ตอนที่ 298 เปลี่ยนสนามต่อสู้

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 298 เปลี่ยนสนามต่อสู้ โดย Ink Stone_Fantasy

“เรื่องนี้ท่าจะยุ่งยากแล้ว!”

หลังจากที่ส่งตู้เฟยไปแล้ว เยี่ยเทียนก็ตรงกลับเรือนสี่ประสานของตัวเอง ขมวดคิ้วไปตลอดทาง แต่ก็คิดวิธีดีๆ ไม่ออก

หากว่าเป็นเยี่ยเทียนคนเดียว เขาไม่กลัวเลยกับชาญ ทองทวนนี้ อย่าว่าแต่ชาญ ทองทวน เลยต่อให้เป็นอาจารย์เขา นายทักษิณ สวรรค์ศักดิ์สิทิ์เอง เยี่ยเทียนก็จะไม่กังวล

แต่การทำคุณไสยไม่เหมือนกับวิชาของจงหยวน หากขาดไปหนึ่งตัวก็อันตรายและมีพิษร้ายเพิ่มขึ้นมา วิธีการก็มากมายหลายหลากอัศจรรย์พันลึก ทำให้คนไม่ทันระวังป้องกัน เยี่ยเทียนตัวเขาเองไม่กลัว แต่กลัวจะทำให้ครอบครัวต้องมาเดือดร้อนได้รับอันตรายไปด้วย

นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมคนรุ่นก่อนถึงได้เก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่มีเรื่องทางบ้านให้ต้องคอยกังวล เมื่อทำอะไรซักอย่างหนึ่งก็ไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง ปกติคนประเภทนี้ในยุทธภพไม่กล้าหาเรื่อง

ถังเหวินหย่วนที่กำลังคุยกับหลานสาวอยู่อย่างออกรสออกชาตินั้น หลังจากเห็นเยี่ยเทียนเดินขมวดคิ้ว เข้ามาในลานบ้านแล้ว จึงกล่าวถามอย่างอดสงสัยไม่ได้ว่า “เยี่ยเทียน นายเป็นอะไรเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”

เยี่ยเทียนเหยียดรอยยิ้มแข็งออกมาพลางกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เหล่าถัง อีกประเดี๋ยวป้าใหญ่มาทำกับข้าว คืนนี้กินที่นี่ พรุ่งนี้นายกับเสวี่ยเสวี่ยก็ไปแล้วใช่มั๊ย”

คุณไสยอาศัยพิษห้าอย่างเป็นตัวนำ ซึ่งก็คือพิษงู ตะขาบ แมงป่อง แมงมุมและคางคกและอื่นๆ สัตว์ที่มีพิษตามธรรมชาติทั้งห้าชนิด มักจะถูกอาจารย์คุณไสยนำมาใช้ทำของ

อาจารย์คุณไสยที่มีฝีมือ สามารถเลี้ยงพิษหลากหลายชนิดได้ วิธีการทำให้คนไม่ทันได้ป้องกันตัว เยี่ยเทียนสามารถเอาตัวเองรอดได้ แต่กลับไม่สามารถที่จะไปดูแลคนอื่นๆ ได้

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เยี่ยเทียอัดอั้นตั้นใจเป็นอย่างมาก หากว่าเป็นมีดพร้าหรือปืนผาหน้าไม้มาตัดสินกันจริงๆ เขาไม่เคยเกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่ศัตรูกลับชอบแอบซ่อน ต่อให้วิชาของตัวเองสูงส่งแค่ไหน ก็ได้แต่ต้องรอให้ศัตรูโผล่หน้าออกมาจึงจะจัดการได้

ถังเหวินหย่วนเป็นบุคคลระดับไหน หากได้ฟังจากคำกล่าวของเยี่ยเทียนก็จะรู้ถึงความหมายที่แฝงอยู่ จึงกล่าวในตอนนั้นว่า “เยี่ยเทียน หากมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็ไปอยู่ที่ฮ่องกงกับฉันซักพักหนึ่งไป ตอนนี้ฉันซื้อบ้านไว้ที่ปั้นซาน หากว่านายว่างก็มาช่วยฉันจัดฮวงจุ้ยหน่อย”

จากความสามารถของถังเหวินหย่วนที่ฮ่องกง ไม่ต้องกลัวเรื่องยุ่งยากอะไรจริงๆ ไม่พูดถึงที่ว่าเขาเป็นที่ปรึกษาของพรรคชิง ก็แค่ทรัพย์สินที่มีอยู่ตอนนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะไม่มีใครกล้าดูถูก

“ไปฮ่องกง”

เยี่ยเทียนกล่าวแล้วชะงักงันไป “ใช่สิ ตัวเองยังอยู่ปักกิ่งกลัวคนในครอบครัวพลอยเดือดร้อนไปด้วย แต่หากกระโดดออกจากสังคมปักกิ่ง ก็จะได้ใช้ชีวิตเอาตัวรอดตามแต่ต้องการ วิชาคุณไสยถึงแม้ร้ายกาจ แต่ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องไปกลัวพวกนั้น!”

เยี่ยเทียนคิดได้ซักครู่ ก็เริ่มกล่าวว่า “เหล่าถัง บอกนายตามจริง ฉันมีเรื่องเดือดร้อนนิดหน่อย หากไปฮ่องกงกับนายก็จะพลอยทำให้นายโดนหางเลขไปด้วย”

ถังเหวินหย่วนหัวเราะขึ้นมา กล่าวอย่างโอ้อวดว่า “นี่นายรู้ตัวมั๊ยพูดอะไร ฉันแก่จนจะแปดสิบแล้ว ยังจะกลัวอะไรกับเรื่องเดือดร้อนไม่เดือดร้อนกัน หากเป็นที่ฮ่องกงมีคนคิดจะทำมิดีมิร้ายกับคนแก่อย่างฉัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลย”

ถึงแม้พรรคชิงที่ฮ่องกงตอนนี้ก็แตกเป็นหลายก๊กหลายเหล่าแล้ว แต่พวกพี่ใหญ่ของสำนักเหล่านั้น เป็นรุ่นหลังของถังเหวินหย่วนทั้งนั้น เมื่อถึงตอนเทศกาลต่างๆ ก็จะมาเยี่ยมคาราวะผู้หลักผู้ใหญ่กัน

ดังนั้นต่อให้มีคนที่เข้ามาในฮ่องกงเพื่อจะมีเจตนาไม่ดีต่อถังเหวินหย่วน แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ยังไงก็ต้องอาศัยสำนักในฮ่องกงคอยช่วยเหลือ แล้วที่ฮ่องกงนี่หากเกิดเหตุการณ์อะไรเล็กน้อย ถังเหวินหย่วนก็จะรู้ได้ในทันที

ก็เหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนที่พวกเศรษฐีฮ่องกงถูกลักพาตัวไปหลายคนติดต่อกัน หลังจากนั้น ถูกค้นว่ามีเงินพนันก้อนใหญ่ ตอนนั้นพวกเศรษฐีในฮ่องกงล้วนตกอยู่ในอันตราย จ้างบอร์ดี้การ์ดต่างชาติกันเป็นทิวแถว

แต่ก็ไม่มีใครบังอาจกล้าคิดไม่ดีกับตระกูลถัง นั่นก็เป็นเพราะ “เศรษฐีใหญ่” ที่ถูกขนานนามคนนั้น เดิมทีก็เป็นคนตัวเล็กๆ ในฮ่องกง รู้ดีว่าถังเหวินหย่วนมีอำนาจขนาดไหนในฮ่องกง

หลังจากได้ฟังคำกล่าวของถังเหวินหย่วนแล้ว เยี่ยเทียนก็เงียบไปซักครู่ พยักหน้ากล่าวว่า “ก็ดีเหมือนกัน คฤหาสน์หลังนั้นที่เพิ่งซื้อ ยังไม่ได้เข้าไปอยู่ใช่มั๊ยถึงตอนนั้นก็ให้ฉันไปอยู่ชั่วคราวแล้วกัน ก็ถือซะว่าช่วยนาย ปรับฮวงจุ้ยคฤหาสน์แล้วกัน

“ได้ เดี๋ยวฉันให้คนจัดเตรียมให้พร้อม พวกเราพรุ่งนี้เดินทางกลับกัน!” ถังเหวินหย่วนพยักหน้าหงึกหงึก สามารถเชิญเยี่ยเทียนไปดูฮวงจุ้ยให้เขาได้ นั่นถือว่าโชคดีเกินคาดแล้ว

“อ้อใช่แล้ว ง้าวจันทร์เสี้ยวอันนั้นนายมีวิธีเอาออกไปด้วยมั๊ยนอกจากนั้นก็มีเหมาโถว ฉันอยากพามันไปด้วย ไม่รู้ว่าได้หรือเปล่า”

ไม่ว่าจะเป็นวิชาในประเทศหรือคุณไสยของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล้วนแต่แสลงกับอาวุธปัจจุบันทั้งนั้น ง้าวจันทร์เสี้ยวนับเป็นอาวุธที่ดุดันในบรรดาอาวุธด้วยกัน ใช้สำหรับฆ่าศัตรูรับรองว่ายากต้านทาน และยังใช้ทำลาย ไอร้ายได้บางส่วนอีกด้วย

สำหรับเหมาโถวเป็นตัวขจัดพิษของแมลงพิษพวกนั้น เยี่ยเทียนพบว่า หลังจากเหมาโถวอาศัย อยู่ในเรือนสี่ประสานเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นลานใหม่หรือว่าลานหลังเก่า แมลงเลื้อยคลานประเภทตะขาบ แมงป่อง แมงมุมพวกนี้ไม่เห็นแล้ว

“เหมาโถวก็ไปฮ่องกงเหรอดี ดีจริงๆ!”

ถังเสวียเสวี่ยที่นั่งฟังคุณตาและเยี่ยเทียนพูดคุยกันมาตลอด ได้ฟังว่าเยี่ยเทียนจะพาเหมาโถวไปฮ่องกงด้วย ก็กระโดดโลดเต้นดีใจอย่างห้ามไม่ได้  ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่มาเดือนกว่า แน่นอนว่าเพื่อนเล่นที่อยู่เป็นเพื่อน เธอมาตลอดก็คือเหมาโถวนั่นเอง

ถังเหวินหย่วนลูบหัวหลานรักอย่างทะนุถนอมกล่าวว่า “ปัญหาเล็กน้อย เครื่องบินส่วนตัวของฉันจอดอยู่ที่ปักกิ่งแล้ว พรุ่งนี้ตอนเช้าฉันจะให้คนไปขอใบอนุญาต น่าจะเอาออกไปได้หมด”

“อาจารย์ ผมก็อยากตามอาจารย์ไปฮ่องกง!”

โจวเซี่ยวเทียนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เดินมาถึงกลางลาน สีหน้าอ้อนวอนไปทางเยี่ยเทียน คนหนุ่มมักอยาก จะออกไปเจอโลกกว้าง แล้วยิ่งเป็นเมืองศูนย์กลางนานาชาติอย่างฮ่องกง

“ครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งหน้ามีโอกาสฉันจะพานายไป”

เยี่ยเทียนส่ายหัว การเดินทางไปฮ่องกงรอบนี้เขาไม่ได้ไปเที่ยว คนในฉีเหมินเมื่อต่อสู้กันขึ้นมาอันตรายเกินจะคาดเดา เยี่ยเทียนมั่นใจว่าดูแลตัวเองได้ แต่ไม่กล้าจะโอ้อวดว่าสามารถปกป้องความปลอดภัยของคนข้างตัวได้ มิเช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปจากปักกิ่งแล้ว

“ก็ได้ อาจารย์ ครั้งหน้าต้องพาผมไปด้วยนะ” โจวเซี่ยวเทียนมองไปที่เยี่ยเทียนด้วยท่าทางน่าสงสาร

ถังเสวียเสวี่ยช่วงนี้คลุกคลีกับโจวเซี่ยวเทียน ทั้งสองมีความสัมพันธ์ไม่เลว ตอนนั้นเองก็ได้กล่าวว่า “พี่เซี่ยวเทียน ครั้งหน้าหนูจะเชิญพี่ไป”

“พอแล้ว เซี่ยวเทียน นายโทรไปหาพ่อฉัน ให้พวกเขามากินข้าวด้วยกันคืนนี้ ฉันเหนื่อยแล้ว จะไปพักซักหน่อย!”

เยี่ยเทียนทำท่าทางแล้วก็เดินไปทางหลังลาน วันนี้ทะลายชีพจรให้ถังเสวียเสวี่ย ดูแล้วจะเปลืองพลัง เขาไปจนแทบหมด ต้องพักผ่อนซักหน่อย

โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าซ่งเสี่ยวหลงไปประเทศไทยไปเชิญชาญ ทองทวนมา ในใจของเยี่ยเทียนก็ร้องเตือนว่า เขาจะต้องรักษาพลังให้เต็มเปี่ยมมากทีสุด เพื่อเตรียมรับมือกับเรื่องไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถึงตอนที่เยี่ยเทียนออกจากสมาธิแล้ว ท้องฟ้าก็มืดลงไปแล้ว ลานด้านหลังเงียบสงัดเหมือนเคย แต่กลางลานนั้นกลับคึกคักน่าดู

ก็เนื่องมาจากคนที่อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้แล้ว ครอบครัวของป้ารองก็มาด้วย เสี่ยวจุนหานกำลังวิ่งไล่เหมาโถว ไปทั่ว เล่นกันซะแตกตื่นกันไปหมด

ได้ฟังเสียงคนจ๊อกแจ๊กดังมาจากกลางลาน ในใจของเยี่ยเทียนก็พลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

ตอนเด็กนั้นก็มีแต่เขาและพ่อสองคน ในส่วนลึกของเยี่ยเทียนนั้นเดิมทีก็แฝงความเย็นชาเอาไว้ แต่หลังจากลงหลักปักฐานอยู่ที่ปักกิ่งแล้ว เยี่ยเทียนก็คุ้นเคยกับการได้รับความรักและการปกป้องจากญาติมิตรรอบกาย

“ไสยศาสตร์ เฮอะ ซ่งเสี่ยวหลง!” เยี่ยเทียนสายตาส่องประกายวาวโรจน์ขึ้นมาแว๊บหนึ่ง เขาอดรนทนไม่ไหวที่จะใด้เจอซ่งเสี่ยวหลงและชาญ ทองทวน จะได้สะสางเรื่องนี้ให้มันจบจบไป

ต้องรู้ก่อนว่า การขยายตัวของวิชาก็ถูกข้อจำกัดทางด้านพื้นที่และเวลา ที่พูดกันว่าไกลเป็นพันลี้ก็คร่าชีวิตคนได้ ก็เป็นเพียงแค่ตำนานเท่านั้น

ดูจากพลังของเยี่ยเทียนในตอนนี้ พอจะขยายพลังออกไปได้ร้อยเมตร หากเกินออกไปพลังก็เริ่มอ่อนแรงแล้ว มิเช่นนั้นเขาก็คงจะสามารถทำร้ายซ่งเสี่ยวหลงให้ตายได้แล้ว

อาจารย์คุณไสยก็แบบเดียวกัน ต้องการจะต่อกรกับเยี่ยเทียน จะต้องอยู่ในเมืองเดียวกับเขา หากชาญ ทองทวนอยู่ที่ประเทศไทยแต่กลับทำอันตรายเยี่ยเทียนได้ นั่นเขาก็ไม่ใช่คนแต่เป็นเทวดาแล้ว

“เจ้าตัวแสบ ฐานะในบ้านไม่เลวเลย ทั้งครอบครัวรอนายไปกินข้าวแหนะ”

เห็นเยี่ยเทียนเดินออกมาจากลานด้านหลัง เยี่ยตงผิงหัวเราะกล่าวต่อว่าออกมา แต่ว่าเขาก็รู้ว่าวันนี้เยี่ยเทียนทะลวงชีพจรหยางให้ถังเสวี่ยเสวี่ยก็เหนื่อยแทบตายแล้ว ก็ไม่ได้พูดว่าอะไรอีก

ตอนที่ทานข้าวเยี่ยเทียนก็เปรยเรื่องที่เขาจะไปฮ่องกงออกมา คนทางบ้านก็คิดว่าเขาได้รับคำเชิญจากถังเหวินหย่วน ไม่ได้สนใจอะไร แต่คุณป้าใหญ่บ่นย้ำนักย้ำหนาให้เยี่ยเทียนดูแลตัวเองให้ปลอดภัย

เช้าวันที่สองเยี่ยเทียนก็โทรหาตู้เฟย แจ้งข่าวที่ตัวเขาจะไปฮ่องกง ให้เขาปล่อยข่าวออกไป สำหรับตู้เฟย จะทำอย่างไรนั้น เยี่ยเทียนไม่ได้ไปสนใจอะไร เพื่อนพี่น้องร่วมพรรคอยู่กันทั่วโลก เขาจะต้องมีวิธีนั่นเอง

ถังเหวินหย่วนกลับออกหน้าไปหาแผนกที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำขั้นตอนการเข้าฮ่องกงสำหรับเยี่ยเทียน และอาวุธกับสัตว์เลี้ยงของเขา หากเป็นคนธรรมดาคงเป็นเรื่องยากลำบากเกินไป แต่ต่อหน้าของคุณตาถัง ก็แค่เรื่องขี้ผงเท่านั้น

เมื่อถึงเวลากลางวัน เครื่องบินส่วนตัวของถังเหวินหย่วนที่จอดอยู่ที่สนามบินในเมืองหลวงก็ออกจากปักกิ่ง พาเยี่ยเทียนและคนอื่นๆ มุ่งไปยังฮ่องกง

“เหล่าถัง พวกคนมีเงินล้นฟ้าแบบคุณนี่ฟุ่มเฟือยกันจริงๆ เครื่องบินลำนี้ยังไงก็ต้องหลายสิบล้านแหละนะ”

มองพรมราคาแพงที่อยู่ใต้เท้า นั่งบนโซฟาหนังแท้จากอิตาลี เยี่ยเทียนก็ถอนหายใจ เดิมทีคิดว่าตัวเขาเอง มีหลายสิบล้านนี่ก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้ว แต่เมื่อเทียบกับถัวงเหวินหย่วนแล้ว ตัวเขาเองก็แทบไม่ต่างอะไรกับขอทานเลย

อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่ค่าบำรุงรักษาเครื่องบินลำนี้และเงินเดือนของแอร์สาวสวย ที่ยืนอยู่ด้านข้างสี่คนนี้ ก็คงทำให้เยี่ยเทียนแทบสิ้นเนื่้อประดาตัว

“เหอะๆ ไม่เท่าไหร่หรอก”

ถังเหวินหย่วนหัวเราะ เครื่องบินส่วนตัวลำนี้ของเขาจ่ายเงินไปสองพันล้านเหรียญฮ่องกง ซื้อเครื่องบินมาจากบริษัททำเครื่องบินในอเมริกา แต่ถ้าดูตามอายุเขาแล้ว แน่นอนว่าไม่ไปโอ้อวดกับเยี่ยเทียนอยู่แล้ว

ถังเหวินหย่วนขยิบตาใส่เยี่ยเทียน พลันกล่าวขึ้นมาว่า “เยี่ยเทียน เธอเป็นคนมีความสามารถ อยากจะซื้อเครื่องบินแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หรือไม่อย่างนั้นฉันยกลำนี้ให้เธอ”

คิดถึงว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่เยี่ยเทียนที่บอกว่าตัวเองตอนอายุแปดสิบสามจะเจอเรื่องลำบาก ในใจของถังเหวินหย่วนก็ไม่ค่อยจะวางใจเท่าไหร่ เขาอดไม่ไหวที่จะให้เยี่ยเทียนขอทรัพย์สินเงินทองจากเขา

แต่ทว่าหลังจากคุณตาพูดคำนี้ออกมา กลับทำให้แอร์สาวสวยที่นั่งอยู่ด้านข้างไม่กี่คนนั่น สีหน้าปรากฏแววประหลาดใจไม่อยากเชื่อออกมาชั่วครู่

……