EG บทที่ 798 ตลอดชีวิต

“นาน่า มีคนมาหาเธออยู่ข้างนอก ดูเหมือนจะเป็นหนุ่มหล่อคนนั้นนะ”  รูมเมทเพื่อนนักเรียนป.โทบอก เทอมนี้มีนักเรียนชายที่รอหลี่น่าอยู่ข้างล่างตึกเยอะจริงเชียว

“ฉันยังต้องเขียนวิทยานิพนธ์นะ “  หลี่น่าก้มหน้าตอบ กับคนพวกนั้นนะเหรอ หลี่น่าไม่ได้ให้ความสนใจหรอก

“เขาบอกจะว่าให้สิ่งนี้กับเธอ เธอจะต้องลงไปแน่ ๆ” รูมเมทส่งทอฟฟี่กระต่ายสีขาวถุงใหญ่ให้หลี่น่า พ่อหนุ่มหล่อคนนี้น่าสนใจดีแหะ ทำเหมือนกับว่านาน่าเป็นเด็กไปได้ แถมยังส่งทอฟฟี่กระต่ายสีขาวตัวใหญ่ให้อีก นาน่าเธออยากให้ฉัน…นาน่า เธอจะไปไหนหน่ะ? ”

รูมเมทยังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นหลี่น่ารีบวิ่งลงไปข้างล่าง  ไม่มีเวลาแม้จะใส่เสื้อดาวน์ แถมยังใส่รองเท้าแตะลงไปอีก

“เอ๊ะ หนุ่มหล่อนั่นกำลังรอใครกันนะ?” เพื่อนนักเรียนที่อยู่ล่างตึกกระซิบกับเพื่อนอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ และชี้ไปที่เฝิงหยู่

“เธอจะเข้าไปถามมั้ย ? ”  เพื่อนอีกคนถามเล่น ๆ

“ฉันไม่ไปนะ ถ้าเธออยากไปก็ไปสิ”

“ไปก็ไป เอ๊ะๆ จบกัน คนที่เขารอมาละ” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยความผิดหวัง

เฝิงหยู่ยืนอยู่ตรงประตู มองเห็นหลี่น่าออกมาจากหอ  เขาเดินไปอย่างเร็วและกอดหลี่น่าไว้ในอ้อมแขนของเขา

หลี่น่าเอามือตบที่อกเฝิงหยู่เบา ๆ พร้อมบอกว่า “ เธอกลับมาแล้วเหรอ ทำไมไม่โทรหาฉันหล่ะ ” พอเห็นทอฟฟี่กระต่ายสีขาวตัวใหญ่นั้น เธอก็รู้ทันทีว่าเฝิงหยู่กลับมาแล้ว

“สองวันมานี้ฉันยุ่งมาก นี่ยังไม่เสร็จธุระดีเลยรีบกลับมา ฉันโทรหาเธอแล้ว แต่เธอปิดเครื่อง” เฝิงหยู่มองหลี่น่าด้วยแววตาที่ไร้เดียงสา

“อ่า สองวันมานี้ยุ่งเกี่ยวกับการเตรียมสอบและเขียนวิทยานิพนธ์ ก็เลยปิดโทรศัพท์ งั้นเธอก็โทรเข้าเบอร์โทรหอพักฉันก็ได้ “ หลี่น่าตอบด้วยความโกรธ

“อ้าว แล้วทำไมเธอไม่ใส่เสื้อดาวน์หล่ะ หนาวขนาดนี้  รีบใส่นี่ซะ ” เฝิงหยู่รีบถอดเสื้อดาวน์ของตัวเองละยื่นให้หลี่น่าใส่ เบอร์โทรหอพักหนะเหรอ เขาจำได้ที่ไหนกัน เฝิงหยู่จุ๊บที่หน้าผากหลี่น่าทีนึงเพื่อไม่ให้หลี่น่าตอบโต้กลับ

หลี่น่ามองซ้ายมองขวา กระซิบเบา ๆ ว่า “นี่เธอทำอะไรเนี่ย เดี๋ยวมีคนเห็นนะ”

“ในเมื่อไม่มีคนเห็นก็ทำได้หนิ ” เฝิงหยู่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เธออยากกินอะไรไหม? ”

“ฉันอยากกินปลาต้มน้ำ รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อน” หลี่น่าถอดชุดดาวน์ส่งคืนเฝิงหยู่ เพราะเห็นเฝิงหยู่มีเพียงแค่เสื้อยืดตัวเดียวก็เลยเห็นใจ

“อ้าว หลี่น่าทำไมกลับมาละหล่ะ ” รูมเมทถาม

หลี่น่าทำไมเธอปฏิเสธฝ่ายตรงข้ามไวจัง?

“ฉันมาเอาเสื้อหนะ” หลี่น่าพูดไปพร้อมกับหยิบหวีที่อยู่ในลิ้นชักออกมา และมองกระจกใบเล็ก ๆ พร้อมหวีผมตัวเอง มันเป็นเปียหางม้าที่ธรรมด๊าธรรมดา ถักใหม่ซะหน่อยดีกว่า

จากนั้นก็รีบสวมเสื้อดาวน์ ละเปลี่ยนรองเท้าทันที และก็รีบวิ่งตึงๆ ๆ ลงตึกไป

รูมเมทยืนงงอ้าปากค้าง  ตั้งแต่รู้จักหลี่น่ามาปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจอะไร  ทำอะไรก็จะสบายๆ ไม่รีบ แต่ทำไมวันนี้ดูรีบร้อนจัง?

อ้อ~~หนุ่มหล่อที่อยู่ข้างลางตึก  คงไม่ใช่คนที่อยู่อเมริกาของหลี่น่าหรอกมั้ง ? ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็คงจะอธิบายได้

ทั้งสองคนเป็นแค่รูมเมทนักเรียนปริญญาโท แต่คนละสาขากัน เธอไม่เคยรู้จักเฝิงหยู่มาก่อนอย่างแน่นอน  จริง ๆ แล้วในใจก็คงอิจฉาอยู่ลึกๆแหละ รูปร่างหน้าก็ตาดี แถมยังไปทำงานที่อเมริกาอีกด้วย ต้องรวยแน่ ๆ  ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ ทำไมฉันไม่เคยเจอเลย!

เมื่อหลี่น่ากลับลงมาอีกครั้ง เปลี่ยนเสื้อดาวน์เรียบร้อย แถมยังใส่หมวกอีกด้วย เฝิงหยู่จับมือหลี่น่าและรู้สึกถึงความเย็นของมือหลี่น่า

“ทำไมไม่ใส่ถุงมือด้วยหล่ะ”  เฝิงหยู่วางมือหลี่น่าบนมือของเขา

“ลืมไปเลย” หลี่น่าหัวเราะตอบ จริง ๆ แล้วเธอตั้งใจต่างหาก ไม่งั้นจะรู้ว่ามือของเฝิงหยู่อุ่นขนาดไหน?

“แค่นี้ก็ลืมละ ไปกันเถอะ ไปกินปลาต้มน้ำกัน”  เฝิงหยู่เอามือลูบจมูกหลี่น่าพร้อมพูดด้วยความเอ็นดู

เฝิงหยู่จับมือหลี่น่าเดินไปจนถึงลานจอดรถ ส่วนหลี่น่าก็ดีใจจนหุบยิ้มไม่ลง

 

……

อาจารย์ของฉันเข้มงวดมากเลย มีวิทยานิพนธ์ของรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่ง แก้สามรอบแล้วยังไม่ผ่านเลย อาจารย์ก็ยังให้แก้ต่อไปเรื่อย ๆ

“จริงเหรอ แล้ววิทยานิพนธ์ของเธอล่ะ อาจารย์ให้เธอแก้กี่รอบ?”

“ฉันแก้มาละหนึ่งรอบ แต่ว่าอาจารย์ชอบบอกว่าเนื้อหาที่ออกสอบชอบพูดถึงบ่อย ๆ การสอบครั้งนี้คะแนนของฉันไม่เลวเลยแหละ ” หลี่น่าพูดอย่างภูมิใจ

“อื้ม หลี่น่าของฉันสุดยอดอยู่แล้ว “ เฝิงหยู่พูดพร้อมหัวเราะ

“ยังมีอีกนะ ครั้งที่แล้วเราไปปั้นตุ๊กตาหิมะกัน ผลก็คือหาแครอทมาใส่เป็นจมูกของตุ๊กตาหิมะไม่ได้ พวกเขาก็เลยเอากิ่งไม้มาทำแทน น่าเกลียดชะมัดเลย”

“วันนั้นอาจารย์กำลังสอนพวกฉันอยู่ ละอยู่ ๆ อาจารย์ก็จาม  จนวิกผมของอาจารย์ก็หลุด วันนั้นเป็นวันที่ทุกคนก็รู้ว่าอาจารย์ใส่วิกผม ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทุกคนก็จ้องที่ผมอาจารย์

……

ระหว่างทาง หลี่น่าพูดไม่ยอมหยุด เล่าเรื่องที่มีความสุขในชีวิตของเธอ และแชร์เรื่องราวเหล่านั้นให้กับเฝิงหยู่ได้ฟัง

เฝิงหยู่ฟังไปยิ้มไปและตอบกลับเพียงประโยคสองประโยค  บรรยากาศที่อบอุ่นฟุ้งกระจายเต็มไปทั่วห้องโดยสารขนาดเล็ก

“ไม่ได้ไปดูหนังนานแล้วเนอะ” หลี่น่าบ่นงึมงำ

“กินข้าวเสร็จแล้วเราไปดูหนังกัน” ไม่รู้ว่าตอนนี้มีหนังเรื่องไหนที่น่าดูไหม?

พอกินข้าวเสร็จ เฝิงหยู่ก็พาหลี่น่าไปที่โรงหนัง ลองเข้าไปดูไม่มีตัวเลือกละ ตอนนี้มีแค่สองเรื่องให้เลือกเรื่องแรกคือ《ใหญ่ฟัดโลก》ของเฉินหลง อีกหนึ่งเรื่องก็คือ《ผู้สร้างปัญหา》นำแสดงโดยจูอิน จิงเฉิงอู่ ห่าวเช่าเหวิน อู๋เมิ่งต๋า

“ฉันอยากดูหนังที่มีเด็กตัวอ้วน ๆ นั่น”

ต้องขอบอกว่า เห่าเช่าเหวินน่ารักมากตอนที่เขายังเป็นเด็ก เฝิงหยู่ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้เหมือนกัน เขาก็เลยซื้อตั๋วและของว่างเพื่อเข้าไปดูหนัง

คนในโรงหนังไม่ค่อยเยอะ ถึงจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ก็เถอะ แต่ตอนนี้โรงหนังทั่วประเทศบรรยากาศค่อนข้างซบเซา น้อยคนนักที่จะมาดูหนัง รายได้หนังก็ขาดทุน เพราะมีแผ่นซีดีขาย

เฝิงหยู่ทำการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ทั่วประเทศและลดราคาซีดีของแท้ลงมากและทุกคนก็ยอมรับมันได้ ตอนนี้โรงหนังก็กลับมาคึกคัก แต่ห้องตั๋วมีไม่เยอะนัก แต่ก็มีคนลงทุนต่อ เพราะว่ามันทำเงินได้มากจริง ๆ

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กอ้วนนี่ร้ายจริง ๆ  ชอบปั่นหัวคนอื่นเล่น”

“อ่า … หญิงสาวตาบอดและลุงคนนั้นน่าสงสารมาก ถ้าเป็นเธอเธอจะช่วยพวกเขามั้ย? ” หลี่น่าถามเฝิงหยู่พร้อมเอนตัวพิงไหล่

“ถ้าเกิดฉันเจอแบบนี้ ฉันต้องช่วยแน่นอน “ เฝิงหยู่พูดจากใจพร้อมพูดอีกประโยคหนึ่งว่า แต่ฉันจะไม่เหมือนลุงคนนั้น ทำความดีและไม่ให้คนอื่นรู้ หลังจากดวงตาของหญิงสาวตาบอดคนนั้นหายดี เธอก็เข้าไปในอ้อมแขนของคนอื่น

 

ในตอนท้ายของหนัง ลุงบริจาคเงินกว่าครึ่งล้านเพื่อรักษาตาของหญิงสาวตาบอดคนนั้น แต่ไม่ได้บอกผู้หญิงตาบอด สุดท้ายผู้หญิงตาบอดได้พบกับแฟนของเธอ เป็นเพราะว่าเงินห้าแสนนั้นทำให้ลุงต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน

“ถ้าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นฉันจะไม่ยอมรับคนอื่นจนกว่าฉันจะได้ยินเสียงของลุงคนนั้น” หลี่นาตอบอย่างจริงจัง

“มันก็แค่หนังหน่า เธออย่าคิดมากไปเลยนะ”

“เฝิงหยู่เราจะมีตอนจบที่น่าเศร้าแบบนี้ไหม? “

“วางใจได้เลย ฉันจะทำดีกับเธอตลอดชีวิต เรื่องราวแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเราแน่นอน” เฝิงหยู่พูดพร้อมโอบกอดหลี่นา

ในใจของเขาคิดว่า ถ้ามีใครมาแยกหลี่น่าไปจากเขาก็เตรียมรอรับความบ้าคลั่งของเขาได้เลย

ติดตามเพจใหม่ได้ที่ https://www.facebook.com/ceonovel23