บทที่ 6 บทที่ 28 เซวียนหยวน

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

หอกยาวสีแดงในมือของคุกเพิ่งเปิดเผยรูปร่างออกมา ความรู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มแทงก็ปรากฏขึ้นบนผิวของเธอ แม้ทั้งสองจะอยู่ห่างกันสักระยะ แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความแหลมคมของหอกยาวสีแดงได้อย่างชัดเจน 

 

 

คนธรรมดานั้นยากที่จะต่อสู้กับปีศาจได้ แต่คนในยุคปัจจุบันมีอาวุธที่สามารถทำร้ายปีศาจได้…แต่คนที่ถืออาวุธประหลาดเหล่านี้ก็ไม่ถือว่าเป็นภัยต่อปีศาจ 

 

 

 “เจ้าไม่ใช่คนบนแผ่นดินเทพ” ซูจื่อจวินหรี่ตาและพูดขึ้นว่า “แต่ข้ารู้ว่าเจ้ามาจากสถานที่ที่เรียกว่าสมาคม”  

 

 

คุกขมวดคิ้ว แต่ก็พูดขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงของทางตะวันออกจะรู้ที่อยู่ของพวกเราด้วย” 

 

 

ซูจื่อจวินเอ่ย “ข้าก็มีแหล่งข่าวของข้า…เจ้าคิดว่าสิ่งลึกลับที่สุดเป็นสมาคมพังๆ ของพวกเจ้าเท่านั้นหรือ?” 

 

 

แน่นอน…ข่าวนี้ไม่ได้มาฟรีๆ 

 

 

นี่เป็นข่าวที่ใช้วิญญาณปีศาจสองพันดวงซื้อมา 

 

 

 “ทางตะวันออกของพวกคุณมีคำพูดว่า พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์” คุกขยับหอกแห่งความตายในมือ พร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า “คู่หูของผมไม่เคยดื่มเลือดของปีศาจเฒ่าทางตะวันออกมาก่อน!” 

 

 

หอกแห่งความตายกวาดลงบนพื้น แสงสีทองสายหนึ่งไถลไปตามพื้นพุ่งเข้าไปใส่ซูจื่อจวิน ทว่าเธอก็ใช้กำแพงพลังปีศาจต้านทานอย่างไม่ลนลาน 

 

 

เธอสามารถดูแคลนคุกได้ แต่ไม่สามารถดูแคลนอาวุธแปลกประหลาดในมือของคุกได้…หอกแห่งความตายเล่มนี้แผ่กระจายไอสังหารออกมาตลอดเวลา 

 

 

หอกมารที่ดื่มเลือดผู้แข็งแกร่งมานับไม่ถ้วนจนมีชีวิตเล่มนี้…ดูเหมือนจะมีความคิดเป็นของตัวมันเอง  

 

 

นี่ทำให้ซูจื่อจวินคิดไปถึงวิธีของพวกนักพรตในแผ่นดินเทพโบราณ ในยุคโบราณปีศาจกับนักพรตนั้นเป็นศัตรูกัน นักพรตในแผ่นดินเทพเคยสร้างอาวุธอันแข็งแกร่งขึ้นมาเพื่อใช้ต่อกรกับปีศาจ 

 

 

พวกเขาเรียกอาวุธเหล่านั้นว่า อาวุธเทพ 

 

 

คุกเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าความเร็วคือเหตุแห่งชัยชนะ เมื่อเขาพบโอกาสก็จับหอกแห่งความตายพุ่งไปด้านหน้า ทั้งตัวพุ่งเข้าไปหาซูจื่อจวินอย่างรวดเร็วเหมือนเสือดาว 

 

 

หอกแห่งความตายในมือของเขาก็แทงออกไป พร้อมกับสร้างบรรยากาศให้ดูเหมือนกับกำลังต่อกรกับกองทัพอันแข็งแกร่ง  

 

 

ซูจื่อจวินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของนักรบบนตัวคุก เธอรู้ข้อมูลเกี่ยวกับหอกแห่งความตายเล่มนี้ ดังนั้นจึงไม่กล้าดูแคลน พลังปีศาจสีแดงไหลลงมาที่สองมือของเธออย่างรวดเร็วและกลายเป็นกระบี่สีแดงดุจสีเลือดทั้งสองข้าง 

 

 

เท้าเปล่าไถลไปตามพื้นสองสามฟุตและร่างของซูจื่อจวินก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าของหอกแห่งความตาย กระบี่สีแดงเลือดฉายแวววาววาบขวางการโจมตีของคุกได้ในพริบตา  

 

 

และในขณะเดียวกันกระบี่สีแดงเลือดที่ขวางหอกแห่งความตายก็แตกสลายไป 

 

 

แต่ซูจื่อจวินก็ไม่ลุกลน เธอย่อตัวลงแทงกระบี่สีแดงในอีกมือออกไปอย่างรุนแรง ถือเป็นการต้านทานและโจมตีกลับที่เยี่ยมยอด! 

 

 

แต่คุกอยู่ร่วมกับหอกแห่งความตายมานานหลายปี และได้รับทักษะมาจากสถานที่อันลึกลับ เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็บิดตัวหลบในพริบตา กระบี่สีแดงเลือดจึงผ่านเอวของเขาไป 

 

 

เขาใช้เท้าเตะปลายหอกแห่งความตายให้ปลายหอกพุ่งเข้าชนหน้าอกของซูจื่อจวิน 

 

 

เคล้ง! 

 

 

กระบี่ปีศาจกับหอกแห่งความตายปะทะกัน กระบี่ก็แตกกระจายในพริบตา ซูจื่อจวินสะกิดสองเท้าเล็กน้อยถอยหลังออกไปสามเมตร 

 

 

การปะทะครั้งนี้เป็นเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น แต่ยังอยู่ในช่วงทดสอบฝีมือของแต่ละฝ่าย 

 

 

ซูจื่อจวินยิ้มและพูดว่า “หอกไม่เลวเลยนี่ เป็นอาวุธเทพของจริงได้เลย” 

 

 

คุกไม่มีอารมณ์มาพูดเล่น กุมหอกแห่งความตายในมือแน่น…จนมือของเขาเริ่มชาแล้ว “มาอีก!” 

 

 

ปัง ปัง ปัง 

 

 

กระแสพลังไร้รูปเริ่มกระจายตัวเต็มไปทั้งถ้ำ…ที่นี่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่น ดังนั้นสิ่งเดียวที่อธิบายความรุนแรงของกระแสพลังไร้รูปเหล่านี้ได้ก็คือเสียงหวีดหวิวของลมภายในถ้ำ! 

 

 

เซียงหลิ่วฉวยโอกาสที่คุกกำลังถ่วงเวลาซูจื่อจวินลอบออกห่างจากสถานที่ต่อสู้ แม้จะออกมาไกลแล้ว แต่เซียงหลิ่วยังสัมผัสได้ถึงความรุนแรงของการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่าย 

 

 

 “สมาคมมีนักรบเทพทั้งหมดสิบสองคน คุกก็เป็นหนึ่งในนั้น อาศัยเพียงหอกมารประหลาดที่มีที่มาไม่ชัดเจนเล่มหนึ่งก็สามารถต้านทานซูจื่อจวินได้ถึงระดับนี้…” 

 

 

เซียงหลิ่วมีความคิดของตนเอง…เขากับสมาคมเบื้องหลังของคุกมีความสัมพันธ์กันเพียงชั่วคราวเท่านั้น เป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือทำให้ตนเองทะลวงขอบเขตถึงขีดสุดกลายเป็นปีศาจเฒ่าที่แท้จริง! 

 

 

อาศัยความพิเศษของเผ่าเซียงหลิ่ว เพียงแต่ได้เป็นปีศาจเฒ่าก็จะมีพละกำลังที่ไร้เทียมทาน ในสถานการณ์ที่พลังวิญญาณในแผ่นดินเทพเบาบางเช่นนี้ สำหรับสายเลือดของเซียงหลิ่วที่ไม่ต้องพึ่งพาพลังวิญญาณมากนักอาจจะต่อกรกับมังกรสายเลือดแท้ของแผ่นดินเทพตัวสุดท้ายอย่างหลงซีรั่วได้ 

 

 

ส่วนสมาคม? 

 

 

สำหรับเซียงหลิ่วแล้วก็เป็นเพียงแค่บันไดเอาไว้เหยียบข้ามไปก็เท่านั้น 

 

 

เซียงหลิ่วยิ้มเยาะ หันหลังกลับ หัวของเขาขยาย…กลายเป็นหัวงูขนาดใหญ่ 

 

 

จากนั้นคอของเขาก็บวม ของบางอย่างกำลังถูกคายออกมา! 

 

 

เห็นเพียงก้อนเนื้อขนาดใหญ่ก้อนหนึ่งถูกคายออกมาจากปากของเซียงหลิ่ว ตกลงพื้นและค่อยๆ คลาน…นี่ถึงเป็นของสำคัญในการคลายผนึก! 

 

 

ตอนนี้ก้อนเนื้อน่าเกลียดเริ่มยื่นบางอย่างที่ดูคลายหนวดออกมาและแทงลงไปในดิน!  

 

 

เซียงหลิ่วยิ้มเยาะ ส่วนหัวกลับคืนสู่สภาพเดิม เช็ดของเหลวบนริมฝีปาก จากนั้นก็ไปยังสถานที่ที่ซูจื่อจวินและคุกต่อสู้กัน 

 

 

ขณะที่ยังไกลอยู่ก็ตะโกนเสียงดังว่า “คุก! ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว! หลังจัดการซูจื่อจวินเสร็จแล้ว พวกเราค่อยเริ่มกัดกร่อนผนึก!” 

 

 

คุกรู้สึกสงสัยอยู่ในใจแต่ก็ไม่ได้พูดมาก…ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับ เพียงแต่ขยับร่ายรำหอกแห่งความตายในมือจนเกิดแสงสีทองรอบกาย! 

 

 

ซูจื่อจวินปลายตามองเซียงหลิ่วแวบหนึ่งและสบถออกมา เปลี่ยนการโจมตีคุกเป็นโจมตีไปที่เซียงหลิ่วในพริบตา “เจ้าคิดจะตาย ข้าก็จะฆ่าเจ้าก่อน!” 

 

 

เซียงหลิ่วกลับหัวเราะดังขึ้นมาและพูดว่า “องค์หญิง ท่านทั้งต้องคุ้มครองไม่ให้ผนึกอันนี้ถูกทำลายทั้งยังต้องต่อสู้กับพวกเราสองคน…ท่านสามารถจัดการได้งั้นหรือ?” 

 

 

ต่อสู้อยู่ในถ้ำแห่งนี้มานาน แต่เหตุใดถ้ำจึงยังไม่พังทลายอีก? นั่นก็เพราะซูจื่อจวินแบ่งใจออกไปคุ้มครองในระหว่างที่ต่อสู้ไปด้วย! 

 

 

 “พวกเราไม่มีอะไรต้องพะวง! แต่เจ้าต้องคอยระวังอยู่ตลอด! พลังปีศาจแข็งแกร่งแค่ไหนจะมีประโยชน์อะไร?” เซียงหลิ่วยิ้มเยาะ ใช้หมัดชกเข้าที่พื้นถ้ำอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าคิดว่าหายดีมีพลังแข็งแกร่งแล้วไม่ต้องหวาดเกรงต่ออะไรงั้นหรือ คงคิดไม่ถึงว่าจะทำร้ายตัวเองสินะ?” 

 

 

ซูจื่อจวินนิ่งเงียบไม่พูดจา ได้แต่ใช้พลังปีศาจต้านทานพลังของเซียงหลิ่วที่จะทำลายถ้ำ  

 

 

เซียงหลิ่วหรี่ตาลง “องค์หญิงคงไม่ได้คิดว่า สถานที่แห่งนี้ลึกลับเหมาะสำหรับการต่อสู้ ไม่ต้องเปิดเผยตัวต่อหน้ามนุษย์ใช่ไหม? ฮา ฮา ฮา! ดังนั้นข้าถึงบอกไงว่าเผ่าปีศาจตกต่ำมาจนถึงขั้นนี้แล้ว! เพียงแค่ความสนใจของมนุษย์ก็ให้องค์หญิงผู้สูงศักดิ์หวาดเกรงได้…น่าหดหู่ใจจริงๆ! เผ่าปีศาจต้องเป็นเจ้าของโลกใบนี้ถึงจะถูก!” 

 

 

ซูจื่อจวินสบถออกมา “เช่นนี้ไง ข้าถึงได้เกลียดพวกหัวรุนแรงแบบพวกเจ้า วันๆ คิดแต่จะสร้างเรื่อง ไม่เคยคิดถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดมนุษย์ถึงได้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงวันนี้ และทำไมเผ่าปีศาจถึงได้ตกต่ำอ่อนแอลง” 

 

 

ขณะที่ซูจื่อจวินกับเซียงหลิ่วกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น ก็มีแสงสีทองยิงเข้ามาที่ด้านหลังของซูจื่อจวิน เหมือนร่างกายสีแดงถูกเปลวไฟสีทองห่อหุ้มเอาไว้! 

 

 

นี่เป็นโอกาสดีที่คุกจะโจมตีอย่างเต็มที่…เจาะ! ความสามารถพิเศษของหอกแห่งความตายคือการเจาะหัวใจของศัตรู! 

 

 

หอกแห่งความตายแทงทะลุเกราะป้องกันที่สร้างจากพลังปีศาจรอบกายของซูจื่อจวินได้อย่างง่ายดาย! 

 

 

เพียงพริบตาที่จะถูกมันแทงหัวใจ ดวงตาของซูจื่อจวินก็แดงก่ำถึงขีดสุด ได้ยินเพียงเสียงกัดฟันของเธอ! 

 

 

 “เก้าแผ่นดิน*…เซวียนหยวน!” 

 

 

ภายในถ้ำเกิดแสงสีสันเปล่งประกายปกคลุมสายตา! 

 

 

เกิดเสียงดังสนั่น! 

 

 

บึม! 

 

 

… 

 

 

เงาร่างเพรียวที่กำลังว่ายไปท่ามกลางลาวาสีแดงหยุดลงกะทันหัน…เป็นหลงซีรั่วที่กำลังค้นหาสาเหตุที่เส้นสายพลังวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลง 

 

 

ตอนนี้หลงซีรั่วละทิ้งการไล่ตามหาร่องรอยของความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน และพุ่งทะลวงออกไปจากลาวา  

 

 

 “เจ้าโง่ ใช่ร่างของผีดิบเรียกมันออกมา…คิดจะตายงั้นหรือ!” 

 

 

หลงซีรั่วยื่นนิ้วมือเข้าไปในปากของตนเองแล้วกัด เลือดสีแดงเหลือบทองไหลออกมาจากมือของเธอ รวมตัวกันเป็นรูปแบบอันแปลกประหลาด…เหมือนอักษรเวทมนตร์ 

 

 

วิชาลับของมังกร…ทะลวงขอบฟ้า!** 

 

 

… 

 

 

… 

 

 

จุดผนึกแห่งที่สาม 

 

 

ลั่วชิวได้ยินเสียงครวญครางของมัน…เส้นสายพลังวิญญาณบริเวณที่เขาอยู่เริ่มไหลอย่างบ้าคลั่ง 

 

 

ทำให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกที่มันปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง 

 

 

ลั่วชิวเหมือนได้ยินมันกำลังถามว่า ทำไมจึงต้องทำลายแผ่นดินนี้ด้วย? 

 

 

ทำไม? 

 

 

จุดสิ้นสุดของเส้นสายพลังวิญญาณ…บริเวณที่ลั่วชิวอยู่ขณะนี้ แสงก้อนหนึ่งเริ่มรวมตัวกันขึ้นต่อหน้าเขา 

 

 

ก้อนแสงนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มาก สุดท้ายก็กลายเป็นรูปร่างคนสูงพอๆ กันกับลั่วชิว ดูคล้ายเด็กคนหนึ่ง มันไม่มีใบหน้ามีเพียงดวงตาสีทองคู่หนึ่ง  

 

 

มันเอ่ยปากพูดภาษามนุษย์ 

 

 

 “หรือการได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ การคงอยู่และการหลงเหลือความทรงจำของตนเองไว้ที่นี่ไม่เพียงพออย่างนั้นหรือ? ทำไมยังต้องทำลายมันอีก?” 

 

 

 “คนหนึ่งชีวิต ปีศาจหนึ่งชีวิต ดอกไม้ใบหญ้า ต้นไม้ หมู่ปลา…เพื่ออะไรกัน?” 

 

 

 “ข้าไม่รู้…ว่านี่คือความรู้สึกอย่างไร” 

 

 

ดวงตาสีทองหลั่งน้ำตาสีทองลงมา มันเข้ามาใกล้ลั่วชิวและพูดอย่างโศกเศร้าว่า “เจ้าหยุดยั้งทุกอย่างได้ไหม? ข้าไม่อยากมองเห็นบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ข้าเฝ้ามองมาตลอดเหล่านี้หายไปต่อหน้าข้า ถ้าหากข้าเป็นเหตุให้มันพังทลายแล้วละก็ ข้าไม่ขออยู่ต่อไปจะดีกว่า” 

 

 

ความโศกเศร้าของเส้นสายพลังวิญญาณ 

 

 

แต่บรรดาผู้อาศัยกลับไม่ได้ยินเสียงร่ำร้องของแผ่นดิน 

 

 

พวกมันดังขึ้นข้างหูของลั่วชิวเหมือนกับสายลมหวิว 

 

 

หัวใจบริสุทธิ์ไม่มีความคิดแก่งแย่งชิงดีปะปน ไม่เคยมีความโกรธเกลียดหรือความชั่วร้ายแฝงอยู่เลย 

 

 

นี่เป็นเพียงความคิดขาวสะอาดเหมือนน้ำใส…มันหวังเพียงจะปกป้องแผ่นดินที่ให้กำเนิดมันออกมาเท่านั้น 

 

 

มันมอบที่อยู่อาศัยและที่พักผ่อนหย่อนใจให้สิ่งมีชีวิต ให้พื้นที่สำหรับสิ่งมีชีวิตได้สืบทอดต่อกันชั่วลูกชั่วหลาน แต่ก็ยังต้องทนทุกข์ทรมานจากการทำลายของสิ่งมีชีวิต…ส่วนตอนนี้ก็ยังต้องการที่จะหยุดสิ่งเหล่านี้อีก 

 

 

ลั่วชิวยิ้ม ยื่นมือออกไปคว้ามือของมันขึ้นมา “ไม่กลัวผมงั้นหรือครับ?” 

 

 

มันส่ายหน้า สายตาดูแน่วแน่ มันรู้ว่าคืออะไร 

 

 

ลั่วชิวพูดว่า “คุณเป็นลูกค้าบริสุทธิ์ไร้ความเห็นแก่ตัวมากที่สุดที่ผมเคยพบ ผมรับความปรารถนาของคุณเอาไว้แล้ว” 

 

 

 

 

 

*เก้าแผ่นดิน คือชื่อของแผ่นดินจีนในบทกวี 

 

 

**ทะลวงขอบฟ้า คือวิชาลับของมังกรใช้เคลื่อนที่ไปที่ไกลได้ในพริบตา