กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1126 กู้ชูหน่วนฟื้นคืนความทรงจำ จอมมารเสียโฉม
“และยังมีฝูกวงกับลั่วอิ่ง เพื่อปกป้องราชบัลลังก์ของเจ้า พวกเขาต่อสู้โดยไม่สนชีวิต หากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากพวกเขาสองคน หยางโม่คงไม่มีทางแย่งชิงราชบัลลังก์กลับมาให้เจ้าได้”
กู้ชูหน่วนสำลักและถามออกมา “แล้วเสี่ยวหยุนเฟยอยู่ที่ไหน?”
“เจ้าพูดถึงเฉินเฟยใช่หรือไม่ เขา……เขาไม่เสียใจที่ได้ช่วยชีวิตเจ้า”
แม้รู้ว่าอี้หยุนเฟยไม่อาจมีชีวิตอยู่
แต่กู้ชูหน่วนก็ยังคงทนต่อความรู้สึกเจ็บปวดที่บาดลึกอยู่ในใจไม่ได้
“ศพของเขาอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ทางทางทิศตะวันออกของลานบ้าน ชีวิตของเฉินเฟยและหยุนเฟยขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนกัน น่าเสียดายที่สองพี่น้องไม่ได้พบเจอกันแม้กระทั่งตอนเสียชีวิต และการตายของพวกเขาก็น่าอนาถยิ่งนัก”
“ข้ากับไป๋เฉ่าได้ลองพูดคุยกันแล้ว จ้องการนำกระดูกของเขากลับไปยังดินแดนเยี่ยอวี่ ซึ่งเหมือนเป็นการนำเขากลับไปยังบ้านเกิด แต่พวกตาเฒ่าของกองทัพอี้เหล่านั้นไม่ยอม”
หลังจากผู้อาวุโสหกและผู้อาวุโสไป๋เฉ่าพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ กู้ชูหน่วนก็ไม่สามารถฟังมันต่อไปได้
นางลุกขึ้นเดินออกไปผลักประตู เพื่อต้องการออกไปหาเยี่ยจิ่งหานและซือม่อเฟย
“หัวหน้าเผ่า จิตวิญญาณของเจ้ายังไม่มั่นคง ร่างกายเองก็ยังคงบาดเจ็บสาหัส จะเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ นอนพักเฉย ๆ เถิด”
กู้ชูหน่วนทำเป็นไม่ได้ยิน
เนื่องจากห้องของจอมมารนั้นอยู่ใกล้ห้องของนางเพียงแค่เอื้อม
แน่นอนว่ากู้ชูหน่วนจะต้องเข้าไปตรวจดูอาการบาดเจ็บของจอมารก่อน
ภาพที่นางเห็น ผมของจอมมารเป็นสีขาวซึ่งทำให้นางทรมานตาเป็นอย่างมาก
ในความทรงจำของนาง
จอมมารสวมชุดสีแดง ยืนยิ้มให้นางอย่างเย้ายวนอยู่ใต้ต้นไม้ มืออันเรียวยาวของเขาลูบผมหลังหูอย่างมีเสน่ห์ ทันใดนั้นเมื่อพบว่ามีเส้นผมสีขาวอยู่บนศีรษะ เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที นำกระจกขึ้นมาส่องว่ายังไม่เส้นผมสีขาวปะปนอยู่อีกหรือไม่ เพียงสิ่งเล็กน้อยเท่านั้นก็ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีไปเป็นเวลาหลายเดือน
เขาเป็นคนที่หลงรักในความงาม ไม่สามารถทนต่อสิ่งสกปรกได้แม้เพียงน้อยนิด
แต่เวลานี้……
ผมสีดำของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว นอนอยู่บนเตียงอย่างไร้ชีวิตชีวา เป็นหรือตายก็ยังไม่รู้
กู้ชูหน่วนยื่นมืออันสั่นเทาของนางออกไปสัมผัสกับเส้นผมของเขา
ความทรงจำไหลมาอย่างเอ่อล้น
นั่นเป็นตอนที่อยู่ในเผ่าหยก หลังจากที่นางขุดหัวใจและฝังวิญญาณของตนเองแล้ว จอมมารก็คลุ้มคลั่ง พยายามอย่างสุดชีวิตในการพลิกชะตาสวรรค์เพื่อปกป้องดวงวิญญาณของนาง ยอมสละวรยุทธ์ของตนเอง รูปลักษณ์ รวมถึงสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายเพื่อช่วยชีวิตของนางไว้
ดวงตากลายเป็นสีแดง กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าตนเองควรตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ของจอมมารเช่นไร
สิ่งที่ทำให้นางทุกข์ทรมานที่สุดก็คือ หน้าตาอันหล่อเหลาดุจเทพบุตรของจอมมาร เวลานี้เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอย สภาพของมันแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ดูรุนแรงและน่ากลัวเป็นอย่างมาก
รวมถึงมือและร่างกายของเขา ทุกส่วนถูกไฟคลอกอย่างรุนแรง
แม้จะทำการรักษาบาดแผลเบื้องต้นไปแล้ว แต่มันก็ยังเป็นรอยแดงและบวมจนน่ากลัว
ไม่ต้องพูดถึงแผลพุพองขนาดใหญ่และเล็กทั่วร่างกายของเขา แค่ผิวหนังและเลือดเนื้อที่ถูกไฟคลอกจนหดตัวเข้ามารวมกัน ทั้งหมดเป็นผิวหนังและกล้ามเนื้อตาย หมดหนทางในการรักษา
กู้ชูหน่วนนำมือขึ้นมาปิดปากของตัวเอง พยายามอย่างสุดชีวิตในการกลั้นน้ำตาเอาไว้
นางคิดไม่ถึงว่าจอมมารจะต้องทุกข์ทรมานถึงเพียงนี้
และไม่กล้าคิดว่าคนที่งดงามอย่างเขา จะยอมสละโฉมงามของตนเองเพื่อช่วยชีวิตนาง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขารักนางมากแค่ไหน
นางรู้สึกว่าเวลานี้หัวใจของนางมีเลือดไหลออกมา
ด้วยบาดแผลที่รุนแรงถึงเพียงนี้ ต่อให้นางมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงใด นางก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มรักษาจากตรงไหนก่อน
และไม่รู้ว่าตนเองมีความสามารถที่จะรักษารูปลักษณ์อันหล่อเหลาบนใบหน้าของเขาให้กลับมาเหมือนเดิมได้หรือไม่
“ปัง……”
ประตูถูกเปิดออก ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าและผู้อาวุโสหกเดินเข้ามา มองกู้ชูหน่วนด้วยความตื่นตระหนก
“อาหน่วน……จอมมาร……จอมมารบอกว่าไม่อยากให้เจ้าเห็นใบหน้าของเขา……”
“หัวหน้าเผ่า ข้าได้ใช้ยารักษาที่ดีที่สุดกับเขาแล้ว และยังมอบยาแก้ปวดให้กับเขาด้วย แต่จอมมารเขา……”
ไป๋เฉ่าไม่ได้พูดออกมา
บาดแผลไฟไหม้ที่รุนแรงถึงเพียงนี้
ต่อให้สรรพคุณของยานั้นดีแค่ไหนมันก็ไม่สามารถระงับความเจ็บปวดของเขาได้
ในฐานะหมอคนหนึ่ง เขาเองก็เข้าใจว่าผิวหนังของจอมมารถูกทำลายไปแล้ว
นั่นมันเป็นบาดแผลที่ได้จากลาวา เขาเอาชีวิตรอดกลับมาได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
แม้ว่า……
แม้ว่าจะถูกลาวาคลอกคนหมดสภาพและไม่เหลือชิ้นดี……
กู้ชูหน่วนกัดฟันแน่น กลืนน้ำตาของตนเองกลับไป นำกล่องยาและเข็มเงินออกมาจากวงแหวนอวกาศ และใช้เข็มเงินจิ่มลงไปบนแผลพุพองบนร่างกายของจอมมารก่อน
“หัวหน้าเผ่า อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไป หากจัดการกับแผลพุพองของเขา เป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้ติดเชื้อและเกิดการอักเสบได้”
กู้ชูหน่วนรักษาแผลพุพองไปพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ขอแค่รักษาได้ดีก็ไม่มีทางเกิดการอักเสบขึ้นเป็นแน่ อาม่อเป็นผู้หลงใหลในความงาม จัดการกับแผลพุพองของเขาก่อน โอกาสที่จะทำให้ผิวหนังของเขากลับมาเป็นสภาพเดิมได้ก็สูงขึ้น อาม่อเป็นคนรักในความงดงามอย่างสุดหัวใจ”
ผู้อาวุโสหกแทบจะร้องไห้ออกมา “อาหน่วน……”
หัวใจของผู้อาวุโสไป๋เฉ่าเจ็บปวดเจียนตาย “หัวหน้าเผ่า ท่านเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ไม่ควรจะต้องมาเหนื่อยแบบนี้ ข้าจะเป็นคนจัดการแผลบนร่างกายของจอมมารเอง”
“เจ้ารับมือกับมันไม่ไหว ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ รอยแผลที่ทิ้งไว้ก็ยิ่งกว้าง หากเจ้าอยากจะช่วย เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยให้คนไปนำน้าสะอาดมาให้ข้าสักสองสามอ่าง และคอยเป็นลูกมือของข้า”
ผู้อาวุโสหกกล่าวออกมาว่า “ข้าจะเป็นคนไปนำน้ำมาเอง ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้”
หนึ่งคืนหนึ่งวันเต็ม ๆ กู้ชูหน่วนใช้เวลาทั้งหมดในการจัดการกับบาดแผลบนร่างกายของจอมมาร
ฝูกวงและลั่วอิ่งเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
นายท่านได้รับการเกิดใหม่หลังจากที่เสียชีวิต นี่มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนมีความสุข
แต่……
เทพแห่งสงครามกำลังจะตาย จอมมารได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียโฉม อี้หยุนเฟยและเซี่ยวอวี่เซวียนก็หนีไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ว่าเรื่องไหนล้วนเป็นสิ่งที่น่ากังวลสำหรับนายท่านทั้งนั้น
พวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะเข้าไปหานายท่านของพวกเขา พวกเขาทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น
ช่วงเวลาดังกล่าว จอมมารส่งเสียงคร่ำครวญอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นทุบตีเตียงที่เขานอนอยู่หลายครั้งเพราะความเจ็บปวด
และเสียงของกู้ชูหน่วนก็เข้าไปในหูของเขาอย่างแผ่วเบา
“อาม่อ เจ้าต้องอดทน อีกไม่นานก็จะหายแล้ว ผู้อาวุโสหก ไปนำเชือกมามัดเขาไว้”
“คือ……วรยุทธ์ของเขาสูงส่งถึงเพียงนี้ เกรงว่าข้าคงไม่สามารถมัดเขาไว้ได้”
“ไม่เห็นหรือไงว่าเวลานี้เขายังไม่สามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้เลยด้วยซ้ำ เร็วเข้า”
“มัดเรียบร้อยแล้ว แต่เขาเอาแต่ดิ้นไม่ยอมหยุด ข้าควรทำเช่นไร?”
“ทำให้เขาสลบ”
“ปัง……”
ฝูกวงก้มหัวลงอย่างเศร้าสร้อย พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา
แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงแค่คนนอก
แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงสิ่งที่จอมมารได้ทำลงไป
คนที่เย่อหยิ่งในตัวเอง ไม่สนใจผู้อื่น แต่เป็นเพราะนายท่านของเขา ถึงกับยอมเสียสละตนเองอย่างเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังจากจอมมารตื่นขึ้นมา เขาจะสามารถยอมรับความจริงกับใบหน้าที่เสียโฉมของเขาได้หรือไม่?
และก็เทพแห่งสงคราม
เพื่อนายท่านของเขา ถึงกับยอมสละตำแหน่งอ๋อง และตามหานายท่านของเขาด้วยความยากลำบากมาเป็นเวลาหลายปี
แม้แต่แม่ผู้ให้กำเนิดยังสังหารได้ลงคอ
และยังทำให้ตัวเอง……ทำให้……
ฝูกวงสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
ลั่วอิ่งกล่าวออกมาว่า “คุณชายเยี่ยจะต้องปลอดภัย ส่วนในอนาคตนายท่านจะเลือกอยู่กับใคร นั่นเป็นสิ่งที่นายท่านเป็นคนเลือด หากไม่สามารถเลือกได้ นายท่านก็สามารถเป็นหญิงที่มีสามีหลายคนได้”
ฝูกวงตกใจเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงที่มีสามีหลายคน?
ปกติแล้วลั่วอิ่งเป็นคนที่พูดน้อย
คิดไม่ถึงว่า ทันทีที่เขาพูดออกมาจะเป็นประโยคที่น่าตกใจถึงเพียงนี้
ในโลกใบนี้ มีเพียงชายเท่านั้นที่สามารถมีภรรยาหลายคนได้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมีสามีหลายคนมาก่อน
แต่……
เรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผิดอะไร
เทพแห่งสงครามและจอมมารต่างก็เป็นคนดี
หากประมุขชิง เช่นนั้นก็คงจะดีไม่น้อย
น่าเสียดาย……
น่าเสียดายที่ประมุขชิงไม่อยู่แล้ว
จอมมารเสียโฉม ด้วยนิสัยของเขาแล้ว เกรงว่าเขาคงไม่ยอมอยู่เคียงข้างกายของนายท่านอีกต่อไป
เมื่อได้ยินเสียงแห่งความเจ็บปวดที่ดังออกมาจากห้องเป็นครั้งคราว หัวใจของฝูกวงก็แทบแหลกสลาย
หนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม กู้ชูหน่วนถึงจะออกมาจากห้องของจอมมารด้วยความเหนื่อยล้า
นางเดินโซซัดโซเซ ผู้อาวุโสหกก็พึมพำอะไรบางอย่างออกมาด้านหลังของนาง
“อาหน่วน จิตวิญญาณของเจ้ายังไม่มั่นคง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจิตวิญญาณของเจ้าอาจจะดับสลาย หากจิตวิญญาณดับสลายขึ้นมา เกรงว่าคงเป็นเรื่องยากหากจะหลอมรวมมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ชีวิตของเจ้าจะหาไม่ ฟังที่ข้าพูด เจ้ารีบกลับไปพักผ่อน ทุกอย่างพวกข้าจะเป็นคนจัดการเอง”
“เยี่ยจิ่งหานอยู่ห้องไหน?”
“เกิดใหม่กลับมาทั้งที เจ้า……เหตุใดเจ้ายังเป็นคนดื้อรั้นไม่เคยเปลี่ยน”
“หากเจ้าไม่บอก ข้าจะเป็นคนตามหาด้วยตัวเอง”
“ก็ได้ ก็ได้ ข้ายอมเจ้าแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปหาเยี่ยจิ่งหาน แต่เจ้าต้องรับปากข้า เจ้าทำได้แค่ดูเท่านั้น ห้ามใช้พลังในการรักษาเขาเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นข้ากลัวว่าเมื่อเยี่ยจิ่งหานตื่นขึ้นมา เขาอาจจะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าอีก”
ผู้อาวุโสหกเปิดประตูห้อง
กู้ชูหน่วนไม่แปลกใจที่ได้เห็นสภาพของเยี่ยจิ่งหานซึ่งนอนอยู่บนเตียงอย่างไร้ชีวิตชีวาเช่นเดียวกับจอมมาร ปราศจากซึ่งความร่าเริงและแข็งแรงเหมือนที่ผ่านมา
ใบหน้าของเขาซีดขาว ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล แม้ว่ามีผ้าพันแผลพันเอาไว้ แต่มันก็ยังน่าตกใจอยู่ดี
โดยเฉพาะรอยมีดตรงหน้าอกของเขา ราวกับว่ามันสามารถแยกอกของเขาออกจากกันได้ นางรู้สึกว่ามันมหัศจรรย์มากที่เขาสามารถเอาชีวิตรอดมาถึงตอนนี้ได้
ลางสังหรณ์อันเลวร้ายค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาในหัวใจของกู้ชูหน่วน
นางจับชีพจรของเยี่ยจิ่งหาน