ตอนที่ 1821

เรามีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่ง

สติของโหลวลั่วเริ่มล่องลอยออกไป

ความรู้สึกที่ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้แบบนี้ ไม่ค่อยเกิดกับเธอบ่อยนัก

เธอไม่รู้ว่าคนอายุน้อยๆ ชอบกัดกันหมดหรือไม่

แต่เขาชอบมาก แถมยังไม่ทำให้คนรู้สึกอึดอัดด้วย

ตรงกันข้าม เมื่อมีเลือดก็เหมือนกับได้พบการเพรียกหาแรกสุดอย่างไรอย่างนั้น

โหลวลั่วไม่รู้จะวางมือไว้ที่ไหน ได้แต่จิกเบาะโซฟา

ตรงหางตาเหมือนจะมีแววเคลิบเคลิ้มเกินจะต้านทานเอ่อล้นออกมา

ความหวานที่เข้าสู่ช่องปากทำให้แววตาของป๋ออิ่นแดงก่ำ ทว่าเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดเป็นเธอ เขาก็กลั้นใจไว้ได้ จากนั้นรัดเอวบางของเธอไว้ หัวเราะเสียงต่ำระคนแหบเครือ “ผมบอกแล้วว่าคุณจะชอบ”

น้อยครั้งมากที่โหลวลั่วจะใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงแบบนี้ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจากโซฟาไปถึงห้องน้ำ แล้วมาจบที่เตียงอีก

กลิ่นหอมกุหลาบเบาบางที่ปลายจมูก ทำให้บางครั้งเธอถึงขั้นรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ที่นี่ เหมือนอยู่ในปราสาทเสียมากกว่า

หลังจากเสร็จกิจกรรมรักแล้ว เขาไม่ได้หนีหายไปจากเธอ

เขาดูแลคนเก่งมาก

ดูท่าทางไม่ได้เป็นครั้งแรกแน่นอน

และโหลวลั่วก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอเช่นกัน

ทว่าเธอลืมไปแล้วว่าเคยมีครั้งแรกกับใคร

คงเพราะเธอใจลอย เขาจึงยกเอวเธอขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยเสียงต่ำว่า “พวกเรามีลูกกันอีกสักคนดีไหม จะได้ช่วยให้คุณจำได้ แต่ครั้งนี้ลูกคงเหมือนผมล่ะนะ”

“ลูก?” โหลวลั่วยังไม่ได้สติกลับมาเต็มที่ ความรู้สึกหวามไหวยังค้างอยู่ที่ปลายนิ้วมือ อีกคนงั้นเหรอ?

ป๋ออิ่นตอบว่า “ใช่” จากนั้นก็จูบลงบนซอกคอของเธอ

อากาศข้างนอกค่อนข้างเย็นด้วยเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว

ทว่าภายในห้องกลับไม่รู้สึกเย็นอะไรเลย

แม้ว่าทั้งสองจะคลุมแค่ผ้าห่มผืนเดียวเท่านั้น

โหลวลั่วเป็นคนฉลาด ทั้งยังเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ เมื่อได้สติกลับมาก็เอ่ยขึ้น “เราเคยมีลูกด้วยกันเหรอ อยู่ที่ไหน?”

หากคำนวนจากอายุของเธอและเขา เด็กน่าจะยังไม่โตมาก

เธอเป็นคนรักเด็ก แม้หลายคนจะบอกว่าให้ระวังคนที่เธอกำลังเลี้ยงไว้อยู่ให้ดี แต่เวลานี้เธอทิ้งความระแวดระวังทุกอย่างไปแล้ว ถึงขั้นที่เชื่อเขาสนิทใจ

ป๋ออิ่นหลุบตาลง กอดอีกฝ่ายผ่านผ้าห่ม “รอให้คุณจำได้หมดก่อน ผมจะพาคุณไปเจอลูก”

โหลวลั่วง่วงนอนมากแล้ว แต่ไม่ได้หลับตาลง “คุณสัญญาว่าจะไม่หลอกฉัน ใช่ไหม?”

“แน่นอน” เขาจูบลงที่หางตาเธอ

โหลวลั่วไม่ยอมให้เรื่องจบเพียงเท่านี้ “งั้น เป็นลูกชายหรือลูกสาวคะ?”

“ลูกสาว” ป๋ออิ่นเอ่ยเสียงเบา “แต่เก่งเรื่องจัดการความสัมพันธ์ของผู้หญิงผู้ชายมาก”

โหลวลั่วกำลังคิดว่าเพราะเธอกับเขามีช่องว่างระหว่างวัยหรือไม่ “ผู้หญิง เก่งเรื่องจัดการความสัมพันธ์ของผู้หญิงผู้ชายมาก?”

“อื้อ” ป๋ออิ่นนึกถึงท่านจิ่วขึ้นได้ ก็ให้ข้อมูลเพิ่ม “มีผู้หญิงมาชอบลูกเราเยอะมาก คิดว่าถ้าพวกนั้นได้เจอคุณ คงต้องเรียกคุณว่าคุณแม่ผัวแน่นอน”

คุณแม่ผัว? โหลวลั่วหลุดขำ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

ป๋ออิ่นรู้ว่าเรื่องพวกนี้ต้องให้เวลาเธอค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับมัน

ระหว่างนี้เธออาจจะรับไม่ได้

ทว่าโหลวลั่วก็คือโหลวลั่ว เธอหัวเราะก่อนจะเอ่ยขึ้น “ขนาดเด็กผู้หญิงยังชอบลูกสาวเรา แสดงว่าลูกต้องมีเสน่ห์มากแน่นอน”

“ก็ขี้อ้อนอยู่” ป๋ออิ่นมองเธอ “คุณเชื่อเหรอ?”

โหลวลั่วยิ้มนิดๆ กลิ่นอายนักธุรกิจยังอยู่ครบ “มีลูกสาวสักคนก็ดีเหมือนกัน ฉันชอบเด็กผู้หญิง ถึงเวลานั้นจะได้ซื้อชุดเจ้าหญิงให้ลูกใส่”

ป๋ออิ่นหัวเราะ ซบหน้าที่บ่าเธอ

โหลวลั่วไม่เข้าใจ “คุณหัวเราะอะไร?”

“เปล่า” น้ำเสียงของป๋ออิ่นเรียบเรื่อย “เมื่อก่อนคุณก็เคยคิดอย่างนี้”

………………………………………………..

ตอนที่ 1822

ผมจำได้ก็พอ

โหลวลั่วได้ยินคำพูดของชายหนุ่มแล้ว ก็เดาออกอย่างชาญฉลาดว่าคงไม่ธรรมดาแน่ “แล้วผลก็คือ?”

“ถึงเวลานั้นคุณก็ดูเองแล้วกัน” ป๋ออิ่นหัวเราะเบาๆ “ท่านจิ่วของเราเรียนรู้ที่จะทำตัวเรียบร้อยต่อหน้าคุณแล้วเหมือนกัน”

โหลวลั่วไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากฟังเรื่องของลูกให้มากกว่านี้ “ท่านจิ่วของเรา? ลูกเราชื่อจิ่วเหรอคะ?”

“ป๋อจิ่ว” ป๋ออิ่นตอบเสียงเบา หากฟังให้ดีจะรับรู้ได้ถึงอารมณ์อื่นที่แฝงมาด้วย “คุณเป็นคนตั้งชื่อเอง บอกว่าอยากให้อยากอยู่กับคุณป๋อไปนานๆ”

โหลวลั่วเอนพิงร่างอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยอ่อน “ฉันจำไม่ได้”

“ไม่เป็นไร” เสียงป๋ออิ่นยังคงน่าฟังเสมอ “ผมจำได้ก็พอ”

โหลวลั่วใจเต้นแวบหนึ่ง พูดเรื่องเมื่อครู่ต่อเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอไผลไปมากกว่านี้ “ฉันอยากเจอลูกค่ะ”

“ผมจะพาคุณไปหา” ป๋ออิ่นทัดเส้นผมของเธอไว้ที่หู “แต่คุณอาจจะตกใจได้ เพราะงั้นก่อนออกเดินทาง คุณต้องเตรียมใจเสียหน่อย”

โหลวลั่วไม่ได้ถามเขาว่าต้องเตรียมใจอะไร

เธอหัวเราะเสียงเบา “มีของน้อยอย่างที่จะทำให้ฉันตกใจได้นะคะ”

“รอก่อนเถอะ” ป๋ออิ่นสางผมให้เธอ “เขาต้องลงแข่งน่ะ”

ในความคิดของโหลวลั่ว การแข่งขันที่ผู้ชายคนนี้พูดถึงน่าจะเป็นการแข่งบาสเก็ตบอลระดับประถมอะไรทำนองนั้น

แต่มันไม่ส่งผลอะไรต่อการรอคอยที่จะได้พบลูกสาวของเธอ

เธอเชื่อเขาอย่างสนิทใจแล้ว

หลายคนนินทาว่าเธอไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่เช่นเดียวกัน ใครล่ะจะเข้าใจเธอเมื่อต้องอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมาหลายปี

บางครั้งเธอก็อดคิดไม่ได้ว่า ตัวเองไม่น่าจะอายุเท่าในเวลานี้

เพื่อนๆ ต่างบอกว่าผ่านสามปี เหมือนหน้าเธอจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ต่างถามกันว่าเธอซื้อเครื่องบำรุงผิวจากที่ไหน

อันที่จริงเธอไม่ได้ใช้ยี่ห้อไหนเป็นประจำ เธอมักรู้สึกไปเองว่าตัวเองหยุดอายุไว้ที่ 31 ปี

แต่สำหรับคนอื่นๆ ผู้หญิงอายุ 31 อย่างเธอไม่ถือว่าน้อยแล้ว

แล้วเขาอายุเท่าไรกันแน่

โหลวลั่วดูไม่ออก แต่แน่ใจได้ว่าเขาต้องอ่อนกว่าเธอแน่นอน

ดูจากที่เขาสวมเสื้อยืดสีดำเมื่อครั้งที่แล้วก็รู้ได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่จุดสำคัญ

หากเขาพูดไม่จริง เธอก็ยังดีใจ เพราะการเลี้ยงคนไว้ข้างๆ คงจะความรู้สึกที่ดีเช่นนี้เอง

เพียงแต่เมื่อมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เรื่องก็ออกจะละเอียดอ่อนลึกซึ้งแล้ว

ความลึกซึ้งที่ว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อตื่นในวันต่อมา

หลังจากทำงาน เพื่อนๆ เสนอให้มาเจอกันหน่อย

ปกติแล้วโหลวลั่วทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมาก เมื่อถึงตอนบ่ายสามกว่าเธอก็ออกจากบริษัทไปร้านกาแฟแถวตึกที่ทำงาน

บางครั้งสาวแกร่งที่อยู่ในละครทีวีก็ไม่เหมือนในชีวิตจริง เพราะผู้หญิงมักเน้นพูดเรื่องความรักและครอบครัว

หากมาดื่มกาแฟกินของหวานกันอย่างนี้ คนทั่วไปมักคิดว่าผู้หญิงเหล่านี้จะต้องมีสามีรวยและชอบช้อปปิ้ง

อันที่จริงก็ไม่ถึงกับเป็นอย่างนั้น

พัฒนาการด้านนิสัยเฉพาะตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง ล้วนมีความเกียจคร้านที่เป็นเอกลักษณ์เกิดขึ้นในช่วงหลังเที่ยง

พวกเธอที่นั่งบนโต๊ะล้วนแต่เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการงานของตัวเอง

หนึ่งในนั้นกำลังจะหย่า

เดิมทีก็คุยกันสนุกสนาน แต่เมื่อเห็นโหลวลั่ว และเห็นร่องรอยบนคอของเจ้าตัว ก็อึ้งกันไปนิดๆ มุมปากหยักยิ้มขึ้นมา “อะไรกันเนี่ย ไหนว่าไม่ได้แตะเจ้าลูกหมาน้อยที่เก็บไปเลี้ยงที่บ้านไง”

“เหลือเชื่อที่คนอย่างประธานโหลวก็มีตอนอดใจไม่อยู่เหมือนกัน”

เวลาอยู่ในห้องทำงาน โหลวลั่วที่สวมชุดสูททำงานกลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายด้วย เมื่ออยู่สถานที่แบบนี้ เธอย่อมไม่เคร่งครัดกับตัวเอง ไม่คิดว่าพอถอดเสื้อตัวนอกออกจะเห็นอะไรบางอย่าง

“ฉันว่านะ เจ้าหมาน้อยได้กำไรไปเลย”

“ไม่ใช่แค่กัดเหรอ”

“ประธานโหลวที่รัก คุณลองบอกมาซิว่าทนไม่ไหวใช่ไหม?”

โหลวลั่วยิ้มนิดๆ ข้อมือขาวนวล เมื่อยกถ้วยชาขึ้นมายิ่งดูเนียนสวย “ใช่”

………………………………………