ตอนที่ 600 ห้องพัก

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 600

ห้องพัก

“ศิษย์ของท่าน….”ฟงเป่ามองหลินเฟยด้วยท่าทีงุนงง แม้อีกฝ่ายจะพึ่งช่วยเหลือตนเองไปแต่อยู่ๆก็ชวนมาเป็นศิษย์เนี่ยมันเรื่องอะไรกัน

“ทำไมฟงเป่าต้องไปเป็นศิษย์ของเจ้าไม่ทราบ”เจ้าหนูมิ่งได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้ามาขวางทันที แม้จะช่วยเหลือกันแต่ก็ยังเป็นคนแปลกหน้า อยู่ๆจะบอกว่าอยากรับเป็นศิษย์ได้อย่างไร

“เพราะข้าไม่อยากให้มันตายเพราะวิชาอสูรนะสิ”หลินเฟยตอบตอกหน้าเจ้าหนูมิ่งไปตรงๆ แม้ใจจริงจะต้องการศิษย์ที่ฝึกสอนง่ายๆไม่มีปัญหาตามมา แต่เรื่องที่ไม่อยากให้ฟงเป่าต้องตายหรือธาตุไฟเข้าแทรกเพราะการฝึกวิชาผิดๆก็เป็นเรื่องจริง

“ละ แล้วเจ้าล่ะมีวิชาที่ดีกว่าหรือยังไง”เจ้าหนูมิ่งจ้องหลินเฟยด้วยท่าทีไม่พอใจนัก จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกๆเลยมั้งที่หลินเฟยถูกอสูรพูดใส่ด้วยท่าทีไม่พอใจ น่าจะเป็นเพราะพลังดึงดูดเหล่าอสูรไม่สามารถใช้งานได้กระมัง

“นั่นสินะ งั้นเจ้าเอานี่ไปลองฝึกดูก่อน มันเป็นวิชาแบบที่ข้ามีอีกเป็นพันๆวิชา หากเจ้าเริ่มคิดอยากเป็นศิษย์ของข้าก็มาหาข้าที่ร้านหรือที่สำนักเหยี่ยวทะเลทราย ข้าจะสอนวิชาที่ดีกว่านี้ให้”หลินเฟยไม่ต้องพูดมากเล่าความยาวแต่อย่างไร เพียงยื่นตำราที่คัดลอกเผื่อๆเอาไว้สำหรับคนในสำนักให้ฟงเป่าไปฝึกเอาเอง เมื่อได้ฝึกแล้วฟงเป่าก็คงตัดสินใจได้เองว่าจะมาเป็นศิษย์ของหลินเฟยหรือไม่

“ขอรับ….”ฟงเป่ามองตำราในมือด้วยท่าทีตกใจ อยู่ๆก็ได้วิชาของคนอื่นมาไว้ในมือเช่นนี้ทำให้ฟงเป่ารู้สึกดีใจไม่น้อย แม้ตระกูลของมันจะโดนฆ่าล้างตระกูลแต่ทั้งพี่มิ่งทั้งชาย?แปลกหน้าท่านนี้อีก โลกใบนี้ช่างใจดีกับฟงเป่าไม่น้อยเลย

.

.

.

“พี่หลินเฟย ท่านไปไหนมางั้นหรือ”หลังจากขายตรงให้ฟงเป่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลินเฟยก็กลับมาที่ร้านตระกูลชุนอีกครั้ง

“ข้าเห็นคนกำลังมีปัญหาก็เลยไปช่วยเท่านั้นเอง แล้วเจ้ามารอข้าที่หน้าร้านมีอะไรงั้นหรือ”หลินเฟยถามพลางมองชุนชิงที่กำลังยืนอยู่หน้าร้านด้วยท่าทีสงสัย ปกตินางอยู่หลังร้านไม่ใช่หรือ

“ข้ากำลังจะออกไปตามท่านนะสิ ท่านพ่อบอกว่าห้องของท่านพร้อมแล้วให้ย้ายเข้าไปได้เลย”ชุนชิงยิ้มกว้างก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในประตูใหญ่ข้างร้านซึ่งเป็นประตูสำหรับตรงเข้าตัวบ้านของตระกูลชุนนั่นเอง

“ไม่เห็นต้องสร้างห้องเพิ่มเลย ให้ข้าพักที่เดิมก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ”หลินเฟยบ่นออกมาเบาๆ แม้ชุนชิงจะบอกแล้วว่าหากไม่พักห้องนี้ก็ไปพักห้องเก่าไม่ได้ แต่ก็อดที่จะรู้สึกเกรงใจไม่ได้อยู่ดี

“ก็บอกแล้วไง ว่าพวกเราอยากจะต้อนรับพี่เหมือนคนในครอบครัว ท่านพ่อตั้งใจสร้างห้องนี้ให้พี่จริงๆนะ”ชุนชิงว่าพลางยิ้มหวานด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นดู แม้ไม่ทราบว่าทำไมบิดาของตนถึงอยากได้ตัวหลินเฟยขนาดนั้นทั้งๆที่มีท่านลุงที่เป็นถึงหัวหน้าผู้ตรวจการแท้ๆ ไม่เห็นต้องตื่นเต้นกับแค่ตำแหน่งเจ้าสำนักเลยแท้ๆ แต่นางเองก็ชอบพี่หลินเฟยคนนี้ไม่น้อยถึงขนาดอยากได้มาเป็นพี่สะใภ้เลยทีเดียวนางเลยไม่ต่อต้านอะไรบิดา แถมยังสนับสนุนอีกต่างหาก

“ชุนชิง…นะ น้องหลินเฟย”ขณะเดินเข้ามาในบ้านตระกูลชุน คนที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะพบก็คือชุนถังผู้ถูกหักอกเข้าอย่างจังเมื่อคราวก่อนนั่นเอง มันเลี่ยงไม่พบหน้าหลินเฟยมาพักใหญ่แล้ว วันนี้ได้พบกันโดยบังเอิญตัวชุนถังก็ยังทำตัวไม่ถูกอยู่ดี

“ท่านพี่ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ พี่อยากจะพบพี่หลินเฟยเหมือนกันไม่ใช่หรือ”ชุนชิงว่าพลางวิ่งเข้าไปหาชุนถังทันทีเพราะเห็นชุนถังทำท่าเหมือนจะหันหลังหนีเสียอย่างนั้น

“กะ ก็ใช่ แต่ข้ายังทำใจไม่ได้”ชุนถังเถียงด้วยน้ำเสียงกระซิบเพราะกลัวว่าหลินเฟยจะได้ยินเข้า แต่ถึงชุนถังจะลดเสียงแต่สิ่งที่ชุนชิงพูดเมื่อครู่ต่างได้ยินกันชัดเจนทุกคน

“คุณชาย ท่านเองก็อยากพบข้างั้นหรือ”หลินเฟยได้ยินที่ชุนชิงพูดก็เข้าไปหาชุนถังทันที ตัวมันก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมชนถังถึงมีท่าทีต่างออกไป แต่เพราะวุ่นอยู่กับเรื่องอาวุธและตำแหน่งเจ้าสำนักหลินเฟยเลยไม่มีเวลามาจัดการปัญญาจุดนี้

“นะ น้องหลินเฟย….เจ้า…….”ชุนถังพอเห็นหลินเฟยเข้ามาใกล้ก็พลันมองไปที่เรือนร่างของหลินเฟยทันที ภาพในวันนั้นยังคงติดตาไม่รู้ลืม แผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั่นช่างเป็นร่างกายในฝันของเหล่าชายหนุ่มจริงๆ แต่ไม่ใช่ฝันว่าอยากจะโอบกอด แต่เป็นฝันว่าอยากมีรูปร่างแบบนั้นต่างหาก

“เจ้า…สบายดีหรือไม่”ชุนถังอึ้งจนไม่ทราบจะพูดอะไรก็เลยได้แต่ถามคำถามเรียบง่ายออกไปก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่น ชุนชิงเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจ ท่านพี่ของนางทำไมทำตัวเหมือนชายหนุ่มพึ่งเคยมีความรักกัน แค่ถูกหักอกมาครั้งเดียวถึงกับไม่กล้าสบตาเลยงั้นหรือ

“ข้าสบายดีขอรับ คุณชายเองหลังจากวันนั้นก็สบายดีหรือเปล่าขอรับ ข้าเห็นช่วงนี้คุณชายไม่ค่อยร่าเริงเลย”หลินเฟยถามด้วยท่าทีเป็นห่วง หลังจากวันที่ไปล่าทรายดำกันชุนถังก็ซึมเหมือนคนไม่สบายไม่มีผิด แต่ถึงหลินเฟยจะใช้ดวงตาสีต่างๆตรวจสอบร่างกายชุนถังก็ไม่พบอาการผิดปกติใดๆเลยนี่นา

“วันนั้น…..อะ อ้อ ข้าสบายดีๆ แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ”ชุนถังตอบด้วยท่าทีลนๆเหมือนทำตัวไม่ถูก

“พี่หลินเฟย วันนั้นคืออะไรงั้นหรือ”ชุนชิงถามพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีสงสัย

“วันนั้นข้ากับคุณชายถังหลบอสูรลงไปในทะเล ทั้งข้าทั้งคุณชายเปียกปอนกันทั้งคู่ข้าก็เลยสงสัยว่าคุณชายจะไม่สบายหรือเปล่า”หลินเฟยตอบตามที่ตนคิด น่าเสียดายหลินเฟยไม่มีความคิดเลยว่าชุนถังจะตกหลุมรักตัวเองและอกหักเพราะทราบความจริงเข้า

“เอ๊ะ หลบลงทะเล เปียกไปทั้งตัว….หรือว่าพวกท่านยังอยู่ด้วยกันสองต่อสองอีก”ชุนชิงถามด้วยท่าทีอยากรู้เพราะชุนถังไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังเลย

“ขอรับ เพราะพวกเราต้องเก็บทรายดำก็เลยเข้าไปในถ้ำริมทะเล ตอนนั้นมีพวกเราแค่สองคนขอรับ”หลินเฟยตอบตามตรงเช่นเดิมเพราะคิดว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง แต่ยิ่งตอบคำถามไปใบหน้าของชุนชิงก็ยิ่งส่องประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น บรรยากาศสุดแสนจะเป็นใจนั่นมันอะไรกัน อย่างกับฉากในเรื่องเล่าเลยไม่ใช่หรือ พระนางตกลงไปในทะเล ติดอยู่ในถ้ำตามลำพังในชุดเปียกชื้นที่ทำให้เห็นเรือนร่างได้ง่ายขึ้น ไม่แปลกใจเลยหากท่านพี่จะสารภาพรักในบรรยากาศแบบนั้น

“พี่หลินเฟย วันนั้นท่านพี่ได้พูดอะไรกับท่านเป็นพิเศษหรือเปล่า”ชุนชิงถามด้วยความเผลอปากทั้งๆที่อยู่ต่อหน้าชุนถังเสียอย่างนั้น

“น้องชิง”ชุนถังได้ยินเช่นนั้นก็สะดุ้งโหยงรีบห้ามชุนชิงเอาไว้ทันที

“ไม่ขอรับ ข้ากับคุณชายก็พูดคุยกันปกติ ไม่มีอะไรพิเศษขอรับ”หลินเฟยตอบพลางหันไปมองชุนถังครู่หนึ่ง วันนั้นไม่มีอะไรเป็นพิเศษจริงๆ ทำให้หลินเฟยยังไม่เข้าใจว่าทำไมชุนถังถึงได้มีท่าทีแปลกๆไปอยู่เลย บางทีมันอาจจะยังกลัวอสูรตนนั้นไม่หายก็ได้

“ชะ ใช่ไม่มีอะไรพิเศษหรอก”ชุนถังว่าพลางปิดปากชุนชิงเอาไว้แน่นก่อนจะส่งสายตาดุๆไปทางชุนชิงเหมือนจะบอกว่าห้ามพูดอะไรเรื่องนี้อีก ทำให้ชุนชิงได้แต่พยักหน้าช้าๆเป็นการตกลงชุนถังถึงได้ยอมปล่อยปากของนางเป็นอิสระ

“โถ่เอ้ย ท่านพี่ขี้งก งั้นข้าจะพาพี่หลินเฟยไปที่ห้องเลยแล้วกัน”ชุนชิงว่าพลางลากหลินเฟยเดินเข้าไปในตัวบ้านต่อ ทำให้ชุนถังได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆออกมาแล้วตามทั้งสองคนไปเพราะกลัวว่าชุนชิงจะแอบถามคำถามอีก

“เป็นห้องที่ยอดเยี่ยมจริงๆขอรับ แน่ใจนะว่าจะให้ข้าพักที่นี่”หลินเฟยมองห้องที่พึ่งตกแต่งใหม่เอี่ยมด้วยท่าทีอึ้งๆ ไม่นึกเลยว่าจะให้พนักงานพักห้องที่หรูหราเช่นนี้

“ท่านพ่อบอกว่าของที่ขายให้ท่านจิ๋นจี้หลงไปได้กำไรเยอะมาก แค่สร้างห้องนี้ห้องเดียวไม่ได้เศษเสี้ยวของกำไรที่ท่านพ่อได้หรอก”ชุนชิงว่าพลางลากแขนหลินเฟยเข้าไปดูภายในห้อง นับว่าชุนเจ๋อลงทุนไม่น้อยเลยเพราะห้องที่ออกมากว้างใหญ่แทบไม่ต่างจากห้องของพวกชุนถังกับห้องของชุนชิงเลย เพียงแต่มันออกจะลำบากใจนิดหน่อยเพราะห้องของหลินเฟยนั้นอยู่ขั้นกลางระหว่างห้องของชุนถังกับชุนชิงพอดี การอยู่กับชุนถังนั้นไม่เป็นไรหรอกเพราะถึงอย่างไรก็เป็นชายเหมือนกัน แต่ชุนเจ๋อคิดอะไรกันแน่ถึงได้ยอมให้ผู้ชายมานอนในห้องข้างๆบุตรสาวตนเอง

“……”ระหว่างพาหลินเฟยชมห้องอยู่นั้น ชุนชิงก็ลอบมองพี่ชายของตนตลอดเวลา มันเล่นเดิมตามมาตลอดเล่นเอาไม่มีช่องให้ถามพี่หลินเฟยเลยว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แม้หลินเฟยจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่นางก็คิดเอาว่าหลินเฟยคงไม่กล้าพูดต่อหน้าชุนถังเท่านั้นเอง

.

.

“เชอะ ท่านพี่นะท่านพี่ ทำไมต้องปิดบังกันถึงขนาดนี้ด้วย”ชุนชิงบ่นพึมพำออกมาหลังจากทานอาหารเย็นกับคนในครอบครัวเสร็จ วันนี้พี่หลินเฟยมาทานอาหารด้วยทำให้ท่านพ่อใช้เวลาพูดคุยกับหลินเฟยนานกว่าปกติ ทำให้ชุนชิงไม่มีโอกาสเข้าไปคุยกับหลินเฟยสองต่อสองเลย เพียงแต่นางไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่ๆ

ตุบ….

ชุนชิงลองออกมาจากห้องของตนเองในตอนกลางคืน ก่อนจะย่องเข้าไปในห้องของหลินอย่างระมัดระวัง นางโน้มตัวไปข้างหน้าก่อนจะค่อยๆย่องเข้าไปในห้องของหลินเฟยช้าๆเพื่อจะแอบเข้าไปหาหลินเฟยตามลำพัง

พรึบ…

ยังไม่ทันเดินเข้าไปที่เตียงอยู่ๆเทียนในห้องก็ลุกติดขึ้นมาราวกับมีคนเดินไปจุดไฟพร้อมกัน ทำเอาชุนชิงสะดุ้งโหยงจนตัวลอย

“น้องชุนชิง เจ้าแอบเข้าห้องผู้ชายกลางดึกแบบนี้มันไม่ดีนะ”ได้ยินเสียงของหลินเฟยมาจากข้างหลังชุนชิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่แท้ก็หลินเฟยยังไม่เข้านอนนี่เอง จริงสินางลืมไปเลยว่าจริงๆแล้วพี่หลินเฟยเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญาณที่เก่งมากเลยนี่นา แอบย่องเข้ามาแบบนี้หลินเฟยไม่จับได้สิแปลก

“พี่หลินเฟยละก็ ห้องของผู้ชายอะไรกัน ข้าแค่อยากจะมาคุย……”ชุนชิงหันกลับไปหาหลินเฟยพลางยิ้มกว้างด้วยท่าทีสบายๆ แต่ทันทีที่ภาพหลินเฟยที่สวมเสื้อบางๆแค่ตัวเดียวเข้ามาในมุมมองของชุนชิงนางก็หยุดคำพูดของตนเองไปทันที ไม่ใช่ว่าหลินเฟยใส่เสื้อบางๆเข้านอนเป็นเรื่องแปลกหรอก แต่เพราะเสื้อที่หลินเฟยใส่ยามนี้เปิดส่วนอกอย่างชัดเจน แม้จะไม่ถึงกับโป๊ แต่ก็ทำให้ชุนชิงได้เห็นว่าแผ่นอดของหลินเฟยนั้นเป็นแผงอกของชายหนุ่มไม่ใช่ของหญิงสาวอย่างแน่นอน แถมมัดกล้ามนั่นยังทำให้ชุนชิงเลิกจ้องมองไม่ได้อีกต่างหาก

“ถึงเจ้าจะไว้ใจข้า แต่เจ้าก็ไม่ควรทำแบบนี้นะ มีเรื่องอะไรจะคุยก็คุยกับข้าพรุ่งนี้เถอะ เวลาแบบนี้มันไม่เหมาะเท่าไหร่”หลินเฟยถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปหาชุนชิงที่กำลังชะงักค้างไม่ทราบจะทำตัวเช่นไรต่อ

“จะ เจ้าค่ะ”ชุนชิงกะพริบตาปริบๆก่อนจะเดินออกมาจากห้องของหลินเฟยด้วยท่าทีเหม่อลอย ในที่สุดนางก็เข้าใจเสียทีว่าทำไมพี่ชายของนางถึงได้มีท่าทีเช่นนั้น นั่นก็เพราะมันได้เห็นแล้วเหมือนกันนั่นเอง