บทที่ 601 เรื่องราวของตัวละคร (8)
[กำแพงของบาอัล – ทำลายคฤหาสน์]
บาอัลปล่อยชินจงฮักและจินซาฮยอคไปข้างหลัง จินซาฮยอคกล่าวว่า อย่างมากที่สุดบาอัลน่าจะสร้างปราสาทปีศาจของและตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะหยุดเขา แต่ชินจงฮักนั่งอยู่ตรงมุมของคฤหาสน์ที่ถูกทำลายโดยไม่ขยับนิ้ว
หัวใจของเขาไม่ได้เต้นและร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ ด้วยภาพของปู่ที่เขาเคารพและชื่นชมแตกสลาย ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสีย ความรู้สึกว่างเปล่าไปหมด
“…โย่ เจ้าโง่ นายจะนั่งอยู่ตรงนั้นหรอ?”
จินซาฮยอคเรียกชินจงฮักอีกครั้ง อย่างไรก็ตามชินจงฮักไม่ได้ตอบสนองแม้แต่น้อยเลย
“หึ น่าสมเพช จริงๆเล้ยย ฉันไม่เคยเห็นใครที่น่าสมเพชแบบนี้มาก่อนเลย”
จินซาฮยอคเย้ยหยันอย่างเปิดเผย
“ เราพบเลดี้เซอรีนแล้ว! เธอปลอดภัยอยู่ภายในบังเกอร์ใต้ดิน!”
ในขณะนั้นเอง เสียงที่ฟังดูเร่งด่วนดังขึ้นนอกหน้าต่าง ชินจงฮักปิดตาอยากเพิกเฉยต่อทุกสิ่ง
“เปิดตาของนายเจ้าโง่”
“อ๊ากก!”
แต่จินซาฮยอคแทงดวงตาของชินจงฮักด้วยมือของเธอ หลังจากความเจ็บปวดนั้น ชินจงฮักก็ดวงตาเปิดออกและจ้องมองที่จินซาฮยอค
“เธอเป็นส่วนหนึ่งของ…ฮาา”
ชินจงฮักมักจะสาปแช่งและเหวี่ยงหอกของเขา แต่ชินจงฮักคนปัจจุบันถอนหายใจและล้มลงอย่างไร้หมดท่า
“.…เธอไม่เข้าใจ”
เขาพึมพำเมื่อนึกถึงอดีตของเขา
เหตุผลที่เขาต้องการเป็นวีรบุรุษนั้นเป็นเพราะปู่ของเขาคือชินมยองชุล เหตุผลที่เขาภูมิใจในตัวเองก็เพราะเขาเป็นทายาทของชายผู้ถูกยกย่องว่าเป็น วีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
“เธอไม่เข้าใจหรอกว่าฉันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร อะไรที่ฉันปรารถนา”
แต่ตำนานนั้นได้หายไปแล้ว ศรัทธาของเขาแตกสลายจากความจริงอันหนาวเหน็บ ซึ่งชินมยองชุลเป็นคนที่เชิญบาอัลเข้าสู่โลกของเขา
ตุบ-!
จินซาฮยอคเตะไหล่ของชินจงฮัก ชินจงฮักกล้มไปข้างหลังโดยไม่ร้องออกมา จากนั้นจินซาฮยอคก็กระเดาะลิ้นของเธอและพูดด้วยความหงุดหงิด
“เขาเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดในบรรดาคนโง่ที่เรียกตัวเองว่าเป็นวีรบุรุษ”
“…?”
“คุณปู่ของนาย ฉันเคยเจอเขามาก่อนในขณะที่ฉันกำลังเดินทางกับเบลล์”
“…อะไรนะ?”
สีหน้าของชินจงฮักแข็งตัวราวกับถามว่า ทำไมเธอไม่เคยพูดถึงมันมาจนถึงตอนนี้? จินซาฮยอคมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพูดต่อ
“ชินมยองชุลเสี่ยงชีวิตเพื่อแก้ไขความผิดพลาด นั่นหมายความว่าเขามีคุณสมบัติของวีรบุรุษ”
คลื้นนน—! จากนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อยที่กำแพง คิ้วของจินซาฮยอคเลิกขึ้นเมื่อเธอเห็นมัน เธอพูดต่อเมื่อเธอสังเกตกำแพง
“ลุกขึ้นไปสู้ได้แล้ว เบลล์ไม่ได้บอกนายเหรอ? ชินมยองชุลทิ้งบางอย่างไว้ให้นาย เบลล์ไม่ใช่คนโกหกนะย่ะ”
คลื้นนน!! การสั่นสะเทือนขยายใหญ่ขึ้นและรอยร้าวเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นที่กำแพงของบาอัล มีใครบางคนกำลังพยายามที่จะบุกเข้ามาอย่างชัดเจน
จินซาฮยอคเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าใครที่เป็นคนทำ
“ถ้านายยังอยากนั่งอยู่ที่นี่ก็….”
เธอยิ้มเยาะและดูถูกชินจงฮัก
“งั้นก็ตามใจ ทำให้ชื่อของคุณปู่นายเสื่อมเสียตามที่นายต้องการเถอะ คนที่ยิ่งใหญ่กว่านายเพิ่งมาถึงนี้เอง คนอย่างนายมันไม่จำเป็นหรอก”
“…อะไรนะ?’
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ใบหน้าของชินจงฮักก็บิดเบี้ยว รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของจินซาฮยอค ขณะที่เธอจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งกระตุ้นชินจงฮักให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นเขาเห็นมันเอง
เพล้งงง-!!!
เสียงแตกร้าวที่ปรากฏบนกำแพงของบาอัล
“….”
ไหล่ของชินจงฮักเกร็งขึ้นทันที จินซาฮยอคสังเกตรอยแตกอย่างต่อเนื่องในขณะที่เธอพึมพำ
“…ดูสิ เขายังมีชีวิตอยู่เหมือนแมลงสาบและคลานกลับมาเสมอเลยแหะ”
ตู้มมม-!
เสียงดังก้องไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งของกำแพงร่วงลงและมีชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากซากปรักหักพัง
“คนอย่างนั้นยอดเยี่ยมมาก”
คิมฮาจิน
ข้างๆเขาเป็นกองทัพอัศวิน แม้แต่ชินจงฮักก็ต้องยอมรับว่าจังหวะที่เขากำลังเข้ากำแพงมานั้น…โครตเท่ห์
“…โกหก!”
ชินจงฮักตะคอก เขารู้สึกไม่สบายที่หน้าอก เขารู้ว่ามันมาจากความไม่พอใจของคิมฮาจิน และข้างในของเขาที่ถูกเผาไหม้ด้วยความสิ้นหวังและหมดหนทางอย่างสมบูรณ์
“เขาดูไม่ดีไม่ว่าเขาจะทำอะไรเลย”
ชินจงฮักหัวเราะอยู่ข้างใน เพราะเขาเห็นได้ชัดว่าตัวเขาเองอิจฉา ใช่ เขาอิจฉา หลังจากหลายปีมานี้ ในที่สุดเขาก็ยอมรับความรู้สึกนี้ ท้ายที่สุดแล้วเบลล์ไม่ได้พูดว่าชินมยองชุลเป็นบุคคลที่น่าอิจฉาเช่นกันหรอ?
ตอนนี้เขารู้ว่าปู่ของเขาเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง เขารู้สึกเหมือนในที่สุดเขาก็สามารถวางทัศนคติที่หยิ่งยโสและยิ่งใหญ่ของเขาได้เสียที
“ทำไม?”
จินซาฮยอคถามด้วยรอยยิ้มที่ซุกซน
“…นายไม่สามารถบอกได้จากใบหน้าที่ดูธรรมดาของเขาหรอ?”
ชินจงฮักหัวเราะเยาะ ความรู้สึกที่เขาไม่เคยยอมรับ ความรู้สึกที่ทำให้เขาอยู่ในระดับปัจจุบัน อิจฉาและหึงหวง
“เขาดูดีไม่เท่าฉันหรอก”
หลังจากยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นอย่างสุดใจ เขาก็หยิบหอกผู้พิชิตของเขาขึ้นมา