บทที่ 1285 ความรู้สึกตอนโดนอัดช่างคุ้นเคยเหลือเกิน / บทที่ 1286 เธอคือพี่สาวจริงเหรอ?

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1285 ความรู้สึกตอนโดนอัดช่างคุ้นเคยเหลือเกิน

“ปะ…เป็นไปไม่ได้…”

วินาทีนี้ ทุกคนในพันธมิตรอู๋เว่ยมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง

สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยที่อยู่ในเหตุการณ์ มีหลายคนที่อยู่ในกลุ่มมานาน ฉะนั้นพวกเขาจึงรู้จักทักษะและกระบวนท่าของหัวหน้าแก๊งพวกเขาอยู่บ้าง

แต่ตอนนั้นหัวหน้าบอกว่าจะกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย

พันธมิตรอู๋เว่ยเคยระดมกำลังคนจำนวนมากตามหาหัวหน้าแก๊ง แต่น่าเสียดาย หลายปีผ่านไปแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย…

ชีซิงจ้องหน้าหญิงสาวด้วยความสงสัย

“เธอ…คุณคือ…ท่านหัวหน้า?!” สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยคนหนึ่งมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าตกตะลึง

ชายชราจากพันธมิตรอู๋เว่ยที่ถูกเยี่ยหวันหวั่นซัดปลิวเมื่อกี้ตอนนี้เลือดกลบมุมปาก เขาหน้าเปลี่ยนสีไปทันที

ทั้งเรี่ยวแรงและองศาของวิชาดรรชนีเมื่อกี้ของผู้หญิงคนนี้ เหมือนหัวหน้าแก๊งที่หายตัวไปของพวกเขามาก

“เธอ…เธอ…”

ตอนนั้นเขามักจะได้เป็นคู่ซ้อมของหัวหน้า เมื่อครู่วินาทีที่ผู้หญิงคนนี้โจมตีเขา ชายชราเหมือนย้อนเวลากลับเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขาเป็นคู่ซ้อมของหัวหน้า…

ความรู้สึกตอนโดนอัดอย่างนี้ ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน!

“หะ…หัวหน้า…” ชายชราจ้องเยี่ยหวันหวั่น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย เขาเดินไปหาเยี่ยหวันหวั่นแล้วเรียกอย่างไม่อยากเชื่อ

“หัวหน้า…หัวหน้าใช่ไหมครับ…” ชายชรามองเยี่ยหวันหวั่นอย่างเหม่อลอย แววตาดูสับสน

พฤติกรรมเมื่อกี้ของเยี่ยหวันหวั่นเกิดจากจิตใต้สำนึกเวลาเผชิญหน้ากับอันตรายล้วนๆ แต่พอคิดจะทำต่อ สมองกลับขาวโพลนไปหมด

ขณะกำลังร้อนรน จู่ๆ คนของพันธมิตรอู๋เว่ยก็มองเธอ แล้วเรียกเธอว่าหัวหน้า เยี่ยหวันหวั่นได้แต่อึ้งงัน

เธอรู้อยู่แล้วว่าหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย ก็คือแบดเจอร์ในตำนานที่โหดเหี้ยมอำมหิต และหายตัวไปนานหลายปีแล้วคนนั้น

แต่คนพวกนี้แล้วยังมีชายชราที่โฉดชั่วคนนั้นกลับมองหน้าเธอแล้วเรียกเธอว่าหัวหน้า หมายความว่ายังไงกัน?

เยี่ยหวันหวั่นพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆ เธอก็นึกถึงตอนที่เจอสมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยที่โดนไล่ออกที่จีน ตอนนั้นพวกเขาก็จำผิดคิดว่าเธอเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเหมือนกัน…

หรือว่าเธอกับหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยมีตรงไหนที่เหมือนกันจริงๆ?

ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่จำผิดซ้ำๆ อย่างนี้

เพียงเสี้ยววินาที สมองของเยี่ยหวันหวั่นมีความคิดมากมายผุดขึ้นมา คำถามที่ตั้งใจจะถามออกไปถูกกลืนลงคอไปทันที

ถ้าหากเธอไม่ยอมรับว่าเธอเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย เธอกับตระกูลโจวจะต้องตายกันหมดแน่

ในเมื่อพวกเขาคิดว่าเธอเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย…

ถ้างั้นก็ใช้แผนหนามยอกเอาหนามบ่งก็แล้วกัน…

เมื่อถึงเวลานั้น ไม่เพียงจะช่วยตระกูลโจวไว้ได้ แม้แต่เธอเองก็จะรอดด้วย

คิดได้อย่างงี้เยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนสีหน้าทันที

ถึงเธอจะไม่รู้ว่าหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยหน้าตาเป็นยังไง แต่จากข่าวลือที่ได้ยินมา ก็พอจะคาดเดาได้บ้างว่าแบดเจอร์คนนั้นนิสัยเป็นยังไง

ถึงยังไงก็มีแต่ตายกับตาย ไม่สู้ลองดูซักตั้งแล้วกัน!

ได้เวลาแสดงทักษะที่แท้จริงของเธอแล้ว…

พอได้ยินชายชราเรียกตัวเองว่าหัวหน้า เยี่ยหวันหวั่นก็แสร้งวางท่าไม่แยแส แล้วเหลือบมองชายชราอย่างรำคาญ “เรียกหาอะไร!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตารำคาญของหญิงสาว ชายชรากลับเหมือนได้รับการยืนยัน เขาเดินฝีเท้าสะเปะสะปะไปหาเยี่ยหวันหวั่น “ผะ…ผมไม่เอาไหน…แค่กระบวนท่าเดียวของหัวหน้าก็ยังต้านทานไม่ไหว…หัวหน้าให้อภัยผมด้วย…ผมไม่ได้ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของหัวหน้าที่บอกให้ตั้งใจฝึกฝนนะครับ แต่เป็นเพราะ…เพราะผมแก่มากแล้วจริงๆ…”

————————————————————————————-

บทที่ 1286 เธอคือพี่สาวจริงเหรอ?

ชายชรายืนก้มหัวอธิบายตัวสั่น เขาแอบเงยหน้ามองหญิงสาวอย่างหวาดระแวง แล้วเอ่ยต่ออย่างสำนึกผิดว่า “หัวหน้า เมื่อกี้ผมมีตาหามีแววไม่ ไม่นึกเลยว่าจะจำหัวหน้าไม่ได้…”

เอ่ยจบ ชายชราสายตาไหวระริก แล้วกล่าวอีกว่า “เพียงแต่ เมื่อกี้ทำไมหัวหน้าถึง…ไม่แสดงตัวล่ะครับ?”

ไม่ได้แถกันได้ง่ายๆ ตามคาด นี่เขากำลังหยั่งเชิงเธออยู่สินะ!

เยี่ยหวันหวั่นลองวิเคราะห์นิสัยของแบดเจอร์ดู ในเมื่อเธอร่อนเร่อยู่ข้างนอกนานขนาดนั้น หากไม่ใช่ว่าเกิดอุบัติเหตุอะไร ก็ต้องเป็นเพราะยังเล่นสนุกไม่พอเลยไม่อยากกลับมาแน่ๆ

ฉะนั้น เยี่ยหวันหวั่นจึงจิ๊ปาก “บอกอะไรของนาย? จะกินอะไรไปเรื่อยก็ได้ แต่จะพูดจามั่วซั่วไม่ได้เด็ดขาด ใครบอกว่าฉันเป็นหัวหน้าแก๊งของพวกนาย?”

ถ้าหากเยี่ยหวันหวั่นบอกว่าตัวเองเป็นหัวหน้าแก๊งของพวกเขา พวกเขาอาจจะไม่เชื่อ แต่พอเยี่ยหวันหวั่นทำตรงกันข้าม จู่ๆ ก็ไม่ยอมรับ พวกเขาจึงทำอะไรไม่ถูก

ชายชราอึ้งไปตามคาด จากนั้นก็ทำหน้ายับเหมือนจะร้องไห้ “หัวหน้าครับ อย่าล้อเล่นอีกเลย! บนโลกนี้นอกจากหัวหน้าแล้วยังมีใครใช้ท่าเมื่อกี้ได้อีก! ความรู้สึกตอนที่หัวหน้าอัดผม ผมไม่มีทางจำผิดแน่นอน! ในเมื่อหัวหน้ากลับมาแล้วก็อย่าไปไหนอีกเลยนะครับ!

เพราะหัวหน้าไม่อยู่นานเกินไป หลายปีมานี้รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปมาก ผมเลยจำหัวหน้าไม่ได้ อภัยให้ผมด้วยครับ!”

เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าจนใจเหมือนโดนคนที่โดนจับไต๋ได้ “น่ารำคาญ!”

ชายชรารีบยิ้มประจบประแจง “ในรัฐอิสระ คนที่กล้าเอาปืนออกมาก็คงมีแต่หัวหน้าคนเดียว…เมื่อกี้ทำไมผมถึงไม่ทันนึกนะ…”

ชายชราบอก ในใจก็นึกเสียใจ ถ้าหากเขาสะดุดใจกับรายละเอียดพวกนี้แล้วจำหัวหน้าได้ตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ต้องโดนอัดแล้ว…

“เธอ…” เด็กหนุ่มชีซิงจ้องหญิงสาวตรงหน้าไม่วางตา

เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งจะโล่งใจไม่นานก็หันมาเห็นชีซิง พลันขนลุกไปทั้งตัว เจ้าเด็กนี่ไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่ายๆ เขารับมือยากกว่าชายชรามาก

เยี่ยหวันหวั่นพยายามสงบสติอารมณ์ มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย หันไปมองเด็กหนุ่มอย่างใจเย็น

“เธอ…คือพี่สาวจริงเหรอ?!” ชีซิงก้าวเท้าเข้ามา ประกายบางอย่างพาดผ่านนัยน์ตาไปอย่างรวดเร็ว

“พี่สาว?”

เยี่ยหวันหวั่นประหลาดใจ หรือว่า…ชีซิงแห่งพันธมิตรอู๋เว่ยเป็นน้องชายของหัวหน้าแก๊ง?

น้องชายแท้ๆ หรือแค่น้องชายทั่วไป?

ไม่ว่าจะแบบไหน ถ้าหากพูดกับน้องชาย งั้นคำพูดกับวิธีการพูดก็น่าจะไม่เหมือนกันสินะ…

ดูจากสไตล์การทำงานของพันธมิตรอู๋เว่ย แบดเจอร์ที่มีศักดิ์เป็นหัวหน้าแก๊งต้องเป็นคนที่ใจโหดโฉดชั่วมากแน่ๆ คนอย่างนี้เวลาพูดกับน้องชาย…จะพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางยังไงนะ…

เดาไม่ออกเลยแฮะ…

“ชีซิง ว่าไง จำพี่สาวไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?” หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนสไตล์การพูด เพิ่มความอ่อนโยนกับความคิดถึงเข้าไป แต่กลับยังคงไว้ซึ่งอำนาจน่าเกรงขาม

น่าจะประมาณนี้ล่ะมั้ง…

เยี่ยหวันหวั่นอกสั่นขวัญแขวน วินาทีนี้ ถ้าเธอพูดผิดแค่คำเดียวก็อาจถึงตายได้

ชีซิงจ้องหน้าเธอ จากนั้นก็หลุบตาเงียบๆ สีหน้าเหมือนกำลังสับสนลังเล

ตอนนี้สมาชิกคนอื่นในพันธมิตรอู๋เว่ยเริ่มถกเถียงพูดคุยกัน

“เธอต้องเป็นแบดเจอร์ของพวกเราแน่…ไม่อย่างนั้นจะใช้ท่าเฉพาะตัวของแบดเจอร์เป็นได้ยังไง…ตอนนั้นคุณชายเจ็ดขอให้หัวหน้าสอนท่านั้นให้เขา แต่ด้วยพรสวรรค์ของคุณชายเจ็ด ฝึกอยู่ครึ่งปีก็ยังทำไม่ได้…” สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น