ตอนที่ 544 แต่งงานกับผมนะ
อวิ๋นเซินคิดถึงที่สองพ่อลูกทุ่มเททำงานให้สกุลอวิ๋นมาไม่น้อยจึงอนุญาต ยังยกบ้านที่ว่างหลังหนึ่งให้ พร้อมกับสะสางเงินเดือนของพวกเขา มอบเงินให้ก้อนหนึ่ง พอที่จะให้สองพ่อลูกใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสุขสบาย
พอเขามีทั้งบ้านและเงิน จึงมาหาฝานเจียวเจียวทันที เขาอยากให้คำมั่นสัญญาต่อเธอ เป็นคำมั่นสัญญาที่มีความสุข แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการ
“ไล่ไป! คางคกคิดจะกินเนื้อห่านฟ้า! จะให้เจียวเจียวแต่งงานกับคนอย่างนั้นได้ยังไง ถ้าเขาหวังดีกับเจียวเจียวจริง ก็อย่ามารบกวนเธออีก”
คุณนายฝานเกลียดเขามาก อ้างชื่อฝานเจียวเจียวบอกให้ฝ่ายนั้นเลิกมาตอแยเธอ
พ่อบ้านพยักหน้า “ครับ ผมจะไปจัดการ” แล้วปิดประตูผละออกไป
ว่าไปแล้วคำพูดนางได้ผล พอฝ่ายชายได้ฟังก็นิ่งคิดราวยี่สิบนาที แล้วจึงเหลือบมองประตูบ้านสกุลฝานด้วยความอาลัยอาวรณ์ จากนั้นจึงหันหลังกลับแล้วจากไป
ทางด้านอีลั่วเสวี่ย
“เป็นไงบ้าง ยายแก่นั่นไม่ได้ข่มเหงลูกใช่ไหม” อวิ๋นเว่ยลุกขึ้นเมื่อเห็นอีลั่วเสวี่ยเดินมาแต่ไกล เดินก้าวพรวดๆ มาหาเธอ
อีลั่วเสวี่ยไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี พ่อเลี้ยงของเธอคนนี้ รับมือยากขึ้นทุกที ได้พบเห็นด้านที่ไม่มีใครรู้ของเขามากขึ้น
“ข่มเหงลูกหรือ คนที่กล้าข่มเหงลูก โลกนี้ยังไม่เกิดเลยค่ะ” อีลั่วเสวี่ยสีหน้าสดใส
ความจริงก็เป็นเช่นนี้ ใครข่มเหงเธอต้องจ่ายค่าตอบแทน คนที่ข่มเหงเธอแล้วยังคงอยู่สุขสบายดี จนเดี๋ยวนี้ยังไม่มีสักคน
อวิ๋นเว่ยคลายความกังวลเมื่อเห็นท่าทางซุกซนของเธอ “งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดีแล้ว”
ถ้าบังอาจข่มเหงลูกสาวเขา เขาไม่สนใจว่าสกุลฝานจะเป็นญาติใกล้ชิดกับสกุลอวิ๋นหรือไม่ เขาย่อมไม่ปล่อยแน่
“เสวี่ยเอ๋อ ลูกเล่าให้พ่อฟังหน่อย ลูกทำอย่างไรถึงจัดการกับคุณนายฝานได้เร็วอย่างนี้?” บอกตามตรงเขารู้จักผู้หญิงคนนี้ดี นางไม่ใช่คนที่จะสลัดพ้นไปได้ง่ายๆ
อีลั่วเสวี่ยพยักหน้าแล้วนั่งลง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอทุกคนฟังจบก็พากันยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น “เสวี่ยเอ๋อ ลูกเก่งมาก!”
พวกเขาพอนึกภาพออก คุณนายฝานสีหน้าโกรธจัดแต่ไม่รู้จะรับมืออย่างไร นึกแล้วก็หายโมโห!
“ธรรมดา ธรรมดา ทกคนอย่าชมเกินไป จะเหลิงได้ง่ายค่ะ” อีลั่วเสวี่ยฉีกยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาว รอยยิ้มที่ใสบริสุทธิ์ของเธอดูมีเสน่ห์
เรื่องนี้จึงลงไปตอนหนึ่ง หลังจากนั้นสกุลฝานรู้ว่าสกุลอวิ๋นเลิกยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาแล้ว จึงไม่มาหาอีก เพราะอย่างไรพวกเขาก็ต้องรักษาหน้า จะให้มาง้อ พวกเขาไม่ยอมเสียหน้าลดตัวลงมา
ในเรือนนอกที่เงียบสงบ หลังจากที่ทั้งคู่ผ่านเรื่องที่เร่าร้อนแล้ว ต่างซบไหล่กัน แล้วเปิดดูทีวีคร่าเวลา
ขณะนี้ในทีวีกำลังฉายตอนจบของซีรี่เรื่องหนึ่ง พระเอกถือดอกไม้และแหวนไว้ คุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้านางเอก ท่ามกลางเสียงอวยพรของคนรอบข้าง
“แต่งงานกับผมเถอะ ผมจะดีต่อคุณไปชั่วชีวิต”
ขณะที่คนอื่นๆ พากันตะโกนว่าแต่งกับเขา แต่งกับเขา เป็นฉากที่โรแมนติกมาก ส่วนนางเอกยื่นมือออกไปอย่างขวยเขิน การขอแต่งงานประสบความสำเร็จ
จากนั้นนางเอกก็ถูกพระเอกกอดและจุมพิต จบอย่างมีความสุข
ถึงตอนนี้เฉวียนหมิงชำเลืองมองมา พลางกอดอีลั่วเสวี่ยไว้แน่น “อาเสวี่ย แต่งงานกับผมเถอะ”
อีลั่วเสวี่ยทำตาเหลือก “พูดราวกับว่าเราสองคนยังไม่ได้แต่งงานกัน” ยังจะเอาอย่างในทีวี อายุเท่าไรแล้ว เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่เด็กสาวแล้ว
ตอนที่ 545 ผมยังติดค้างงานแต่งงานกับคุณ
“แต่ผมยังติดค้างงานแต่งงานกับคุณ อาเสวี่ย เราแต่งงานกันเถอะ” น้ำเสียงและแววตาเฉวียนหมิงจริงจังมาก
พออีลั่วเสวี่ยได้ยินก็ชะงักเล็กน้อย ที่พูดก็ใช่ ตอนนั้นที่จดทะเบียนสมรสเธอยังไม่ได้อยู่กับเฉวียนหมิง เป็นเหล่าเกาที่ช่วยจัดการขั้นตอนทั้งหมด
อาจพูดได้ว่าเธอถูกบังคับให้แต่งงาน ต่อมาได้มาอยู่ที่คฤหาสน์ของเฉวียนหมิง ดังนั้นจึงไม่มีความรู้สึกต่อเฉวียนหมิง ภายหลังถูกคนอื่นยุแหย่ จนเกือบทำผิดร้ายแรง เพราะเรื่องนี้ทำให้เธอเสียชีวิต
“อาเสวี่ย คุณไม่ยินดีหรือ?” เขาเห็นอีลั่วเสวี่ยเหมือนครุ่นคิด ทำให้เขารู้สึกเครียด
หรือว่าเธอนึกถึงเรื่องในอดีต แล้วเริ่มนึกหึงคนคนนั้น เฉวียนหมิงคิดว่าอีลั่วเสวี่ยกำลังหึงเจ้าของร่างเดิม
อีลั่วเสวี่ยสั่นหัว “ไม่ใช่ไม่ยินดี งานแต่งงานเป็นเพียงรูปแบบเท่านั้น ที่สำคัญที่สุดคือฉันรู้ว่าในใจคุณมีเพียงฉันเท่านั้นก็พอแล้ว” ในโลกของพวกเขา การแต่งงานเป็นเพียงรูปแบบเท่านั้น
มีคนไม่น้อยที่ให้ฟ้าดินเป็นสักขีพยานก็กลายเป็นผัวเมียกัน เรื่องแบบนี้มีไม่น้อย แต่ว่าคนเรามีทัศนคิตต่างกัน ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน
“แต่ว่าอาเสวี่ย ผมอยากประกาศให้โลกรู้ว่าผมรักคุณ ผมอยากจัดงานแต่งงานที่ดีที่สุดให้คุณ คุณอาจจะไม่เข้าใจ การแต่งงานไม่ใช่เพียงแต่แสดงว่าผมจริงใจค่อคุณ ผูหญิงคนหนึ่งชั่วชีวิตจะมีได้แค่ครั้งเดียว ผมจะไม่ทำให้คุณน้อยหน้าใคร”
เธอไม่ยินยอม แต่อย่างไรเขาก็ติดค้างงานแต่งงานต่อเธอ คนเราควรจะสมบูรณ์แบบ ที่เขาจะมอบให้เธอได้คืองานแต่งงาน เพราะจดทะเบียนสมรสไปก่อนแล้ว
นี่คือสิ่งที่เขาอยากทำกับเธอ เป็นเธอ อีลั่วเสวี่ยและเป็นมั่วเสี่ยวชิงด้วย
อีลั่วเสวี่ยเผยอปากขึ้นเมื่อเห็นแววตาที่จริงจังของเฉวียนหมิง เธอรู้สึกถึงไออุ่นในหัวใจ แล้วพยักหน้าแรงๆ “ค่ะ แล้วแต่คุณเลย แต่ว่าตอนนี้คงไม่ใช่แค่เราสองคนตกลงก็ได้แล้วใช่ไหม?”
เวลานี้ทั้งคู่มีญาติทั้งสองฝ่ายแล้ว เรื่องใหญ่เช่นนี้ควรจะปรึกษากับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาคงเห็นด้วยแน่นอน
“แน่นอน พรุ่งนี้ผมจะไปปรึกษากับพ่อและปู่ วางใจเถอะ” เฉวียนหมิงพูกแล้วก้มหน้าลงจูบเส้นผมเธอ
อีลั่วเสวี่ยยิ้มอย่างอ่อนหวานทันที ซบศีรษะลงบนไหล่ที่แข็งแรงของเฉวียนหมิง แล้วหลับไป
เฉวียนหมิงมองดูใบหน้าที่สงบนิ่งดูมีความสุขขณะที่หลับของหญิงที่ตนรัก รู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง มองเธอด้วยความอบอุ่นใจ จากนั้นค่อยๆ หลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น
“อะไรนะ? จัดงานแต่งงาน เจ้าหนุ่ม ก่อนหน้านี้ถึงกับดูถูกเสวี่ยเอ๋อแบบนี้!” อวิ๋นเว่ยโมโหมากเมื่อได้ยินว่าก่อนนี้ไม่ได้จัดงานแต่งงาน เพียงแต่แต่งงานกันเงียบๆ พอรู้เรื่องนี้ก็ยืนขึ้นทันที
ท่าทางอวิ๋นเว่ยโกรธจัด ราวกับอยากเล่นงานเฉวียนหมิงสักยกจึงจะหายโมโห
เฉวียนหมิงรู้สึกจนใจ ตอนนั้นคิดหาวิธีให้อีลั่วเสวี่ยแต่งงานกับตนเองก็ไม่ง่ายแล้ว ที่แต่งงานกันเงียบๆ ก็เป็นความคิดเธอ แน่นอนว่านั่นเป็นเจ้าของร่างเดิม ไม่ใช่อีลั่วเสวี่ยเดี๋ยวนี้
แต่ขณะนี้ก็ไม่เหมาะที่จะอธิบาย เพราะถ้าเอ่ยถึงก็ต้องโยงไปถึงเรื่องที่อีลั่วเสวี่ยทะลุมิติมา เรื่องนี้ยิ่งมีน้อยคนรู้ก็จะยิ่งปลอดภัย
“พ่อคะ เรื่องนี้ตอนนั้นหนูเป็นคนเรียกร้องเอง เพราะหนูเรียนหนังสืออยู่ ถ้าเอิกเกริกเกินไปจะส่งผลสะเทือนที่ไม่ดี พ่อว่าจริงไหมคะ?” ยังเป็นอีลั่วเสวี่ยที่รู้จักแก้ปัญหา พอเธอพูดจบอวิ๋นเว่ยก็ลดท่าทีโกรธเกรี้ยวลง
อวิ๋นเว่ยยังคงถลึงตามองเฉวียนหมิงอย่างไม่พอใจ แล้วจึงนั่งลง “ที่พูดอย่างนี้ก็มีเหตุผล แต่เสวี่ยเอ๋อ ตอนนี้ลูกเรียนอยู่ปีสาม แต่งงานกันตอนนี้ไม่มีผลกระทบหรือ?”
อีลั่วเสวี่ยสั่นหัว “วางใจเถอะค่ะ เทอมหน้าหนูสามารถเรียนจบแล้ว” ภาคเรียนนี้เธอทุ่มเทเรียนวิชาบังคับล่วงหน้าหลายวิชา ทั้งสอบไปแล้ว การเรียนจบก่อนจึงไม่ใช่ปัญหา