ตอนที่ 264

Rise of The Undead Legion

Chapter 264 : Conquest แพทซ์ 3.0

 

“ ราชา ฉันเอง Kis’Shtingbrah  นายตั้งชื่อให้ฉันเอง “ – เดฟ อธิบายแล้วมองไปยังราชาด้วยสายตาเศร้า
ราชานั้นไม่มีท่าทีเลยแม้แต่น้อย
“ ราชา ดาร์กพูดความจริง ราชาตั้งชื่อเขาและรับเขาเป็นลูกของตัวเอง เขาได้ช่วยชีวิตลูกสาวนายไว้มากกว่าหนึ่งครั้ง นายได้ให้ตำแหน่งและอาณาเขตกับเขา มันคือผลงานของเขาที่ทำให้เรากลับมาจากความตายได้ “
“ เราเชื่อนายแต่เราไม่อาจจะพึ่งพาสิ่งที่เราไม่มีความทรงจำได้ จนเขาจะแสดงความภักดีต่อเรา เขาก็ไม่มีสิทธิในสภาของเรา ไปซะ ดาร์ก เราจะเรียกนายมาเมื่อเราต้องการความช่วยเหลือจากนาย “
เดฟ อ้าปากแต่ Samael ส่ายหน้าตอบรับ
ดาร์กโค้งให้ก่อนจะให้สัญญาณกับ Dog ให้ตามเขาไป
หลังจากที่ชุบชีวิตทุกคนกลับมา ทั้งสองก็ได้ปล่อยให้ราชากับ Samael ได้พูดคุยกัน
เมื่อรู้สึกว่าเขาโดนขับไล่ออกมา ทั้งสองก็เดินลงจากหอคอยพร้อมอารมณ์ที่หงุดหงิด
“ ไปเถอะ Dog กลับไปที่ฐานของเรา อย่างน้อยพวก Boyz ก็คงดีใจที่ได้เห็นเรา “
***
“ นั่นแหละสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่ได้มีเวลามากพอที่ฉันจะกลับไปที่ฐานก่อนเซิฟเวอร์จะปิดลง ฉันเลยส่ง Dog กับกิ้งก่ากลับไปก่อน จากนั้นฉันก็ล็อคเอาท์ออกมาาแล้วเข้านอน ฉันเหนื่อย ดังนั้นเลยหลับเป็นตาย ฮี่ฮี่ “
เธอฮึดฮัดออกมา ทั้งคู่แทบไม่ได้แตะกาแฟเลยสักนิด โซว์ สนใจในเรื่องของ เดฟ อย่างมาก
“ แล้วอันเดตกลับมาแล้วสินะ ? “
“ ใช่ น่าจะเป็นแบบนั้น “
โซว์ ลังเลไปสักพัก – “ เดฟ เรื่อง….”
“ ใช่ ฟังนะ ราฟน่ะเป็นครอบครัวคนเดียวที่ฉันมีตั้งแต่ที่ฉันโตมา เขาไม่ได้เหมือนกับเพื่อน เขาเป็นพี่น้องของฉัน ไม่ใช่เพื่อน เกมน่ะเป็นงานของเขาและเขาก็ทำได้ดีกับกิลด์ตัวเอง  สิ่งที่เธอทำมันเกินไป เธอเอาคืนเขาเพราะเรื่องคืนก่อน แล้วมันยังเกี่ยวกับเควสฉันอีก “
“ ฉันคิดว่ามันจะตลก “
“ โซว์ เราต่างก็รู้ว่ามันไม่จริง มันไม่ตลก มันส่งผลต่อทุกเรื่อง เธอตัดสินเขาจากเรื่องระหว่างพวกเธอสองคน เธอต้องลองกลับไปมองดูดีๆ  มันเหมือนกับที่เขาเต็มใจช่วยเธอที่เป็นคนแปลกหน้าในการเก็บเลเวลแค่เพราะเธอขอ “
“ สิ่งที่เขาทำ – – ”
“ ฉันมั่นใจว่าเขาคิดว่าเป็นฉันที่นอนอยู่ตอนที่เขาใช้ตราประทับราฟกับเธอ ฉันรู้ว่ามันน่าอายแต่เขาน่ะไม่ตีผู้หญิง “
“ นายตั้งชื่อด้วยเหรอ ? ฉันยังเจ็บก้นอยู่เลย เดฟ “
“ เธอน่าจะเห็นแผลที่เขาทิ้งไว้กับฉัน…อ่ะ ชางเถอะ สิ่งที่ฉันจะบอกคือ ราฟ น่ะสำคัญสำหรับฉันและเธอก็ด้วย เธออยากเอาคืน ราฟ ได้ ฉันจะช่วยด้วยซ้ำแต่อย่างทำเกินไปและทำให้ชีวิตเขาพัง “
เดฟ หยุดไปสักพัก เขาไม่ชอบการสนทนาแบบนี้แต่เรื่องนี้มันยื้อมานานแล้ว – “ อีกอย่างเรื่องที่สำคัญคือฉันไม่ต้องการให้เรารู้สึกกระอักกระอ่วนต่อกัน “
“ ฉันเองก็ด้วย “
“ ดี เราดีกันแล้วนะ ?”
“ ใช่ เราดีกันแล้ว “
แม้ว่าจะเคลียร์เรื่องนี้ไปแล้วแต่ โซว์ ก็ยังอึดอัด – “ มันมีอีกเรื่อง ทีโว ต้องการคุยกับนายเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องธุระแต่เป็นเรื่องอื่น “
“ อย่างอะไร ? “ – เดฟ ถามด้วยความสงสัย
“ เขาอาจจะพูดบางเรื่องเกี่ยวกับนายและ เคทลิน “
เดฟ มองไปที่ โซว์ ด้วยปากที่อ้ากว้าง
“ นายไม่ได้ทำใช่มั้ย ? “ – โซว์ ถาม
“ ไม่ แม้ว่าจะอยากตอนที่….” – จากนั้นตาเขาก็เป็นประกายขึ้นมา – “ …. ราฟ “
เดฟ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงรอสายอยู่สักพัก
เดฟ วางสาย ราฟ คงไปร้านกาแฟเพื่อหาอะไรกินจนไม่ว่างจะรับโทรศัพท์
ราฟ หยุดและล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วรับสายพร้อมกับเคี้ยวไปด้วย
“ เดฟ ว่าไงพวก “
เดฟ วางสายไป
ราฟ หยุดเคี้ยวและมองไปที่โทรศัพท์ด้วยความสงสัย เดฟ เดินเข้ามาแตะที่ไหล่ของเขา
“ นายทำอะไรอยู่ ? “ – เดฟ ถาม
“ อึก “ – ราฟ กลืนฮ็อตด็อกที่เหลือเข้าไป – “ ฉันเพิ่งออกมาจากโรงแรม “
“ นายเห็น เคทลิน มั้ยเมื่อคืนนี้ ?”
“ ไม่นิ นายน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะพวก “
เดฟ ผ่อนคลายขึ้นมา – “ ดี ดีแล้ว “
“ แต่เราไปเที่ยวกันเมื่อคืน “
“ ห๊ะ ! “
โซว์ ได้ยินแบบนั้นก็เดินเข้ามาคุยด้วย
“ นายพา เคทลิน ไปเดท ? “
“ ไม่ ฉันไม่ได้ไปเดท เราแค่ไปเที่ยวกัน ทำไม ?”
“ ฉันรู้จัก เคทลิน มานาน เธอไม่เคย ไม่เคยไปกับผู้ชายเลยนะ “
ราฟ ยิ้มและใช้แขนเสื้อเช็ดปากตัวเอง – “ เสน่ห์ของฉันมันแรง การต้านทานน่ะไร้ประโยชน์ “
โซว์ มอง ราฟ ด้วยสายตาเย้ย – “ นายรู้มั้ยว่าเธอเป็นใคร ? “
“ แน่นอน Mercy จาก It’s Just Business นักฆ่าที่เก่งที่สุดในเกม พวกเธอก็รู้หมดแล้วนิ พวกเธอก็อยู่กับฉันด้วยคืนแรกน่ะ “ – ราฟ พูดขึ้น
“ ไม่ ฉันหมายถึงในชีวิตจริง “
“ ไม่รู้แล้วก็ไม่สนด้วย “ – ราฟ ยักไหล่
โซว์ มองไปที่ ราฟ เหมือนกับที่ เดฟ มองเธอตะกี้ด้วยท่าทีหมดคำพูด เธอสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่ออธิบายแต่ เดฟ จับที่แขนของเธอไว้  เขาส่ายหน้าเล็กน้อย ตาของเธอเบิกกว้างและกระแอมออกมาเพื่อเก็บเสียงหัวเราะสงสารเอาไว้
ราฟ ไม่ได้สนใจกับท่าทีพวกนี้ อย่างที่เขาบอกไว้ เขาไม่ได้สนใจอะไร สิ่งที่เขาสนใจอยู่ที่เรื่องอื่นมากกว่า
“ นายเห็นแพทซ์เกมรึยัง? “
“ ยัง มีอะไรใหม่บ้าง ?”
“ ก็พื้นฐาน ผู้พัฒนาได้เพิ่มการต่อสู้ใหม่และระบบดาเมจ พวกเขาได้เปลี่ยน AI ที่ติดต่อกับผู้เล่น Alfred เป็นบัค ดังนั้นจึงเอา Albert มาแทนที่ “
โซว์ กับ เดฟ มองหน้ากัน ไม่มี Alfred อีกแล้ว มันน่าโล่งใจ
“ รายละเอียดอยู่บนเว็บไซต์เกม “
“ เดี๋ยวฉันจะลองเข้าไปดู “ – เดฟ ค้นหาเว็บไซต์เกมในโทรศัพท์ของเขาทันที
โซว์ กับ เดฟ ยังคงก้มหน้ามองดูโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อเช็คแพทซ์เกม
***
Conquest แพทซ์ 3.0
“ สวัสดีผู้เล่น
เอมิลี่กาดา ทีมพัฒนาได้ตัดสินใจว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงกับตัวเกมและวิธีการเล่นของผู้เล่น นี่คือแพทซ์ที่เปลี่ยนกลไกสำคัญของเกมรวมถึงไอเท็มอีกหลายชิ้น  แพทซ์จะสรุปการเปลี่ยนแปลงสั้นๆเอาไว้
เนื้อหาแพทซ์ :
ระบบการพัฒนาสกิลใหม่
ลบผลการลงโทษของเลเวลที่ต่างกัน
คุณสมบัติสเตตัสเปลี่ยนไป
การคำนวนดาเมจและ exp
เปลี่ยนการคำนวน exp ที่ได้และการเพิ่มเลเวล
เปลี่ยนค่าการป้องกันของมอนเตอร์และ NPC
ระบบลงโทษการตาย
การคืนค่าสเตตัสและรีสเตตัส
***
***
ระบบการพัฒนาสกิลใหม่ : เกมนี้มีเพื่อไว้รับประสบการณ์ของโลกแฟนตาซีและเวทย์มนต์ ผู้เล่นสามารถสำรวจโลกตามเควส, สร้าง, แลกเปลี่ยนรึกิจกรรมอื่นๆเพื่อความสนุกแต่เป้าหมายหลักของเกมก็เพื่อการต่อสู้ !
เพื่อกระตุ้นให้มีการต่อสู้ในเกม ผู้พัฒนาได้เพิ่มระบบการพัฒนาสกิลขึ้นมา ผู้เล่นควรจะทดลองการใช้งานสกิลแบบรวมและใช้มันด้วยวิธีแตกต่างกันไปเพื่อหาทางสร้างความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
***
***
ลบผลการลงโทษของเลเวลที่ต่างกัน : โทษการต่างของเลเวลระหว่างผู้เล่นและมอนเตอร์นั้นมีแต่ทำให้การเล่นเกมนั้นกินเวลาออกไปอีกแต่ตอนนี้มันถูกปรับให้สมดุลมากกว่าเดิม
***
***
คุณสมบัติสเตตัสเปลี่ยนไป : เอฟเฟ็คใหม่ถูกเพิ่มขึ้นมากับค่า Dex [Reflexive Evasion]
[Reflexive Evasion: ผู้เล่นมีโอกาสที่จะหลบการโจมตีทั้งหมดได้]
ความเร็วที่เพิ่มขึ้นมานั้นเพิ่มโอกาสคริติคอลให้กับสกิลและการโจมตี การโจมตีคริติคอลจะทำดาเมจเป็นสองเท่าและทำดาเมจโดยตรง
โอกาสคริติคอลเพิ่มขึ้น 1% สำหรับค่า Agi ทุก 100 หน่วย(มากสุด 50%)
[Reflexive Evasion] เพิ่มขึ้น 1% สำหรับค่า Agi ทุก 100 หน่วย(มากสุด 10%)
ค่า Vit ได้ถูกลบไปและแทนที่ด้วย HP
การเพิ่ม HP 1 หน่วยจะทำให้เลือดตัวละครเพิ่มขึ้นสูงสุด 10 หน่วย
คลาสโจร การเพิ่มค่า HP 1 หน่วยจะเพิ่มเลือดสูงสุด 5 หน่วย
สำหรับตัวละครสายแทงค์นั้นการเพิ่มค่า HP 1 หน่วยจะเพิ่มเลือดสูงสุด 20 หน่วย
แรงเพิ่มขีดจำกัดการใช้แรงขึ้นมา 1 กก.สำหรับค่า Str ทุกๆ 10 หน่วย
การใช้แรงลดลง(มีประสิทธิภาพมากขึ้น) 1 % สำหรับ Str 100 หน่วย (มากสุด 50%)
การป้องกัน : ดูดซับเวทย์ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นการป้องกันเวทย์
การป้องกัน : ลดดาเมจถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นการป้องกันกายภาพ
การลบดาเมจถูกลบออกไปเพราะความคล้ายกับค่าป้องกันทั้งสอง
ไอเท็มที่มีคุณสมบัติป้องกันเวทย์, ป้องกันกายภาพรึทั้งสองจะถูกปรับใหม่ให้คูณ 1.3 จากเดิม(ไอเท็มที่ไม่มีค่าเหล่านี้จะไม่ได้ถูกปรับอะไร)
จำนวนแรงที่ตัวละครมีนั้นจะถูกแสดงที่มุมจอ
ตอนที่ตัวละครใช้แรง การทำให้ขีดค่าแรงหมดนั้นจะทำให้ตัวละครอยู่ในสถานะหมดแรงซึ่งผู้เล่นไม่อาจจะโจมตีได้และรับดาเมจเพิ่มขึ้น 50% เป็นเวลา 5 วินาที
ค่าโฟกัสและความคลั่งถูกลบไป สกิลที่ใช้ค่าโฟกัสและความคลั่งจะเปลี่ยนไปใช้แรง ข้อจำกัดของค่าโฟกัสและความคลั่งกับการคูลดาวน์สกิลได้สร้างการยื้อเวลาที่ไม่มีเหตุผลในการต่อสู้
การฟื้นฟูแรง, เลือดและมานาจะถูกกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ แต่ละส่วนจะเพิ่มขึ้น 0.1%/วินาทีเริ่มตั้งแต่ 150 วินาทีหลังจากการต่อสู้, รับดาเมจรึเข้าสู่การต่อสู้
นี่คือส่วนสเตตัสใหม่
***
ชื่อ [x], เลเวล [x], คลาส [x], เผ่า [x]
แรง [x], มานา [x], เลือด [x], Str [x]
Int [x], Wis [x], Dex [x], Agi [x]
การป้องกันกายภาพ [x], การป้องกันเวทย์ [x]
การฟื้นฟูเลือด [0.1%], การฟื้นฟูมานา [0.1%]
การฟื้นฟูแรง [0.1%], ชื่อเสียง [x]
ค่าสเตตัสที่ยังไม่ใช้ [x]
ฉายา [x]
***
การคำนวนดาเมจและ exp
มีสูตรใหม่ในการใช้คำนวนในการใช้ exp ในการเพิ่มเลเวล

(4*(CL^3)/5)+200
ซึ่ง CL คือเลเวลของตัวละคร
ยกตัวอย่างเช่น : เมื่อใช้สูตรนี้ ผู้เล่นเลเวล 100 ต้องใช้ exp  800,000 หน่วยในการเพิ่มเลเวลเป็น 101
จำนวน exp ที่ผู้เล่นได้จากการฆ่ามอนเตอร์จะถูกคำนวนด้วยสูตร (4*(ML^3)/(10*(MR+LD)/4 EXP
ซึ่ง
ML หมายถึงเลเวลของมอนเตอร์
MR คือขั้นของมอนเตอร์ตั้งแต่ 1-5 ( 1–ตำนาน, 2—อีปิค, 3—แรร์, 4– ไม่ปกติ, 5 — ทั่วไป)
LD คือความต่างของเลเวลระหว่างผู้เล่นและมอนเตอร์ (จาก 1-20)
นี่ใช้งานสำหรับมอนเตอร์ที่เลเวลต่ำกว่าผู้เล่น
Exp ที่ผู้เล่นได้จากการฆ่ามอนเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าจะคำนวนดังนี้
(4*ML^3)/(10*(MR+LD))/4 = EXP+ (EXP*0.2* LD)
ผู้เล่นจะไม่ได้ exp กับการฆ่ามอนเตอร์ที่เลเวลต่ำกว่า 20 เลเวล
ยกตัวอย่าง : ถ้าผู้เล่นเลเวล 100 ฆ่ามอนเตอร์ขั้นปกติเลเวล 90 exp จะคำนวนดังนี้
(4*(90^3)/(10*(5+10))/4=4860
ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นเลเวล 100 ในตัวอย่างแรกต้องฆ่ามอนเตอร์ขั้นปกติเลเวล 90 เพื่อที่จะได้ exp ในการเพิ่มเลเวลเป็น 101
Exp ที่ได้จากการฆ่ามอนเตอร์จะถูกแบ่งอย่างเท่าเทียมระหว่างผู้เล่นในปาร์ตี้เพื่อกันไม่ให้เกิดการแบก, ระบบสนับสนุน exp ถูกลบออกไป
ผู้เล่นในปาร์ตี้ต้องทำกตามเงื่อนไขเหล่านี้เพื่อให้ได้ exp ในปาร์ตี้ :
ผู้เล่นต้องทำดาเมจอย่างน้อย 1% ของเลือดมอนเตอร์
ผู้เล่นต้องฮีลอย่างน้อย 10% ของเลือดทั้งหมดที่เสียไประหว่างการสู้
คลาสพระดูรายละเอียดเพิ่มเติม***
***
เปลี่ยนระบบป้องกันของมอนเตอร์และ NPC
เลือดและค่าป้องกันของมอนเตอร์และ NPC ถูกคำนวนใหม่เพราะความต่างเลเวลที่ถูกลบไป
ผู้เล่นถูกกำหนดจำนวนสำหรับการลงดันเจี้ยนต่อหนึ่งครั้ง

จำนวนนั้นเป็นไปตามระดับความยากของดันเจี้ยนและองค์ประกอบอื่นๆ
สูงสุด 50 คน
บอสโลกได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่คืออาณาเขตของมันซึ่งจำกัดจำนวนผู้เล่นที่เข้าไปสู้กับบอสได้ที่ 200 คน เมื่อบอสได้สู้กับผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาเพิ่มเติมจากเดิมนั้นจะทำให้บอสกลับไปที่จุดเกิด
ถ้าบอสโลกโดนฆ่า ทั้งปาร์ตี้จะได้รับการฟื้นฟูเลือด, แรงและมานาให้เต็มทันที
***
ระบบลงโทษการตาย
ตอนที่ผู้เล่นโดนฆ่า ตัวละครจะเสีย exp ทั้งหมดและเลเวลลดลง 1 เลเวล
ผู้เล่นจะกลับไปเกิดทันทีในส่วนที่เรียกว่าลิมโบ ผู้เล่นจะโดนกักตัวในลิมโบ 8 ชม. หลังจากนั้นผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะกลับไปในเกมที่จุดเกิดไหนได้
ตอนที่อยู่ในลิมโบและก่อนจะกลับไปในเกม ผู้เล่นสามารถได้ exp เป็นสองเท่าจากเดิมเพื่อบรรเทาโทษที่ได้รับจากการตายแต่ไม่เสีย exp ใดๆ
***
การคืนค่าสเตตัสและรีสเตตัส
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด มันมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ดังนั้นแน่นอนว่าผู้เล่นจะสามารถรีสเตตัสตัวละครได้ตอนที่ล็อคอินหลังจากที่แพทซ์เสร็จ ค่าคุณสมบัติทุกอย่างจากการเพิ่มเลเวลจะถูกคืนให้กับผู้เล่น
การรีสเตตัสนั้นหมายความว่าให้ผู้เล่นได้สร้างตัวละครที่เหมาะกับการเล่นของตน
***
นั่นคือสรุปแพทซ์แต่ก่อนจะจากกัน เรายินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ในกลุ่มเรา AI ใหม่ที่ชื่อ Albert ที่รับหน้าที่ติดต่อและดูแลผู้เล่นในเกม  เพราะความต้องการที่สูงและความซับซ้อนของเกมจึงได้ถูกนำมาแทนที่ Alfred AI นี้มีความสามารถมากกว่า
สรุปเพียงเท่านี้
เอมมิลี่กาดา หัวหน้าทีมพัฒนา
***
“ นายคิดว่าไง ? “ – ราฟ ถาม
“ มันเปลี่ยนทุกอย่าง “ – เดฟ เหม่อลอย
โซว์ บ่นออกมา – “ ฉันต้องรีสเตตัสอีกแล้วและโทษการตายก็โคตรแย่เลย “
“ ใช่แต่มันจะกันไม่ให้ผู้เล่นทำอะไรโง่ๆในเกมได้เยอะเลย “- ราฟ พูดขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ราฟ และ โซว์ ก็มองไปที่ เดฟ
โซว์ ส่ายหน้าช้าๆ – “ บางทีอาจจะไม่ช่วยเท่าไหร่ “