นี่เป็นเขตส่วนตัวของตระกูลยวิ๋นอวิ๋นซึ่งไม่เคยเปิดให้บริการแก่บุคคลภายนอกมาก่อน และนี่เป็นครั้งแรกที่เปิดรับแขกในที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน
“แม่ผมเก็บห้องที่เห็นทิวทัศน์ทั้งบ้านพักนี้ให้คุณโดยเฉพาะเลย หวังว่าคุณจะชอบ” ยวิ๋นอวิ๋นช่วนเดินไปก็ชวนเธอคุยไป
ไป๋ซู่เย่พยักหน้า “ขอบคุณคุณป้าแทนฉันด้วย”
ยวิ๋นอวิ๋นช่วนอมยิ้มอบอุ่น “คุณไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ก็ได้”
“คุณลุง คุณลุงเป็นแฟนของคุณป้าผมหรือครับ?” เซี่ยต้าไป๋แหงนศีรษะเล็กถาม
เอ่อ?
พอเขาถามยวิ๋นอวิ๋นช่วนก็เริ่มไม่รู้ควรตอบอย่างไร เขามองไป๋ซู่เย่แวบหนึ่ง ไป๋ซู่เย่แค่ลูบศีรษะเด็กน้อยทีแล้วบอก “ไม่ใช่ คุณป้ายังไม่มีแฟนนะ”
“อ่อ แต่คุณป้ากับคุณลุงเหมาะสมกันดีนะครับ คุณย่าบอกแล้ว ผมว่าคุณลุงคนนี้ก็ไม่แย่ ตอนนี้สิ่งที่คุณย่าเป็นกังวลมากที่สุดก็คือเรื่องชีวิตแต่งงานของคุณป้าล่ะ”
ท่าทางเหมือนผู้ใหญ่นั่นทำให้ยวิ๋นอวิ๋นช่วนนึกขำ
“ขอบคุณคุณตัวเล็กที่ชื่นชอบ”
ไป๋ซู่เย่หยิกติ่งหูเซี่ยต้าไป๋ที “คุณย่าเธอสั่งให้มาเกลี้ยกล่อมใช่มั้ยไหม?”
“ไม่ใช่หรอก แต่คุณย่าเป็นห่วง ผมเองก็รีบร้อนใจตามเหมือนกันไง”
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยอยู่เห็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางพวกเขาอย่างเร่งรีบ ยวิ๋นอวิ๋นช่วนดูเห็นว่าเป็นคุณลุงของตนสองท่านและคนอีกกลุ่มที่เดินตามหลัง
กำลังจะแนะนำให้ไป๋ซู่เย่รู้จักแต่กลุ่มคนนั้นกลับชะงักฝีเท้า คุณลุงสองของตระกูลยวิ๋นอวิ๋นชิงพูดขึ้นก่อนโดยไม่รอให้ยวิ๋นอวิ๋นช่วนได้กล่าว “ยวิ๋นอวิ๋นช่วน เธออย่ามัวแต่ยืนนิ่งสิ ไปเรียกพ่อแม่ของเธอมา รีบไปรับแขกที่หน้าประตูเร็ว”
“ท่านประธานาธิบดีมาแล้วเหรอ?” ยวิ๋นอวิ๋นช่วนเห็นพวกเขาก็คิดแล้วว่าต้องไปต้อนรับแขกคนสำคัญอย่างแน่นอน
“เสี่ยวไป๋มาแล้วเหรอ?” เซี่ยต้าไป๋เองก็มองไปทางประตู
แต่เหล่าคุณลุงทั้งหลายกลับไม่พูดพร่ำทำเพลง ได้แต่สับเท้าเดินไปทางประตู
ไป๋ซู่เย่มองเขา “คุณไปเถอะ ให้พนักงานพาฉันไปห้องก็พอ”
“คุณป้า เราก็ไปด้วยกันได้มั้ยไหม?” เซี่ยต้าไป๋เขย่าแขนเธอไปมา “เสี่ยวไป๋มาแล้ว เราไปหาเขาที่หน้าประตูกัน”
ไป๋ซู่เย่ครุ่นคิดทีก่อนจะหยักศีรษะรับ ทั้งสามคนจึงเดินย้อนไปทางประตูใหม่
……………………
รอไป๋ซู่เย่มาถึงหน้าประตูเธอถึงพบว่าคนที่มาไม่ใช่น้องชายของตนอย่างไป๋เย่ฉิง
แต่เป็น…
เย่เซียว!
วันนี้เขาพาหยูอันมาเพียงคนเดียวโดยไร้เงาของน่าหลัน เจ้าตัวเดินลงจากรถแล้วและกำลังยืนจับมือทักทายกับกลุ่มคนตรงประตู เทียบกับความกระตือรือร้นของคนตระกูลยวิ๋นอวิ๋นเขายังคงมีสีหน้าเหมือนเดิม ก้มศีรษะเล็กน้อยเท่ากับไว้หน้าอย่างมากแล้ว
ไป๋ซู่เย่เผลอหายใจติดขัด
เซี่ยต้าไป๋ร้องออกมาด้วยความเจ็บเบาๆ “โอ้ย” แหงนหน้าขึ้น “คุณป้า คุณป้าบีบมือผมเจ็บมากเลย”
“ขอโทษนะ” ไป๋ซู่เย่ปล่อยมือออก “ยวิ๋นอวิ๋นช่วน ฉันพาต้าไป๋ไปห้องก่อนนะ คุณไปต้อนรับแขกเถอะ”
ยวิ๋นอวิ๋นช่วนหยักหน้ารับและมองเธอแวบหนึ่ง “คุณก็รู้จักเย่เซียว ไม่ไปทักทายหน่อยเหรอ?”
“ไม่ล่ะ ความจริงเราไม่ได้สนิทกันมาก” เธอไม่ได้พูดอะไรอีก จูงเซี่ยต้าไป๋หันหลังเดินไปและรู้สึกคล้ายว่าเซี่ยต้าไป๋เดินช้าเกินไปทำให้เธอตัดสินใจอุ้มเขาจากพื้นหลังเดินได้ไม่กี่ก้าว
เธอไม่ได้หันกลับไปมอง
จึงไม่เห็นสายตาของเย่เซียวที่จรดไว้ที่แผ่นหลังที่กำลังเดินหนีอย่างร้อนรนของเธอชั่วครู่
ดีมาก!
ไม่เจอกันสิบวัน ผู้หญิงคนนี้กล้าหลบหนีเขา!
………………
“คุณป้า เป็นอะไรไปเหรอ? ไม่สนุกเหรอ?” เซี่ยต้าไป๋มองอารมณ์ที่ผิดปกติของเธอออก
ไป๋ซู่เย่ใจว้าวุ่นมาก ตอนนี้เธอแค่อยากอยู่ห่างจากเย่เซียวให้มากที่สุด ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี เธอไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับเขาอีก เรื่องของไฟเรนเซ่ทำให้เธอไม่อยากเข้าร่วมอย่างเห็นแก่ตัว
ตัวอยู่ในตำแหน่งสำคัญเช่นนี้มันช่างน่าอายนักที่เกิดความคิดนี้ได้ แต่เธอเองก็มีช่วงเวลาที่เห็นแก่ตัวเหมือนกัน
“คุณป้าอย่าเศร้าไปเลยนะ”
“คุณป้ารู้จักคนเมื่อกี้เหรอ?”
“…อืม รู้จัก”
“เขาคือใครเหรอ? ดูเหมือนจะเก่งมากเลย เก่งกว่าเสี่ยวไป๋เหรอ?”
“ใช่ เขาเก่งมาก เขาเก่งเหมือนเสี่ยวไป๋เลย”
หากเย่ฉิงเปรียบดังผู้ที่ควบคุมแสงอาทิตย์ ถ้าอย่างนั้นเขาก็เปรียบเสมือนผู้ควบคุมรัตติกาล
เซี่ยต้าไป๋เห็นว่าสีหน้าเธอแย่มากจริงๆ เลยไม่ได้ถามไปมากกว่านี้ แค่กอดคอเธอเข้าห้องไปพร้อมกับเธอ
ห้องกว้างมาก
มีแบ่งห้องนอกและห้องด้านใน
ผลักประตูเข้าไปอีกก็เห็นบ่อน้ำร้อนที่ไร้ที่สิ้นสุด ไอความร้อนลอยโขมงท่ามกลางอากาศ พอมองไปจากหน้าต่างก็เห็นภาพทิวทัศน์ของบ้านพักที่อยู่บริเวณหุบเขาทั้งหมด งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
นี่เป็นสถานที่ดีแห่งหนึ่งจริงๆ และเป็นสถานที่เหมาะสำหรับพักผ่อน แต่ไป๋ซู่เย่ในเวลานี้กลับไม่มีกะจิตกะใจจะชื่นชมมันสักนิด
เธอยืนอยู่ริมหน้าต่างและครุ่นคิดอย่างใจเย็น—เธอควรส่งต้าไป๋ให้ฮูหยินคุณหญิงไป๋หรือไม่ แล้วตนค่อยหาข้ออ้างกลับไป? หรือบางทีเธอไม่ควรไปไหน อยู่แต่ในนี้ไม่ออกจากห้อง เย่เซียวก็ทำอะไรเธอไม่ได้
ขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดเซี่ยต้าไป๋ได้ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะถอดเสื้อออกมาจนร่างเปลือยเปล่า กอดห่วงยางกระโดดลงน้ำดัง ‘ตู้ม’ ทันที เพราะเคยจมน้ำเมื่อยังเด็กมาก่อนทำให้ความจริงแล้วเขาค่อนข้างกลัวน้ำ แต่เวลานี้กลับลืมทุกความกลัวไว้ด้านหลัง เล่นน้ำอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“คุณป้าครับ รีบลงมาเล่นกับผมสิ!สนุกมากเลย!” เซี่ยต้าไป๋แหวกว่ายในสระน้ำสีน้ำเงินพร้อมพูดชักชวนอย่างอบอุ่น
ไป๋ซู่เย่ได้ยินจึงเดินไปที่สระว่ายน้ำ เห็นเจ้าตัวเล็กได้กอดห่วงยางว่ายไปตรงขอบสระน้ำ เขานอนคว่ำอยู่บนห่วงยางอย่างสบายๆ
เซี่ยต้าไป๋เล่นคนเดียวไม่สนุกเท่าไรเลยพยายามชักชวนเธอ ไป๋ซู่เย่ไม่อยากทำลายความสนุกของเด็กสุดท้ายเลยเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำกระโดดลงสระน้ำเล่นกับเด็กน้อยอย่างสนุกสนาน เธอจะเก็บเรื่องน่ารำคาญใจของงานไว้ก่อนชั่วคราว
ไม่รู้ว่าเล่นอยู่อย่างนี้นานเท่าไร ท้องฟ้าเริ่มมืดลงช้าๆ
ไป๋ซู่เย่อุ้มเซี่ยต้าไป๋ขึ้นจากสระว่ายน้ำ คว้าโทรศัพท์มาดูหัวใจหล่นวูบ
มีสายจากเบอร์ที่ไม่ได้รับห้าสาย
สามสายจากฮูหยินคุณหญิงไป๋ หนึ่งสายจากยวิ๋นอวิ๋นช่วน สายสุดท้าย…เบอร์แปลกหน้า
เธอพรูลมหายใจออกมาให้ตัวเองมองข้ามเบอร์สุดท้ายที่ไม่ได้รับนั่นไป โทรหาฮูหยินคุณหญิงไป๋ เสียงของฮูหยินคุณหญิงไป๋ดังแว่วมา “เล่นกันสนุกล่ะสิ เดี๋ยวใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว ลูกพาต้าไป๋มารอที่ห้องอาหาร!”
“แม่คะ แม่มารับต้าไป๋หน่อย หนูไม่ไปแล้ว”
“ทำไมล่ะ?”
“หนูมึนหัวนิดๆ น่าจะเพราะแผลที่หัวก่อนหน้าแล้วเมื่อกี้ก็ว่ายน้ำมากไปหน่อยเลยเวียนหัวมาก หนูอยากพักผ่อนในห้องสักแป๊บ”
“ไม่เป็นไรใช่มั้ยไหม ให้คุณหมอมาดูหน่อยมั้ยไหม?”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เรื่องเล็กน้อย”
“ได้ เดี๋ยวแม่ไปหา ลูกอาบน้ำให้ต้าไป๋ก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย อย่าเป็นหวัดนะ”
“ค่ะ”
วางสายไปไป๋ซู่เย่จึงช่วยอาบน้ำให้เด็กน้อยแล้วเปลี่ยนชุด เป่าผมและพอแต่งตัวอย่างหล่อเหลาเสร็จสรรพ ฮูหยินคุณหญิงไป๋ก็มาถึงพอดี
“ไม่เป็นไรใช่มั้ยไหมลูกน่ะ”
“หนูอยากพักผ่อนดีๆ สักหน่อย”
“งั้นเดี๋ยวให้พนักงานเอาอาหารเย็นมาส่งให้ลูกที่ห้อง”
“ค่ะ”
ไป๋ซู่เย่พยักหน้ารับให้ฮูหยินคุณหญิงไป๋พาเซี่ยต้าไป๋ออกไป
……………………………