนพึมพำกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ แล้วเขาก็เริ่มมองเห็นเจี้ยนเฉินด้วยแววตาที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ย้อนกลับไปที่เมืองทหารรับจ้าง เจี้ยนเฉินนั้นเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่มีทักษะดี ๆ เพียงเท่านั้น ดังนั้นเจี้ยนเฉินเป็นคนที่ไม่ต่างอะไรกับมดปลวก แต่หลังจากผ่านไปหลายเดือนมดตัวนี้ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มันอาจก่อให้เกิดปัญหาแม้แต่กับเขา และนั่นไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีกับเขา
การเติบโตของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วเกินไป มันเร็วมากที่ทำให้ทั้งทวีปจะต้องตะลึงกับมัน
ห่างออกไป 100 เมตร เจี้ยนเฉินจ้องมองบรรพชนด้วยใบหน้าอันเงียบสงบ ดวงตาของเขาแฝงแววข่มขู่และร่างกายของเขาเผยกลิ่นอายอันน่าเกรงขามแพร่กระจายไปในอากาศซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานอันน่าประทับใจ ในขณะนั้นเขาดูเหมือนเทพเจ้าสงครามที่ทรงพลังเหนือทุกคน มีความแข็งแกร่งแบบที่ไม่อาจเทียบเคียง พูดให้ละเอียดยิ่งขึ้น เขานั้นเป็นเหมือนเทพกระบี่ผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ใครซึ่งพร้อมที่จะแบ่งแยกโลกด้วยปราณกระบี่อันทรงพลังของเขา
ทันใดนั้นพลังงานสีเทาเริ่มลอยอยู่รอบตัวของเจี้ยนเฉิน นี่เป็นคลื่นพลังบรรพกาลที่เกิดขึ้นโดยการรวบรวมไว้ในมือของเขา ไม่ช้าก็เร็ว ฝ่ามือของเขาวาววับด้วยแสงสีเทา พื้นที่ที่อยู่รอบ ๆ มันเริ่มสั่นไหวและบิดเบี้ยวอีกครั้ง
เมื่อบรรพชนรู้สึกถึงปริมาณพลังงานที่สะสมอยู่ในฝ่ามือของเจี้ยนเฉิน เขาก็ยิ่งมีท่าทีเคร่งเครียดขึ้นเช่นกัน ในฐานะที่เป็นเซียนผู้คุมกฎ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังของเจี้ยนเฉินมีพลังมากกว่าพลังของตัวเอง การรับรู้นี้เป็นเรื่องที่ลำบากมากและเขาก็ไม่มีเวลาลังเล แขนทั้งสองเดินเข้าสู่การเคลื่อนไหว ฝ่ามือของเขาเลยผ่านเพื่อสะสมพลังลึกลับที่ดึงดูดความลึกลับลึกซึ้งของโลก ขณะที่มือของเขาเคลื่อนตัวพื้นที่รอบ ๆ ตัวเขาก็เริ่มไหลเช่นน้ำ มันเหมือนกับพลังลึกลับบางอย่างที่ช่วยเร่งการไหลเวียนของเวลา
เมื่อเห็นภาพนี้ เซียนสวรรค์ทั้งสิบที่เฝ้าดูรับรู้ทันทีว่าทั้งสองคนกำลังโจมตี และการโจมตีของพวกเขานั้น โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการบอกกล่าว พวกเขาที่หลบซ่อนอยู่หลังกำแพงของคฤหาสน์ควรหนีไปให้ไกลที่สุด พวกเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าม่านพลังนั้นจะสามารถต้านทานทั้งการโจมตีของเจี้ยนเฉินและบรรพชนได้
หลายวินาทีผ่านไป ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะเคลื่อนไหวครั้งแรก พลังบรรพกาลที่สะสมอยู่ในฝ่ามือของเขาก็บินออกมาเหมือนลำธารน้ำ ถือกำลังมหาศาล พลังบรรพกาลเดินทางไปหาบรรพชน
ฮะ ! ในเวลาเดียวกัน บรรพชนก็ปล่อยพลังออกมาอย่างหนัก ฝ่ามือของเขากระพริบเร็วเท่าฟ้าผ่าปล่อยพลังลึกลับที่เขาเก็บออกมา พลังงานนี้มีความลึกลับที่ลึกซึ้งของโลก มันไม่สามารถมองเห็นหรือรู้สึกได้โดยผู้ที่ไม่เข้าใจมัน มันเป็นสิ่งที่หลอมรวมกับโลกและมิติอย่างลึกลับและคลุมเครือ
เมื่อทั้งสองพลังปะทะกันกลางอากาศ การระเบิดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการปะทะกันของทั้งสองพลังงานประหลาดกลับไม่เกิดขึ้น ไม่มีสิ่งใดเกิดจากพลังงานที่พัดผ่านบริเวณโดยรอบ แทนพื้นที่ที่พวกเขาปะทะกันจนสร้างการสั่นไหวอันยิ่งใหญ่ รอยแยกยาว 1 เมตรปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า ที่จุดศูนย์กลางของการปะทะกัน มันเป็นหลุมดำเพียงแห่งเดียว แต่ไม่เหมือนหลุมดำปกติใด ๆ คล้ายแสงจาง ๆ จากดาวฤกษ์ที่สามารถมองเห็นได้ภายใน
พลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินกำลังปะทะกับพลังงานลึกลับของบรรพชนในการต่อสู้อย่างต่อเนื่องเพื่อเอาชนะกันและกัน ในที่สุดทั้งสองพลังงานพยายามที่จะหักล้างกันและพลังงานของพวกเขาเริ่มจางหายไป ภายในไม่กี่วินาที พลังบรรพกาลกลายเป็นผู้ชนะจากการปะทะ ในขณะที่พลังความลึกลับที่ลึกซึ้งที่สุดของโลกถูกใช้หมดไป พลังบรรพกาลที่เหลือกลับไม่ชะลอตัวลง มันยังคงพุ่งต่อไปหาบรรพชน
พลังนี้คืออะไร? ทำไมทรงพลังเช่นนี้ !? บรรพชนร้องออกมาด้วยความตกตะลึง ผลักดันออกด้วยฝ่ามืออีกครั้ง เขาบังคับให้พลังเซียนออกจากร่างกายมากขึ้น เพื่อพยายามต่อต้านพลังบรรพกาลที่อ่อนแรงลงเล็กน้อย
นายท่าน ท่านไม่ควรทำเช่นนี้อีกต่อไป ท่านใช้พลังบรรพกาลค่อนข้างมาก นอกจากนี้ พลังที่แท้จริงของมันไม่ได้ถูกแสดงออกมา มันมีเพียงยามเมื่ออยู่ในร่างบรรพกาลเท่านั้นที่พลังบรรพกาลจะสามารถแสดงพลังที่แท้จริงได้ เสียงของจือหยิงอธิบายให้เจี้ยนเฉินฟังในจิตใจของเขา
หัวใจของเจี้ยนเฉินเต้นรัว หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ทันทีที่เขาเลิกคิดใช้พลังบรรพกาลเป็นกระสุนโจมตีศัตรูของเขา ในความคิด ธาตุลมในโลกรวมตัวอยู่รอบ ๆ ตัวเขา โดยรอบเจี้ยนเฉินมีแสงสีฟ้า เจี้ยนเฉินบินตรงไปหาบรรพชน
นายท่าน พลังบรรพกาลควรจะกระจายไปทั่วร่างกาย เพื่อมันแสดงพลังอำนาจของร่างบรรพกาล ฉิงโซวเอ่ยสอนขึ้นในจิตใจของเจี้ยนเฉิน พวกเขามีความรู้อย่างมากเกี่ยวกับพลังบรรพกาล ซึ่งแตกต่างจากเจี้ยนเฉิน ผู้ซึ่งเพิ่งสัมผัสมันเท่านั้น มันเป็นสิ่งแปลกประหลาดอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับพลังอันทรงพลังนี้และต้องใช้จิตวิญญาณกระบี่ทั้งสองนี้เพื่อแนะนำเขาในการใช้มัน