ตอนที่ 806 โลกที่วุ่นวาย
เฮ่อหลานหยวนเป็นดั่งพระเจ้าของพวกเขา ถ้าเฮ่อหลานหยวนต้องการให้พวกเขายกชีวิตของตัวเองเป็นเครื่องสังเวย คนพวกนี้น่าจะยินดีทำตามโดยไม่รีรอ กลุ่มของซิงเหอรู้สึกขนลุกเมื่อได้เห็นความศรัทธาอย่างไม่ลืมหูลืมตาของเฮ่อหลานหลงและคนของเขาที่มีต่อเฮ่อหลานหยวน นี่ไม่ใช่เรื่องดีที่ได้รู้ว่าเฮ่อหลานหยวนนั้นมีบารมีมากถึงเพียงนี้
นั่นเป็นเพราะยังมีคนแบบเฮ่อหลานหลงอีกมากมายในโลกใบนี้ หากคนพวกคนนั้นหมดเริ่มสรรเสริญเฮ่อหลานหยวนแล้วละก็ เมื่อนั้นโลกคงได้ถึงจุดจบ ดังนั้นหลายประเทศจึงตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเฮ่อหลานหยวน
แต่กระนั้น การคาดเดาที่สาธารณะมีต่อเฮ่อหลานหยวนนั้นยังไม่จบ ถึงแม้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับเฮ่อหลานหยวนถูกปล่อยออกไปสู่สาธารณะเพียงเล็กน้อย ก็เริ่มมีการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่สนับสนุนเฮ่อหลานหยวนขึ้น วัตถุประสงค์ของคนพวกนี้คือยอมจำนนต่อเฮ่อหลานหยวนและยอมรับใช้เขาด้วยความภักดี
สรุปได้ว่าการปรากฏตัวของเฮ่อหลานหยวนได้สร้างความโกลาหลให้กับคนทั้งโลก อาจเป็นไปได้ว่าโลกที่สงบสุขใบนี้จะได้ต้อนรับอนาธิปไตยที่ไม่อาจคาดเดาได้ในอนาคต ผลที่ตามมาจะดีหรือร้าย ไม่มีใครบอกได้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้…
…
วันเวลาผ่านไปหลายวันนับตั้งแต่วันที่เฮ่อหลานหยวนออกมาประกาศตัวซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง มันได้เปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันของทุกคนไปด้วยเช่นกัน แต่กระนั้นกลับไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ดีเลยแม้แต่อย่างเดียว
โรงงาน โรงเรียน และบริษัทห้างร้าน… ทั้งหมดหยุดทำการ บนท้องถนนแทบจะไม่มีรถราสัญจรและแทบไม่มีใครเดินอยู่เลย เกือบทุกคนเลือกที่จะใช้ชีวิตหนึ่งเดือนสุดท้ายอยู่กับครอบครัวของพวกเขา
เหล่าคนไร้บ้านและอาชญากรเดินไปทั่ว ทำให้การเดินบนท้องถนนภายนอกเป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างมาก
อินเทอร์เน็ตกลับกลายเป็นสถานที่ที่แน่นขนัด ทุกวันจะมีคนจำนวนมากโพสต์วิธีในการพยายามติดต่อเฮ่อหลานหยวนหรือวิธีปกป้องตัวเอง หลายคนเปิดกลุ่มข้อความเพื่อรวบรวมคนที่สนับสนุนเฮ่อหลานหยวนและเพื่อสวามิภักดิ์ต่อเขา
กระนั้นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือในเวลาเพียงครึ่งวันหลังจากที่กลุ่มได้ถูกสร้างขึ้น ผู้คนนับล้านได้ลงทะเบียนและต้องการเป็นผู้ติดตามของเฮ่อหลานหยวน
ถ้าหากคนพวกนั้นเกิดรวมตัวกันขึ้นมา ผลลัพธ์ที่จะตามมานั้นคงเลวร้ายจนไม่อาจจินตนาการได้ ดังนั้นสหประชาชาติจึงต้องประชุมกันแทบจะทุกวันเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ และหารือถึงแนวทางที่จะก้าวผ่านวิกฤตการณ์ในคราวนี้ไป ทุกประเทศต่างยุ่งอยู่กับเรื่องนี้ทุกวัน แต่กระนั้นความพยายามเหล่านั้นกลับไร้ประโยชน์เพราะไม่ว่าพวกเขาจะพยายามระดมสมองเพียงใดก็ไม่อาจกำจัดดาวเทียมทั้งหมดที่อยู่บนอวกาศโดยไม่ให้เฮ่อหลานหยวนรู้ตัวได้
เวลาใกล้หมดลงไปทุกที หากยังไม่มีแนวทางแก้ไข พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการยอมจำนน กระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มองว่าการยอมตกอยู่ภายใต้การกดขี่ของเฮ่อหลานหยวนนั้นเป็นเรื่องดี
แต่ดูเหมือนว่าบางอย่างจะถูกกำหนดเอาไว้แล้วและไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยเวลาที่ล่วงเลยผ่านไป ผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มรู้สึกบีบคั้นด้วยความสิ้นหวัง…
แม้แต่ผู้นำของบางประเทศเริ่มที่จะยอมแพ้
ทว่ากลุ่มของซิงเหอซึ่งอยู่ที่ฐานปล่อยยานยังคงไม่ยอมแพ้ นับตั้งแต่วันที่แพร่ภาพ ทุกประเทศได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ที่เก่งที่สุดมาเพื่อทำการเจาะระบบคอมพิวเตอร์พวกนั้น ด้วยความหวังที่ว่าพวกเขาจะสามารถหาทางใช้ประโยชน์จากข้อมูลพวกนั้นได้
อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนใดสามารถสร้างความคืบหน้าได้เลย เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ภายในห้องนั้นถูกเชื่อมต่อกันไว้หมด
ตอนที่ 807 ความเชื่อมั่นเพียงหนึ่งเดียว
การแฮ็กซูเปอร์คอมพิวเตอร์สองเครื่องจะทำให้ระบบทำลายตัวเองแบบต่อเนื่องทำงานและลบข้อมูลทุกอย่างจนหมดสิ้น ถ้าแฮ็กคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในเวลาเดียวกันก็จะทำให้ระบบทำลายตัวเองทำงานเช่นกัน
สรุปได้ว่าการทำงานของระบบทำลายตัวเองในซูเปอร์คอมพิวเตอร์พวกนี้นั้นไร้เหตุผล มันพร้อมจะทำงานอยู่ตลอดเวลา มีเพียงการใส่รหัสผ่านที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะทำให้สามารถเปิดคอมพิวเตอร์พวกนี้ได้อย่างปลอดภัย กลุ่มของผู้เชี่ยวชาญไร้ประโยชน์เมื่อต้องเผชิญกับระบบป้องกันตัวเองที่บ้าบอเช่นนี้
พวกเขาทุกคนคิดว่านี่เป็นการออกแบบของเฮ่อหลานหยวน ถ้าเขาเป็นอัจฉริยะถึงขนาดนั้น งั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคิดสิ่งประดิษฐ์บ้าๆ ทั้งหมดที่เขาเคยประดิษฐ์มา โชคร้ายที่ความอัจฉริยะของเขาถูกนำไปใช้ในทางที่ชั่วร้าย หากมันถูกนำไปใช้ในทางที่ดี คงเกิดประโยชน์กับมวลมนุษยชาติอย่างมากมาย
อัจฉริยะที่ปัญหาด้านจิตใจแบบเขานั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง คนอย่างเขาอาจปรากฏเพียงไม่กี่คนในหน้าประวัติศาสตร์ คนพวกนี้หากไม่เป็นคนที่ช่วยขับเคลื่อนมนุษยชาติไปข้างหน้าก็จะกลายเป็นสร้างความโกลาหลอย่างหนักหนาให้กับโลกแทน
ดังนั้นหากเขาถูกปล่อยให้ครองโลกจริง โลกมนุษย์คงไม่เหลืออะไรเลย
อันที่จริง แม้ว่าจะโกรธและผิดหวัง แต่หลายคนกลับต้องการพบเฮ่อหลานหยวนตัวเป็นๆ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังอยากเรียนรู้จากเขา แต่กระนั้นเฮ่อหลานหยวนได้ถูกกำหนดว่าไว้เป็นศัตรูของพวกเขาและเป็นศัตรูของโลก อันที่จริงแล้วเขากลายเป็นศัตรูของโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
อย่าว่าแต่รับมือกับเฮ่อหลานหยวนแบบตัวต่อตัวเลย พวกเขาไม่อาจรับมือกับระบบที่เฮ่อหลานหยวนเป็นคนออกแบบได้ หลังจากใช้เวลาทำงานหนักเป็นระยะเวลานานระยะหนึ่ง เหล่าผู้เชี่ยวชาญก็จากไปพร้อมกับความผิดหวังอย่างมากเพราะพวกเขายังคงไม่อาจแฮ็กผ่านเข้าไปในระบบได้ ไม่มีใครอยากเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไปและตัดสินใจที่จะเอาพลังงานไปใช้กับสิ่งอื่นมากกว่า คนส่วนมากเลือกที่จะยอมแพ้ให้กับฐานปล่อยยานของตระกูลเฮ่อหลาน
ทั้งหมดยกเว้นกลุ่มของซิงเหอ…
ซิงเหอใช้เวลาตลอดช่วงที่ลืมตาตื่นไปกับการพยายามจัดการกับระบบวิกลจริตนี้ ภารกิจนี้เกือบจะครอบงำชีวิตเธอแล้ว หลังจากการทุ่มเททำงานอยู่หลายวัน เธอซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
มู่ไป๋และคนอื่นๆ ผลัดกันขอให้เธอไปพักผ่อนแต่คำแนะนำของพวกเขานั้นกลายเพียงลมผ่านหู ไม่มีใครสามารถหยุดซิงเหอได้หากเธอตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้ว เป้าหมายที่เธอทุ่มสุดตัวเพื่อแฮ็กผ่านระบบพวกนี้ไปให้ได้เพื่อเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเฮ่อหลานหยวน ทิฐิเพียงอย่างเดียวที่เธอมีคือการรับผิดชอบสิ่งที่เธอตัดสินใจแบกเอาไว้บนบ่าของตัวเอง
แต่กระนั้นมู่ไป๋และคนอื่นๆ ไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงได้ดื้อรั้นขนาดนี้ แม้แต่มู่ไป๋ที่คอยสนับสนุนทุกการตัดสินใจของซิงเหอก็ยังรู้สึกว่าการกระทำนี้กำลังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเธอซึ่งเขาได้ขีดเส้นกำหนดเอาไว้
มู่ไป๋ที่หมดความอดทนในที่สุดได้โผล่พรวดเข้าไปภายในห้องควบคุม เขาคว้าข้อมือของซิงเหอและกึ่งลากกึ่งดึงเธอออกมาจากห้อง
“คุณกำลังทำอะไร” ซิงเหอที่กำลังตกใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยใบหน้าขมวดย่น
ชายหนุ่มไม่ตอบมีเพียงแค่ความแข็งแกร่งของท่อนแขนที่กุมข้อมือของเธอและท่าทีเยือกเย็นที่แผ่รังสีความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาของซิงเหอมองไปรอบทางเดินอย่างรวดเร็วและดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะซิงเหอหยุดขัดขืนและปล่อยให้ตัวเองถูกลากตัวออกไป
เป็นไปตามที่คาด มู่ไป๋ดึงเธอมายังห้องของเธอ บนโต๊ะที่อยู่กลางห้องมีอาหารที่ดูน่ากินถูกวางเอาไว้ เขาพาเธอไปนั่งที่หน้าโต๊ะนั้นและออกคำสั่งอย่างจริงจัง “คุณต้องกินอาหารแล้วพักผ่อนหลังจากนั้น ห้ามทำอย่างอื่น และคืนนี้คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องนี้ คุณเข้าใจไหม”
ซิงเหอเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย เมื่อเธอเผยริมฝีปากเพื่อจะพูดอะไรบางอย่าง มู่ไป๋มองเธอด้วยสายตาคมกริบ