ตอนที่ 685 : ซุ่มโจมตี

Virtual World – Peerless White Emperor

ตอนที่ 685 : ซุ่มโจมตี

 

เย่ฉางตามที่มซุ่มยิงไปที่หน้าผา และด้านล่างคือลานกว้างที่มีศาลเจ้าตั้งอยู่ เขายกคิ้วขึ้น มุมมองดีมาก เราสามารถมองเห็นรูปแบบการรบของพวกเขาได้อย่างชัดเจน

 

“เมื่อบอสมาถึงขั้นที่สาม เจนัวร์จะบินขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นเราจะสามารถสร้างความเสียหายได้สูงสุด เมื่อถึงเวลานั้นเราต้องพยายามโจมตีมันให้ได้มากที่สุด และพยายามบังคับให้มันไปถึงขั้นที่สี่ไวๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่อยู่ข้างล่างได้รับบาดเจ็บมากเกินไป ทุกคนคอยฟังคําสั่งของฉันให้ดีๆล่ะ!” หลังจากฟังคําพูดของแซกแล้ว เย่ฉางก็รู้ว่าจะต้องทําอะไร

 

เย่ฉางยืนอยู่ที่กิ่งต้นไม้และมองไปที่ทางเข้าศาลเจ้า “ฉันจะต้องรอให้พวกเขาเริ่มโจมตีบอสตัว สุดท้ายก่อน ว่าแต่พวกนั้นฆ่าบอสไปกี่ตัวแล้ว?” ตาเหยี่ยวของเขาหดตัวลง ดูเหมือนว่าจะไม่มีบอ สเหลืออยู่ข้างหลังแล้ว และนี่ควรจะเป็นบอสตัวสุดท้ายของศาลเจ้า” เขามองไปที่แซก “นี่คือบอส ตัวสุดท้ายแล้วใช่มั้ย?”

 

แซกตกตะลึงเป็นครั้งที่สอง แต่เขาไม่ตอบคําถามของเย่ฉาง ดังนั้นเย่ฉางก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม เนื่องจากการแสดงออกของแซกได้ยืนยันความคิดของเขาแล้ว “ดูเหมือนว่าการต่อสู้กับบอสตัว สุดท้ายใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว”

 

บุตรแห่งแสง – คาโดเน่ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาทีมหลักจ้องมองทีมซุ่มยิงบนหน้าผา เราจะต้องผ่านช่วงเวลานั้นไปให้ได้!” เขาตะโกน “คาร์ดอน, คาร์เปียน ไปล่อบอสออกมา!”

 

พวกเขาทั้งสองนําทีมแท้งค์เข้าไปในศาลเจ้าอย่างระมัดระวัง

 

ครู่ต่อมาได้ยินเสียงคํารามที่ฟังดูเหมือนเสียงของมังกรดังกึกก้องไปทั่ว (ตอนที่แล้วบอกการ์ กอย?)

 

“โฮกก! ไอ้พวกมดปลวกงี่เง่า! พวกแกกล้าเหยียบย่ำดินแดนของฉัน! ตอนนี้จงตายไปซะ!”

 

เย่ฉางหักห้ามใจตัวเองเพื่อไม่ให้แปลออกมาให้คนอื่นได้ยิน ในไม่ช้าเขาก็เห็นสัตว์คล้ายมัง กรกําลังคลานออกมา มันมีปีกและผิวหนังมีสีน้ําตาลแดง อย่างไรก็ตามปลายแขนของมันมีขนาด ใหญ่มาก ราวกับว่ามันเป็นการผสมผสานกันระหว่างกอริลลาและมังกร จากนั้นเขาก็เปิดใช้ งานสกิลตรวจสอบทันที

 

Stone-hammer Dragon – Jaynuor (Special Field Boss – Viper Dragons Tribe): เผ่าไวเปอร์มันเป็นการผสมผสานระหว่างมังกรแดงและสัตว์ร้ายหิน มันมีพละกําลังอันมหาศาลของสัตว์ร้ายหิน และความสามารถในการพ่นไฟของมังกรแดง มันอันตรายมาก ผู้เล่นสามารถสร้างความเสียหายได้มากตรงกระดูกซี่โครงที่อยู่ใต้รักแร้ด้านซ้าย ปีกของมันเป็นวัตถุดิบชั้นยอด สําหรับทําบาร์บีคิว และหางยักษ์ของมันก็เป็นวัสดุที่มีค่าเช่นกัน

 

เย่ฉางจ้องไปที่ปีกอันหนาทึบของมัน แล้วกลืนน้ำลายลงคอ “เมื่อเอาไปทําบาร์บีคิว มันน่าจะอร่อยมาก”

 

อย่างไรก็ตามเย่ฉางไม่ได้ช่วยโจมตี แต่เพียงแค่สังเกตพวกเขาต่อสู้กับบอส ‘โห’ มีหลายคน เสียชีวิตหลังจากการสะบัดหางของบอส ‘อืมๆ ผู้เล่นชั้นสูงของพวกเขาไม่เลวเลยทีเดียว แต่ก็ยัง เทียบไม่ได้กับทีมที่มีอาเฉียงและฉันสนับสนุนอยู่ ฉันสามารถบัฟทั้งทีมได้ และออร่าของอาเฉียงก็ยกระดับค่าสถานะของทุกคนขึ้นอีกขั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีคนที่มีออร่าอยู่ในทีม แต่ก็ยังอ่อนด้ อยกว่าออร่าของอาเฉียงเยอะ! เอ๊ะ! คนที่ชื่อบุตรแห่งแสง – คา … คาโดเน่? เขาแข็งแกร่งจริงๆ! เขามีสกิลมากมายและเกือบจะเทียบเท่ากับของฉันแล้ว’ ในขณะที่การต่อสู้ดําเนินต่อไป เย่ฉางก็ เห็นว่ามีวงแสงขนาดยักษ์รูปดาวหกแฉกปรากกฏขึ้นมา [Light Spell Circle – Star of David]! “เอ๊ะ! เวทย์มนตร์นี้ มันไม่ใช่เวทที่อยู่ในอันดับสูงสุดหรอกหรอ! ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นสกิลระดับฮีโร่! ให้ตายเถอะ! ฉันยังไม่มีแม้แต่อันเดียวเลย! แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถร่ายมันด้วยตัวคนเดียวได้ มีนักเวทธาตุแสงจํานวนมากที่ช่วยส่งพลังเวทให้กับเวทมนตร์นี้

 

เมื่อวงแสงขนาดยักษ์รูปดาวหกแฉกค่อยๆลุกโชนขึ้น มันก็เริ่มหมุนราวกับว่ามันถูกเติมด้วย ใบมีดแสงหลายๆเล่ม เจนัวร์ได้รับความเสียหายอย่างมาก อย่างไรก็ตามเย่ฉางไม่ได้อิจฉามากนัก เพราะเขารู้ดีว่าความสามารถพิเศษระดับฮีโร่ของเขาก็ไม่เลวเช่นกัน

 

อีกด้านหนึ่งคาโดเน่ขมวดคิ้วและรู้สึกไม่ดีบางอย่าง อย่างไรก็ตามความรู้สึกนั้นคงอยู่เพียง เสี้ยววิเท่านั้น จากนั้นเขาก็ส่ายหัว เมื่อเขานึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เมืองมังกรเงิน ไม่! ฉันต้องมุ่งความสนใจแค่เรื่องนี้! ตอนนี้เราต้องชนะการต่อสู้ครั้งนี้ให้ได้! ถ้าเราทําไม่สําเร็จ เราจะถูกจีนทิ้งห่างไปไกลมาก!”

 

คาโดเน่เปลี่ยนเวทมนตร์ของเขาอีกครั้งจากเวท [Light Spell Circle – Star of David] เป็น [Guns of Thousand Lights] ในขณะที่เขาเหวี่ยงมือออกไป นักเวทธาตุแสงทั้งหมดก็เหวี่ย งมือไปทางเจนัวร์พร้อมกัน กระสุนแสงจํานวนมากพุ่งตัวเข้าไปในตัวของเจนัวร์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่มันเป็นจํานวนมากอีกครั้ง “เพิ่มความเสียหายให้ได้มากที่สุด และบังคับให้มันบิน!”

 

“เตรียมตัวได้” แซกหยิบคันธนูออกมาแล้วใส่ลูกศร ทีมซุ่มโจมตีทั้งหมดเตรียมพร้อมที่จะโจมตีได้ตลอดเวลา

 

มังกรยักษ์บินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างช้าๆ

 

“ยิง!” แซกตะโกน

 

ฝนลูกศรที่ประกอบด้วยศรน้ําแข็ง, ศรไฟ และศรสายฟ้าเทลงมาเป็นจํานวนมาก ส่วนอีกด้านหนึ่งก็มีเวทย์มนตร์จํานวนมากถูกยิงออกมาด้วยเช่นกัน ฉากนี่ดูน่าอัศจรรย์และงดงามมาก

 

มังกรสูดหายใจเข้าลึกๆ และทะเลเพลิงก็ลุกลามไปทั่วพื้น บาเรียเวทย์มนตร์จํานวนมากถูกใช้ เพื่อป้องกันเปลวไฟ แต่พวกผู้เล่นระยะประชิดก็ตายไปเป็นจํานวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นจู่ๆแท่งหิ นยักษ์ก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นและแตกออก จากนั้นเศษหินแหลมจํานวนมากก็พุ่งสังหารผู้คนไปเป็นจํานวนมาก!

 

เย่ฉางมองดูสถานการณ์ด้านล่าง เพื่อนร่วมทีมของพวกเขาตายไปเยอะมาก!” จากนั้นเขาก็หยุดการโจมตี และซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ เขาลบการแต่งหน้าและเปลี่ยนกลับไปสวมชุดเกราะที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา เขาสวมฮูดหัวหมาปาวิญญาณ, เสื้อคลุมหนังเสือ และเข็มขัดทองคํา หลังจากสองตัวเองตรงหน้ากระจกแล้ว เขาก็เทเลพอร์ตไปที่ด้านหลังแซกด้วย [Shadow Step] “สวัสดี”

 

แซกหันกลับมามองทันที “อะไร”

 

[Darkness Single Strike]!

 

ในขณะที่มีดทําอาหารถูกเหวี่ยงออกไป หัวของแซกก็ค่อยๆตกลงมา “แก…”

 

จากนั้นเย่ฉางหยิบคทาออกมาและเปลี่ยนเป็นดาบเงา และเข้าสู่โหมดนักรบดาบคู่! เขาเริ่มทํา การสังหารหมู่อย่างรวดเร็ว เขาฆ่านักแม่นปืนและนักธนูที่ไม่ทันระวังตัวไปจํานวนมาก ครู่ต่อมา เขาก็เก็บดาบคู่ของเขา และชักปืนคู่ออกมา “โหมดยิงเร็ว! [Anyers’s Berserk Shot]!” ในขณะที่เขาพริ้วไหวไปมา นักธนูก็ค่อยๆตายลงไปทีละคน

 

“ที่มซุ่มยิงกําลังทําอะไรกันอยู่!” คาโดเน่สังเกตเห็นว่าความเสียหายที่บอสได้รับลดลง ทันใดนั้นแซกก็โทรเข้ามา เมื่อมองไปที่หน้าผา เขาก็ตะโกนใส่แรนเจอร์ผู้สวมฮูดหัวหมาป่าที่ยืนอยู่ บนดอกบัวน้ําแข็ง “จักรพรรดิขาว!”

 

เย่ฉางโบกมือให้ “โย่ว! ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ! เราพบกันอีกครั้งแล้ว!”

 

คาโดเน่พยายามระงับอารมณ์ “ถอยก่อน!”

 

ทันใดนั้นทีมนักบวชก็ถูกไฟครอก

 

ในขณะเดียวกันเจย์ลิสที่กําลังถือขวดระเบิดเพลิงระดับสูงอยู่ เธอโยนพวกมันไปทั่วสถานที่ เปลวเพลิงเผานักบวชตายไปจํานวนมาก และปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของพวกเขาเอาไว้ จากนั้นเจ้าฟ้าน้อยก็บินโฉบลงมา และคว้าตัวเธอบินไปที่เย่ฉาง เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของนักเวทย์

 

“เอาล่ะ! เมื่อประตูทางหนีของพวกเขาถูกปิดลงแล้ว เรามาเริ่มเข่นฆ่ากันเถอะ” เย่ฉาง ดึงคันธนูออกมา เพราะระยะการโจมตีของปืนไม่ไกลเท่ากับคันธนู ลูกศรหลายดอกถูกยิงออกไปเรื่ อยๆ! เขาตั้งใจฆ่านักเวทจากระยะไกล ในขณะที่เจนัวร์ก็ยังคงโจมตีใส่พวกเขาอยู่

 

คาโดเน่จ้องเย่ฉางราวกับว่าต้องการที่จะถลกหนังเย่ฉางออก แต่ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจ เส้ นทางหลบหนีถูกปิดไปแล้ว! แต่ฉันไม่สามารถตายที่นี่ได้! ตราบใดที่ฉันมีสิ่งนั้น ฉันก็สามารถแก้แค้นได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา” เขาหยิบหินสีขาวออกมา

 

เมื่อเห็นคาโดเน่กลายเป็นลําแสงและหายตัวไป เช่ฉางก็ยกเลิก [Meteor Shot] สกิลนั้นคือ อะไร!” เขามองซ้ายมองขวา และสั่งให้เจ้าฟ้าน้อยมองหาคาโดเน่ ไม่อยู่! มีสกิลเทเลพอร์ตทางไกลในขณะต่อสู้ได้ด้วยหรือ?”

 

“บ้าเอ้ย! ฉันน่าจะฆ่าเขาก่อน! ตอนนี้เขาหายตัวไปแล้ว! อ๊ากกก!”

 

เจย์ลิสแอบลูบสู้ดหัวหมาป่าวิญญาณของเยฉาง “นุ่มมาก เธอมองใบหน้าที่ไร้ยางอายของเย่ฉาง, คิ้ว และขนตาสีขาวอันเป็นเอกลัษณ์ของเขา “ขาวมาก! นี่คือ… นี่คือจักรพรรดิขาวสินะ!” เมื่อได้ยินคําพูดของเย่ฉาง เธอคิดถึงการผจญภัยที่ผ่านมา เขาเป็นคนชั่วร้ายเหมือนข่าวลือเลย! เชี่ย! ฉันถูกจักรพรรดิขาวรังแก! แต่จริงๆแล้วการโดดเรียนมาเล่นเกมก็ไม่เลวเหมือนกันนะ!

 

คนข้างล่างยังลังเลที่จะหนีหรือโจมตีต่อไป พวกเขาตกอยู่ในความโกลาหล!

 

เย่ฉางไม่ได้สนใจเจย์ลิสที่ลูบฮัดหัวหมาป่าวิญญาณของเขา จากนั้นเขาก็อัญเชิญเจ้าสิบสีออกมา เพื่อดําเนินการสังหารหมู่และปกป้องบอส

 

หลังจากอัญเชิญเสร็จ เขาก็นั่งลงและดื่มน้ําเวทมนตร์เพื่อฟื้นฟูมานาตัวเอง เมื่อเห็นเจย์ลิ สลูบหนังเสือบนหน้าอก เขาก็ตบหัวเธอทันที “ทําไมคุณถึงยังลูบอยู่ได้! คุณคิดว่าฉันเป็นใครกัน! เป็นแพนด้ายักษ์งั้นเหรอ!”

 

” เจย์ลิสรู้สึกเจ็บ “ฉันแค่ต้องการตรวจสอบว่ามันเป็นของจริงหรือไม่?”

 

เย่ฉางกลอกตาไปมา

 

“เออ เหลือเพียงสามขวดเท่านั้น” เจย์ลิสหยิบขวดระเบิดเพลิงระดับสูงที่เหลือออกมา เย่ฉาง ไม่ได้รับมัน แต่พูดอย่างเฉยเมยว่า “คุณเก็บไว้ใช้เถอะ! ฉันยังมีมันอีกเยอะ”