บทที่ 6 บทที่ 30 คนต้องสาป

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

“ท่านอา!” 

 

 

ซูจื่อจวินเปล่งเสียงร้อนใจและดังก้องไปทั้งถ้ำ เห็นเพียงหลงซีรั่วก้มลงมองบาดแผลที่หน้าอกของตนเอง  

 

 

เธอดูทุลักทุเลมาก ร่างกายโน้มไปข้างหน้าเหมือนจะล้มลงกับพื้น 

 

 

ในพริบตาเดียวที่ร่างกายของเธอจะล้มลง หลงซีรั่วก็ก้าวออกมาหนึ่งก้าว ยันไม่ให้ตนเองล้ม! เธอกัดฟัน สะบัดมือออกไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว แล้วตัดของแหลมที่แทงร่างกายของเธอจนขาด! 

 

 

ดูเหมือนมีเสียงร้องของมังกรดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำ! 

 

 

การสะบัดแขนไปด้านหลังนี้ไม่เพียงแต่ตัดของแหลมที่ลอบทำร้ายเธอจนขาด แต่ยังเกิดเป็นคลื่นอากาศตัดไปบนร่างของก้อนเนื้อแปลกประหลาดอันนั้นด้วย! 

 

 

ส่วนหนึ่งของก้อนเนื้อถูกคลื่นอากาศตัดครึ่ง และมีของเหลวเหนียวสีเขียวไหลออกมา 

 

 

เสียงกรีดร้องหลากหลายเสียงปะปนกันดังขึ้น จากนั้นก้อนเนื้อชิ้นนี้ก็ดำดิ่งลงไปในน้ำทันที 

 

 

เพื่อหนี 

 

 

ในที่สุดสายน้ำก็ท่วมหลงซีรั่วและซูจื่อจวิน! 

 

 

ภายในน้ำไม่มีแสงสว่าง 

 

 

บรรดาอักษรเวทมนตร์ที่ใช้ผนึกก็ไม่รู้ว่ามืดทึบลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ 

 

 

ซูจื่อจวินทำได้เพียงอาศัยพลังปีศาจที่เหลืออยู่ไม่มากขยับร่างกายอันเหนื่อยล้า แล้วลากร่างกายของหลงซีรั่วออกไปจากถ้ำ 

 

 

คิดไม่ถึงว่าเซียงหลิ่วจะทิ้งการโจมตีเอาไว้ด้วย… 

 

 

ซูจื่อจวินคลานขึ้นไปบนฝั่งและมองไปรอบๆ ที่นี่เหมือนเป็นสันดอนแห่งหนึ่ง มีเรือหาปลาและแพไม้ไผ่จอดอยู่ไม่กี่ลำ 

 

 

ซูจื่อจวินลากหลงซีรั่วขึ้นไปไว้บนแพไม้ไผ่และตรวจดูรอยแผลของหลงซีรั่ว  

 

 

หลงซีรั่วหลับตา สีหน้าซีดขาว บาดแผลบนหน้าอกดูเลวร้ายมาก…ซูจื่อจวินเห็นดังนั้นก็กัดฟันกรอด หลังจากฉีกกระโปรงของตนเองพันรอบตัวของหลงซีรั่วอย่างเรียบง่ายแล้วก็แบกเธอขึ้นมา 

 

 

ขอเพียงยังอยู่บนแผ่นดินนี้ มังกรแห่งแผ่นดินเทพจะต้องไม่ตาย! 

 

 

แต่ซูจื่อจวินก็รู้ดีกว่าใคร ว่าหลงซีรั่วอาจจะหลับลึกไปทั้งอย่างนี้เลย และไม่รู้จะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ 

 

 

และหลังจากตื่นขึ้นมาแล้วจะยังเป็นเธอหรือไม่ 

 

 

 “เจ้าอย่าหลับนะ หากเจ้าหลับแล้ว ข้าไม่ดูแลโรงพยาบาลให้เจ้าหรอกนะ…ดังนั้นเจ้าต้องตื่นขึ้นมา! ยายเฒ่า!” 

 

 

ซูจื่อจวินแบกหลงซีรั่วขึ้นมาและรีบวิ่งไปบนฝั่งแม่น้ำ…ถึงพลังปีศาจของเธอจะเหลือน้อยแต่ก็ยังวิ่งเร็วกว่าคนธรรมดาอยู่ดี 

 

 

เร็วแค่ไหน? 

 

 

ระดับวิ่งแข่งมาราธอนระยะสั้นระดับโลกจนชนะได้เลย 

 

 

… 

 

 

… 

 

 

ส่วนอีกด้านหนึ่งของฝั่งก็มีเงาร่างสองสายคลานขึ้นมาบนฝั่งอย่างทุลักทุเล 

 

 

เป็นคุกและเซียงหลิ่ว 

 

 

เวลานี้คุกล้วงกล่องเล็กๆ กล่องหนึ่งออกมาจากเสื้อ เมื่อเปิดออกก็เห็นแคปซูลสีแดงในแถวบนและแคปซูลสีฟ้าในแถวล่าง 

 

 

คุกรีบใส่แคปซูลสีฟ้าเม็ดหนึ่งเข้าไปในปาก จากนั้นก็หายใจอย่างหนักหน่วง 

 

 

สีฟ้านั้นใช้รักษาบาดแผล ส่วนสีแดงก็คล้ายอาหารเสริมที่จะเพิ่มพลังความร้อนให้ร่างกายอย่างรวดเร็ว 

 

 

เซียงหลิ่วเหลือบมองแวบหนึ่ง เขารู้ว่านี่เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีของสมาคม…แต่ของสิ่งนี้ไม่มีประโยชน์กับปีศาจ 

 

 

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เซียงหลิ่วถึงยืนขึ้นมาและถามว่า “คุก เจ้าขยับได้หรือยัง?” 

 

 

คุกพยักหน้า “พอได้…ผนึกจุดที่สามอยู่ที่ไหน?” 

 

 

เซียงหลิ่วเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่งและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ไม่ไกล แต่พวกเราต้องดูสถานการณ์ให้แน่ชัดก่อนค่อยว่ากัน พวกเราออกมาได้สักพักแล้วแต่พลังของกระบี่เซวียนหยวนกลับหายไปกะทันหัน…หรือซูจื่อจวินจะควบคุมมันได้?” 

 

 

 “พลังที่เหนือจินตนาการแบบนั้นกลับ…” คุกขมวดคิ้วขึ้น 

 

 

เขาไม่มีสัมผัสแข็งแกร่งแบบปีศาจ แต่มีหอกแห่งความตายในมือ…ตอนนี้มันสงบลงและไม่รู้สึกถูกคุกคามเช่นนั้นอีก 

 

 

 “การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ทำให้สมาคมไปล่วงเกินศัตรูที่ตึงมือเข้าแล้ว ซูจื่อจวินรู้ถึงการคงอยู่ของสมาคม…” คุกพูดเสียงเข้ม “เซียงหลิ่ว สุดท้ายก็หวังว่าจะนำเส้นสายพลังวิญญาณไปได้ มิเช่นนั้นพวกเราจะต้องสูญเสียมากกว่าที่เคยได้รับ…เพราะนั่นเป็นปีศาจเฒ่าที่ถือครองอาวุธน่าหวาดกลัว” 

 

 

 “นางเพียงแต่ฝืนเรียกมันออกมาเพื่อเอาตัวรอดก็เท่านั้น” 

 

 

เซียงหลิ่วยิ้มเยาะจากนั้นก็พูดเสียงเข้มว่า “แต่ให้พูดตามจริง หากไม่เป็นเพราะข้าแบ่งแยกความสนใจของนางออกไป และหอกมารของเจ้าลอบโจมตีได้อย่างไร้ซุ่มไร้เสียง คงบีบให้นางเรียกกระบี่เซวียนหยวนออกมากะทันหัน จนครั้งนี้พวกเราทั้งสองคนต้องหนีออกมากลางคันแบบนี้ไม่ได้หรอก คิดไม่ถึงจริงๆ ว่านางจะมีพลังปีศาจน่ากลัวขนาดนี้…” 

 

 

คุกเข้าใจอย่างลึกซึ้ง พยักหน้าพูดว่า “ปีศาจเฒ่าทางตะวันออกร้ายกาจจริงๆ ในบรรดานักรบเทพสิบสองคน คนที่สามารถต้านทานพลังระดับนี้ได้มีไม่เกินสองคน ไม่พูดเรื่องเหล่านี้แล้ว…” 

 

 

คุกส่ายหน้า “พวกเรารีบเคลื่อนไหวเถอะ…ไปทางไหน?” 

 

 

เซียงหลิ่วชี้ไปด้านข้าง “อยู่เขตชานเมืองทางใต้ ที่นั่นมีโรงกำจัดขยะแห่งหนึ่งและมันอยู่ใต้ดินลึกลงไปประมาณสี่ร้อยเมตร” 

 

 

คุกมองไปทางด้านนั้น เห็นอยู่ไกลๆ พยักหน้าและพูดว่า “มีทางไปถึงไหม?” 

 

 

 “มี” เซียงหลิ่วยิ้มพร้อมขยับเข้าไปใกล้ “ทางไปนั้นอยู่ที่…” 

 

 

คุกกำลังตั้งใจฟังแต่กลับสีหน้าเปลี่ยนในทันที! 

 

 

 “…เซียงหลิ่ว นาย!” 

 

 

คุกมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง เซียงหลิ่วเลิกคิ้วสีม่วงของเขาขึ้นเหมือนกำลังหัวเราะเยาะ ตอนนี้แขนของเซียงหลิ่วแทงทะลุหน้าอกของเขาแล้ว! 

 

 

เจาะหน้าอกแหวกท้อง! 

 

 

เซียงหลิ่วยิ้มเยาะ ออกแรงที่แขนยกตัวคุกขึ้นมา 

 

 

เซียงหลิ่วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าคิดจะพูดว่าข้าทรยศเจ้างั้นหรือ? ฮ่าๆๆๆ! คุก เจ้าโทษข้าไม่ได้! หากจะโทษก็โทษสมาคมของพวกเจ้า! ข้าไม่เคยลืมมาก่อนว่าตอนที่ข้าถูกขับไล่ออกมานั้นข้าถูกสมาคมของพวกเจ้าจับมาอย่างไร และถูกพวกเจ้าทำการทดลองต่างๆ ทุกวันอย่างไร! สิ่งที่พวกเจ้าทำกับข้า ข้าจะคิดบัญชีกลับทีละน้อยๆ แล้วกัน…ฮ่าๆๆๆ!” 

 

 

คุกกัดฟัน ออกแรงยกหอกแห่งความตายในมือขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าเซียงหลิ่วจะพลิกมือกลับแย่งหอกแห่งความตายไป “หอกมารเล่มนี้ถือว่าเป็นดอกเบี้ยให้ข้าก็แล้วกัน!” 

 

 

พูดแล้วเซียงหลิ่วก็สะบัดมือโยนร่างของคุกออกไปบนพื้น 

 

 

เขายกเท้าขึ้นวางบนหัวของคุก ก่อนเหยียบให้จมลงไปในโคลนริมฝั่งแม่น้ำ ยิ้มเยาะและเอ่ยว่า “นักรบเทพทั้งสิบสองอะไรกัน? เป็นเพียงสุนัขเฝ้าประตูเท่านั้น!” 

 

 

 “เจ้าโกหก…เรื่องเส้นสายพลังวิญญาณ…” 

 

 

 “โกหก?” 

 

 

เซียงหลิ่วหัวเราะและพูดว่า “ไม่ ไม่ ไม่ เส้นสายพลังวิญญาณนั้นมีอยู่จริงๆ เจ้าก็มองเห็นผนึกแล้วไม่ใช่หรือ?” 

 

 

เซียงหลิ่วยิ้มเยาะเอ่ยว่า “แต่ข้าไม่เคยคิดจะเก็บมันแล้วมอบให้พวกเจ้ามาก่อน! คุก เจ้ายังไม่เข้าใจงั้นหรือ? ถ้าหากข้าไม่พูดเรื่องเส้นสายพลังวิญญาณให้สมาคมของพวกเจ้าสนใจ สมาคมของพวกเจ้าจะปล่อยข้าออกมาจากห้องทดลองที่เหมือนกับนรกง่ายๆ อย่างงั้นหรือ? ก็ยังไม่แน่…พวกเจ้าจึงยอมประนีประนอมส่งเจ้ามาจับตาดูข้า” 

 

 

 “ข้ายอมรับว่าหอกมารของเจ้านั้นร้ายกาจ หากต่อสู้ซึ่งหน้าข้าก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหอกมารเล่มนี้…แต่โอกาสได้มาถึงแล้วมิใช่หรือ?” 

 

 

เซียงหลิ่วเหยียบหัวของคุกลงไปลึกอีก “เส้นสายพลังวิญญาณเป็นของข้า ส่วนบรรดาปีศาจในเมืองนี้ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า…คุก อีกไม่นานข้าจะส่งคนในสมาคมของเจ้าทุกคนตามเจ้าไปอยู่ในนรก…” 

 

 

พูดแล้วเซียงหลิ่วก็พลิกมือที่ถือหอกแห่งความตายแทงเข้าที่หัวของคุก คิดไม่ถึงว่าหอกแห่งความตายจะกู่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง สั่นแขนของเซียงหลิ่วจนเขาโมโหขึ้นมา!  

 

 

 “เจ้าว่าข้าจะไม่ใช้เจ้าฆ่าเจ้านายของเจ้างั้นหรือ?” เซียงหลิ่วยิ้มเยาะ ยกเท้าขึ้นและเหยียบลงไป! 

 

 

เสียงกระดูกแตกหัก! 

 

 

นั่นเป็นกะโหลกของคุก! 

 

 

คุกหยุดทุรนทุรายลงในทันที เขานอนนิ่งอยู่ในโคลน หอกแห่งความตายในมือก็หยุดสั่นและมืดทึบลงพร้อมกัน 

 

 

มันไม่มีสีแดงเข้มสดใสอีกแล้ว แต่กลายเป็นสีเทามีสนิมเกาะ! 

 

 

 “ชิ จงรักภักดีจริงๆ แต่ข้าจะสร้างเจ้าขึ้นมาใหม่ เจ้าจะต้องเชื่อฟังข้า!” 

 

 

เซียงหลิ่วสบถอย่างเย็นชา และเตะร่างของคุกลงไปในแม่น้ำ จากนั้นก็หยิบหอกแห่งความตายขึ้นสนิมมาแล้วจากไป 

 

 

เขาก็ได้รับบาดเจ็บหนัก…แน่นอนว่าจะไม่ไปจุดผนึกแห่งที่สามด้วยสภาพเช่นนี้ 

 

 

เรื่องที่ต้องทำนั้นง่ายดายมาก นั่นก็คือรักษาอาการบาดเจ็บให้เร็วที่สุด 

 

 

วิธีอะไรที่เร็วที่สุดงั้นหรือ? 

 

 

นั่นก็คือการกลืนกินปีศาจตนอื่นนะสิ…แล้วที่ไหนมีปีศาจเยอะที่สุด? 

 

 

หากเป็นเมืองนี้ก็มีเพียงสถานที่เดียว…เอลิเซียมบาร์ 

 

 

… 

 

 

ที่จริงแล้วเป็นเพราะพลังของกระบี่เซวียนหยวนรั่วซึมออกมาด้านนอก และแม่น้ำเป็นตัวดูดซับพลังนั้นส่งให้อุณหภูมิของแม่น้ำสูงขึ้นเล็กน้อย…แต่ก็ไม่ร้อนถึงขั้นเดือด 

 

 

เป็นเหมือนกับการทำให้น้ำเย็นอุ่นขึ้นเท่านั้น 

 

 

เหยื่อปลาเริ่มล่องลอยเพราะเงาร่างหนึ่งค่อยๆ จมลงมาในน้ำ…ฝูงปลาก็ไม่รู้ว่ามันเป็นตัวอะไรแต่พวกมันก็หลบหลีกออกไปไกล 

 

 

เพราะในเงาร่างนี้ปรากฏความมืดดำที่ดำทะมึนเสียยิ่งกว่าน้ำลึก…เป็นบางอย่างที่ดำมืด 

 

 

มันคล้ายสายยาวๆ ที่มีรูปร่าง…สสารสีดำแผ่ออกมาจากเงาร่างนั้นและโอบล้อมเงาร่างนั้นไว้ 

 

 

ทันใดนั้นภายในแม่น้ำก็เกิดเงามายาสายหนึ่งขึ้นมา มันค่อยๆ โอบอุ้มร่างไร้วิญญาณที่หน้าอกทะลุ กะโหลกเสียรูปของคุก 

 

 

เธอเป็นเงามายาที่ปรากฏตัวขึ้น 

 

 

เธอเหมือนจะพูดว่า ‘ลูกหลานของอาณาจักรแห่งเงาจะต้องไม่ตาย’ 

 

 

… 

 

 

 “อาจารย์…” 

 

 

ริมฝีปากของคุกขยับ…ลืมตาขึ้นมา ร่างกายกลับคืนสู่สภาพเดิม แต่เขากลับสลบลงไปอีกครั้งปล่อยให้ร่างกายไหลไปตามแม่น้ำ 

 

 

ไม่รู้ว่าไปที่ไหน