ตอนที่ 241: แกล้ง โดย Ink Stone_Romance

“เธอยอมให้แล้ว?”

ซุนหม่านเซียงเข้าใจคำพูดเฉินเยี่ยนผิด

เฉินเยี่ยนพูดไม่ออก ไอคิวแบบนี้ ตอนนั้นทำไมพ่อสามีตัวเองถึงชอบได้นะ ผู้ชายเนี่ย เห็นผู้หญิงสวยวิญญาณก็ล่องลอยออกไปหมดแล้ว ไม่ได้ดูที่ข้างในเลย

“ไม่ให้ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้วค่ะ ฉันไม่ได้เอามา พวกคุณก็หาไม่เจอหรอก ถามก็เสียเวลาเปล่า”

เฉินเยี่ยนนับถือคนพวกนี้จริงๆ

จิตใจคนบ้านซินนี่ยังอยู่กับเครื่องประดับเงินทองอยู่

“ยังนั่งอยู่อีก รอให้ป้อนข้าวเธอหรือไง รีบไปทำอาหารไป”

ซุนหม่านเซียงโกรธเฉินเยี่ยนจนทนไม่ไหว เธอทำอะไรไม่ได้จริงๆ เลยให้เฉินเยี่ยนไปทำอาหาร

“คุณลืมไปแล้วหรือคะ? ฉันทำอาหารไม่เป็น”

เฉินเยี่ยนกะพริบตา ให้เธอทำอาหารให้คนพวกนี้กิน เธอไม่ทำหรอก

“ฉันไปเอง”

น้ารองลุกขึ้นยืน เป็นครั้งแรกที่เธอพูดตั้งแต่เฉินเยี่ยนเข้ามาในบ้าน

ซินซิ่วหลานก็ลุกขึ้นยืน ดูท่าทางจะไปด้วยกัน

น้ารองคนนี้ดูท่าทางนิสัยน่าจะใช้ได้ ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ก็ดูท่าทางซื่อๆ ลุงสองไม่ได้มา ดูเหมือนไม่อยากจะมาเข้าร่วมด้วย

แบบนี้แล้ว บ้านซินก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคนดีเลย เพียงแต่มีน้อย

“ต้องให้เธอออกหน้าหรือไง? เธอทำอาหารอร่อยหรือยังไง?”

คุณยายมองสะใภ้คนรองอย่างไม่พอใจ

“แม่ ยังไงก็ต้องกินข้าวนะ เยี่ยนจื่อบอกว่าเธอทำไม่เป็นไม่ใช่หรือ?”

น้ารองพูดอย่างใจดี ฟังคนในห้องคุยกันแล้ว เธอยอมไปทำอาหารดีกว่า เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตอนนั้นถึงได้แต่งงานมาในครอบครัวนี้? ยังดีที่สามีดีกับเธอ นิสัยซื่อตรง แต่ผลของการเป็นคนซื่อตรงคือโดนกลั่นแกล้ง

“ทำไม่เป็น แล้วเรียนไม่เป็นหรือไง ใครจะทำเป็นแต่เกิด เป็นลูกสาวจากหมู่บ้านเกษตรกรยังทำไม่เป็น ฟังเธอพูดดูสิ เธอก็แค่ขี้เกียจ”

คุณยายพูด เธอมองว่าเฉินเยี่ยนแกล้ง

“คุณน้า ฉันไปกับน้าด้วยค่ะ ฉันจะเรียน”

เฉินเยี่ยนเดินเข้าไปคล้องแขนน้ารอง ส่วนอีกมือก็จับซุนซิ่วอวี้ไว้ ทั้งสามคนเข้าไปในห้องครัว

ในห้องโถง คนพวกนั้นยังคงคุยกันว่าทำยังไงถึงจะเอากำไลทองมาจากคุณย่าได้ พวกเขาบอกซุนหม่านเซียงว่าถ้าย่าไม่ยอม ให้เธอโวยวายเลย ถ้าไม่ได้ คนที่บ้านเธอจะไปช่วย

เฉินเยี่ยนส่ายหน้า ความคิดของพวกเขาคงต้องผิดหวังแล้ว คุณย่าคิดถึงความเป็นไปได้นี่แต่แรกแล้ว ไม่มีทางเอามาได้

ส่วนที่คนบ้านซุนจะไป นั่นก็หาเรื่องให้ตัวเองเสียหน้า คนทั้งหมู่บ้าน จะปล่อยให้คนบ้านซินโดนรังแกได้ยังไง

“เธอไปเด็ดผักกับพี่ไป”

น้ารองให้เฉินเยี่ยนกับลูกสาวเด็ดผัก ตัวเธอลงมือนวดแป้งทำเส้นก๋วยเตี๋ยว แม่สามีเอาใจยากแค่ไหนเธอรู้ดี อีกทั้งมื้อเที่ยงแม่สามีจะกินแค่ก๋วยเตี๋ยว ไม่กินอย่างอื่น

“เธอไม่กลัวน้าคนโตไม่ชอบเธอหรือไง”

ซุนซิ่วหลานกระซิบถามเฉินเยี่ยน เธอเพิ่งเจอเฉินเยี่ยนครั้งแรก เธอคิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะกล้าต่อกรกับแม่สามี เธอรู้จักน้าคนโตดี ไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายๆ

“กลัวอะไรคะ? ซินห้าวอยู่ข้างฉันก็พอแล้ว อีกอย่าง มาโทษฉันไม่ได้”

เฉินเยี่ยนไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่ากลัว

ซุนซิ่วหลานถอนหายใจ เธอแต่งงานมาสองปีแล้ว แม่สามีเธอไม่ได้เอาใจยากเหมือนน้าคนโต ตอนแรกก็ยังทำดีกับเธอ

แต่ปัญหาคือเธอแต่งงานมาสองปียังไม่มีลูก สีหน้าแม่สามีก็เริ่มจะดูไม่ดีแล้ว

พอพูดว่าบ้านใครท้อง คลอดแล้ว แม่สามีก็จะจ้องท้องเธอ เธอรู้สึกอึดอัดมาก

บางครั้งแม่สามีก็หาเรื่องเธอ เห็นอยู่ว่าไม่ใช่ความผิดเธอ แต่เพราะเธอไม่มีลูก แม่สามีเลยโทษเธอ เธอน่าสงสารมาก

สามีก็ถือว่าดีกับเธออยู่ แต่พอเจอเรื่องแบบก็บอกให้เธออดทน บอกว่าเขาเหนื่อยทุกวัน อย่าทำให้เขาไม่สบายใจ

แล้วใครไม่เหนื่อยบ้าง?

เธอต้องทำงาน กลับมาบ้านก็ต้องทำกับข้าว ซักผ้า เก็บกวาด เธอก็เหนื่อยมาก เธอก็แค่อยากจะให้สามีสงสารบ้างเท่านั้นเอง

ตอนแรกเธอคิดว่าทุกบ้านเป็นแบบนี้ แม่อยู่ที่บ้านก็โดนรังแกแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ

คุณย่าอยากด่าก็ด่าแม่เหมือนกัน พ่อก็บอกให้แม่อดทนเหมือนกันไม่ใช่หรือ?

แต่วันนี้เฉินเยี่ยนกลับทำให้เธอเห็นลูกสะใภ้ที่ไม่เหมือนใคร

ก่อนมา แม่บอกเธอ ไม่ให้เธอพูดอะไร บอกว่าพวกคุณยายไม่ชอบเฉินเยี่ยน ต้องแกล้งเฉินเยี่ยนแน่นอน พวกเธอช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ไม่เข้าไปร่วมมือด้วย

เธอคิดว่าวันนี้เฉินเยี่ยนต้องแย่แน่ ยังคิดว่าจะช่วยพูดให้ด้วย คิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนไม่แพ้ ดูท่าทางเธอแล้ว เธอไม่สนใจครอบครัวนี้เลย

เฉินเยี่ยนบอกว่า ซินห้าวดีกับเธอก็พอแล้ว

ใช่แล้ว สามีทำดีกับภรรยา ภรรยาก็พอใจแล้ว อีกอย่าง ลูกน้องผู้ชายตัวเองมีความอดทน ซื้อบ้านได้ ไมต้องไปอยู่ที่บ้านแล้ว น้าคนโตก็ทำอะไรเธอไม่ได้

ตัวเองควรจะหัดแบบเธอบ้างดีไหม? แต่แม่สามีตัวเองไม่ได้เกินเลยเท่าน้าคนโตขนาดนี้

ซุนซิ่วหลานใจลอย

“ทำไมโยนผักลงพื้นล่ะ?”

น้ารองนวดแป้งเสร็จแล้ว พอดีเห็นลูกสาวเอาผักที่เด็ดแล้วโยนลงพื้น

“โอว”

ซุนซิ่วหลานค่อยได้สติกลับมา รีบเก็บผักบนพื้นขึ้นมา ถ้าย่าเห็นเข้า จะต้องด่าเธอแน่นอน

“ย่าซินห้าวฝั่งนั้นเขาดีกับเธอไหม?”

ซุนซิ่วหลานถามเฉินเยี่ยนอีก เธอได้ยินมาจากปากคุณย่ากับน้าคนโตว่าคุณย่าซินห้าวไม่ดีเลย เป็นคนแก่หนังเหนียว

“ดีมากเลย คุณย่านิสัยดีมาก พูดจาไม่เสียงดัง และไม่ด่าใครด้วย กำไลนั่นเธอยังให้หลานสาวตั้งหลายคน เธอบอกว่าหลานสาวก็ไม่ได้สบาย แต่งไปอยู่บ้านคนอื่นก็ลำบาก ดังนั้นเธอเลยทำดีกับหลานสาวดีกว่าหลานชายอีก”

เฉินเยี่ยนชอบคุณย่ามาก แต่ไม่ใช่เพราะย่าให้ของเธอ

สายตาซุนซิ่วหลานเผยแววอิจฉา ทำไมตัวเองไม่มีย่าแบบนี้บ้างนะ?

ทุกครั้งที่ตัวเองกลับไปบ่นให้ที่บ้านฟัง คุณย่ายังด่าตัวเอง บอกว่าลูกสาวที่แต่งออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป โดนแกล้ง ก็ไปโวยวายที่บ้านสามี จะกลับมาบอกที่บ้านทำไม แล้วยังให้เธอเอาของจากบ้านสามีมาช่วยเหลือผู้ชายที่บ้านอีกด้วย

บ้านเธอมีสองคนพี่สาวน้องสาว พวกพี่ชายน้องชายเป็นญาติกัน และพวกเขาก็ไม่ได้ทำดีกับตัวเองเท่าไรด้วย ทำไมเธอต้องฟังย่า? ชีวิตตัวเองไม่มีความสุขเลย

เฉินเยี่ยนก็เข้าใจความหมายของซุนซิ่วหลาน แต่ทำไมเธอไม่พูดอะไร เธอกับน้ารองและลูกพี่ลูกน้องยังไม่สนิทกัน ถึงแม้จะรู้สึกว่าน่าจะไปด้วยกันได้กับพวกเธอ แต่ตอนที่ยังไม่รู้สถานการณ์ เธอยังไม่ปักใจ

จนก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟที่โต๊ะ เฉินเยี่ยนมองดูคนพวกนั้นในห้องโถงแต่ละคนทำเหมือนเป็นฮองเฮา ไม่มีใครขยับตัว

น้ารองเหงื่อเต็มไปหมด แต่เธอกับซุนซิ่วหลานยังยกแต่ละชามไปเสิร์ฟไว้ข้างหน้าแต่ละคน

เฉินเยี่ยนส่ายหน้า ครอบครัวใหญ่ขนาดนี้ ยังให้น้ารองกับลูกพี่ลูกน้องทำกันอยู่สองคน ช่างแกล้งคนเก่งเหลือเกิน

“ก๋วยเตี๋ยวเค็มจัง เกลือนี่ไม่ต้องใช้เงินซื้อหรือไง”

คุณยายกินไปสองคำก็เคาะชาม

“ไม่เค็มนะ ผมว่ายังอ่อนไปด้วยซ้ำ กระเทียมละ เอากระเทียมมาให้ฉันหลายกลีบหน่อย”

ลุงคนโตตะโกน

น้ารองไม่พูดอะไร หยิบกระเทียมเงียบๆ

ครอบครัวนี้นี่ คนแก่ชอบรสอ่อน บ่นว่าเค็ม คนอายุน้อยชอบรสเข้ม รู้สึกว่าจืด ปรับรสชาติยาก ไม่เห็นว่าน้ารองกับลูกพี่ลูกน้องยังเสิร์ฟไม่เสร็จหรือไง? เรื่องมากขนาดนี้แล้ว

เฉินเยี่ยนเพิ่งจะถือชาม เธอคิดจะตักให้น้ารองชามหนึ่ง ซุนหม่านเซียงก็พูดขึ้นมา “ไม่มีมารยาท ผู้ใหญ่ยังกินไม่เสร็จเลย เธอรีบอะไร! เป็นผีหิวโหยหรือไง รอผู้ใหญ่กินเสร็จเธอค่อยกิน ชาติที่แล้วไม่เคยเห็นข้าวหรือไง”

เฉินเยี่ยนอยากจะเอาชามฟาดหน้าเธอเหลือเกิน ก๋วยเตี๋ยวหม้อใหญ่นี้ คนเยอะขนาดนี้ รอพวกเขากินเสร็จ ใครจะรู้ว่าพวกเขากินเยอะแค่ไหน ถ้าเจอคนที่กินเยอะ อย่าว่าแต่เธอเลย แม้แต่น้ารองกับลูกพี่ลูกน้องยังจะไม่ได้กินเลย

เฉินเยี่ยนไม่สนใจเธอ ตักเต็มชามส่งให้น้ารอง