เซียวจิ่งสือได้สืบทราบว่าตอนที่เขาสู้กับบ้านตระกูลอัน ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานของแวดวงธุรกิจได้คอยช่วยเหลือเขาเงียบๆ อยู่ตลอดเวลา เซียวจิ่งสือรู้สึกประหลาดใจมาก ทำไมอีกฝ่ายจึงต้องคอยแอบช่วยเหลือเขาด้วยนะ เขาให้ผู้ช่วยนัดนักธุรกิจใหญ่ท่านนั้นออกมา โดยแสดงท่าทีว่าต้องการพบเขาสักครั้ง เพื่อแสดงความขอบคุณ
เสิ่นหนานยวนพอได้รับคำเชิญจากเซียวจิ่งสือก็ตอบตกลงโดยไม่ลังเลเลย
ภายในร้านกาแฟ เซียวจิ่งสือกับเสิ่นหนานยวนนั่งประจันหน้ากัน ทั้งสองต่างมองสำรวจกันและกันด้วยความคิดไปคนละทาง
เสิ่นหนานยวนในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ สวมแว่นตากรอบทอง ดูสุขมนุ่มลึกและหนักแน่น
เซียวจิ่งสือแอบรู้สึกประหลาดใจ เขายังเข้าใจว่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการค้าตามคำเล่าลือเป็นชายสูงอายุหรือชายกลางคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเสียอีก แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะยังหนุ่มแน่นขนาดนี้ ดูไปแล้วอายุก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่เลย
“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบคุณ” เซียวจิ่งสือข่มความรู้สึกแปลกใจไว้ กล่าวทักทายเสิ่นหนานยวน
“ประธานเซียวเกรงใจไปแล้ว เรียกผมว่าเสิ่นหนานยวนก็ได้” เสิ่นหนานยวนยิ้มเล็กน้อย ตอบรับตามมารยาท
“คุณเสิ่นทั้งกล้าตัดสินใจ ทั้งมองการณ์ไกล คิดไม่ถึงว่าจะยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้” เซียวจิ่งสือพูดต่อ “เรื่องการซื้อเทียนซิงกรุ๊ปในคราวนี้ ต้องขอบคุณคุณเสิ่นอย่างมาก”
“แค่เรื่องเล็กน้อย ได้มีโอกาสช่วยเหลือประธานเซียว ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งของผมครับ” เสิ่นหนานยวนพูดแล้วจิบกาแฟอึกหนึ่ง
“คุณเสิ่นไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมได้ยินความสามารถของคุณมาก็มาก และนับถือในฝีมือคุณมาตลอด เพียงแต่ผมอยากทราบว่า ปกติคุณเสิ่นมักทำงานโดยไม่เปิดเผยตัว คราวนี้ ทำไมจึงแอบช่วยบ้านตระกูลเซียวล่ะครับ” เซียวจิ่งสือถามปัญหาค้างคาใจของเขาออกมาตรงๆ
กาแฟไม่ค่อยถูกปากเสิ่นหนานยวนนัก เสิ่นหนานยวนดื่มไปสองคำก็วางถ้วยกาแฟในมือลง
“ประธานเซียวชมเกินไปแล้ว” เสิ่นหนานยวนวางถ้วยกาแฟแล้วสบตาเซียวจิ่งสือ พูดว่า “อันที่จริง ผมช่วยบ้านตระกูลเซียวเพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง”
“เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง?” เซียวจิ่งสือฟังแล้วประหลาดใจมาก เสิ่นหนานยวนช่วยบ้านตระกูลเซียวเพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งงั้นเหรอ
“ใช่ครับ เพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง” เสิ่นหนานยวนเห็นสีหน้าท่าทีไม่อยากเชื่อของเซียวจิ่งสือแล้ว ตอบย้ำไปอีกครั้ง
“เมื่อหลายวันก่อน ผมกำลังอยู่ในห้องทำงาน มีเด็กผู้หญิงลากกระเป๋าสัมภาระเข้ามาหาผม ขอร้องให้ผมช่วยบ้านตระกูลเซียวจัดการกับเทียนซิงกรุ๊ป ตอนแรกผมปฏิเสธเธอ…”
จากนั้น เสิ่นหนานยวนก็บอกเล่าเรื่องที่หลินหว่านไปหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือให้เซียวจิ่งสือฟัง
เซียวจิ่งสือยิ่งฟังก็ยิ่งประหลาดใจ เด็กผู้หญิงนี้ออกแบบเสื้อผ้าได้ แม่ของเธอเป็นนักแสดง นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุดคือ เธอเป็นคนไปหาเสิ่นหนานยวนเพื่อให้ช่วยบ้านตระกูลเซียว นี่ย่อมหมายความว่า เธอไม่ต้องการให้บ้านตระกูลเซียวตกอยู่ในอันตราย หรือว่า…
“คุณเสิ่น เด็กผู้หญิงที่คุณพูดถึงนั้นใช่หลินหว่านหรือเปล่าครับ” เสิ่นหนันยวนยังพูดไม่ทันจบ เซียวจิ่งสือก็ถามแทรกขึ้นตรงๆ
เสิ่นหนานยวนเห็นดังนั้น แววตาปรากฏรอยยิ้มขึ้นวูบ พูดว่า “ท่านประธานเซียว คุณเดาได้แม่นมาก เธอก็คือหลินหว่านนั่นเอง”
ตอนแรก เสิ่นหนานยวนเข้าใจว่าหลินหว่านเป็นแค่คนที่เซียวจิ่งสือส่งมาเจรจาความร่วมมือกับเขา ต่อมาหลายวันที่เขาได้อยู่ร่วมกับหลินหว่าน เขารู้สึกว่าหลินหว่านอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ ตอนนี้ จากการหยั่งท่าทีของเขา พบว่าความสัมพันธ์ของเซียวจิ่งสือกับหลินหว่านไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย
เป็นหลินหว่านจริงๆ ด้วย ระหว่างนี้เขาหาตัวหลินหว่านอย่างไรก็ไม่พบ พอเซียวจิ่งสือได้ยินว่าเป็นเธอ ก็รู้สึกเหลือเชื่อและดีใจสุดๆ ไปเลย เขาถามเสิ่นหนานยวนว่า “คุณเสิ่นครับ งั้นคุณบอกผมได้ไหม หลินหว่านตอนนี้เธออยู่ที่ไหนครับ”
“ช่วงนี้หลินหว่านเธออยู่กับผม แน่นอนว่าอยู่ที่บ้านของผมสิครับ” เสิ่นหนานยวนเห็นสีหน้าตื่นเต้นกระวนกระวายของเซียวจิ่งสือแล้ว ยกมุมปากหยักขึ้น จงใจพูดออกมา
เซียวจิ่งสือได้ฟังคำพูดของเสิ่นหนานยวนแล้ว ความหึงหวงก็ลุกท่วมใจเขาพร้อมกับความโกรธ ขณะที่เขาส่งคนออกตามหาตัวหลินหว่านไปทั่ว หลินหว่านกลับอาศัยอยู่ที่บ้านของชายอื่นมาตลอดงั้นเหรอ
แต่เซียวจิ่งสือยังหลงเหลือสติยั้งคิดอยู่บ้าง เขาพูดกับเสิ่นหนานยวนทีละคำว่า “คุณเสิ่น ช่วงนี้รบกวนคุณดูแลหลินหว่าน แต่ผมอยากจะขอให้คุณช่วยผมอีกเรื่อง…”
หลินหว่านได้รับโทรศัพท์จากเสิ่นหนานยวนแล้วก็มาที่ร้านกาแฟตามที่เขาบอก ทั้งไม่ได้คิดว่าทำไมจู่ๆ เสิ่นหนานยวนเกิดจะนัดเธอมาดื่มกาแฟ
หลินหว่านมาถึงร้านกาแฟ ผลักประตูเปิดแล้วเดินเข้าไป เห็นภายในร้านว่างเปล่า มีคนหนึ่งนั่งอยู่เพียงลำพังที่มุมหนึ่งของร้าน
เธอมองไปที่ชายคนนั้น แล้วประสานเข้ากับสายตาของเซียวจิ่งสือ
“ซ…เซียว เซียวจิ่งสือ?” หลินหว่านรู้สึกเหลือเชื่อ คนนั้นจะเป็นเซียวจิ่งสือไปได้อย่างไรกัน ทำไมเขาจึงมาอยู่ที่นี่ได้? หลินหว่านคิดจะรีบไปจากร้านกาแฟ แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัวก็ถูกเซียวจิ่งสือที่ก้าวยาวๆ เข้ามา คว้าแขนเธอเอาไว้
มือข้างหนึ่งของเซียวจิ่งสือคว้าแขนข้างหนึ่งของหลินหว่านเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็โอบรัดเอวเธอเอาไว้แน่น จนหลินหว่านดิ้นไม่หลุด
เซียวจิ่งสือมองดูหญิงสาวที่ตรงหน้า เมื่อวานเขาจะหาตัวยังไงก็ไม่พบ จิตใจที่เขม็งตึงเครียดผ่อนคลายลงชั่วคราว แต่พร้อมกันนั้นเขาก็รู้สึกฉุนขาดขึ้นมา เธอไม่พูดอะไรสักคำก็จากเขาไป แล้วยังแล่นไปอยู่กับชายอื่นเสียอีก!
“หว่านหว่าน หลายวันมานี้คุณไปอยู่ไหนมา?” เซียวจิ่งสือถามหลินหว่านทั้งที่พยายามข่มความรู้สึกเดือดพล่านในใจ
“ทำไมคุณมาอยู่นี่ได้คะเซียวจิ่งสือ? แล้วเสิ่นหนานยวนล่ะ?” หลินหว่านยังถามอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้
เซียวจิ่งสือได้ยินแล้ว หน้าเครียดลงทันที เค้นเสียงจากไรฟันว่า “หลิน! หว่าน!”
หลินหว่านเห็นสีหน้างอง้ำคล้ำลงทุกทีของเซียวจิ่งสือ รีบพูดขึ้นว่า “เซียวจิ่งสือ คุณปล่อยฉันก่อนค่ะ พวกเรานั่งลงพูดกันดีๆ ก็ได้ นะคะ”
ดังนั้นเอง ในร้านกาแฟเดียวกัน คนที่นั่งตรงข้ามเซียวจิ่งสือจึงเปลี่ยนจากเสิ่นหนานยวนมาเป็นหลินหว่าน
เซียวจิ่งสือมองหลินหว่านที่เขาคิดถึงทั้งวันคืนนั่งอยู่ตรงหน้า รู้สึกเหมือนก้อนหินที่กดทับในใจหลุดออกในที่สุด คราวนี้การที่เขาดักจับตัวเธอมาอยู่กับเขาได้อย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณเสิ่นหนานยวนนั่นจริงๆ แต่ว่าเขาจะไม่ยอมให้หลินหว่านมีโอกาสไปจากเขาอีกอย่างเด็ดขาด
“หว่านหว่าน หลายวันนี้คุณไปอยู่ไหนมา? ทำไมต้องไปจากผมด้วย?” เซียวจิ่งสือถาม ขณะมองดูหลินหว่านที่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา
หลินหว่านกลับตกที่นั่งลำบากใจ จะให้เธอบอกความจริงไปว่าพ่อเขาบีบให้เธอจากไปงั้นเหรอ
แต่ถ้าบอกไปอย่างนี้ ความสัมพันธ์ของเซียวจิ่งสือกับพ่อเขาจะเลวร้ายลงเพราะเธอหรือเปล่านะ?
แล้วกันไปเถอะ ถ้าหากเซียวจิ่งสือต้องความสัมพันธ์แตกร้าวกันเพราะเธอแล้วล่ะก็ อย่างนั้นจะไม่เป็นผลดีอะไรกับเซียวจิ่งสือเลย หลินหว่านคิดดูแล้ว ตัดสินใจโกหกเซียวจิ่งสือ เพื่อปกปิดเรื่องนี้
ภายใต้สายตาที่จ้องจับมาของเซียวจิ่งสือ หลินหว่านตอบอึกอักว่า “หลายวันก่อนฉันดูหนังเรื่องหนึ่ง จู่ๆ ก็อยากออกไปท่องเที่ยวดูโลกภายนอก ก…ก็เลยไม่ได้บอกคุณ…”
เฮ้อ แต่เธอโกหกได้ไม่เนียนนี่สิ ไม่รู้ว่าเซียวจิ่งสือยังจะเชื่อเธออยู่หรือเปล่าสิ