ตอนที่ 687 : การประท้วง

Virtual World – Peerless White Emperor

ตอนที่ 687 : การประท้วง

 

เย่ฉางปลอมตัวอีกครั้ง และเดินทางไปกับเจย์ลิส “ตรวจสอบดูหน่อยว่าตอนนี้ค่าหัวฉันเท่าไหร่แล้ว”

 

“100,000 และของฉันคือ 70,000”

 

“ไม่เลว! เอาล่ะ! เวลาส่วนใหญ่ของวันหยุดได้ถูกใช้ไปแล้ว และฉันก็ยังไม่ได้ทําอะไรสนุกๆเท่าไหร่ แต่อาเฉียงและหลินหลี่กําลังรอฉันอยู่” เจย์ลิสสั่นสะท้าน เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่เย่ฉางพูด “คุณฆ่าคนไปตั้งมากมาย แต่คุณก็ยังบอกว่าคุณยังไม่สนุกเลยงั้นหรือ?”

 

การกระทําที่รุนแรงของเย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียง และหลินหลี่ ทําให้เกิดการประท้วงจากกองกําลังต่างๆทั่วยุโรป

 

“ชายจีนทั้งสามคนนี้ทําเกินไปจริงๆ! พวกเขาไม่เคารพยุโรปเลยแม้แต่น้อย”

 

“แล้วเราทําอะไรได้บ้างล่ะ? ไปยึดเมืองมังกรเงินกลับคืนมาไหม? มันเป็นไปไม่ได้ในขณะนี้”

 

“แต่เรามีคนมากกว่าพวกเขานะ มันเป็นไปไม่ได้จริงๆเหรอ?”

 

“ประเด็นหลักคือเราไม่สามารถโน้มน้าวจักรวรรดิให้โจมตีพวกเขาได้ เราสามารถใช้เพียงแค่ผู้เล่นต่อสู้กับพวกกบฏเท่านั้น และฉันพนันได้เลยว่าพวกเขาต้องการจะเห็นสถานการณ์แบบนี้! ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเราจะสูญเสียไปไม่น้อย และอัตราความสําเร็จนั้นไม่สูงเลย! ซึ่งมันจะเพิ่มช่องว่างระหว่างจีนกับเรา!”

 

“เราทําได้เพียงต่อรองกับพวกเขาให้คืนเมืองมังกรเงินเท่านั้น เพราะนี่เป็นสถานที่สําคัญสําหรับผู้เล่นในพื้นที่ทางเหนือของเรา เราไม่สามารถทําอะไรได้เลยในตอนนี้ อย่างน้อยก็ก่อนที่จักรวรรดิจะเปลี่ยนเป้าหมายโจมตี

 

“จริงๆหรือ?! บ้าเอ้ย! ไอ้คนจีนสามคนนั่นช่างไร้ยางอายและไร้ศีลธรรมจริงๆ”

 

“คุณยังจะหวังเรื่องศีลธรรมอะไรนั่นกับสามพี่น้องหมู่บ้านมือใหม่จริงๆนะอีกงั้นหรือ? แม้แต่ในประเทศจีนพวกเขายังเป็นที่รู้จักจากสาธารณชนในด้านการทําผิดศีลธรรม ทักษะการสบประมาทของพวกเขานั้นไร้ผู้ต่อกร”

 

ในขณะเดียวกันหลินหลี่ก็กําลังจัดงานเลี้ยงในคฤหาสน์ของนายกเทศมนตรี จางเจิ้งเฉียงก็เข้าร่วมกับเขาเช่นกัน พวกเขาทั้งสองมองหน้ากันพร้อมกับมีน้ำตาคลอ มือข้างหนึ่งของจางเจิ้งเฉียงถือน่องไก่ย่าง ส่วนมืออีกข้างถือชามไวน์องุ่นล้ำค่าของอดีตนายกเทศมนตรี “อร่อยจัง! ฉันมีความสุขที่สุดที่เราได้กินอาหารที่ปกติเสียที”

 

“ผมก็เช่นกัน! งั้นเราต้องกินเยอะๆ! เมื่อพี่ใหญ่ขาวมาถึง ผมพนันได้เลยว่า…” เมื่อหลินหลี่พูดถึงเย่ฉางขึ้นมา ใบหน้าที่มีความสุขของพวกเขาทั้งสองก็ซีดลงทันที ทั้งคู่จ้องหน้ากันอีกครั้งและถอนหายใจ

 

“เฮ้อ! อย่าไปคิดถึงเรื่องเศร้าๆนั่นอีกเลย แค่เรามีความสุขกับปัจจุบันก็พอแล้ว” จางเจิ้งเฉียงยกชามไวน์ขึ้นดื่ม ขณะที่หลินหลี่พยักหน้าอย่างจริงจัง และกินปีกนกยักษ์ย่างอย่างเอร็ดอร่อย

 

“อาหารของเขานั้นมันร้ายแรงมากเลยหรอ?” อลิก้าอยากรู้อยากเห็น เพราะเธอได้ยินชื่อเสียงในการทําอาหารของเย่ฉาง

 

“รอจนกระทั่งเขามาถึงแล้วคุณจะได้รู้เอง” จางเจิ้งเฉียงถอนหายใจอีกครั้ง

 

“ท่านนายกเทศมนตรีและท่านผู้บัญชาการ เราจะไม่ให้คนที่ไม่เป็นสมาชิกของกองทัพผู้กล้าเข้าสู่เมืองมังกรเงินจริงๆหรือ? มีผู้เล่นจํานวนมากมารวมตัวกันที่ประตูเมือง ในหมู่พวกเขามีผู้เล่นอิสระอยู่หลายคน” เจย์น่ารู้ว่าถ้าไม่อนุญาตให้ผู้เล่นเข้าเมืองมังกรเงิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้านและเมืองต่างๆสิบสามแห่ง อีกไม่นานมันจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน

 

“ตอนนี้เราจะทําตามแผนเดิมต่อไป เราจะพูดเรื่องนี้กันอีกทีเมื่อเพื่อนฉันมาถึงแล้ว” จางเจิ้งเฉียงโบกมือ

 

“ถูกต้องแล้ว! เราจะรอพี่ใหญ่ขาวก่อน! เอ็ก” หลินหลี่เรอเสียงดัง แต่หลังจากคิดสักพัก หลินหลี่ก็หยิบขวานสงครามขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว และมืออีกข้างถือไก่งวงย่างตัวโต “เอาล่ะ! ฉันจะไปย่อยอาหารก่อน พวกเขากล้ามาสร้างความวุ่นวายในสถานที่ของฉันได้อย่างไรกัน! เธอที่อยู่ตรงนั้นน่ะ! พาฉันไปที่นั่นที”

 

เจย์น่าหลั่งเหงื่อเย็นออกมา “เอ่อ … ดูเหมือนว่าในอีกไม่ช้าคนจํานวนมากกําลังจะตายอีกครั้ง แต่ฉันไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ผู้ชายคนนี้เป็นที่รู้จักในนามปีศาจหลี่ผู้บ้าคลั่ง เขาถึงกลับกล้าแขวนทั้งอดีตนายกเทศมนตรี และอดีตผู้นํากองทัพกบฏไว้ด้วยกัน จนถึงตอนนี้ศพพวกเขายังคงแขวนอยู่ที่นั่น

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ หลินหลี่เพียงแค่ลืมที่จะเอาพวกเขาลงมาเท่านั้นและคนอื่นๆในกองทัพกบฏก็ไม่กล้าทําอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นศพทั้งสองจึงยังถูกแขวนอยู่ที่เดิม!

 

เมื่อมาถึงประตูเมือง หลินหลี่จ้องไปยังกลุ่มคนที่กําลังประท้วง เขากัดไก่งวงย่างและเชิดคางขึ้น “ฉันได้ยินมาว่าพวกคุณกําลังสร้างความวุ่นวายที่นึ่งั้นหรือ?”

 

ในหมู่พวกเขามีบางคนที่เคยมีประสบการณ์การถูกสังหารหมู่ในคืนนั้น พวกเขารู้ดีว่าคนที่กินไก่งวงย่างนั้นน่ากลัวขนาดไหน!

 

“คุณไม่สามารถยึดครองเมืองมังเงินไว้แต่เพียงผู้เดียว เปิดประตูเมืองให้พวกเราเข้าไปซะ! เมืองมังกรเงินสําคัญกับเรามาก!”

 

หลินเลอโยนไก่งวงย่างไปข้างๆ เจย์น่ารับมันเอาไว้ จากนั้นหลินหลี่พยักหน้าอย่างคนใจดี “พูดได้ดี!”

 

หลังจากเขาพูดจบ หลินหลี่ก็กระโดดลงจากกําแพงเมือง และร่อนลงพื้นอย่างดุดัน เมื่อเขากําลังจะเหวี่ยงขวานสงครามใส่คนสวมฮูดที่กําลังเดินออกจากฝูงชน เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย “หลินหลี่หยุดก่อน”

 

หลินหลี่หยุดการโจมตีทันที และพูดอย่างมีความสุข “พี่ใหญ่ขาว!”

 

เย่ฉางยกเลิกการปลอมตัว และกลับไปสวมชุดประจํากายของเขาอีกครั้ง

 

“อิ่ม! ถือว่าวันนี้พวกคุณโชคดีที่พี่ใหญ่ขาวของฉันมาถึงแล้ว” หลินหลี่พาเย่ฉางกลับไปที่คฤหาสน์นายกเทศมนตรีทันที ผู้คนที่อยู่ด้านนอกประตูต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็หวาดกลัวในเวลาเดียวกัน “สามพี่น้องมารวมกันที่เมืองมังกรเงินแล้ว! เฮ้อ! ทําไมคนในภาคเหนืออย่างเราถึงโชคร้ายแบบนี้”

 

“ทําไมนายถึงทิ้งคนมากมายไว้ข้างนอก? หลินหลี่ นายไม่ได้ขอคําแนะนําจากเทียนน้อยงั้นหรือ?” เย่ฉางดื่มไวน์องุ่น จากนั้นเขาก็พูดว่า “มันรสชาติแย่กว่าที่ฉันทําเสียอีก”

 

“…” พวกเขาทั้งสองหลั่งเหงื่อเย็นออกมาทันที เมื่อนึกถึงรสชาติของไวน์สังหารมังกรดํา

 

“ถ้าผมถามเทียนน้อย เธอจะต้องโกหกผมอย่างแน่นอน! ดังนั้นผมถึงไม่ต้องการฟังเธอ! พี่ใหญ่ขาว ผมฟังแต่พี่เท่านั้น! เทียนน้อยเป็นคนที่ชั่วร้ายมาก เธอมักจะโทษผม และทําให้พี่ไม่สามารถสัมผัสศพบอสได้อยู่หลายๆครั้ง เธอทําให้พี่พลาดโอกาสที่จะได้รับอุปกรณ์ระดับพระเจ้า” หลินหลีกอดเย่ฉางและพูดใส่ร้ายเย่เทียน เย่ฉางลูบหัวของเขาด้วยความรัก “แม้ว่าเทียนน้อยจะทรยศเราอยู่บ่อยครั้ง แต่เธอก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา เฮ้อ! หลินหลี่ นายยังเป็นคนที่เข้าใจฉันดีที่สุด”

 

“…” จางเจิ้งเฉียงส่ายหัว “เฮ้ๆ เพื่อน! จริงๆแล้วหากนายสังเกตดูให้ดีๆล่ะก็ นายจะพบว่าหลินหลี่เป็นผู้สัมผัสศพบอสทุกครั้ง และเขาก็แค่อยากใส่ร้ายเทียนน้อยเท่านั้น”

 

เจย์น่าถือไก่งวงย่าง ในขณะที่ตรวจสอบชายที่เป็นหัวหน้าสามพี่น้อง “จักรพรรดิขาว! หนึ่งในผู้เล่นระดับตํานานในโลกเสมือนจริง! มือของเขานั้นเป็นที่จดจําของคนทั้งยุโรป นี่คือเหตุผลที่สหภาพพันธมิตรเกลียดเขา”

 

“เกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้ฉันลองคิดดูก่อน..” เย่ฉางเข้าสู่โหมดคิดหนึ่งวินาที เจย์น่าจ้องมองเขาอย่างไม่กระพริบตา แต่เพียงแค่เสี้ยววิเขาก็ปรบมือ “ฉันมีความคิดดีๆแล้ว!”

 

เจย์น่าและอลิก้าตกตะลึง เร็วมาก!!

 

“เราสามารถแจกจ่ายบัตรพลเรือนในนามของกองทัพกบฏ เฉพาะผู้ที่มีบัตรนี้เท่านั้นถึงสามารถเข้าเมืองได้” เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เย่ฉางกล่าว จางเจิ้งเฉียงมีสีหน้าสงสัย “เฮ้ เพื่อน! นี่ไม่ใช่แผนการจากละครเรื่อง “ไดอารี่แปดปีแห่งการหลบหนีจากญี่ปุ่น” ที่สายลับผู้สวมเสื้อผ้าเวทมนตร์โบราณใช้เวลาเดินทางผ่านการต่อสู้มากมายหรอกหรือ?

 

“แล้วเราจะแจกจ่ายอย่างไร?”

 

“แน่นอนว่าถ้าใครอยากได้บัตรนี้ก็ต้องจ่ายเงิน! อีกทั้งบัตรนี้ยังมีหลายระดับ ยิ่งระดับสูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีสวัสดิการที่มากขึ้นเท่านั้น คนที่มีระดับบัตรพลเรือนสูงก็ยังสามารถเข้าร่วมกองทัพกบฏ และมีตําแหน่งในกองทัพได้ จากนั้นเราจะใช้พวกเขาเป็นทัพหน้าให้กับเรา และหากพวกเขาต้องการเข้าร่วมระดับที่สูงกว่า พวกเขาสามารถพิจารณาเข้าร่วมสมาคมเทพธิดาของเราได้ด้วยวิธีนี้เราสามารถหลอกเอาเงินของพวกเขาได้มากมาย” คําพูดของเย่ฉางทําให้เจย์น่าอ้าปากค้าง “ผู้ชายคนนี้เป็นคนโหดร้ายและหน้าเลือดมาก”

 

“พี่ใหญ่ขาวฉลาดที่สุดเลย!” หลินหลี่ยังคงชมเย่ฉางต่อไป

 

“แต่สมาคมเทพธิดาไม่” อลิก้าขมวดคิ้ว “ในประเทศจีน ทุกคนที่อยู่ในเมืองเทพธิดาจะได้รับพรของเทพธิดา! แต่มันใช้ไม่ได้กับที่นี่! ฉันไม่คิดว่ามันจะมีแรงจูงใจที่มากพอ”

 

“ไม่ต้องห่วง! ฉันมีเด็กในสังกัดที่แค่ก แค่ก ฉันหมายถึงฉันมีเทพธิดาที่สามารถมาที่นี่ได้ เรื่องนี้ปล่อยให้ฉันจัดการเอง” เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่ฉางพูด กรามของอลิก้าแลเจย์น่าหล่นลง “เขามีไพ่ลับอยู่ในมือสินะ – เขาสามารถอัญเชิญเทพธิดาได้!” อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเธอไม่ทราบก็คือว่า การอัญเชิญเทพธิดานั้นไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทําได้ง่ายๆ ในชีวิตจริงเทพธิดาไม่สามารถทําอะไรได้มากนัก!