ตอนที่ 552 น่าฉลอง / ตอนที่ 553 งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ / ตอนที่ 554 อวสาน

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 552 น่าฉลอง 

 

 

“ฉันแค่ตั้งท้อง ไม่ใช่เดินไม่ได้สักหน่อย คุณอย่าทำเกินไปหน่อยเลย” อีลั่วเสวี่ยเอามือกุมหน้าผาก ผู้ชายคนนี้ห่วงใยเธอเกินไปแล้ว เวลานี้ก็แค่เมล็ดพันธุ์เล็กๆ ไม่รู้สึกว่ามีอยู่ด้วยซ้ำ 

 

 

อีกหน่อยพอท้องโตออกมา ถ้าเธอจะไปไหนเฉวียนหมิงไม่เอาเก้าอี้เข็นให้นั่งหรือ อาจจะไม่ยอมให้เธอออกไปไหนก็ได้? 

 

 

เฉวียนหมิงไม่เห็นด้วย “ผมเพิ่งค้นในเน็ต ตั้งครรภ์ระยะแรกต้องระวังตัวเป็นพิเศษ อย่าประมาท จะถูกกระทบกระเทือนไม่ได้ ยังไงผมต้องคอยดูแลความปลอดภัยของพวกคุณแม่ลูก” 

 

 

อีลั่วเสวี่ยทำตาขวางใส่เขา “ต้องขนาดเลยหรือ อีกอย่างฉันไม่ใช่หญิงสาวธรรมดา ฉันไม่มีวันหกล้มเด็ดขาด รับรองได้” 

 

 

พอเธอรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ก็ได้แบ่งพลังทิพย์ส่วนหนึ่งสร้างเป็นฉากกั้นป้องกันบริเวณท้องน้อยไว้แล้ว อย่าดูเบาพลังทิพย์นี้ เป็นเหมือนเสื้อกันกระสุนสิบชั้นที่ปกป้องทารกในครรภ์ไว้ 

 

 

เฉวียนหมิงครุ่นคิดแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ก็ยังสั่นหัว “ไม่เห็นด้วย ผมในฐานะพ่อของลูก สามีของคุณ ผมมีหน้าที่และมีสิทธิที่จะป้องกันพวกคุณ” นี่เป็นความรับผิดชอบของผู้ชาย 

 

 

ยิ่งกว่านั้นเขายังไม่ยอมเสียโอกาสที่จะอยู่เป็นพื่อนคอยดูลูกค่อยๆ เติบโต 

 

 

“ก็ได้ ก็ได้ ก็แล้วแต่คุณ” อีลั่วเสวี่ยรู้สึกจนปัญญา แล้วแต่เฉวียนหมิงก็แล้วกัน เขาทำอย่างนี้คงมีความสุขมาก 

 

 

ทั้งสองเดินเข้ามาในบ้าน อวิ๋นเว่ยและอวิ๋นเซินเห็นเฉวียนหมิงประคองอีลั่วเสวี่ยอย่างระมัดระวัง ก็รู้สึกหวั่นใจทันที 

 

 

“เสวี่ยเอ๋อ ลูกเป็นอะไร ทำไมต้องประคองเดินกลับมา เท้าแพลงหรือ?” อวิ๋นเว่ยพูดพลางมองที่เท้าอีลั่วเสวี่ย เขาจำได้ว่าเช้านี้ลูกสาวใส่รองเท้าส้นสูงออกจากบ้าน ตอนที่เปลี่ยนเป็นรองเท้าส้นแบน หรือว่าข้อเท้าพลิก? 

 

 

อีลั่วเสวี่ยไม่รู้จะทำอย่างไรดี “พ่อคะ หนูไม่เป็นไรค่ะ” 

 

 

“ไม่เป็นไร อย่ามาโกหกพ่อ” ไม่เป็นไรแล้วทำไมเจ้าหนุ่มถึงมีท่าทางเหมือนกลัวว่าฟ้าจะถล่มลงมา 

 

 

เฉวียนหมิงยิ้มร่า ท่าทางเซ่อซ่า “พ่อ ผมจะเป็นพ่อแล้วครับ” 

 

 

“อะไรนะ จะเป็นพ่อหรือ เธอเป็นพ่อ ฉันไม่กลายเป็นตาหรือ…เดี๋ยวก่อน เธอพูดอะไรนะ เสวี่ยเอ๋อ เจ้าหนุ่มนี่กินยาผิดหรือเปล่า?” เพิ่งพาลูกสาวเขาไปนานแค่ไหนเชียว ก็อยากเป็นพ่อคนแล้ว ไร้เดียงสาจริง! 

 

 

“พ่อ ทำไมพวกคุณสองคนดูเหมือนเด็กจริงๆ” อีลั่วเสวี่ยท่าทางจนใจ 

 

 

อวิ๋นเว่ยกะพริบตา ทำไมเขาจึงรู้สึกสมองคิดตามไม่ทันเลย 

 

 

ส่วนแม่เฒ่ายืนขึ้น รีบเดินมาอยู่ข้างตัวอีลั่วเสวี่ย มองสำรวจเธอ แล้วมีรอยยิ้มบนใบหน้า “งั้นฉันก็จะเป็นยายทวดแล้ว? ตาเฒ่า คุณจะได้เป็นตาทวดแล้วละ” 

 

 

“ตาทวด?” อวิ๋นเซินงุนงง ระยะนี้ความสุขประดังกันเข้ามาอย่างกะทันหัน เขารับมือแทบไม่ทัน 

 

 

สกุลอวิ๋นทั้งสามคนมองกันไปมา จากนั้นก็ยิ้มอย่างเบิกบาน “นี่เป็นเรื่องน่ายินดี ต้องฉลองกันหน่อย ฮ่าฮ่า!” 

 

 

“เรื่องน่ายินดีอะไร ถึงกับต้องฉลองเลยหรือ?” ถึงตรงนี้นนายท่านผู้เฒ่าสกุลเฉวียนเดินเข้ามา ไม่รู้ว่าออกไปไหนมา 

 

 

อวิ๋นเซินมองดูนายท่านผู้เฒ่าเฉวียน “ยังจะมีเรื่องน่ายินดีอะไรอีกล่ะ คุณจะได้เป็นปู่ทวดแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหรือไง?” 

 

 

อีลั่วเสวี่ยทำตาเหลือก โอ้โห ตอนนี้มากันพร้อมหน้าแล้ว ไม่รู้ว่าเดี๋ยวจะตื่นเต้นกันขนาดไหน 

 

 

แล้วเป็นไปตามคาด นายท่านผู้เฒ่าเฉวียนเดินมาข้างตัวเฉวียนหมิง แล้วตบศีรษะหลานชายเบาๆ “เจ้าหนู เมียแกตั้งท้อง ยังพาไปยังที่ที่คนพลุกพล่านอย่างนั้น เป็นสามีภาษาอะไร?” 

 

 

เฉวียนหมิงรู้สึกงง จู่ๆ ก็ถูกตำหนิ เขาเพิ่งรู้ทีหลัง พอกินข้าวเสร็จก็รีบกลับมาเลย เขาทำผิดตรงไหน? 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 553 งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ 

 

 

“ก็ใช่ เจ้าหนูนี่เอาลูกสาวผมไปยังไม่ว่า ยัง…” แววตาอวิ๋นเว่ยสับสนมาก เขาทั้งตื่นเต้นดีใจ ทั้งไม่พอใจ ตัวแสบ! 

 

 

เฉวียนหมิงทำอะไรไม่ถูก “ผิดก็ผิดครับ เป็นความผิดผมเอง พ่อ ปู่ ใครอยากด่าว่าก็เชิญเลยครับ ผมไม่เถียงแม้แต่คำเดียว” 

 

 

“กล้าเถียงหรือ?” อวิ๋นเว่ยถลึงตาใส่ ท่าทางเหมือนถ้าขืนเถียง ดูสิฉันจะจัดการนายยังไง ส่วนนายท่านผู้เฒ่าเฉวียนท่าทางเหมือนเตรียมจะอุ้มเหลนแล้ว ยิ้มระรื่น 

 

 

แม้แต่หลานชายตัวเองถูกด่าว่า เขาก็ไม่เห็น ไม่ได้ยินแล้ว 

 

 

เรื่องที่น่ายินดีเกิดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า ใบหน้าคนสกุลอวิ๋นและสกุลเฉวียนเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม แม้แต่คนรอบข้างก็สังเกตเห็นแล้ว 

 

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็ถึงวันแต่งงานของอีลั่วเสวี่ยกับเฉวียนหมิง 

 

 

เฉวียนหมิงกลับไปเมืองเอฟล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์เพื่อเตรียมงาน ส่วนอีลั่วเสวี่ยพักอยู่ที่บ้านสกุลอวิ๋นชาวคราว นายหญิงผู้เฒ่ารับผิดชอบดูแลเธอ ยังช่วยสอนเริ่มตั้งแต่เดี๋ยวนี้ว่าจะเป็นแม่อย่างไร 

 

 

งานแต่งงานของทั้งคู่จัดที่คฤหาสน์เก่าของสกุลอวิ๋น แม้ที่นี่จะเป็นบ้านเก่า แต่สถานที่กว้างขวาง ภูมิทัศน์งดงาม วันนี้มีแขกเหรื่อมามากมาย 

 

 

แม้แต่เฟิงฉี่และเหอเย่ว์ก็มาร่วมงาน ยังรวมถึงมั่วเวิ่นกับพวก เป็นครั้งแรกที่คนของสำนักแพทย์โบราณมาร่วมพิธีแต่งงานพร้อมกันหลายคน ถือเป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน 

 

 

หนานหลิวเฟิงคิดอยากถามอีลั่วเสวี่ยหลายครั้งว่าข่าวนี้เป็นความจริงหรือไม่ แต่ไม่กล้า จนสุดท้ายได้รับการ์ดเชิญที่อีลั่วเสวี่ยและเฉวียนหมิงเอามาให้ด้วยตนเอง 

 

 

ส่วนแม่ของหนานหลิวเฟิงซึ่งเดิมไม่ชอบหน้าอีลั่วเสวี่ย แต่พอรู้ว่าฉากหลังเธอมีฐานะที่ทรงพลังเช่นนี้ ก็นึกเสียดายแทบแย่ พูดบ่นไม่หยุด 

 

 

“เฟิงเอ๋อ ก่อนหน้านี้ลูกไม่รู้จักกุมโอกาส ปล่อยให้เฉวียนหมิงแย่งเธอไป น่าเสียดายจริงๆ หญิงสาวที่ดีอย่างนี้” 

 

 

พ่อของหนานหลิวเฟิงกระแอมด้วยความไม่พอใจ “ตอนนี้พูดเรื่องนี้จะมีประโยชน์อะไร ลืมแล้วหรือว่าก่อนนี้คุณเองก็ไม่ชอบเธอ?” 

 

 

สีหน้าคุณนายหนานกระอักกระอ่วน รู้สึกว่าตัวเองผิด ไม่กล้าสบตากับลูกชาย 

 

 

งานแต่งงานครั้งนี้ ทุกขั้นตอนเป็นเฉวียนหมิงกับนักออกแบบงานร่วมกันวางแผน เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์โมเดิร์นกับสไตล์ย้อนยุค ดอกไม้สีแดงกับสีขาว สวยงามเป็นเลิศ 

 

 

ในสถานที่จัดงานที่กว้างใหญ่ มีการจัดซุ้มที่ประกอบด้วยดอกไม้สดและลูกโป่ง รอบๆ เต็มไปด้วยผู้คน  

 

 

เฉวียนหมิงถือช่อดอกไม้ใส่ชุดสูทสไตล์ย้อนยุค บวกกับใบหน้าที่หล่อเหลา ดูเหมือนกำลังถ่ายละครไม่มีผิด ทุกมุมของงานสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ 

 

 

แขกเหรื่อที่มาในงานล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองเอฟ ยังมีแขกที่สกุลอวิ๋นพามา รวมถึงพ่อแม่ของเหอเย่ว์และหลิ่วเฟยซวงซึ่งถือเป็นแขกวีไอพี 

 

 

นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่มีใครกล้าดูถูกเฉวียนหมิงแล้ว กลุ่มอิทธิพลที่เป็นมิตรกับตระกูลเฉวียนต่างรู้สึกว่าโชคดีที่ครั้งนั้นไม่ได้ทำตัวเป็นศัตรูกับเฉวียนกรุ๊ป 

 

 

“เจ้าสาวมาแล้ว” 

 

 

หลังจากเสียงประกาศจบลง อวิ๋นเว่ยเดินจูงแขนอีลั่วเสวี่ยมาจากอีกด้านหนึ่ง เดินช้าๆมาหาเฉวียนหมิง 

 

 

อีลั่วเสวี่ยอยู่ในชุดกระโปรงยาวสีขาว กระโปรงเป็นการผสมผสานกันของชุดเจ้าสาวแบบโบราณกับผ้าคลุมหน้าแบบสมัยใหม่ ขณะที่อีลั่วเสวี่ยในชุดกระโปรงยาวประกอบกับใบหน้าที่งดงามมาปรากฏตัว แขกเหรื่อรอบๆ เงียบลงทันที 

 

 

อวิ๋นเว่ยเดินนำเธอไปหาเฉวียนหมิงช้าๆ ทั้งคู่สบตากัน อิ่มเอิบด้วยความรู้สึกมีความสุข 

 

 

คนในงานเมื่อเห็นโฉมหน้าของเธอ ไม่ว่าชายหญิงขณะนี้ล้วนมีความคิดตรงกันว่าคนที่งามเลิศเช่นนี้ไม่ควรมาปรากฏตัวบนโลกใบนี้ รู้สึกราวกับฝันไป 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 554 อวสาน 

 

 

ไม่รอให้อีลั่วเสวี่ยก้าวเดินหลายก้าว เฉวียนหมิงรีบเดินไปหาเธอ เขาทำเช่นนี้เหมือนอดใจรอไม่ไหวที่จะพาหญิงอันเป็นที่รักแต่งงานกลับไป 

 

 

อวิ๋นเว่ยรู้สึกไม่พอใจ เขาเพิ่งเดินไม่กี่ก้าวก็ต้องมอบลูกสาวตนให้ผู้ชายคนอื่นแล้ว ทำใจไม่ได้จริงๆ 

 

 

“อาเสวี่ย นับจากนี้ไป คุณไม่จำเป็นต้องไปเผชิญกับลมพายุหรือสายฝน คุณเพียงยืนอยู่กับที่ ผมจะจัดการกับขวากหนามที่เหลือเอง” เฉวียนหมิงรู้สึกเช่นนี้ อีลั่วเสวี่ยเดินเพียงก้าวเดียวก็พอ ที่เหลือเก้าสิบเก้าก้าว เขาขอเดินเอง 

 

 

คำพูดที่อ่อนหวานเช่นนี้ทำให้คนเป็นพ่ออย่างอวิ๋นเว่ยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เจ้าหนุ่มคนนี้ รักลูกสาวตนอย่างแท้จริง ช่างเถอะ ไม่หาเรื่องเขาแล้ว 

 

 

“พ่อครับ ผมจะดีต่ออาเสวี่ย ผมขอสัญญา!” 

 

 

อวิ๋นเว่ยเลิกคิ้วขึ้น จับมือเฉวียนหมิงไว้ แล้วมอบมืออีลั่วเสวี่ยให้เขา “เสวี่ยเอ๋อเป็นเด็กสาวที่ดี เธอต้องดูแลเอาใจใส่เธอให้ดีๆ ไม่งั้น จะได้เห็นดีกัน!” 

 

 

จากนั้นทั้งคู่ก็เดินช้าๆ ไปที่เวทีท่ามกลางเสียงเพลงแต่งงาน 

 

 

ทั้งสองประกาศคำมั่นสัญญาและแลกแหวนกันท่ามกลางคำอวยพรของบรรดาแขก 

 

 

“จูบเลย จูบเลย!” ทุกคนพากันตะโกน พร้อมกับยกมือถือและกล้องถ่ายรูปไว้ 

 

 

แต่เฉวียนหมิงไม่ได้ทำตามคำเรียกร้อง เขากอดอีลั่วเสวี่ยแล้วจูบที่หน้าผากเธอเบาๆ เขาจะดูท่าทางเขินอายของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น 

 

 

“ว้า!” ทุกคนอุทานอย่างไม่พอใจ ที่จริงทุกคนต่างฟังออกว่าต่างรู้สึกอิจฉา 

 

 

งานแต่งานดำเนินไปอย่างครึกครื้น เฉวียนหมิงกับอีลั่วเสวี่ยเดินคู่กันไปเชิญแขกดื่ม พร้อมกับรับคำอวยพรจากทุกคน ทั้งคู่ยิ้มระรื่น 

 

 

เพิ่งเดินไปได้หนึ่งรอบ เฉวียนหมิงกลัวว่าอีลั่วเสวี่ยจะเหนื่อย จึงหาข้ออ้างพาเธอไปพัก เพราะอย่างไรขณะนี้เธอก็ไม่ใช่คนดียวตามลำพัง งานแต่งงานเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อย อย่างไรก็ต้องคอยระวัง 

 

 

“ไปเถอะ รีบไป ที่นี่มีเราหลายคนช่วยกันรับแขก” เฟิงฉี่รู้ว่าอีลั่วเสวี่ยตั้งครรภ์แล้ว เขากำลังจะเป็นคุณอา ตื่นเต้นดีใจไม่น้อย พอได้ยินว่าเธอต้องไปพัก ก็เร่งให้เฉวียนหมิงพาเธอไป 

 

 

บรรยากาศของความสุขห้อมล้อมใบหน้าทั้งคู่ไว้ แค่สบตาทั้งคู่ก็เข้าใจจิตใจของอีกฝ่าย 

 

 

ที่ตำแหน่งห่างจากโลกออกไปหลายแสนเมตร ขณะนี้มียานบินสีเงินลำหนึ่งปรากฏขึ้นดูราวกับนก  

 

 

“นายน้อย มาถึงโลกแล้ว จะลงจอดไหมครับ?” เจ้าหน้าที่เอ่ยถาม บนจอภาพในยานปรากฏดาวโลกเป็นดาวเคราะห์สีน้ำเงิน 

 

 

ชายหนุ่มบนเก้าอี้บัญชาการเม้มปากเล็กน้อย “ปิดสัญญาณ ร่อนลงลับๆ” โลกนี้มีเทคโนโลยีของตัวเอง พวกเขาก้าวหน้าพอที่จะท่องไปในอวกาศได้ แต่ว่าเทคโนโลยีของชาวโลกเมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ยังนับว่าอยู่ในระยะเริ่มต้นของการพัฒนาเท่านั้น 

 

 

เหมือนมีแสงสว่างวาบขึ้นเหนือคฤหาสน์สกุลอวิ๋น 

 

 

“เอ๊ะ?” เฉวียนหมิงกับอีลั่วเสวี่ยแหงนมองท้องฟ้า ดูเหมือนเมื่อกี้ทั้งคู่จะเห็นยานบินประหลาด แล้วหายวับไปทันที 

 

 

“คุณเองก็เห็นใช่ไหม?” อีลั่วเสวี่ยครุ่นคิด ดูเหมือนยานนั่นจะบินหายไปด้านหลังของคฤหาสน์แล้ว ทั้งสองสบตากัน แล้วมองไปในทิศทางนั้น 

 

 

ในยานที่เพิ่งลงจอด มีคนหนึ่งคิ้วขมวด “นายน้อย ดูเหมือนเราจะถูกพบเห็นแล้วครับ” 

 

 

“ชักสนุกแล้ว พวกนั้นมีความรู้สึกไวมาก แต่ถ้าประเมินค่าต่ำย่อมผิดแน่” มีแสงวาบขึ้น ร่างทั้งสองหายวับไปกับที่ ไม่เหลือแม้แต่รอยเท้า 

 

 

คนของสองภพเผชิญหน้ากัน ขณะนี้มีมนุษย์จากดาวอื่นมาเยือน ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ระทึกขวัญอะไรขึ้น