บัญชามังกรเดือด บทที่ 912 ภาพเหตุการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
ขณะนี้คนอื่นต่างก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกประหลาดเช่นกัน พวกเขาเงยหน้าขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
เมื่อเห็นงูเหลือมยักษ์ ทุกคนก็อ้าปากกว้างด้วยความตื่นตระหนก ภายนัยน์ตาเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจและยากจะเชื่อ
“นี่คือราชางู?”
“ท่าไม่ดีแล้ว!”
“วิญญาณราชางู เทพผู้พิทักษ์ปกป้องสุสาน พี่เทียน พวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี่ คิดหาวิธีเร็วเข้า!” เมื่อได้สติ ไป๋หลิงรีบร้องตะโกนด้วยความตื่นตระหนก
เธอรู้ตำนานบางอย่าง ในฐานะหนึ่งในนักล่าสมบัติที่เก่งกาจของสำนักวานร ตั้งแต่วัยเด็กได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินอยู่เป็นประจำ
ยาอายุวัฒนะบางชนิดจากธรรมชาติ สมบัติโบราณบางอย่างที่มีอายุมากกว่าร้อยปี มักจะมีเทพผู้ปกปักรักษา โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสัตว์ร้าย
อันที่จริงหลังจากที่ไป๋หลิงได้สำเร็จการฝึกฝน เธอเริ่มเข้าร่วมการล่าสมบัติอย่างเป็นทางการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้รู้ได้เห็นสิ่งของที่น่าทึ่งมากมาย
โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นงู
แต่ตัวใหญ่ที่สุดที่เคยพบก็ยังใหญ่ไม่ถึงหนึ่งในสิบของตัวที่อยู่ตรงหน้า จากการสันนิษฐานของไป๋หลิง งูเหลือมยักษ์ที่กำลังเลื้อยอยู่บนโลงศพแขวน เกรงว่าอาจจะมีอายุนับพันปี
ตามกฎของสำนักวานร เพื่อช่วงชิงสมบัติ ไม่สามารถสังหารสัตว์เทพได้ โดยเฉพาะสัตว์เทพโบราณที่สั่งสมพลังจิตมาเนิ่นนานหลายร้อยปีเช่นนี้ ถ้าหากสังหาร จะได้รับคำสาป
ผู้บำเพ็ญนั้นเสียเปรียบ
“สำหรับงูตัวนี้ หากอายุไม่ถึงพันปีก็น่าจะสักประมาณแปดร้อยปี”
“พี่เทียน สิ่งของที่อยู่บนชั้นผิวของมันนั้นคือฝุ่นหรือว่าเกล็ดงู?” ฉวนซานนั้นทั้งประหม่าและตื่นเต้น
งูเหลือมนับพันปี ยากมากที่จะได้เห็น
จากตำนานเล่าขานสู่ความจริง งูเหลือมตัวนี้กำลังจะมีเขางอกออกมาแล้วกลายเป็นมังกรหรือเปล่า?
ฉินเทียนจ้องมองไปยังนัยน์ตาที่แปดเปื้อนฝุ่นของงูเหลือมยักษ์ ราวกับว่าเป็นน้ำพุแห่งแดนอเวจี เขายิ้มขื่นขมและเอ่ย “ไม่ว่างูตัวนี้จะกลายร่างหรือไม่ อย่างไรวันนี้พวกเราทุกคนต่างก็โชคร้าย”
“จู่ๆฉันก็รู้สึกขึ้นมาได้ ระหว่างทางพวกเรานั้นไม่ได้เจอการจู่โจมที่รุนแรงเลย มันจงใจให้พวกลูกงูเหล่านั้นล่าถอยและนำพาพวกเรามายังสถานที่แห่งนี้”
“งูตัวนี้อาจจะหลับใหลมาเนิ่นนานจนเกินไปและมันต้องการดูดซับพลังหยางใช่หรือไม่?”
เมื่อเอ่ยจบ แม้แต่ฉินเทียนเองก็ตื่นตกใจ รู้สึกอย่างไร งูเหลือมยักษ์ที่อยู่เหนือโลงศพที่แขวนอยู่ดูเหมือนปีศาจอายุพันปี
“ฉิบหาย!”
“นี่เวลาไหนกันแล้ว ยังจะมีอารมณ์มาพูดคุยกันอีก?”
“รีบลงมือเร็ว!”
“รีบฆ่ามัน!”
อีกด้านหนึ่งของแท่นหิน ได้ยินฉวนซานกำลังพูดคุยและหารือ ‘ปัญหาทางวิชา’ กับฉินเทียน เกาชาวโกรธจนใบหน้าเขียวคล้ำ
ทวยเทพย่อมรับรู้ว่าขณะนี้เขาต้องการที่จะปัสสาวะในทันที ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยากจะปัสสาวะหรือว่าหวาดกลัวจนอยากปัสสาวะ
“คุณชายอย่าได้กลัว!”
“มันก็แค่สัตว์ร้ายที่ไม่มีขน มีฉันอยู่ด้วย มันไม่สามารถทำอะไรคุณได้!”
“ทุกคนฟังคำสั่ง เล็งเป้าหมาย!”
เจ้าปลาหมึกยักษ์ยังคงสงบนิ่ง เขาออกคำสั่ง เหล่าสมาชิกที่เหลืออยู่ต่างก็เล็งปากกระบอกปืนไปทางงูเหลือมยักษ์
“ใช่แล้ว ฉันมีปืน!”
“ฉันจะฆ่าแกให้ตาย!”
เมื่อเกาชาวฟื้นคืนสติ เขาตะโกนเสียงดังอย่างร้ายกาจ ปากกระบอกปืนเพ่งเล็งไปทางงูเหลือมยักษ์ที่อยู่กลางอากาศ
ลูกน้องเหล่านั้นต่างก็รู้สึกชาและมึนงง ลั่นไกปืนอย่างสู้ชีวิต ปากกระบอกปืนลั่นลูกกระสุนไฟออกมา เปิดฉากโจมตีกลางอากาศอย่างดุเดือด
เพียงเสี้ยววินาที ภายในสุสานที่ตั้งศพ เต็มไปด้วยกองเพลิงและลูกกระสุนที่สาดกระเซ็นไปทั่ว
งูเหลือมยักษ์ถูกโจมตีด้วยกระสุนและกองเพลิง มันส่งเสียงร้องฟ่อฟ่ออย่างน่าประหลาด ลำตัวเหมือนลำต้นของต้นไม้ เลื้อยขึ้นไปตามสายโซ่ที่มีขนาดหนาที่แขวนโล่งศพไว้และเลื้อยขึ้นไปยังโดมที่อยู่ด้านบน
ส่วนลึกของโดมซ่อนอยู่ในความมืด แม้แต่ตะเกียงไฟก็สาดแสงส่องไปไม่ถึง
“อย่าให้มันหนีไป! เร็วเข้า!”
เมื่อเห็นว่างูยักษ์กำลังหลบหนี เกาชาวรู้สึกตื่นเต้นทันใด ท้ายที่สุดแล้วเขาก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีกครั้ง
งูตัวใหญ่ขนาดนี้ นำตัวมันกลับไปทำซุป หรือไม่ก็ลอกหนังงูของมันมาและนำไปทำรองเท้าหนังสักคู่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าโอ่อ่าเสียเท่าไรนัก
ปัง!
ปังปัง!
กระสุนยิงกระทบโซ่เหล็ก พลันเกิดเป็นประกายไฟ
ฉินเทียนร้องตะโกนเสียงดัง “หยุดยิง!”
“โซ่กำลังจะขาดแล้ว!”
อย่างไรก็ตาม เกาชาวและคนอื่นนั้นไม่รับฟังเลยแม้แต่น้อย ภายใต้การลั่นไก่ปืนอย่างคลุ้มคลั่งของพวกเขา งูเหลือมยักษ์เลื้อยตามโซ่เหล็กเข้าไปในความมืดมิดและจุดสูงสุดของโดม จากนั้นมันพลันหายไป
โซ่เหล็กเพียงไม่กี่เส้นที่เกี่ยวพันโลงศพไว้ เป็นสนิมมาเนิ่นนาน ภายใต้การโจมตีของกระสุน เปรี๊ยะเสียงดังขึ้น จากนั้นโซ่พลันแยกออกจากกัน
โลงศพขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงมา
ตูม!
บนพื้นหินด้านล่าง งูหลายตัวนั้นไม่สามารถเลื้อยหลบหนีได้ เนื้องูและเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วพื้น
ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“ช่างดีเสียจริง!”
“โลงศพหล่นลงมา ฮ่าฮ่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!”
“เร็ว ลองไปดูว่าด้านในนั้นมีของดีอะไร!” เกาชาวได้สติ เขานั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ยังคงกังวลว่าจะเปิดโลงศพและจะนำสิ่งของออกมาอย่างไร คาดไม่ถึงเลยภายใต้ความไม่ตั้งใจ แม้ว่าจะไม่ได้สังหารงูเหลือมยักษ์ แต่ทว่าโลงศพก็ร่วงหล่นลงมา
ไม่รู้ว่าโลงศพนี้ทำมาจากไม้ชนิดใด แข็งเป็นอย่างมาก ตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น กลับเป็นเพียงแค่รอยร้าว
แต่ทว่าพวกเขายังไม่ทันจะก้าวเข้าไป งูและลูกงูโดยรอบต่างก็เลื้อยราวกับกระแสน้ำ เพียงเสี้ยววินาทีก็ปกคลุมรอบโลงศพนั้น
เมื่อสักครู่พวกมันเพียงหยุดการโจมตีชั่วคราว ขณะนี้ต่างก็ชูคอขึ้นมาอีกครั้งและแสดงท่าทางพร้อมต่อสู้
นัยน์ตาทุกคู่นั้นมีความรู้สึกไม่ยี่หระต่อความตายใด ราวกับว่าภายในโลงศพนั้นมีสิ่งของที่พวกมันจะต้องปกป้องแม้ตัวจะต้องตายก็ตาม
“แม่ง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะเอาชนะพวกแกไม่ได้!”
เกาชาวโกรธเคืองและอับอาย เขาเตรียมที่จะเหนี่ยวไกปืนอีกครั้ง
แกรก! แกรก!
เขาพยายามลั่นไกอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่ากลับไม่มีลูกกระสุนพุ่งออกมา
“กระสุนอยู่ไหน? เอามาให้ฉัน!”
เขาเหยียดมือออกไปหาลูกน้องที่อยู่ด้านข้างและต้องการกระสุนปืน ลูกน้องพลันรีบคลำบริเวณเอวของตนและแสดงสีหน้านิ่งงัน
“คุณชายครับ ไม่มีกระสุนแล้ว”
อะไรนะ?
เมื่อทุกคนได้สติต่างก็รีบควานหากระสุน จากนั้นพบว่าปัญหาร้ายแรงได้เกิดขึ้นแล้ว
ระหว่างทาง พวกเขาต่างเชิดหน้าและลั่นไกปืนอย่างมั่นใจ ไม่แสดงท่าทีหวงกระสุนปืนเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าพวกเขากำลังแบกคลังกระสุนมาและใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมด
ในความเป็นจริงเป็นเพราะการคาดการณ์ที่ไม่มากพอ พวกเขาไม่ได้พกกระสุนมามากเท่าไรนัก
ในขณะนี้ หลังจากระดมยิงอย่างบ้าคลั่ง กระสุนแทบจะหมดแล้ว เมื่อนับกระสุนของทุกคนรวมกันเหลือเพียงแค่ยี่สิบนัด
เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่างูพิษที่เลื้อยไปมาราวกับกระแสน้ำที่อยู่ตรงหน้า กระสุนเหล่านี้เป็นเพียงน้ำหนึ่งแก้วกับรถขนฟืนที่ไฟไหม้เท่านั้น
“ฟังคำสั่งฉัน!”
“จากนี้ไปห้ามใช้กระสุนยิงมั่วซั่ว จะต้องเก็บกระสุนไว้ เมื่อถึงเวลาคับขันค่อยใช้!”
“ทุกคนนำมีดขึ้นมาไว้บนปลายกระบอกปืน!”
“ต่อสู้กับเหล่าสัตว์ร้ายไร้ขนพวกนี้!” เกาชาวตะโกนด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
เหล่าสมาชิกต่างตื่นตระหนกและหยิบมีดพกออกมา เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
ฝูงงูมารวมตัวกันบนโลงศพมากยิ่งขึ้น งูนับพันนับหมื่นตัวต่างกำลังชูคอ การรวมตัวเช่นนี้เกรงว่าเมื่อผู้ป่วยที่มีอาการหวาดกลัวอย่างรุนแรงได้เห็น พวกเขาคงจะอึดอัดขยะแขยงและเสียชีวิตในทันที
ความสนใจของฉินเทียน ขณะนี้ไม่ได้อยู่กับเหล่าลูกงูพวกนี้เลยแม้แต่น้อย
เขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองโดมสูงที่มืดมิด รู้สึกแปลกประหลาดอยู่ภายในหัวใจ ราชางูนั้นหายไปไหน?
หรือว่ามันเลือกที่จะหนีไปแล้ว?
ไม่ถูกต้อง!
เขาสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ราชางูหลบเลี่ยงเพียงชั่วคราว หากมันปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง จะต้องนำภัยอันตรายที่ร้ายแรงกว่าเมื่อครู่นี้มาอย่างแน่นอน
สถานการณ์ที่ไม่สามารถเข้าใจ เหมือนเป็นสัญญาณเรียกขาน
เมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้ เหล่างูที่อยู่บนพื้นดินต่างก็ชูคอสูงยิ่งกว่าเก่า ราวกับว่าส่งเสียงตอบรับอย่างไรอย่างนั้น พวกมันต่างส่งเสียงฟ่อฟ่ออย่างพร้อมเพรียง
ภายในสุสานขนาดใหญ่ เสียงฟ่อฟ่อดังกึกก้องไปทั่ว ทำให้ผู้คนขนพองสยองเกล้า
จากนั้น ภาพเหตุการณ์ที่ยากจะลืมเลือนก็ปรากฏขึ้น