“ดี ทุกอย่างตอนนี้ก็ชัดเจนแล้ว หวางเย่จะพุดคุยเกี่ยวของหมออู๋ได้หรือยัง?”หลิน ชูจิ่ว เดินออกห่างจากอ้อมกอดของเสี่ยวเทียนเหยา และนั่งอยู่ข้างเตียง ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกับรถเข็นคนพิการของเสี่ยวเทียนเหยา
หลังจากที่เคลียร์และร้องไห้เกี่ยวกับกรณีของโจวซือจบ หลิน ชูจิ่วก็อยากจะคุยเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นไปเร็วๆ เพราะเธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับการปรากฏตัวของเสี่ยวเทียนเหยา เธอไม่มีความสุขเมื่อใดก็ตามที่เขาอยู่ใกล้ๆ
“เจ้าค่อนข้างน่ารักเมื่อเจ้าทำตัวเหมือนคนไม่ปกติ” เสี่ยวเทียนเหยา ทิ้งผ้าเช็ดตัวลงบนพื้นและหันไปนั่งรถเข็นของเขา
ถ้าหลิน ชูจิ่ว ยังคงตำหนิเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม และใส่ความโชคร้ายทั้งหมดของนางลงไปบนหัวของคนอื่น ๆ นางก็ไม่สมควรที่จะเป็นหวางเฟยของเขา
หวางเฟยของเขาไม่ควรยืนอยู่ข้างหลังเขาและรอคอยที่จะได้รับการคุ้มครองจากเขา แต่แทนที่จะต่อสู้เคียงข้างกับเขา
หลิน ชูจิ่ว ไม่ได้พูด เธอแค่รอให้เสี่ยวเทียนเหยา พูดคำขอร้องของเขาออกมา
เสี่ยวเทียนเหยา ไม่ได้ลากปัญหาออกไปอีกต่อไป เขาพูดอย่างตรงไปตรงมาขึ้นทันที “เรื่องต่างๆ ถูกกล่าวถึงโดยหมออู๋ไปแล้ว อะไรคือความต้องการของเจ้า? เปิ่นหวางจะพยายามทำให้เจ้าพอใจ ”
การได้ยินน้ำเสียงทางธุรกิจของเสี่ยวเทียนเหยา หลิน ชูจิ่วก็ไม่รู้สึกโกรธ เธอชอบด้านที่โหดร้ายของเขาเมื่อเทียบกับความอ่อนโยนที่ปลอมๆ ของเขา
“ข้าสามารถออกใบสั่งยาได้ แต่การจัดหายาสำหรับทหารจำนวน 50,000 คน เป็นสิ่งที่ข้าไม่สามารถทำได้ “ยาฆ่าเชื้อ ยาสำหรับบาดแผลและดายเป็นสิ่งที่สามารถหาได้ แต่เข็มและมีดผ่าตัดเป็นเรื่องยากมาก
นี่เป็นสิ่งเดียวที่หลิน ชูจิ่ว สามารถให้ความช่วยเหลือได้ สำหรับคนอื่นๆ หลิน ชูจิ่ว ไม่ต้องการจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ดี” เสี่ยวเทียนเหยา ไม่คิดจริงๆว่าหลิน ชูจิ่ว จะสามารถจัดหายาเหล่านี้ได้ทั้งหมดในตอนแรกแล้ว
หลิน ชูจิ่ว อยู่ที่เรือนหลังตำหนักของตำหนักเสี่ยวหวางฟู่ ถ้านางบอกว่านางสามารถหายาได้ถึง 50,000 ชุด เขาก็คงจะต้องประหลาดใจมากจริงๆ
แม้ว่าหลิน ชูจิ่วจะแปล
เอาสิ่งของออกมาจากตรงไหนก็ไม่รู้
แต่เสี่ยวเทียนเหยาเชื่อว่าวันหนึ่ง เขาจะได้เรียนรู้ความลับทั้งหมดของนาง
หลังจากนั้น หลิน ชูจิ่วก็ไม่ได้ลืมที่จะพูดถึงความต้องการของตัวเอง”ในการแลกเปลี่ยนข้าหวังว่าท่านจะสามารถปล่อยให้ข้าเข้าและออกจากตำหนักเสี่ยวหวางฟู่ ได้ตลอดเวลาและจะไม่เข้าไปแทรกแซงเรื่องต่างๆของข้า”
เรือนหลังตำหนักเสี่ยวหวางฟู่ เป็นกรงของเธอ ถ้าสิ่งนี้ยังคงอยู่ต่อไปเธอจะสูญเสียความสามารถในการอยู่รอด เธอจะค่อยๆกลายเป็นดอกไม้ที่ไม่สามารถอยู่ได้ถ้าไม่มีสนามหญ้าของเสี่ยวเทียน
“ได้” หลังจากได้เห็นความสามารถของหลิน ชูจิ่วแล้ว เสี่ยวเทียนเหยา ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะขังนางไว้ที่เรือนหลังตำหนักไปตลอดชีวิตที่เหลือของนาง ผู้หญิงที่อยู่แต่เรือนหลังตำหนักก็ไม่คู่ควรกับเขา
อย่างไรก็ตามเสี่ยวเทียนเหยา ยังคงเตือนนางขึ้น “จำไว้ว่าเจ้าไม่ควรคิดเกี่ยวกับการทรยศต่อเปิ่นหวาง เปิ่นหวางสามารถให้อิสรภาพแก่เจ้าได้ในวันนี้ แต่ก็สามารถนำมันกลับมาได้ในพรุ่งนี้รวมทั้งชีวิตของเจ้าด้วย “
“ข้ารู้ตำแหน่งของข้า ข้าจะไม่ทำอะไรที่จะทำอันตรายต่อเสี่ยวหวางฟู่ “การต่อสู้ระหว่างเสี่ยวเทียนเหยา และฮ่องเต้ได้ไปถึงจุดที่ไม่สามารถเดินกลับมาได้ เธอได้รักษาขาของเขาเพื่อที่เธอจะสามารถนั่งเรือของเขาไปได้ในชีวิตนี้เท่านั้น ถ้าเสี่ยวเทียนเหยาล้มก็จะไม่มีอะไรที่ดีเกิดขึ้นกับเธอ
“ดีมาก” เสี่ยวเทียนเหยา พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ”พรุ่งนี้เปิ่นหวางจะส่งคนมารับยา” หลังจากพูดคำเหล่านั้นจบ เสี่ยวเทียนเหยา หันรถเข็นของเขาออกไปข้างนอกและปล่อยให้หลิน ชูจิ่ว อยู่ตามลำพังในห้องของเธอ
เขากำลังจะออกไปหรือ?
สายตาของหลิน ชูจิ่วเปิดกว้างขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ เธอไม่เชื่อจริงๆจนกระทั้งเสี่ยวเทียนเหยา ออกไปและปิดประตูลง
“ดีมาก!” หลิน ชูจิ่ว ล้มลงไปที่เตียงและผ่อนคลายร่างกายของเธอ
แม้ว่าสิ่งต่างๆจะกลับสู่สภาพเดิม แต่ก็ยังดีกว่าที่จะต่อต้านความต้องการของเขา
“เจ้าเกลียดเปิ่นหวางมากเพราะเรื่องของโจวซือหรือ” ได้ยินคำพูดของหลิน ชูจิ่วก่อนหน้านี้ เสี่ยวเทียนเหยาก็ช่วยไม่ได้ที่จะเปิดเผยรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา
เขาไม่คิดว่า เขาทำอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องของโจวซือ ถ้าสถานการณ์เช่นนี้จะกลับมาอีกครั้ง เขาก็จะทำในสิ่งเดียวกัน
ตราบเท่าที่เขาสามารถฆ่าศัตรูได้ถึง 1,000 คน เขาไม่สนใจถ้าจะต้องเสียคนไป 800 คน!