ตอนที่ 30

Kill the Hero

Kill the Hero 030

เมื่อต้องรับมือกับโคโบลด์ ควรระวังเรื่องประสาทรับกลิ่นของพวกมันมากที่สุด

ทันทีที่ร่างกายของใครสักคนเปื้อนเลือดโคโบลด์ มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซ่อนตัวจากโคโบลด์ส่วนที่เหลือ

ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างโคโบลด์ด้วยกันก็แข็งแกร่งมาก

เมื่อญาติพี่น้องของพวกมันถูกฆ่า พวกมันก็จะไม่หยุดโจมตีจนกว่าจะฆ่าคนที่ทำได้

Keohung, Keohung!

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโคโบลด์ทั้ง 20 ตัวถึงวิ่งไปรอบ ๆ ภูเขาจนกว่าพวกมันจะหมดลมหายใจ

ทันทีที่พวกมันได้กลิ่นเลือดของพวกเดียวกัน ก็ไม่มีทางอื่นอีก

Keung! Keung!

พวกมันจะดมกลิ่น และวิ่งเข้าหากลิ่นเลือด โดยใช้เส้นทางที่สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้

แล้วในไม่ช้าโคโบลด์ก็จะมาถึงจุดที่เต็มไปด้วยร่างของญาติพวกมันที่ถูกฆ่าตาย

Keohung, Keohung!

ประสาทรับกลิ่นของพวกมันเป็นอัมพาต เพราะกลิ่นเลือดที่อยู่รอบตัว

โคโบลด์บางตัวถึงกับกดจมูกลงกับพื้น เพื่อไม่กลบกลิ่นเลือดนี้

Keohung?

ในขณะนั้นโคโบลด์พบบางอย่างที่แปลกประหลาด

มีกระดูกอยู่ระหว่างศพ

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีกระดูก

แต่ที่แปลกก็คือกระดูกเป็นสีดำสนิท

Keong, Keong!

โคโบลด์รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อเห็นความผิดปกตินี้ มันจึงเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อดมกระดูก

Seug!

จากนั้นก็มีบางอย่างลอยขึ้นมาจากกองศพ และตัดคอของโคโบลด์ทันที

Siig!

เสียงที่น่าขนลุกของเครื่องมือตัดผ่านลมที่อยู่รอบตัว

โคโบลด์ตกใจ และขนของพวกมันก็ชี้ฟู

ทันใดนั้น ทหารโครงกระดูกที่มีกระดูกเป็นสีดำก็ลุกขึ้นจากกองซากศพ

Tteolgeuleog! Tteolgeuleog!

ทหารโครงกระดูกกระจายตัวออกล่าโคโบลด์ทันที

Siig!

การเคลื่อนไหวของทหารโครงกระดูกว่องไวอย่างน่าประหลาด และดาบที่พวกมันถือก็คมอย่างไม่น่าเชื่อ

Seogeog!

ในหมู่พวกมัน การโจมตีจากทหารโครงกระดูกที่ถือดาบซิมิทาร์ตัดร่างของโคโบลด์ เหมือนตัดไม้ไผ่กลวง ๆ

แน่นอนว่าพวกโคโบลด์สู้กลับ

Keohung!

Krr!

พวกมันเหวี่ยงอาวุธ ท่อนไม้ ดาบ หรือกระบอง และการโจมตีบางส่วนของพวกมันก็โดนทหารโครงกระดูก

พลังของพวกมันแข็งแกร่ง

หลักฐานคือดาบของโคโบลด์ที่โจมตีทหารโครงกระดูก ทำให้เกิดประกายไฟ และฟังดูเหมือนเสียงเหล็กกระทบกัน

อันที่จริงพลังของมันไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น

Keohung?

มันไร้สาระจากมุมมองของโคโบลด์

Puk!

จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลังโคโบลด์

มันเป็นเสียงของลูกศรที่ยิงมาจากระยะไกล

Keohung?

ด้วยความตกใจ โคโบลด์ดมกลิ่นไปทางทิศที่ลูกศรถูกยิงมา

แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่โคโบลด์จะได้กลิ่นของคิมวูจินที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นที่มีไว้ปกปิดกลิ่นของตัวเอง

คิมวูจินที่ยืนยันเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน จึงเริ่มยิงธนูอย่างกระตือรือร้น

Puk!

ลูกธนูที่ถูกยิงอย่างไม่มีหยุด พุ่งเข้าใส่ด้านหลังของโคโบลด์

การล่าได้จบลงแล้ว

หลังจากต่อสู้ได้ไม่ถึง 10 นาที ก็ไม่มีโคโบลด์ใดยืนอยู่บนพื้นอีก

คิมวูจินไม่ได้เข้าสู่สนามรบที่จบลง เขามองมันจากระยะไกล เพื่อไม่ให้มีกลิ่นเลือดติดตัว

Puk!

เขามองไปที่ทหารโครงกระดูกที่ได้ยืนยันว่าจะเป็นคนยิงโคโบลด์แทนคิมวูจิน

“ทักษะกระดูกสีดำดีอย่างที่คิด”

กระดูกสีดำ

มันเป็นทักษะที่คิมวูจินได้มาจากแค็ตตาล็อกที่เขาได้รับตอนล่าออร์คตัวที่ 1,000 ได้

เอฟเฟกต์ของมันเรียบง่าย

 

[กระดูกสีดำ]

– ระดับทักษะ : E

– เอฟเฟกต์สกิล : เพิ่มการป้องกันของทหารโครงกระดูกอย่างมาก

 

เพิ่มพลังในการป้องกันของทหารโครงกระดูก

‘ถึงฉันจะไม่ได้คิดว่าเจ้าแห่งสมรภูมิจะใช้กับทักษะกระดูกสีดำได้เหมือนกันก็เถอะ’

สิ่งที่น่าประหลาดใจคือเจ้าแห่งสมรภูมิยังใช้กับทักษะกระดูกสีดำได้อีกด้วย

มันก็จริงที่กายภาพ และความแข็งแกร่งส่งผลต่อการป้องกันของกระดูกสีดำ

เจ้าแห่งสมรภูมิเป็นทักษะที่เพิ่มสถิติทั้งหมด

‘ระดับการป้องกันนี้ใกล้เคียงกับการสวมชุดเกราะระดับหายากเลยทีเดียว’

การป้องกันโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

‘เยี่ยมมาก’

ทหารโครงกระดูกก็ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ และใช้มันให้เป็นประโยชน์

ตอนนี้พวกมันไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงการโจมตีได้เท่านั้น แต่พวกมันยังเริ่มทนต่อการโจมตีที่เชื่องช้าด้วยร่างกายของมันเอง และยังสามารถโต้กลับได้อีกด้วย

ในด้านการต่อสู้ พวกมันเริ่มดูได้เปรียบกว่า

มีปัญหาอยู่ข้อเดียว

 

[คุณมีมานาไม่เพียงพอ]

[เอฟเฟกต์ของกระดูกสีดำหายไป]

 

มันใช้มานามากกว่าที่เขาคิด เพื่อรักษากระดูกสีดำไว้

ข้อนี้ไม่ได้ทำให้คิมวูจินผิดหวัง

‘ฉันต้องหาวิธีเพิ่มระดับมานา’

ถ้ามันไม่พอ เขาก็ต้องคิดหาวิธีเติมมัน

จากนั้นเขาก็ได้ยินการแจ้งเตือน

 

[จำนวนโคโบลด์ที่ล่าได้ตอนนี้ 95 ตัว]

[เลเวลเพิ่มขึ้น]

 

มันเป็นการแจ้งเตือนที่บ่งบอกว่าการล่าใกล้จะจบลงแล้ว

เขาสามารถฆ่าโคโบลด์อีก 5 ตัวได้ด้วยตัวเอง ถึงแม้จะไม่มีทหารโครงกระดูกก็ตาม

คิมวูจินไม่มีเลือดบนร่างกาย เขาไม่รีบ ‘ในเมื่อมันเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว มาปาร์ตี้กันเถอะ’ เขาไม่ได้คิดที่จะทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้น

เขาจะรออย่างเงียบ ๆ อยู่ห่าง ๆ

แล้วเหยื่อจะมาหาเขาเอง

Keohung!

คิมวูจินได้ยินเสียงของโคโบลด์

 

หลังจากที่โลกเปลี่ยนเป็นเกมในปี 2020 โอเซชานมั่นใจว่าไม่มีอะไรจะทำให้เขาประหลาดใจได้

ขนาดว่ามีรายงานข่าวการยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ในเช้าวันหนึ่ง เขากลับอยากรู้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธนิวเคลียร์มากกว่าที่จะแปลกใจ ตามปกติแล้วเขาก็จะดูแผนภูมิหุ้นจากทั่วโลก

“อะไรนะ? “

แต่โอเซชานก็อดไม่ได้ที่จะต้องประหลาดใจเมื่อได้ยินข่าวนี้

“ดันเจี้ยนเกทหายไปแล้ว? ”

– ครับ

ดันเจี้ยนเกทหายไป

“นายกำลังจะบอกว่า หลังจากเขาเข้าไปในดันเจี้ยนได้ 18 ชั่วโมง คิมวูจินก็เคลียร์มันได้แล้ว?”

– ผมคิดว่าอย่างนั้นครับ

แค่ 18 ชั่วโมงนับตั้งแต่เข้าสู่ดันเจี้ยน

‘ได้ยังไง? ’

เมื่อต้องเจอกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ โอเซชานก็ไม่อาจจะสงบสติอารมณ์ได้

‘บางที เขาอาจจะไม่ได้เข้าไปคนเดียว? ’

แทนที่จะยอมรับความจริง เขาพยายามปฏิเสธมัน

“ไม่ การเฝ้าระวังมีความปลอดภัย ฉันแน่ใจว่าเขามาคนเดียว ถึงแม้เขาจะไม่ได้ทำแบบนั้น แต่มันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องเข้าไปคนเดียว ยิ่งกว่านั้น ต่อให้เป็นปาร์ตี้ 4 คน ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนภายใน 18 ชั่วโมง ถึงจะเป็นปาร์ตี้ 4 คน แต่การจบดันเจี้ยนนี้ใน 18 ชั่วโมงนี่มัน … พวกเขาจะต้องมีทักษะระดับตำนานหรือมีไอเทมระดับตำนาน แต่จะเป็นไปได้ยังไง? ใช้วิธีไหน? ”

ยิ่งคิดมากเท่าไร ในหัวก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเท่านั้น

‘ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น’

ในที่สุดโอเซชานก็รู้ตัว

“งั้น ตอนนี้คิมวูจินอยู่ที่ไหน?”

– … ผมขอโทษครับ ผมไม่เห็นเขาแล้ว

“เขาไปแล้วเหรอ?”

– ครับ

เขาตระหนักดีว่ามันไม่ใช่เวลาที่เขาจะปฏิเสธสถานการณ์หรือคิดว่าคิมวูจินแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง

‘ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองมีความสามารถมากแค่ไหน เขาอาจจะซ่อนมันมาจนถึงตอนนี้’

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ คิมวูจินไม่ได้แค่พิสูจน์ความสามารถของเขาเท่านั้น

‘ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาแสดงความสามารถของเขาโดยไม่ลังเลหลังจากที่ติดต่อฉัน เขากำลังส่งสัญญาณ’

คิมวูจินส่งสัญญาณให้โอเซชาน

สัญญาณนั้นรุนแรงมาก

ตอนนี้โอเซชานต้องตีความหมายของสัญญาณ และตอบกลับไป

‘เขารู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? นักฆ่าที่ตามล่าฉัน? แต่ใช้คนที่มีความสามารถขนาดนี้เป็นนักฆ่าเนี่ยนะ? ไม่ เขามาจากไหน? ไม่ใช่สมาคมฟีนิกซ์แน่นอน ใครอยู่เบื้องหลังเขา? ฮันซองกรุ๊ปหรือเปล่า? ’

เขาครุ่นคิดอยู่นาน

– เอ่อ ผมจะทำยังไงดีครับ?

ลูกน้องของโอเซชานถาม

‘ฉันเป็นนายหน้า’

จากนั้นโอเซชานก็ตัดสินใจ

“เราควรจะเริ่มให้บริการที่เหมาะสมกับความสามารถของลูกค้าใหม่”

– ผมควรทำยังไงครับ?

“เตรียมล็อกเกอร์หมายเลข 19 ไว้”

 

คิมวูจินที่เคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จภายใน 18 ชั่วโมง กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานีอิลซาน

เมื่อเขามาถึงสถานีอิลซาน เขาซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน และรอ

‘ถึงเวลาที่เขาจะติดต่อฉันมาแล้ว’

เขากำลังรอสายของโอเซชาน

‘ฉันหวังว่าฉันจะพิสูจน์คุณค่าเรื่องการแลกเปลี่ยนได้…’

เขากำลังรอให้โอเซชานตอบกลับมา

แน่นอนว่าคิมวูจินไม่ได้ไว้ใจโอเซชาน

คิมวูจินติดต่อเขา เพราะเขาเป็นศัตรูกับสหพันธ์ยามาโตะ และไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับสมาคมเมสสิอาห์

นอกเหนือจากนั้น เขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโอเซชานเลย

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคิมวูจินคือ ความสามารถของเขา

ดังนั้นคิมวูจินจึงเต็มใจแสดงความสามารถของตัวเอง

มันเหมือนระเบิดมากกว่า

ปกติแล้ว คิมวูจินจะต้องปิดบังความสามารถเอาไว้

มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะทำเรื่องพวกนี้ในดันเจี้ยนที่ไม่มีใครเห็น

อย่างไรก็ตาม เขาทำเพื่อผลประโยชน์โดยการเปิดเผยความสามารถของเขา

เขาโยนบอลให้โอเซชานด้วยกำลังทั้งหมด

แน่นอนว่าตอนนี้ถึงทีของโอเซชานแล้ว

‘ยื่นมือเข้าหาอย่างงี่เง่า แล้วใช้มันเป็นเหยื่อล่อ’

ถ้าปฏิกิริยาของเขาคือการเก็บคิมวูจินไว้ข้างตัวเอง คิมวูจินก็จะไม่ร่วมมือกับเขา

ถึงแม้เขาจะทำมันได้อย่างเหมาะสมก็ตาม

อย่างที่คิมวูจินได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ คิมวูจินแค่ชอบพื้นหลังของผู้ชายที่ชื่อโอเซชาน แต่ไม่ได้ไว้ใจ

ถ้าเขาพูดอะไรอย่าง รวมพลังกัน และทำให้โลกประหลาดใจด้วยไอคิวรวมของเราที่มากกว่า 300! หรือเกี่ยวกับการลงทุน คุณรู้จักการลงทุนที่ดีหรือไม่?

มันก็ไม่คุ้มค่ากับการพูดคุย

เขาจะกลายเป็นเหยื่อ

ในทางกลับกัน ถ้าโอเซชานพิสูจน์ความสามารถของตัวเองได้ คิมวูจินก็เต็มใจที่จะติดต่อกับเขาอย่างใกล้ชิด

‘แสดงให้ฉันเห็นคุณค่าของคุณ’

ตอนนั้นเอง มีข้อความส่งมาหาคิมวูจิน

ข้อความมีตัวเลข และบอกให้เขาใช้โทรศัพท์สาธารณะ

คิมวูจินเดินตรงไปที่โทรศัพท์สาธารณะที่อยู่ใกล้ ๆ

Ttallang!

เขาใส่เหรียญที่เตรียมไว้ และกดหมายเลข

– เคลียร์ดันเจี้ยนใน 18 ชั่วโมง ด้วยความสามารถของคุณ ฉันสามารถแนะนำดันเจี้ยนระดับ A+ ให้คุณได้ แน่นอนว่าหลังจากที่เราสร้างความไว้วางใจกันมากขึ้นแล้วเท่านั้น ค่าแนะนำคือ 25% ของรายได้ที่ได้รับจากดันเจี้ยน

ตั้งแต่เริ่มโทร โอเซชานก็พูดเหมือนนายหน้าจริง ๆ

– สินค้าที่ขโมยมา จะถูกซื้อในราคา 30% ของราคาตลาด ค่าธรรมเนียมในการฟอกเงินคือ 30% สุดท้าย ค่าธรรมเนียมในการรับซื้อไอเทมเท่ากับ 11% ของราคาซื้อ

นอกเหนือจากนั้น เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก

– รายการดันเจี้ยนที่ฉันดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ ถูกวางไว้ในล็อกเกอร์สถานีอิลซาน หมายเลข 19 รหัสผ่านคือ 4885 หากต้องการซื้อขายดันเจี้ยน ให้ส่งเมลไปตามที่อยู่ที่แนบมาด้านหลังรายการดันเจี้ยน

เขาส่งข้อมูลที่จำเป็นในการทำธุรกิจให้ และเมื่อพูดจบ เขาก็วางสายทันที

เขาทำตัวเหมือนกับนายหน้า และเป็นไปตามความคาดหวังของคิมวูจิน

แต่คิมวูจินไม่ได้ยิ้ม

นิสัยของโอเซชานที่แสดงให้เห็นว่าเขาจะไม่ทำตามที่คิมวูจินต้องการ

มันไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะ

‘ดีนะ ที่ยังอยู่ในสถานี’

คิมวูจินเดินตรงไปที่ที่โอเซชานบอก และเปิดล็อกเกอร์ทันที มีซองจดหมายสองซองอยู่ในนั้น

ซองเอกสาร และซองจดหมาย

‘จดหมาย? ‘

คิมวูจินเปิดซองจดหมาย และตรวจสอบเนื้อหา เมื่อเขาเห็นเนื้อหาในจดหมาย เขาก็อดหัวเราะไม่ได้

ภายในซองจดหมายมีเงินสด 4,300 วอน

‘อีกร้อยวอน นี่ค่าโทรศัพท์สาธารณะใช่ไหม? ‘

เงินสด 4,200 วอน เป็นค่าเดินทางที่เขาพูดถึงก่อนหน้านี้ และอีก 100 วอน เป็นค่าโทรศัพท์

‘ช่างเป็นคนที่ตลกจริง ๆ’

มันเป็นสถานการณ์ที่เขาอดหัวเราะไม่ได้

อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของคิมวูจินหายไปทันทีที่เขาตรวจสอบข้อมูลในซองเอกสารอีกซอง

‘…ตอนนี้ ฉันแน่ใจแล้วว่าสมาคมเมสสิอาห์ฆ่าโอเซชาน’

โอเซชาน ในมือของเขาต้องมีสมบัติ ที่แม้แต่สมาคมเมสสิอาห์ยังอยากได้