บทที่ 1128 หวนคืนสู่ถิ่น

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1128 หวนคืนสู่ถิ่น

หนึ่งวัน

สองวัน

ผ่านไปสามวันเต็ม กู้ชูหน่วนไม่ได้ออกจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว

พวกของฝูกวงต่างเฝ้ารอกันอย่างร้อนรน

ผู้อาวุโสหกเองก็เดินไปเดินมาอยู่อย่างนั้น กัดฟันและพูดออกมาว่า “ไม่ได้ ต่อให้อาหน่วนโกรธ ข้าก็ต้องพานางกลับไปพักผ่อนที่ห้องให้ได้ เวลานี้จิตวิญญาณของนางยังไม่มั่นคง ต่อให้แข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่อาจรับไหว ”

“เอี๊ยด……”

ผู้อาวุโสหกยังไม่ทันเปิดประตู กู้ชูหน่วนก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้อง

ดวงตาคู่นั้นของนางแดงก่ำ ใบหน้าซีดขาว เดินออกมาอย่างสั่นเทาและเกือบจะล้มลงหลายครั้ง

“เหตุใดร่างกายของเจ้าถึงได้เย็นถึงเพียงนี้ อาหน่วน เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจ”

ผู้อาวุโสหกเข้าไปพยุงนาง ปลดปล่อยพลังภายในของตนเองออกมา ใส่เข้าไปในร่างกายของนางเพื่อช่วยให้นางปรับลมปราณ

“ข้าไม่เป็นไร อาม่อเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ตาเฒ่าไป๋เฉ่าคอยให้การดูแลอยู่ อาการบาดเจ็บของเขาดีกว่าก่อนหน้านี้มา ขอแค่ให้เวลากับเขา คาดว่าอีกไม่นานก็คงฟื้นขึ้นมา

“ทางราชสำนักเป็นอย่างไรบ้าง?”

“มีเจ้าเด็กหยางโม่คอยดูแลอยู่ ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรเป็นแน่ รออาการบาดเจ็บของเจ้าหายดี เจ้าก็สามารถกลับไปครองราชย์บัลลังก์ต่อได้ แต่ประชาชนของเผ่าหยกต่างรอคอยการกลับมาของเจ้า แม้ว่าจักรพรรดินีนั้นไม่เลว แต่พวกเราก็หวังว่าเจ้าจะกลับมาดินแดนเยี่ยอวี่ กลับมายังเผ่าหยกของพวกเรา”

กู้ชูหน่วนพึมพำกับตัวเอง

เผ่าหยกงั้นหรือ?

ชีวิตนี้นางไม่เคยคิดที่จะกลับไป

เผ่าหยกมอบความสุขให้กับนางมากมาย

แต่ความทุกข์ทรมานที่นางได้รับนั้นมันมากกว่า

ท่านพี่เฉินเฟย ไป๋จิ่น รวมถึงพี่น้องของเผ่าน้ำแข็งอีกหลายร้อยคนต้องเสียชีวิตอยู่ที่นั่น

รวมถึง……พวกของอินเอ๋อร์ที่ต้องจบชีวิตลงอย่างอนาถด้วยคำสาปโลหิต

คำว่าเผ่าหยก จนถึงตอนนี้ มันยังคงเป็นคำที่หนักเกินไป

กู้ชูหน่วนถามออกมาว่า “แล้วศพของเสี่ยวยุนเฟยอยู่ที่ไหน?”

“นอนอยู่บนเตียงหยกน้ำแข็ง เตียงหยกน้ำแข็งเป็นสมบัติแห่งราชวงศ์ก่อนของรัฐอี้ ตราบใดที่อยู่บนเตียงนั่นร่างกายก็ไม่มีวันเน่าเปื่อย เหล่าทหารกองทัพอี้รวมถึงผู้อาวุโสคอยเฝ้าดูแลเขาอยู่ที่นั่น”

“พาข้าไปดูเขาหน่อย”

“ดูอะไร เหตุใดเจ้าถึงไม่ดูตัวเองบ้าง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างนั้นหรือ”

“ฝูกวง”

“ขอรับ”

“พาข้าไปหายุนเฟย”

“คือ……ขอรับ……”

คำพูดของกู้ชูหน่วน ฝูกวงไม่อาจละเลยได้ เขาทำได้เพียงทำตามคำสั่งของนางเท่านั้น

ผู้อาวุโสหกรีบตามไปทันที

ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าเดินออกมาจากห้องของจอมมาร ตอนแรกเขาเองก็คิดจะตามไป แต่เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บของเยี่ยจิ่งหาน เขาจึงรีบเข้าไปในห้องของเยี่ยจิ่งหาน

เมื่อลองตรวจชีพจร สีหน้าของไป๋เฉ่าก็เปลี่ยนไป

อาการบาดเจ็บของเยี่ยจิ่งหานสาหัสเป็นอย่างมาก แต่เดิมเขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

หัวหน้าเผ่ารักษาเขาอย่างไรกันแน่ ระยะเวลาสั้น ๆ เพียงแค่สามวันกลับทำให้เขารอดพ้นจากอันตรายได้?

ขอแค่ได้พักฟื้นอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง เยี่ยจิ่งหานจะต้องสามารถปกป้องชีวิตของตนไว้ได้แน่นอน

เพียงแต่วรยุทธ์และเส้นลมปราณของเขาไม่อาจฟื้นกลับมาได้

ในห้องเย็น

อี้ยุนเฟยนอนอย่างสงบบนเตียงหิน

ผู้อาวุโสอวี๋คอยดูแลเขาอยู่ข้างเตียง

แม้ว่าผู้อาวุโสอวี๋จะมีอายุมากแล้ว แต่เขาก็ยังดูแข็งแรง กระฉับกระเฉง ดูไม่แก่เลยแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้……

เพิ่งจะไม่เจอเพียงไม่กี่วัน ผู้อาวุโสอวี๋ดูเหมือนจะแก่ลงหลายสิบปี

ผมของเขาเป็นสีขาว เบ้าตายุบตัว ไร้ชีวิตชีวา พร้อมกับดวงตาสีแดงก่ำ

และ……

เวลานี้แขนของเขาเหลือเพียงแค่ข้างเดียว

คิดว่าน่าจะเป็นเพราะถูกคนของเผ่าเพลิงฟ้าตัดขาดจากการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ในวันนั้น

เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนเดินเข้ามา เขาก็ไม่แสดงท่าทีแต่อย่างใด

กู้ชูหน่วนจ้องมองผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงหยกด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

นางกับเขาเพิ่งจะรู้จักกันนานแค่ไหน?

มันคุ้มค่าแล้วอย่างนั้นหรือที่เขาต้องมาสละชีวิตเพื่อช่วยนาง?

น้ำเสียงของกู้ชูหน่วนแข็งทื่อ “ตอนที่เขาจากไป……มันเจ็บปวดเพียงใด?”

ฝูกวงตอบกลับมาว่า “ไม่ทรมานมาก เขาจากไปอย่างสงบ คุณชายอี้ฝากบอกว่า ท่านอย่าได้เสียใจ ใช้ชีวิตต่อไปให้ดี เขาจะรอท่านอยู่ที่โลกอีกใบหนึ่ง คอยปกป้องท่าน และยังพูดอีกว่า เขาไม่เคยเสียใจที่ช่วยนายท่าน ต่อให้เขาเกิดใหม่อีกสักกี่รอบ เขาก็ยังยอมสละชีวิตเพื่อนายท่านอยู่เช่นเคย”

“ก่อนที่คุณชายอี้จะตาย เขารู้ถึงโลกของตนเอง เขาบอกว่าเขาจะกลับไปยังเผ่าหยก กลับไปยังสถานที่ซึ่งพ่อแม่และพี่ชายของเขาเคยเกิดและอาศัยอยู่ หวนคืนสู่ถิ่น”

ผู้อาวุโสอวี๋ได้ยินเช่นนั้น ขาทั้งสองข้างของเขาสั่นเทา เขาทนฟังไม่ได้อีกต่อไป นำมือขึ้นมาปิดปากโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา

กู้ชูหน่วนพยุงผู้อาวุโสอวี๋ขึ้นมา พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ข้าขอโทษ”

ผู้อาวุโสอวี๋สูญเสียความมีชีวิตชีวาเหมือนก่อนหน้านี้ เขาโบกมืออย่างอ่อนแรงพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า

“กองทัพอี้……สูญเสียไปกว่าครึ่ง แม้แต่ผู้อาวุโสเจียงเองก็……”

“นายท่านน้อย เขาเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ……จักรพรรดิผู้ล่วงลับ ข้าขอโทษ……”

กู้ชูหน่วนสะบัดแขนเสื้อ คุกเข่าลงพื้น ก้มศีรษะให้กับผู้อาวุโสอวี๋อย่างสัตย์จริง “ข้าขอโทษ……”

ฝูกวงตกใจเป็นอย่างมาก

เขาอยู่ข้างกายของนายท่านมาตั้งแต่เด็ก นายท่านของเขายอมก้มหัวให้กับคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่

ฝูกวงคิดจะเข้าไปพยุงนางขึ้นมา แต่กู้ชูหน่วนทำมือห้ามเขาไว้ ฝูกวงจึงทำได้เพียงยอมแพ้

ตอนแรกผู้อาวุโสอวี๋รู้สึกโกรธและไม่พอใจกู้ชูหน่วนเป็นอย่างมาก

แต่วันนี้เมื่อได้เห็นกู้ชูหน่วนเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าเขา คุกเข่าต่อหน้านายท่านน้อย เขาเองก็รู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน เขารีบเข้าไปพยุงกู้ชูหน่วนขึ้นมา ความโกรธแค้นอันยิ่งใหญ่ที่มีหายไปในพริบตา

“อย่า อย่าทำเช่นนี้ ฝ่าบาท ท่านคิดจะทำให้ข้าลำบากใจอย่างนั้นหรือ”

“เกี่ยวกับเสี่ยวยุนเฟย ข้าไร้ซึ่งอำนาจและพลัง”

ช่องว่างระหว่างความเป็นและความตายไม่สามารถแลกได้ด้วยกำลังคน ไม่ว่าทักษะของนางจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะนางเองก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง

ท่านพี่เฉินเฟย เสี่ยวยุนเฟยเหตุใดพวกเจ้าต้องยอมสละชีวิตเพื่อข้าด้วย

เพื่อช่วยนาง ทหารกองทัพอี้ต้องล้มตายจำนวนมากเนื่องจากการต่อสู้กับเผ่าเพลิงฟ้า

นางติดหนี้พวกเขามากเกินไป มากเกินไปจริง ๆ

“เรื่องนี้……จะโทษเจ้าก็ไม่ได้ ทั้งหมดเป็นความปรารถนาของนายท่านน้อย นายท่านน้อยเห็นชีวิตของท่านสำคัญกว่าชีวิตของตนเอง ในเมื่อนายท่านน้อยยอมสละชีวิตของเขาเพื่อให้ท่านมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นท่านก็มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดี อย่าได้โศกเศร้า ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีชีวิตอยู่เพื่อความปรารถนาของนายท่านน้อย”

“ข้าอายุมากแล้ว และเหนื่อยมากแล้วเช่นกัน นายท่านน้อยไม่อยู่แล้ว โลกนี้ก็ไม่มีสิ่งใดที่มาฉุดรั้งชีวิตของข้า รอ……รอให้นายท่านน้อยกลับไปถึงดินแดนบ้านเกิด ข้าเองก็จะกลับไปยังภูเขาหยุนตวน ใช้ชีวิตอยู่ที่ภูเขาหยุนตวนโดยไม่ออกจากที่นั่นแม้แต่ก้าวเดียว”

น้ำตาไหลออกมาจากเบ้าตาของผู้อาวุโสอวี๋ เขาใช้แขนเสื้อของเขาเช็ดพร้อมกับพูดออกมา

ชายทะเล

กู้ชูหน่วนนำเปลวไฟที่อยู่ในมือวางลงไปบนกองฟืนใต้ร่างของอี้หยุนเฟย

แม้ไม่อยากทำเช่นนั้น แต่กู้ชูหน่วนก็ทำได้เพียงจุดไฟเผาร่างของเขา

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถพาเขากลับไปยังดินแดนเยี่ยอวี่และเผ่าหยกได้

ในสมองของนาง รอยยิ้มและภาพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอี้หยุนเฟยปรากฏออกมามากมาย

ตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักเขา เขาปล้นอาหารของขุนนางเพื่อช่วยเหลือประชาชน เมื่อเข้าไปในถ้ำ เขากลัวว่านางจะหวาดกลัวและถูกนางที่เขาล่องหน และเมื่อมาถึงช่วงเวลาแห่งชีวิต เมื่อเขารู้ว่านางกำลังจะตาย เขาก็ยอมสละชีวิตของเขาเพื่อช่วยนางอย่างไม่ลังเล

นางไม่ได้รักเขา

นางแค่รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้ง

เนื่องจากนางติดหนี้เขามากเกินไป

ฝูกวงกล่าวออกมาว่า “นายท่าน คนอาจไม่อาจฟื้นคืน ข้าขอแสดงความเสียใจด้วย”

เปลวไฟมอดดับลงเหลือแต่เพียงเถ้าถ่าน

ถ่านเย็นตัวลง แต่กู้ชูหน่วนก็ยังคงยืนอยู่ริมทะเลโดยไม่เคลื่อนไหวราวกับจะอยู่เช่นนั้นไปตลอดชีวิต

จนกระทั่งเช้าวันที่สองนางถึงเก็บกระดูกของอี้หยุนเฟยลงในขวดโหล และปิดฝาขวดไว้อย่างแน่นหนา

เดิมทีจิตวิญญาณของนางก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว ประกอบกับพลังวิญญาณที่ใช้ในการช่วยเหลือเยี่ยจิ่งหานและซือม่อเฟย และยังต้องมาทนทุกข์ทรมานกับการจากไปของอี้หยุนเฟย หลังจากกลับมากู้ชูหน่วนก็ทรุดตัวลง

มีคนเดินผ่านคนแล้วคนเล่า

จากนั้นก็มีเสียงพูดคุยดังขึ้นมา

“ข้าบอกแล้วว่าทำให้นางหมดสติแล้วค่อยพานางกลับไปยังเผ่าหยก แต่เจ้าก็ไม่ยอม ข้าบอกให้เจ้าไปให้คำแนะนำนางว่าเวลาจิตวิญญาณไม่มั่นคงไม่ควรใช้พลังไปกับการรักษาเยี่ยจิ่งหานและซือม่อเฟย แต่เจ้าก็ไม่ห้ามนาง ตอนนี้เป็นอย่างไร ดวงวิญญาณของหัวหน้าเผ่าแทบจะทนไม่ไหว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าพวกเราคงจะสูญเสียหัวหน้าเผ่าไปตลอดการ”

“เจ้าจะตะคอกใส่ฝูกวงเพื่ออะไร ฝูกวงเป็นเพียงแค่องครักษ์ เจ้าไม่รู้หรือไงว่าอาหน่วนมีนิสัยเป็นอย่างไร เรื่องที่นางตัดสินใจไปแล้ว ใครก็ไม่สามารถขัดขวางหรือห้ามนางไว้ได้ อีกอย่าง เหตุใดเจ้าจึงไม่ไปพูดกับนางเอง?”

“ข้า……”

“เจ้า เจ้าอะไร เจ้ากล้าทำให้อาหน่วนสลบและพานางกลับไปยังเผ่าหยก ข้าอยากจะรู้ว่าอาหน่วนจะจัดการกับเจ้าอย่างไร และเจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าเวลานี้เยี่ยจิ่งหานและจอมมารได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาจะไปทำอะไรได้ พวกเขาจะสามารถกลับไปยังดินแดนเยี่ยอวี่ได้อย่างนั้นหรือ?”