ตอนที่ 668 ไว้ชีวิตรักสักทาง (3)

อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!

ตอนที่ 668 ไว้ชีวิตรักสักทาง (3) โดย Ink Stone_Romance

หัวใจเจ็บปวดกว่าทุกที…

เธอลุกยืนตัวโงนเงน เปิดกล่องยาแล้วหายาช่วยระบบไหลเวียนเลือดหัวใจกลืนลงไปโดยไม่ดื่มน้ำสักคำ

แต่ผ่านไปพักใหญ่…

ความเจ็บตรงอกไม่ได้ผ่อนปรนลงแม้แต่น้อย

กลับยิ่งอยู่ความเจ็บยิ่งทวีคูณขึ้น…

…………………………

น่าหลันเรียกเย่เซียวแต่ไม่สำเร็จกลับถูกเขายกตัวอุ้มขึ้นไปให้พลิกตัวจนเธอถูกเขาคร่อมไว้ใต้ร่าง “เย่เซียว…” เธอเรียกชื่อเขาอย่างตื่นเต้น

น่าหลันไม่เคยใกล้ชิดเขาขนาดนี้มาก่อนจึงรู้สึกเพียงหัวใจแทบหลุดจากอก เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหลงใหล ต่อให้เขากำลังเมาก็ยังมีเสน่ห์เพียงนี้ ทำให้เธอยอมมอบทุกอย่างให้เขา

เย่เซียวค่อยๆ ลืมตาขึ้น เพราะอาการมึนเมาขับให้ดวงตาคู่นั้นล้ำลึกเหมือนมหาสมุทรที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกชั้นหนา หรือจะเหมือนท้องฟ้ายามมืดที่มีแสงจันทร์ประดับ น่าหลันแทบจะเคลิ้มไปกับสายตาของเขา

“คุณมาอยู่นี่ได้ไง?” เขามองเธอด้วยความมึนงง มุมปากที่ติดเย็นชามาตลอดกลับจุดยิ้มเล็กๆ นิ้วเรียวยาวเกี่ยวผมที่ปรกข้างแก้มไปหลังศีรษะ

ท่วงท่านั้นอ่อนโยนเสียจนน่าหลันแทบจะน้ำตาไหลเพราะความดีใจ

เธอยิ้มหน้าซื่อๆ “คุณเมาแล้ว ฉันต้มชาแก้เมามาให้คุณก็เลยอยู่นี่น่ะ ตอนนี้คุณยังโอเคไหม?”

“โอเค ยังโอเค…กอดคุณก็รู้สึกดีมาก…”

“ถ้าคุณชอบก็กอดฉันแบบนี้ตลอดเลยได้ไหม?” ขอบตาน่าหลันร้อนผ่าวและกอดเขาตอบอย่างตื้นตัน

“คุณชอบให้ผมกอดคุณอย่างนี้เหรอ?” เขาถามเสียงแหบ

“อืม ชอบมาก”

“ในเมื่อชอบ…ทำไมถึงใจร้ายกับผมขนาดนี้?” เย่เซียวพูดถึงตรงนี้ก็หายใจรุนแรงขึ้น หัวคิ้วที่ขมวดคิ้วอยู่ของเขาค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวด “คุณชอบเอาแต่ใจแบบนี้เพราะเห็นว่าผมชอบคุณ…”

เมื่อครู่ตื้นตันมากเท่าไร ยามนี้ในใจน่าหลันก็ขมขื่นมากเท่านั้น

เธอเข้าใจแล้ว เย่เซียวไม่ได้กอดตัวเอง คนที่ชอบก็ไม่ใช่ตัวเอง…เขาแค่เห็นเธอเป็นไป๋ซู่เย่! เห็นเป็นผู้หญิงคนนั้น!

เธอซบนอนบนตัวเขาและเริ่มร้องไห้อย่างห้ามไม่ได้ “เย่เซียว คุณเองก็เหมือนเธอที่เห็นว่าฉันชอบคุณเลยทำร้ายฉันตลอดแบบนี้! เทียบกับไป๋ซู่เย่ คุณเองก็ใจร้ายมากเหมือนกัน! ทำไมคุณถึงยอมถูกผู้หญิงคนนั้นทำร้ายแต่ก็ไม่ยอมเปิดใจรับฉันสักที?”

“ซู่ซู่…”

“ซู่ซู่…”

เย่เซียวกลับไม่ได้ยินเสียงร่ำไห้ของหญิงสาว ปากแห้งกรังพึมพำ เรียกชื่อสองพยางค์ที่ฝังแน่นเข้าจิตวิญญาณ

ความจริงมีแค่ตอนเมาเท่านั้นที่เขาจะปล่อยปละละเลยตัวเองได้ถึงเพียงนี้ ปล่อยให้ชื่อนั่นวนเวียนอยู่ในหัวใจตัวเอง…

………………………………

ตลอดคืนนั้น

ไป๋ซู่เย่ตาค้างจนฟ้าสว่าง

ความจริงเธออยากหลับไปทั้งอย่างนั้นแต่เพราะในหัวมีแต่ภาพที่เขานอนกอดกับน่าหลันลอยเต็มไปหมด ความรู้สึกนี้มันแย่นัก หากหลับไปคงไม่ทรมานอีกแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็หยุดความคิดไม่ได้สักที

พวกเขาจะจูบลึกซึ้งมากขนาดไหน? พวกเขาจะกกกอดกันกี่ครั้งในหนึ่งคืน? ยิ่งไปกว่านั้นใช้ท่าอะไร? ใช้ท่าเดียวกับที่ทำกับเธอ หรืออย่างอื่น?

เธอคิดไปมาอยู่ๆ เริ่มรู้สึกว่าสมองกับหัวใจใกล้จะปริแตกพร้อมกันรอมร่อ

รอจนฟ้าสว่างเธอแทบพลิกตัวลงจากเตียงทันที เก็บเสื้อผ้าของเขาแต่ละชิ้นรวมถึงโน้ตบุ๊คเอกสารของเขาใส่ในรถ ไปยังบริษัทของเขา

มาถึงบริษัทของเขาในเวลาไม่ถึงเก้าโมงเช้า ห้องโถงใหญ่มีพนักงานไม่มากนัก เธอย้ายของแต่ละชิ้นไปที่หน้าเคาน์เตอร์ชั้นหนึ่งเพื่อฝากให้เคาน์เตอร์ส่งคืน ก่อนจะขับรถกลับโดยไม่คิดจะอยู่ต่อนานกว่านั้น

เช่นนี้แล้วในห้องของเธอไม่เหลือร่องรอยเขาอีกแล้วใช่ไหม? เธอจะลืมมันได้อย่างรวดเร็วใช่ไหม?

แต่เดิมเธอคิดว่าเขาย้ายไปอยู่กับเธอ พวกเขาจะใช้เวลาสิบกว่าวันที่เหลืออย่างราบรื่น แต่ไม่คิดเลยว่า…

เธอจับพวงมาลัยแน่น กล้ำกลืนไม่ให้น้ำตาเอ่อคลอไปมากกว่านี้

………………………………

ปวดหัวเหมือนจะร้าว

เย่เซียวค่อยๆ ตื่น

บนแขนมีแรงกดทับอยู่ เขามุ่นคิ้วลองขยับเล็กน้อยจนคนข้างกายเองก็เริ่มขยับตัวตาม

“คุณตื่นแล้วเหรอ?” น่าหลันลืมตาวาวในมองเขา

ใบหน้านั่นเรียกให้สติเขาหลุดไปชั่ววูบ

กดหัวคิ้วที่เต้นตุบๆ ลุกขึ้นนั่ง “คุณมานอนตรงนี้ได้ยังไง?”

เขาไม่ต้องห่วงอะไรเพราะเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น พวกเขาทั้งคู่ ไม่สิ อย่างน้อยเธอยังอยู่ในสภาพเสื้อผ้าครบครัน เมาจนสภาพนั่นแล้วจะทำอะไรได้อีก?

“เห็นคุณเมาขนาดนั้นฉันไม่ไว้ใจเลยมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ ตอนท้าย…ตอนท้ายคุณเป็นคนอุ้มฉันขึ้นเตียงเอง” พูดถึงท้ายๆ เธอกัดปากล่างเบาๆ ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อจางๆ

เย่เซียวจดจำอะไรไม่ได้เลยสักนิด

“เมื่อคืนเมา คุณอย่าคิดมาก” เขากลับมาท่าทีเรียบนิ่ง เย็นชาอีกแล้ว

น่าหลันกระชับแรงที่จับผ้าห่มไว้แน่นกว่าเดิม หากเป็นไปได้เธอหวังว่าตัวเองจะจำไปตลอด แต่เมื่อคืนความอ่อนโยน ความเหนือการควบคุมที่เขามีให้เธอ ทุกอย่างก็แค่มอบให้ไป๋ซู่เย่!

เธอไม่พูดอะไรทั้งนั้นก่อนจะลุกขึ้นตาม เย่เซียวลงจากเตียงย่างกรายไปยังห้องน้ำ รูปร่างของเขาดีมาก ท่อนบนเปลือยเปล่าและท่อนล่างที่มีเพียงกางเกงขายาวตัวเดียว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นแสนเซ็กซี่และเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นผู้ชาย ล้วนเรียกให้คนมองหลงใหล

ต่อให้เป็นเพียงแผ่นหลังก็ตาม

น่าหลันนั่งอยู่ตรงนั้นกอดผ้าห่มสูดดมกลิ่นอย่างอาลัย ตรงนั้นยังมีกลิ่นเฉพาะของเขาหลงเหลืออยู่…

พักใหญ่เธอหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาดู บนหน้าจอเป็นรูปคู่ที่เธอกับเย่เซียวนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน เธอซบอยู่บนแขนเย่เซียว

……………………

ขณะเย่เซียวมาถึงบริษัท ทั้งเอกสาร โน้ตบุ๊คและเสื้อผ้าพวกนั้นตรงโซฟาทำให้เขาขมวดคิ้วแน่น นัยน์ตาสีเข้มขึ้น

หยูอันที่ตามเข้ามาเห็นสีหน้าของเขาก็อธิบาย “ได้ยินพนักงานหน้าเคาน์เตอร์บอกว่าทั้งหมดนี้ไป๋ซู่เย่เอามาส่งให้แต่เช้า”

เย่เซียวดึงเนกไทเพื่อให้ตัวเองผ่อนลมหายใจก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “ให้เลขาเข้ามาจัดการ”

“ครับ” หยูอันถอยออกไปเงียบๆ

เขาไม่รู้ว่าระหว่างเย่เซียวกับไป๋ซู่เย่ทำไมถึงกลายมาเป็นเช่นนี้ได้ แต่ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งแน่ๆ

……………………

ตอนไป๋ซู่เย่มาถึงกระทรวงความมั่นคง ไป๋หลางหัวคิ้วชนกันเป็นปม “รัฐมนตรี คุณเป็นผู้หญิงนะ ไม่ต้องสู้ตายเหมือนผู้ชายก็ได้มั้ง? เจ็บขนาดนี้ไม่พักที่โรงพยาบาลยังวิ่งมาทำงานอีก”

ไป๋ซู่เย่เอาเอกสารเคาะหัวเขาไปที “ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลย ฉันเตือนนายไว้แต่แรกแล้วใช่ไหมว่าให้บอกกับคุณหญิงว่าฉันไปสัมมนาก็พอ นี่นายกลับบอกท่านว่าฉันว่างมาก”

“ท่านโทรมาผมก็ประหม่า พอประหม่าเลยพูดไปหมดเลย แต่คุณสบายใจได้ ไม่กล้าบอกเรื่องที่คุณบาดเจ็บไป”

……………………