ตอนที่ 2633 สัตว์ประหลาด

“เลเวลนั่น … เป็นไปได้ยังไง ?!”

“นี่พวกเขาเป็นสัตว์ประหลาดรึไงกัน ?!”

ในตอนนี้นับประสาอะไรกับสมาชิกของไมโทโลจี้ แม้แต่สมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ดก็ยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อได้เห็นเลเวลของสมาชิกสภาสิบแปดปีก

ปัจจุบันแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของมหาอำนาจต่างๆก็ยังมีเลเวลเพียงหนึ่งร้อยสิบสามถึงหนึ่งร้อยสิบสี่เท่านั้น อย่างไรก็ตามในตอนนี้ สมาชิกสภาสิบแปดปีกตรงหน้าของพวกเขานั้น แม้แต่ผู้ที่มีเลเวลต่ำที่สุดก็ยังมีเลเวลหนึ่งร้อยสิบเจ็ด ซึ่งนี่มันเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของมหาอำนาจอย่างมาก

“หัวหน้าทีมแซนด์สตอร์ม ทุกคนตรงหน้าพวกเรานั้นปลดล๊อคศักยภาพร่างมานากันได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว นอกจากนี้มาตราฐานอุปกรณ์ของพวกเขายังค่อนข้างจะสูงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นระยะประชิด ฉันคิดว่าเราจะต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมากเลยทีเดียวในการฆ่าพวกเขา แถมหากพวกไวโอเล็ตซอร์ดจัดการเรื่องของตัวเองเสร็จเมื่อไหร่ และเข้ามาเสริมกำลังได้ ฉันคิดว่าเรามีสิทจะตกอยู่ในอันตรายได้เลย” เบอเซิกเกอร์ขั้นสามจากไมโทโลจี้กล่าวเตือนแซนสตอร์ม ขณะที่เขามองไปยังสมาชิกของสภาสิบแปดปีกมากกว่าหนึ่งร้อยคนตรงหน้าของเขา

แม้ว่าบรรดาหัวหน้าในทีมของพวกเขาจะสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองกันได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว แต่คนที่เหลือในทีมนั้นยังไม่ใช่ พวกเขาเพียงได้รับความช่วยเหลือจากวงเวทย์การต่อสู้ขั้นสูงเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะมีค่าสถานะพื้นฐานเหนือกว่าสมาชิกสภาสิบแปดปีก แต่พวกเขาก็ไม่ได้เหนือกว่ามากนักเลยเมื่อตัดสินจากมาตราฐานอุปกรณ์ของสมาชิกสภาสิบแปดปีก

หากมันเป็นการต่อสู้แบบตะลุมบอนกัน พวกเขาก็จะไม่ได้มีความได้เปรียบมากนัก โดยเฉพาะกับการต่อสู้แบบตัวต่อตัว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าทีมของพวกเขามีสมาชิกมากกว่าสามสิบคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ฝ่ายสภาสิบแปดปีกมีผู้เล่นโดยรวมมากกว่าหนึ่งร้อยคน ซึ่งไม่ว่าจะมองยังไง พวกเขาก็เสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง

“แม่ง !!! ทุกคนถอย !!!” แซนด์สตอร์มออกคำสั่งด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมืดมนเมื่อเขาจ้องมองไปที่สมาชิกสภาสิบแปดปีกทั้งหมด และหลังจากนั้นเขาก็หันกลับไปบอกการ์เดี้ยนไนท์หญิงกับอีกสามคนว่า “เฟเธอร์ เธอกับหัวหน้าอีกสามคนต่อสู้ต่อไป !!! เราจะฆ่าให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ !!! และเราจะถอยทันทีเมื่อกลุ่มของคริมสันสตาร์เปิดใช้งานประตูเทเลพอร์ตเสร็จ !!!”

“รับทราบ !!!” การ์เดี้ยนไนท์หญิงที่ชื่อไวท์เฟเธอร์ไม่ได้คัดค้านการตัดสินใจของหัวหน้าทีมตัวเอง

หัวหน้าในทีมแบบตัวเธอเอง รวมทั้งแซนด์สตอร์มในปัจจุบันนั้นมีพลังการต่อสู้อยู่ในมาตราฐานของขั้นสี่ และด้วยความช่วยเหลือจากวงเวทย์การต่อสู้ขั้นสูงนั้น พวกเขาก็มีค่าสถานะเหนือกว่าสมาชิกสภาสิบแปดปีกมาก และในหมู่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดในปัจจุบันนั้น มันจะมีก็แต่เพียงซือเฟิงที่จะสามารถตรึงพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาทั้งห้าแยกกันโจมตีอย่างอิสระ พวกเขาก็น่าจะสามารถฆ่าสมาชิกสภาสิบแปดปีกได้จำนวนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ได้ใช้เจ็มสโตนเวทย์กลืนกินขั้นสามอันล้ำค่าไปแล้ว หากพวกเขากลับไปโดยไร้ผลงาน พวกเขาจะถูกลงโทษแน่นอน

เมื่อได้ยินคำสั่งของแซนสตอร์ม ทุกคนนอกเหนือจากเขาและหัวหน้าในทีมทั้งสี่ก็ถอยกลับทันที

อย่างไรก็ตามในขณะที่สมาชิกของไมโทโลจี้กำลังทำแบบนี้นั้น เสียงที่คมชัดก็ดังขึ้นมาที่หูของทุกคน

“อย่าคิดว่าจะหนีไปง่ายๆสิ !!!”

ในช่วงเวลาต่อมาชุดวงเวทย์ก็แผ่ออกมาอย่างรวดเร็วจากใต้เท้าของจ้าวเยว่รู่ โดยเธอได้เรียกบาเรียไฟออกมา ซึ่งมันครอบคลุมรัศมีห้าร้อยหลารอบจ้าวเยว่รู่ และบาเรียนี้ก็กักสมาชิกของไมโทโลจี้ทั้งหมดไว้ข้างใน

“ไอ้เวรเอ้ย !!!” แซนด์สตอร์มตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เมื่อเขาเห็นบาเรียไฟปรากฎขึ้น และเขาก็รีบพุ่งตรงไปที่จ้าวเยว่รู่ทันทีด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ที่ทำให้สมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ดตกตะลึงมากๆ

แซนด์สตอร์มนั้นมีความเร็วมากกว่าอย่างน้อยสองเท่า หากเทียบกับหนึ่งในหัวหน้าในทีมแอสซาซินที่ลอบโจมตีพวกเขาเมื่อครู่ ในพริบตาเขาก็สามารถก้าวผ่านระยะห้าสิบหลาได้อย่างรวดเร็ว
“ทุกคนระวัง เขาสามารถผสานสเต็ปเท้าขั้นสูงของเขาเข้ากับสกิลเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว !!! อย่าปะทะกับเขาโดยตรง !!!” ไวน์ไฟเตอร์ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นความเร็วอันน่าอัศจรรย์ของแซนด์สตอร์ม

ในบรรดาเทคนิคการต่อสู้ประเภทต่างๆที่มีอยู่ ประเภทที่ยากที่สุดคือการผสานรวมสกิลการเคลื่อนไหวเข้ากับสเต็ปเท้า เพราะท้ายที่สุดมันนับเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ และแม้แต่ในไวโอเล็ตซอร์ด มันก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้

ดังนั้นใครก็ตามที่สามารถทำแบบนี้ได้ พวกเขาก็จะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระเลยผ่านกองทัพนับหมื่น

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าตอนนี้ค่าสถานะพื้นฐานของแซนด์สตอร์มนั้นอยู่ในมาตราฐานของขั้นสี่เลย ซึ่งเมื่อรวมกันทั้งหมดนี้ ยังไงมันก็ไม่น่าจะมีใครหยุดเขาได้แน่นอน

ซึ่งในเวลาเพียงสามวินาที แซนด์สตอร์มก็ฝ่าแนวป้องกันของสภาสิบแปดปีกมาได้ และมาถึงด้านหลังของจ้าวเยว่รู่ จากนั้นเขาก็ฟันดาบสั้นเข้าใส่จากด้านหลังของ Elementalist

“ตายไปซะ !!!” แซนด์สตอร์มตะโกนออกมาในขณะที่โจมตีเข้าใส่จ้าวเยว่รู่

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่การโจมตีของเขากำลังจะโดนจ้าวเยว่รู่ ก็มีร่างหนึ่งโผล่มาเข้าปะทะกับการโจมตีของแซนด์สตอร์ม

ตู้ม !!!

เสียงระเบิดนั้นดังสั่นสะเทือนไปทั่วสนามรบ โดยพื้นที่รอบจุดปะทะนั้นพื้นดินก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ขณะที่คลื่นกระแทกที่เกิดจากการปะทะกันนั้นก็ทำให้ผู้เล่นที่อยู่ในระยะสิบหลาปลิวกระเด็นไปเลย

“เป็นไปไม่ได้ !!! เธอป้องกันมันได้งั้นหรอ ?!!” ไวท์เฟเธอร์ที่เฝ้ามองจากระยะไกลอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความงุนงง เมื่อเห็นว่าเสวี่ยเหวินโหรวสามารถป้องกันการโจมตีของแซนด์สตอร์มไว้ได้

แม้ว่าแซนด์สตอร์มจะเป็นแอสซาซิน แต่เขาก็มีค่าสถานะพื้นฐานและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากผลของวงเวทย์การต่อสู้ขั้นสูง และเจ็มสโตนเวทย์กลืนกินขั้นสาม ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาตอนนี้นั้นเกินกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในเลเวลเดียวกันด้วยซ้ำ และเมื่อเขาทำการโจมตี เขาก็ควรจะสามารถผลักดันให้มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายต้องถอยกลับได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเพียงผู้เล่นขั้นสาม แต่เสวี่ยเหวินโหรวก็สามารถจะตั้งรับการโจมตีของเขาไว้ได้แบบไม่มีปัญหาใดๆเลย

“สกิลพิเศษ ?!” แซนด์สตอร์มพึมพำ แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจมากเหมือนกันที่เสวี่ยเหวินโหรวหยุดการโจมตีของเขาไว้ได้ แต่เขาก็รู้เหตุผลอย่างรวดเร็วว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนั้นได้ “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณใช้อะไรเพื่อหยุดสกิลของฉัน แต่เนื่องจากมันเป็นสกิล ไม่ใช่เทคนิคการต่อสู้ ดังนั้นมันจะหยุดฉันได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ !!! ฉันปฎิเสธที่จะเชื่อว่า คุณจะสามารถหยุดฉันได้อีกครั้ง !!!”

หลังจากพูดจบแซนด์สตอร์มก็เตรียมพร้อมจะโจมตีอีกครั้ง อย่างไรก็ตามมันราวกับว่าเสวี่ยเหวินโหรวคาดเดาเรื่องนี้ไว้นานแล้ว และเธอก็ได้ทำการสกัดกั้นการโจมตีของเขาด้วยการโจมตีติดกันสี่ครั้งของเธอทันที

Will of Light!

Four Extreme Slashes!

ตู้ม ! ตู้ม ! ตู้ม ! ตู้ม !

แซนด์สตอร์มตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการแทรกแซงของเสวี่ยเหวินโหรว โดยใช้ดาบสั้นของเขาป้องกันการโจมตีทั้งสี่ครั้งอย่างรวดเร็ว และทุกการโจมตีที่เขาป้องกันนั้นมันก็บังคับให้เขาต้องถอยไปหนึ่งก้าว

“นี่คุณใช้สกิลของตัวเองหมดรึยัง ?” แม้ว่าแซนด์สตอร์มจะถูกบังคับให้ต้องถอยไปสี่ก้าว แต่เขาก็ยังคงแสดงออกอย่างสงบ จากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะ และพูดว่า “ถ้าหมดแล้ว มันจะได้ถึงตาฉันสักที !!!”

อย่างไรก็ตามเมื่อแซนด์สตอร์มกล่าวจบ เสวี่ยเหวินโหรวก็ยก Glorious Will ขึ้นเหนือหัวของเธอและเริ่มโจมตีอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันร่างของเธอก็แผ่ออร่าศักสิทธิ์ออกมาจนมันไปปราบปรามแม้แต่พื้นที่รอบตัวเธอ

“หายไปซะ !!!” เสวี่ยเหวินโหรวตะโกน ขณะที่เธอเหวี่ยง Glorious Will เข้าใส่แซนด์สตอร์ม

หลังจากนั้นแสงที่ดูไร้ที่สิ้นสุดก็ได้เข้ากลืนกินแซนด์สตอร์ม

Myth of Light!

ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เสวี่ยเหวินโหรวได้กำจัดทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าเธอที่อยู่ในระยะหนึ่งร้อยหลา และแม้แต่พื้นที่ก็ยังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

สำหรับแซนด์สตอร์ม เขาปลิวกระเด็นไปมากกว่าหนึ่งร้อยหลา และ HP ของเขาก็ลดลงต่ำกว่าห้าสิบเปอเซ็นต์ ขณะที่ร่างของเขาก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และเมื่อร่างของเขากระแทกกับพื้น แรงกระแทกมันก็ทำให้เกิดปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่

เมื่อได้เห็นฉากนี้ ทุกคนก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง โดยเฉพาะสมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ดและไมโทโลจี้ที่อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

“นี่สภาสิบแปดปีกซ่อนไพ่ไว้กี่ใบกันแน่ ?” คริมสันสตาร์พึมพำออกมาอย่างดัง ขณะที่เธอจ้องมองไปที่เสวี่ยเหวินโหรว

ตอนแรกก็ซือเฟิง ต่อมาก็เสวี่ยเหวินโหรว

เสวี่ยเหวินโหรวเห็นได้ชัดว่ามีมาตราฐานการต่อสู้อยู่ในขอบเขตอนันต์เท่านั้น แต่ในแง่ของค่าสถานะพื้นฐานนั้นเธอด้อยกว่าแซนด์สตอร์ม ยิ่งไปกว่านั้นแซนด์สตอร์มยังปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของเขาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว ซึ่งข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวที่เธอมีนั้นก็คือเธอมีเลเวลหนึ่งร้อยสิบแปด และไม่ว่าจะมองยังไงคริมสัน
สตาร์ก็คิดว่าเสวี่ยเหวินโหรวไม่ควรจะเทียบกับแซนด์สตอร์มได้

อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุด เสวี่ยเหวินโหรวก็ใช้การเคลื่อนไหวเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นในการทำให้แซนด์สตอร์มปลิวกระเด็นไป และบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะการโจมตีที่เธอใช้ในครั้งสุดท้ายนั้นมันเทียบได้กับการโจมตีที่ซือเฟิงใช้โจมตีหัวหน้าภูมิภาคทั้งสองเลย

“เฟเธอร์ เราจะทำยังไงกันดี ? ตอนนี้แซนด์สตอร์มก็บาดเจ็บหนักแล้ว แถมด้านของสภาสิบแปดปีกก็ยังมีซินฟูลเฟรมจากหอการค้าอาซูอยู่ด้วย ฉันกลัวว่าแค่พวกเราสี่คนจะไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ …” Elementalist ขั้นสามที่ยืนอยู่ข้างไวท์เฟเธอร์ถาม เมื่อเขาเห็นว่าในตอนนี้แซนด์สตอร์มต้องดิ้นรนอย่างหนักที่จะเอาชีวิตรอด และด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ พวกเขาก็จะไม่ได้รับอะไรเลย หากฝืนสู้ต่อไป

จากหัวหน้าทั้งห้าที่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ แซนด์สตอร์มเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาแล้ว ในขณะที่ไวท์เฟเธอร์มาเป็นอันดับสอง ซึ่งในตอนนี้เมื่อแซนด์
สตอร์มได้รับบาดเจ็บสาหัส ไวท์เฟเธอร์จึงจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการบัญชาการต่อ

“เราจะถอย !! ความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกนั้นเกินความคาดหมายเราไปมาก !!! เราต้องรายงานเรื่องนี้ต่อรองผู้บัญชาการโดยเร็วที่สุด !!!”

“แต่บาเรียไฟล่ะ ?” Elementalist ขั้นสามถามขณะที่เขามองไปยังบาเรียไฟรอบเขา

“ถ้าฉันใช้ไพ่ของฉัน เราก็น่าจะฝ่าไปได้ และเมื่อมันหายไป ทุกคนก็จะต้องถอยด้วยความเร็วเต็มที่ !!!” ไวท์เฟเธอร์ออกคำสั่ง

“เข้าใจแล้ว ฉันจะให้ทุกคนกระจายตัวกัน และวิ่งหนีทันที !!!” Elementalist ขั้นสามกล่าวพลางพยักหน้า

หลังจากนั้นไวท์เฟเธอร์ก็ได้ทำลายบาเรียไฟของจ้าวเยว่รู่ด้วยการเคลื่อนไหวเดียว และหลังจากนั้น เธอกับสมาชิกคนอื่นๆของไมโทโลจี้ก็กระจายตัวกันหนีอย่างรวดเร็วทันที สำหรับสมาชิกสภาสิบแปดปีก พวกเขาก็ตามล่าสมาชิกของไมโทโลจี้ต่อ แต่พวกเขาก็ฆ่าไปได้ไม่ถึงยี่สิบคน แต่อย่างไรก็ตามนี่มันก็รวมไปถึงแซนด์สตอร์ม และหัวหน้าอีกสองคนในทีมด้วย ซึ่งนี่มันก็นับว่าสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงได้อย่างมากให้กับกองกำลังแสงสีเงินของไมโทโลจี้

หลังจากนั้นผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองไวโอเล็ตไลท์อย่างรวดเร็ว และมันก็ทำให้ทุกคนที่ได้ยินมันสั่นสะเทือนมากๆ