ตอนที่ 19

Kill the Hero

Kill the Hero 019

*หมายเหตุ – อย่าลืมไปอ่านตอนเก่า ๆ ที่เพิ่มเนื้อหาของไอเทมกับดันเจี้ยนนะครับ

ผู้เล่นทำการค้นคว้าเกี่ยวกับมอนสเตอร์มากมาย

ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะนิสัย และพฤติกรรมของพวกมันสามารถทำเงินได้

แน่นอนว่ามีการวิจัยจำนวนมากก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีผู้เล่นจำนวนมากทำเช่นนั้น

เมื่อผู้เล่นกลุ่มเล็ก ๆ พัฒนาวิธีการด้วยการค้นคว้า และทดลองอย่างละเอียด ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็แค่ลอกเลียนแบบ

ไม่มีการจัดสิทธิบัตรวิธีวางแผนจัดการ และแผนล่ามอนสเตอร์ และถึงแม้ว่าจะมีการจดสิทธิบัตร แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปในดันเจี้ยน และตรวจสอบผู้เล่นทั้งหมด …

แน่นอนว่าคิมวูจินอยู่ในประเภทนักค้นคว้า

มันเป็นสถานการณ์ที่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเรียนรู้มัน

สมาคมเมสสิอาห์ต้องเดินบนเส้นทางอันสูงส่ง โดยมีความรับผิดชอบอันสูงส่ง และหนักอึ้งที่ไม่มีใครต้องการแบกรับ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะบรรลุมากกว่าสิ่งที่ชีวิตของพวกเขาจะทำได้ในปัจจุบัน พวกเขาค้นคว้าอย่างบ้าคลั่ง

Urk! Arrg!

ปัจจุบัน โทรลถูกทำลายล้างอย่างไม่ลดละ โดยโครงกระดูกก็อบลินทั้งห้าตัว นั่นเป็นผลมาจากการค้นคว้าทั้งหมดของคิมวูจิน

Tteolgeuleogtteolgeuleog!

ทหารโครงกระดูกทั้งสี่กำลังตัดขาของโทรลอย่างไร้ความปรานี

สิ่งนี้เป็นไปได้ เพราะเจ้าของของพวกมันคือคิมวูจิน

Ting!

หนึ่งในโครงกระดูกก็อบลินยิงธนูอย่างตื่นเต้น และบ้าคลั่ง สิ่งนี้ก็เป็นไปได้ เพราะมันคือทหารโครงกระดูกของคิมวูจินเช่นกัน

Tteolgeuleogtteolgeuleog!

หลังจากลูกธนูหมด มันก็พุ่งเข้ามาหาคิมวูจิน และขอลูกศรเพิ่มอย่างไร้ยางอาย

รอยยิ้มของคิมวูจินบิดเบี้ยวเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทีนั้น

‘คิดว่าฉันจะได้รับรางวัลสำหรับยากลำบากทั้งหมดของฉันด้วยวิธีนี้’

คิมวูจินคิดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

‘แต่ถ้าฉันพอใจแค่นี้ มันก็คงจบแค่นี้’

แน่นอนว่าคิมวูจินไม่พอใจแค่ทหารโครงกระดูกของเขาต่อสู้ได้ดี

เขาไม่ได้ตั้งใจจะฝากชะตากรรมไว้กับทหารโครงกระดูกของเขา

เหนือสิ่งอื่นใดคิมวูจินยังคงไม่ลืม

‘ไม่ว่าทหารโครงกระดูกจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงลีเซจุนได้’

เขาไม่ได้ลืมว่าเหยื่อคนสุดท้ายของเขาคือใคร

 

[เลเวลเพิ่มขึ้น]

[คุณล่าโทรลทั้ง 4 ตัวสำเร็จแล้ว]

[คุณเคลียร์ดันเจี้ยนแล้ว]

 

ในหูของคิมวูจินได้ยินการแจ้งเตือนเลเวลอัพ และตามมาด้วยการแจ้งเตือนการกวาดล้างดันเจี้ยน

ทันทีที่คิมวูจินได้ยินเสียง เขาก็จินตนาการในหัว

‘เมื่อฉันออกไป มันก็จะเป็นวันที่ 5 เมษายน ดูเหมือนว่าฉันจะมาทันเวลาสำหรับงานใหญ่’

วันที่ 5 เมษายนจะมีงานใหญ่ที่ยิ่งใหญ่พอจะเขย่าคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมด

 

คิมวูจินที่ออกจากดันเจี้ยนเกทได้รับการต้อนรับจากอุณหภูมิที่อบอุ่น และกลิ่นหอมของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความหนาวเย็นในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ที่ทำให้ผิวหนังของเขาหดตัวก่อนที่เขาจะเข้าไปในดันเจี้ยน

ดามาส ซึ่งตอนนี้ดูไม่แตกต่างจากรถที่ถูกทิ้งมากนัก กำลังรอคิมวูจินพร้อมกับกระแสน้ำในฤดูใบไม้ผลิ

คิมวูจินเดินเข้าหาดามาส

Dururuc!

จากนั้นเขาก็เปิดประตูรถ

คราวนี้ พลั่วต้อนรับคิมวูจิน

คิมวูจินเริ่มขุดดินที่อยู่ห่างจากรถเพียงไม่กี่ก้าวด้วยพลั่ว

Cang!

ไม่นานก็มีเสียงโลหะกระทบกัน

ตู้เซฟขนาดเล็กโผล่ออกมาจากหลุม

เป็นตู้เซฟที่มีข้าวของเครื่องใช้ สมาร์ทโฟน กุญแจรถ และกระเป๋าสตางค์ของผู้เล่น

Ttalkkag!

คิมวูจินไขตู้เซฟด้วยรหัสผ่านอย่างชำนาญ

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เปิดสมาร์ทโฟนสีดำ

เขาเห็นข้อความหลายข้อความ

คิมวูจินมองไปที่ข้อความพวกนั้น

 

[รายงานสภาพดันเจี้ยน]

[รายงานสภาพดันเจี้ยน]

 

ได้รับข้อความจากหมายเลขเดียว ทุกสิบสองชั่วโมง

ไม่มีรหัสผู้โทร

คิมวูจินส่งข้อความไปที่หมายเลขโดยตรง

 

50403202

 

มันเป็นรหัส

‘สัตว์ขี้ระแวง’

ฮายาชิ โคซึเกะ มันเป็นรหัสที่จำเป็นต้องใช้เพื่อคุยกับเขา

มันเป็นเพียงตรรกะเท่านั้น

คนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายในประเทศอื่น ไม่สามารถทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ฮายาชิ โคซึเกะ ได้สร้างรั้วกั้นระหว่างตัวเขาเอง และลูกค้าของเขา

มันเป็นรั้วเพื่อป้องกันตัวเอง หากสมาร์ทโฟนของลูกค้าถูกใครบางคนเก็บไปหรือว่าขโมย รหัสนี้มีไว้เพื่อระบุตัวตนของอีกฝ่าย

‘วันที่กลับหลัง’

นอกจากนี้รหัสผ่านยังเป็นวันที่ย้อนหลัง

หมายความว่ารหัสผ่านเปลี่ยนทุกวัน มันง่าย แต่มีประสิทธิภาพ

Uung!

ในทันที เขาได้รับสายจากหมายเลขใหม่

คิมวูจินรับโทรศัพท์

“พูดสายอยู่ครับ”

– ใคร?

“ผมคิมวูจินครับ”

– แล้วปาร์คเจซุน?

“เขาเสียชีวิตในดันเจี้ยนครับ”

ตอบอย่างรวดเร็ว

– ความสัมพันธ์?

“ผมเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา”

บทสนทนาหยุดลงชั่วขณะ

– เลือดของโทรล?

คำถามเกิดขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งนาที

“ผมรักษาไว้ได้ประมาณ 15 ลิตรหรือมากกว่านั้น”

– คุณรู้วิธีการแลกเปลี่ยนไหม?

“ผมได้ยินทุกอย่างจากคุณปาร์คเจซุนแล้ว”

– เสียใจด้วย

นั่นคือจุดสิ้นสุดการโทร

Ttuk!

อีกฝ่ายวางสาย

คิมวูจินขมวดคิ้ว

‘มันน่ารำคาญกว่าที่คิด เมื่อได้ยินเสียงของเขาหลังจากผ่านมานาน’

ในความเป็นจริงคิมวูจินครุ่นคิดถึงเรื่องนี้จนถึงที่สุด

ว่าจะใช้ฮายาชิ โคซึเกะหรือฆ่าเขาดี

ตอนนี้ คิมวูจินได้รับแหวนพลัสแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างฮายาชิ โคซึเกะ และโยฮันน์ จอร์จ ก็แทบจะหายไป และคุณค่าของฮายาชิ โคซึเกะก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน

ด้วยคุณค่าที่ลดลงเช่นนี้ มันคงไม่เลวสำหรับเขาที่จะกำจัดฮายาชิ โคซึเกะที่เป็นอันตรายมากกว่าผลดีต่อโลก และใช้ไอเทมหรือเงินที่เขาได้มาจนถึงตอนนี้

แต่สุดท้ายแล้ว คิมวูจินก็เลือกที่จะใช้งานเขา

‘ถ้าไม่ใช่เพื่องานนี้ ฉันจะลบเขาออกไปอย่างไม่ลังเลเลย’

ปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้การตัดสินใจของเขาเปลี่ยนไป ไม่ใช่อะไร นอกจากงานใหญ่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

เพื่อตรวจสอบงานใหญ่ คิมวูจินหยิบสมาร์ทโฟนออกมาค้นหาพอร์ทัลไซต์ทันที

ทันใดนั้นก็มีบทความขึ้นมา

 

[ดันเจี้ยนระดับ A + ถูกค้นพบในปูซาน!]

 

นี่เป็นงานใหญ่ที่คิมวูจินรอคอย

 

[ค้นพบดันเจี้ยนระดับ A + 1 ชั้น!]

[ต้องเลเวลต่ำกว่า 20 จึงจะเข้าได้!]

[รับไม่เกิน 150!]

 

ดันเจี้ยนระดับ A + ปรากฏขึ้น!

ข่าวดังกล่าวสั่นคลอนประชากรทั้งเกาหลี

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว

“ระดับ A + …นี่ไม่ใช่ครั้งที่สองของเกาหลีเหรอ?”

“มันเกิดขึ้นในเอเชียแค่ 20 ครั้ง นอกจากนี้ถ้านายคิดถึงขนาดของเกาหลีก็เหมือนกับที่เกาหลีถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง”

“ยิ่งกว่านั้น ถ้ามันเป็นดันเจี้ยนระดับ A + …”

“ดันเจี้ยนระดับ A + ดรอปไอเทมระดับตำนาน 7 ชิ้นจากทั้งหมด 20 ครั้ง นอกจากนี้ไอเทมระดับยูนีคก็หลั่งไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง”

ดันเจี้ยนระดับ A + มีโอกาสสูงที่ไอเทมเกรดสูงรวมถึงไอเทมระดับตำนานจะออกมา

ผู้คนเรียกมันว่าดันเจี้ยน แต่มันเหมือนเกาะสมบัติมากกว่าดันเจี้ยน

“แต่มันจำกัด การเข้า 150 คน? ไม่มากไปเหรอ? ”

“ฉันคิดว่านี่ดันเจี้ยนแรก ตั้งแต่ดันเจี้ยนโตเกียวปรากฏในญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว? มันไม่มากไปหน่อยเหรอ?”

“ไม่พอ เป็นไปไม่ได้ที่สมาคมจะประมูลเฉพาะดันเจี้ยนระดับ A ขึ้นไป และเนื่องจากมันเป็นดันเจี้ยนระดับ A+ …ฉันแน่ใจว่าแม้แต่สมาคมทอม, ดิ๊ก และแฮร์รี่ ทั้งหมดก็ต้องไปให้ได้”

“อย่างน้อย 10 สมาคมจะเสนอราคา และแต่ละสมาคมอาจจะได้ประมาณ 15 ที่นั่ง”

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น อาจมีการเสนอราคาถึง 150 สมาคม”

ไม่น่าแปลกใจ พวกเขาจะต้องมีข้อจำกัดอย่างมากในการเข้าถึงเกาะ

“การเสนอราคาจะมีการแข่งขันสูง”

“เงินอย่างเดียว อาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้”

“ฉันหมายความว่านี่ไม่ใช่โอกาสเดียวที่รัฐบาลจะสามารถเอาเปรียบผู้เล่นได้หรือ? บางทีสัญญาอาจจะถูกแก้?”

นอกจากนี้ เพื่อรักษาที่นั่ง พวกเขาต้องจ่ายเงินมากกว่าคนอื่น

มีเพียงสมาคมเดียวที่สามารถได้ที่นั่งโดยไม่ต้องจ่ายเงิน

“แน่นอนว่าสมาคมเมสสิอาห์ต้องได้อย่างน้อย 10 ที่นั่ง แม้ว่าจะไม่มีสินบนก็ตาม”

“แน่นอน ถ้าพวกเขาไม่ให้ที่นั่งกับสมาคมเมสสิอาห์ ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะเริ่มประท้วงที่หน้าบลูเฮาส์หรอกเหรอ?” ( TL : มันคือทำเนียบขาวของเกาหลี )

“ผู้ประท้วงเคลื่อนไหวแล้ว พวกเขากำลังเรียกร้องให้รัฐบาลให้สิทธิ์กับสมาคมเมสสิอาห์อย่างเต็มที่”

“ถ้าคุณคิดถึงสิ่งที่สมาคมเมสสิอาห์ทำ อย่างน้อยพวกเขาก็ควรได้รับรางวัลด้วยวิธีนี้”

สมาคมเมสสิอาห์ รับประกันที่นั่งของพวกเขาเท่านั้น

“ไม่ว่ายังไง ต้องมีการแข่งขันภายในสมาคมต่าง ๆ เพื่อชิงตำแหน่งอย่างดุเดือดแน่นอน”

“ไม่ใช่แค่ดุเดือด กลุ่มต่าง ๆ ภายในสมาคมจะทำทุกอย่าง เพื่อดึงคนของพวกเขาเข้ามา”

“เจ้าหน้าที่สมาคมแทบจะบ้าแล้ว”

สมาคมที่เหลือ เริ่มการต่อสู้อย่างเงียบ ๆ เพื่อให้ได้ที่นั่ง จากนั้นต่อสู้กันอีกครั้ง เพื่อเติมเต็ม

 

‘เชี่ย’

นั่นคือสงครามที่จองวูซอก หัวหน้าทีมสนับสนุนดันเจี้ยนกำลังต่อสู้อยู่

‘ฉันคิดว่า 20 ที่นั่งน่าจะเกินพอ แต่ไม่มีใครยอมใคร ให้ตายเถอะ พวกเราเป็นคนที่ได้ที่นั่งตั้งแต่แรก! ‘

เมื่อสมาคมฟีนิกซ์มีที่นั่งมากถึง 20 ที่ จองวูซอกคิดกับตัวเองว่างานของเขาจะง่ายขึ้น

แต่ถึงจะแบ่งให้ทั้ง 3 ฝ่าย ฝ่ายละ 6 ที่ มันก็ยังเหลืออีก 2 ที่

เขาคิดว่ากลุ่มใหญ่ทั้งสามควรจะได้ข้อสรุปผ่านข้อตกลงของพวกเขาเอง

‘คิดว่าพวกเขาน่าจะมีแค่ทีมเดียว…’

แม้ว่าทั้งสามฝ่ายจะไม่อนุญาตให้เข้าร่วมในการสำรวจ แต่ตอนนี้พวกเขาปฏิเสธที่จะให้หลายทีมเข้ามา

นั่นหมายความว่าจะมีคู่แข่งจำนวนมากเพื่อแย่งชิงที่นั่ง

เมื่อลองคิดดูมันก็เข้าใจได้

หากผู้เล่นมาจากสมาคมที่แตกต่างกัน พวกเขาอาจต่อสู้กันแบบนองเลือดด้วยหลายเหตุผลที่เป็นไปได้

ในทางตรงกันข้ามมันเป็นเรื่องยาก สำหรับสมาชิกสมาคมเดียวกัน ที่จะต่อสู้อย่างนองเลือดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

กล่าวอีกนัยหนึ่งไม่มีใครตั้งใจจะร่วมมือ

เพราะทุกคนเต็มไปด้วยความมั่นใจ

‘เนื่องจากพวกเขาได้เตรียมไอเทมระดับ 10 ไว้นับไม่ถ้วนตั้งแต่เริ่ม’

และถูกต้อง

‘เมื่อพวกเขาเลือกสมาชิกแล้ว มันก็ไม่ยากที่จะหลอกล่อพวกเขาด้วยไอเทมระดับยูนีค’

เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว ที่โลกเปลี่ยนเป็นเกม และเช่นเดียวกับเกมส่วนใหญ่ ตอนนี้มีไอเทมดี ๆ มากมายสำหรับเลเวลต่ำ

จองวูซอกคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะจัดเตรียมไอเทมระดับยูนีคหรือสูงกว่านั้นให้กับสมาชิกที่ได้รับเลือก และเปลี่ยนมันให้เป็นป้อมปราการเดินได้

ไม่ว่าคุณจะลงทุนไปมากแค่ไหน แต่ถ้าได้ไอเทมในตำนานแค่ 1 ชิ้น ทุกอย่างก็คุ้มค่า

นอกจากนี้ดันเจี้ยนนี้มีดีมากพอที่จะเสี่ยง

‘พวกเขามีความมั่นใจพอที่จะเดิมพัน’

ในขณะเดียวกันก็มีสิ่งที่สำคัญกว่ากำไรที่ได้

ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ การเลือกสมาชิกสำหรับ 20 ที่นั่ง ที่สมาคมฟีนิกซ์ได้รักษาไว้จะไม่จบลงง่าย ๆ

‘น่าปวดหัวอะไรอย่างนี้’

ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเรื่องราวจะคลี่คลายลงอย่างไร

‘สุดท้ายจะมีที่เหลือ…’

สิ่งเดียวที่จองวูซอกสามารถพูดได้ด้วยความมั่นใจก็คือ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดที่นั่งทั้ง 20 ที่ให้ดี ทำให้มีที่เหลือ 1-2 ที่

และเมื่อสถานการณ์นั้นมาถึง ที่นั่ง 1-2 ที่นั้น จะต้องมีใครมาเติมเต็มมัน ใครบ้างจะไม่อยากเติมทั้ง 20 ที่นั่ง?

‘ใครก็ตามที่เข้ามาเติมเต็มจุดนั้น ต้องมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งพอสมควร หรืออาจจะเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย’

ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงชายคนหนึ่ง

‘ผู้เล่นอย่างคิมวูจิน’

คิมวูจิน

จองวูซอกหัวหน้าทีมที่คิดถึงเขาพยักหน้า

‘ใช่ คนอย่างคิมวูจินที่ตั้งใจ ขยัน และมีความสามารถ อย่างน้อยก็จะไม่มีปัญหามากนัก ถ้าเขาเข้ามา มันดีกว่าการเอาเงินใครสักคนมา แล้วทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย’

อย่างไรก็ตามจองวูซอกมีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คิมวูจินจะได้รับโอกาสนี้

‘ไม่มีทางที่ผู้เล่นอย่างคิมวูจินที่ไม่มีอะไรเลยจะได้รับสิทธิ์นี้ เว้นแต่คนที่มีเสียงเทียบเท่ากับปาร์คยองวานจะเอ่ยชื่อของเขา’

เว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น