หลิน ชูจิ่วได้ยินเสียงไม่ชัดเจน เธอจึงยืนอยู่นิ่ง ๆ เมื่อเห็นแบบนี้เสี่ยวเทียนเหยาก็พูดขึ้นอีกอย่างอดทน”นั่งลง”
คำพูดที่อ่อนโยนพร้อมกับน้ำเสียงอันไพเราะจริงๆแล้วสามารถทำให้คนยากที่จะปฏิเสธได้ แต่ใบหน้าของหลิน ชูจิ่วกลับซีดและร่างกายของเธอสั่นขึ้นเล็กน้อย หลิน ชูจิ่ว ส่ายหัวและพูดขึ้นอย่างดื้อรัน “ข้าจะออกไปข้างนอก”
เธอไม่ต้องการถูกอิทธิพลของเสี่ยวเทียนเหยา ครอบงำอีกต่อไป เธอไม่ต้องการมีความรู้สึกต่อคนผู้นี้อีกต่อไป เธอไม่ต้องการที่จะถูกหลอกลวงด้วยดวงตาอันอ่อนโยนของเขา
“ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” เสี่ยวเทียนเหยา ยืนอยู่ตรงหน้าของหลิน ชูจิ่ว และไม่ได้ให้เปิดโอกาสให้เธอออกไป “เปิ่นหวางมีบางอย่างที่จะพูดเกี่ยวกับข้อเสนอของ หมออู๋” เขามาพูดถึงธุรกิจของเขา เขาจะปล่อยเธอออกไปได้อย่างไร?
“เช่นนั้นก็พูดมาได้” หลิน ชูจิ่วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้ตัวเองดูสงบ
“นั่งลงก่อน” เสี่ยวเทียนเหยา ผลักรถเข็นของเขาออกและไม่ได้ปิดกั้นเส้นทางของหลิน ชูจิ่วอีกต่อไป เขาเชื่อว่าหลิน ชูจิ่วจะไม่โง่พอที่จะพยายามวิ่งหนีไปต่อหน้าเขา
แน่นอนว่าหลิน ชูจิ่ว ไม่ได้โง่ที่จะทำอย่างนั้น เสี่ยวเทียนเหยา ไม่ใช่คนธรรมดา ตราบเท่าที่เขาไม่เห็นด้วย เธอก็ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้
หลิน ชูจิ่ว นั่งลงอย่างเชื่อฟังและรอให้เสี่ยวเทียนเหยา พูด แต่หลังจากนั้นไม่นานเสี่ยวเทียนเหยา ก็ยังไม่ได้เปิดปาก หลิน ชูจิ่ว หันศีรษะของเธอและเห็นเสี่ยวเทียนเหยา เอาผ้าเช็ดตัวและเดินเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะเช็ดผมให้กับเธอ
สายตาของหลิน ชูจิ่ว เปิดกว้างขึ้นราวกับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเธอรีบพูดขึ้นในขณะที่พยายามจะเอาผ้าเช็ดตัวมาจากมือของเขา “หวางเย่ ข้าสามารถทำมันด้วยตัวเองได้” เธอไม่สามารถจ่ายค่าบริการนี้ได้
เสี่ยวเทียนเหยา หลีกเลี่ยงมือของหลิน ชูจิ่ว และเอนตัวลงไป “นั่งลง เปิ่นหวางจะช่วยเช็ดผมให้เจ้า” เมื่อคำพูดของเขาเล็ดลอดออกมา ไม่ว่าเธอจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตามเสี่ยวเทียนเหยาก็ได้เช็ดผมของหลิน ชูจิ่วไปแล้ว
“ไม่ๆ ข้าทำมันได้จริงๆ” หลิน ชูจิ่ว พยายามจะหลบหนี แต่เธอก็นั่งลงโดย น้ำมือของเสี่ยวเทียนเหยา”นั่งดีๆ อย่าปล่อยให้เปิ่นหวางต้องพูดซ้ำคำของตัวเองเป็นครั้งที่ห้า”
กองกำลังที่มองไม่เห็นถูกวางลงบนไหล่ของ หลิน ชูจิ่วกองกำลังนี้ก็ทำให้เท้าของหลิน ชูจิ่ว ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ แต่มันจะไม่เป็นอันตรายต่อเธอ
ด้วยวิธีนี้หลิน ชูจิ่ว จึงนั่งอยู่ได้อย่างถูกต้องและดูการเคลื่อนไหวของ เสี่ยวเทียนเหยา ผ่านกระจกทองแดง นิ้วยาวเรียวยาวของเสี่ยวเทียนเหยา เคลื่อนที่ไปมาระหว่างผมของเธอ
เธอโตมาจนอายุขนาดนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นใครบางคนเป็นห่วงใยเธอเพียงเพราะผมของเธอไม่แห้ง
เธอโตมาจนอายุขนาดนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนอาสาที่จะเช็ดผมให้เธอ
เธอโตมาจนอายุขนาดนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนยืนอยู่ข้างหลังเธอเป็นเวลานาน … …
เธอคงจะโกหกถ้าเธอบอกว่าเธอไม่ได้ซาบซึ้ง แต่ทำไมคนผู้นั้นถึงเป็นเสี่ยวเทียวเหยา
หลิน ชูจิ่ว ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจเธอถึงรู้สึกซาบซึ้ง แต่ยิ่งรู้สึกเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกเศร้ามากขึ้นเท่านั้น ไม่มีเสียงภายในห้อง ดังนั้นเพื่อที่จะสงบสติอารมณ์ตัวเองลง หลิน ชูจิ่ว จึงริเริ่มที่จะทำลายความเงียบลง “หวางเย่ ไม่ใช่ว่าท่านบอกว่าต้องการพูดเกี่ยวกับเรื่องของหมออู๋หรอกหรือ?” การกระทำที่อ่อนโยนและความหวงใยของเจ้าไม่ใช่เพื่อทหารแนวหน้าหรอกหรือ?
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขอบอกความจริงมา ข้าขอร้องเลิกทรมานข้าด้วยความอ่อนโยนนี้เสียที
น้ำตาเริ่มสะสมอยู่ในสายตาของหลิน ชูจิ่ว แต่เพราะเธอกลัวว่าเสี่ยว เทียนเหยาจะเห็นความอ่อนแอของเธอ เธอจึงกะพริบตาขึ้นและหวังว่าน้ำตาจะไหลกลับลงไป
แต่เสี่ยวเทียนเหยาเป็นใคร? ความแข็งแกร่งของเขาไม่ต่ำกว่าขั้นเทพเจ้าแห่งการต่อสู้ ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้เลยที่อารมณ์ของหลิน ชูจิ่วจะลอดผ่านสายตาของเขาไปได้? ผมของหลิน ชูจิ่ว แห้งไปตั้งแต่หลังจากวินาทีแรกที่เขาสัมผัสผมของเธอแล้ว แต่ … … หลิน ชูจิ่วไม่รู้
“ก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องนั้น มาพูดเรื่องโจวซือก่อน” เสี่ยวเทียนเหยา รู้ว่า หลิน ชูจิ่วใส่ใจเรื่องนี้มากกว่าสิ่งอื่นใด เขาคิดว่าหลิน ชูจิ่ว จะถามเขาเรื่องนี้ แต่เขาก็คิดผิด
นางเก็บมันไว้ในหัวใจของนาง ทำให้ตัวเองบ้าคลั่งและโกรธเขา… … อยู่อย่างเงียบๆ!