เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 753
บนเรือนร่างของเขา มีแม่นางที่ใส่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยกำลังอมอะไรบางอย่าง

ที่แท้ก็เพียงแค่ไดอารี่ของจางหมิง

ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องดูแลคนรักของเขาด้วย

ในฐานะที่ผู้นำอาวุโสของสถาบันวิจัย

ดูแลคนรักเพียงหนึ่งคนคงมิใช่เรื่องใหญ่อะไร?

ยังไงเสียทุกๆปีบริษัทเหล่านั้นก็หักเงินเขาเป็นจำนวนหลายล้านอยู่แล้ว

ปัง!

ทันใดนั้นเอง

ในช่วงเวลานั้นเอง !

เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

จางหมิงตกใจจนบ่นพึมพำ

เดินสะเปะสะปะ

เลขาเงยหน้าขึ้นมาสีหน้าพลางพูดว่า “ที่รัก ทำไมคุณเสร็จเร็วจัง?”

เมื่อได้ยินดังนั้น

จางหมิงสีหน้าอับอายพลันกลายเป็นความโกรธ

เฟียะ!

เขาตบไปที่หน้าของเลขาอย่างแรง พลางตะโกนว่า “หลีกไปทางอื่นซะ”

เลขาเอามือจับหน้าของตนเองไม่กล้าพูดให้มากความ ขยับกายาไปอยู่ด้านข้าง

จางหมิงถึงเงยหน้าขึ้นมา พลางตะโกนด่าไปว่า “ไอ้สารเลวตัวไหนว่ะ ถึงกล้ามาเคาะประตูสำนักงานข้าได้”

จางหมิงโมโหหนักมาก

กำลังทำเรื่องเช่นนี้อยู่ แต่กลับถูกคนรบกวน

ไม่เพียงรบกวนความสนใจของเขา

และยังอาจจะองคชาติเสื่อม

ในเวลานี้ ในใจของเขารู้สึกโกรธเคืองยิ่งนัก

ไม่ว่าใครหน้าไหน

วันนี้เขาต้องสั่งสอนฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักให้จงได้

“ปู่ของเจ้าเอง!”

เมื่อเห็นเฉินตงเดินเข้ามา

ด้านหลังของเขา มีชายร่างกำยำจำนวนนับร้อยใส่ชุดสไตล์ตะวันตกสีดำตามหลังเข้ามา

จางหมิงสีหน้าเปลี่ยนไป

เมื่อเห็นท่าทางวางอำนาจเช่นนี้ เขารู้ดีว่า ผู้มาเยือนนั้นไม่ใช่คนที่เขาจะทำร้ายได้เลย

เขารีบยิ้มต้อนรับพลางถามว่า “ไม่ทราบว่านายท่านคือ….. มาหาข้ามีธุระอะไรรึ?”

“ฮึ!”

เฉินตงถอนหายใจอย่างประชดประชันพลางพูดว่าว่า “ ข้าเป็นใคร เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะล่วงรู้ได้”

“ ข้าถามหน่อย เมื่อครู่คนของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปมาหาเจ้าใช่หรือไม่?”

ถ้าหากไม่ใช่ภารกิจของหยางเฟิง

เฉินตงคงจะไม่เดินทางมาเอง

ผู้อาวุโสของสถาบันวิจัยอะไรกัน?

ในสายตาของเขาก็แค่คนไร้ค่าคนหนึ่ง

เขาใช้เพียงนิ้วเดียวก็สามารถบบีบขยี้ให้เขาตายได้

ยังจะมาถามชื่อของตนเองอีก

เขาสมควรได้รับสิทธิ์นั้นรึ?

เผชิญหน้ากับท่าทางที่โอ้อวดของเฉินตง

จางหมิงรู้สึกโกรธจนมิกล้าเอ่ยวาจาอันใด

“ใช่ครับ ไม่ทราบว่า”

“แค่คำว่าใช่ก็เพียงพอแล้ว!”

ไม่รอให้จางหมิงพูดจบ

เฉินตงพูดต่อว่า “เจ้าจงนำข้อมูลให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ป ไม่เช่นนั้นละก็”

ปัง!

เฉินตงเตะเก้าอี้กระกระจาย

แค่ก!

เก้าอี้ทั้งตัวแตกออกเป็น4-5เสี่ยง

“ไม่เช่นนั้น นี้จะเป็นจุดจบของเจ้า”

เมื่อเห็นเก้าอี้ที่แตกหักเป็น4-5เสี่ยง

จางหมิงกลืนน้ำลาย

นี่เป็นสิ่งของล้ำค่าที่เขาใช้เงินจำนวนมหาศาลซื้อเก้าอี้ไม้มาเชียวนะ!

เมื่อถูกเฉินตงเตะครั้งเดียวก็แตกกระจายเช่นนี้เชียวรึ?

“แต่ว่า ข้า…..”

จางหมิงอ้ำๆอึ้งๆ

หากปราศจากคำสั่งของหนิงชิงเฉิง

เขาไม่กล้านำข้อมูลส่งให้เย่เมิ่งเหยียน

ถ้าหากหนิงชิงเฉิงรู้เข้าละก็

ตนเองคงจะถูกปลดจากตำแหน่งผู้นำของสถาบันอย่างแน่แท้

“จะไม่ให้งั้นรึ?”

เมื่อเห็นจางหมิงกำลังขัดขืนคำพูดของตนเอง

สายตาของเฉินตงเปล่งประกายรังสีแห่งภยันตรายออกมา

“ในเมื่อเจ้าชนแก้วแล้ว ไม่ดื่มเหล้าแห่งการลงโทษนี้ งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจละนะ!”

“เหล่าสหาย บุกเข้าไป สอนสัจธรรมของการเป็นคนให้เขาหน่อย!”

“ขอรับ!”

เมื่อพูดจบ

ชายร่างกายกำยำใส่เสื้อผ้าสไตล์ตะวันออกนับ10 ก็พุ่งเข้าไปรุมกระทืบจางหมิง

“ไว้ชีวิตข้า!ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถิด!”

“ขอร้องพวกคุณ ไม่เอาแล้วจ้า”

“อ่า อ่า อ่า อ้ากก”

หลังจากนั้น

ก็มีเสียงร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเฉือดของจางหมิงลอยออกมา

ไม่ว่าจางหมิงจะร้องขอความช่วยเหลือเช่นไร แต่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเขาได้

สำหรับยามรักษาความปลอดภัยของสถาบันวิจัย

ก็ถูกคนสำนักหงคุมตัวไปตั้งนานแล้ว

จะมาช่วยเขาได้อย่างไร

เลขานุการผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างตกใจจนจิตหลุดลอยไป