ตอนที่ 311 ยินดีช่วยเหลือผู้อื่น

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

หากว่าเป็นคนคุ้นเคยของตู๋กูซิงหลัน เช่นนั้นก็คงจัดการได้อยากแล้ว 

 

 

เพราะตอนนี้ร่างกายของสตรีผู้นี้ยังแข็งทื่อเป็นตอไม้ คนที่สามารถมีความเกี่ยวพันกับนางได้นั้น คงไม่อาจผิดใจได้ง่ายๆ 

 

 

พอมองดูบุรุษผู้นี้ เขาสวมใส่ชุดสีแดงตลอดทั้งร่าง ดวงตาคู่นั้นเป็นสีเขียว บนร่างมีไอหยินกำจายออกมาอย่างรุนแรงจนสามารถทำให้คนต้องตระหนก 

 

 

เมืองกู่เย่วแห่งนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ อยู่ดีๆ ก็มีตัวร้ายกาจโผล่ออกมา 

 

 

แต่ที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ…..หน้าตาดีมากๆ 

 

 

ก็แค่โดดเด่นนิดๆ หน่อยๆ ถึงกับต้องใช้เกี้ยวแปดคนหามมายกกลับไป ทั้งยังจะจับแม่นางน้อยนั้นไปทำเรื่องจ้ำจี้เสียก่อนแล้วค่อยกลืนกินอีกด้วย? 

 

 

ชือหลีมิได้เคลื่อนไหววุ่นวาย เพียงแต่แบกตู๋กูซิงหลันเอาไว้บนบ่า 

 

 

ตู๋กูซิงหลันในตอนนี้ไม่อาจยืนได้อีกแล้ว ตนจึงได้แต่ต้องเป็นสองขาให้กับนาง ถึงอย่างไรเสียตนเองก็เป็นเทพองค์หนึ่ง แค่แบกสาวน้อยนางหนึ่งไม่นับเป็นเรื่องหนักหนาอะไร 

 

 

ตู๋กูซิงหลันมองดูฉู่เจียง พลางส่ายศีรษะ 

 

 

“ข้าไม่คุ้ยเคยกับเขา” นางกล่าวเสียงหนัก “เพียงแต่ว่ากลิ่นไอบนร่างของเขาคล้ายคลึงกับเสินฟางอย่างยิ่ง” 

 

 

นางเคยประมือถึงขั้นเป็นตายกับเสินฟางมาแล้ว จึงรู้สึกคุ้นเคยกับเขา 

 

 

ยมราชทั้งสิบ ล้วนอยู่ภายใต้บัญชาของจักรพรรดิแห่งความมืด ที่ควบคุมโลกนรกภูมิทั้งหมด 

 

 

ยมราชแต่ละตนมีหน้าที่แตกต่างกัน คนบนโลกขนานนามพวกเขาว่ายมราช บ้างก็เรียกว่าจอมมาร 

 

 

ยมราชแต่ละตนล้วนมีความแข็งแกร่ง อาศัยบารมีของท่านอาจารย์ ตู๋กูซิงหลันเคยได้พบเจอกับสิบยมราชมาสองสามตน 

 

 

ยมราชแต่ละตนมีเอกลักษณ์ในไอหยินของตนเอง 

 

 

ไอหยินบนร่างของฉู่เจียง มีความคล้ายคลึงกับไอหยินบนร่างของเสินฟางอย่างยิ่ง 

 

 

ประกอบกับ นางเองก็ไม่เคยได้พบยมราชตนอื่นๆ เพียงเคยได้ยินชื่อของพวกเขามาบ้างเท่านั้น 

 

 

ฉู่เจียง คือยมราชลำดับที่สอง เดิมที่เขาคือยมราชผู้ควบคุมดูแลท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้โผล่มาอยู่ที่นี่ 

 

 

พอชือหลีได้ยิน ทั่วทั้งร่างก็รู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาในทันที 

 

 

“คงไม่ได้โชคร้ายถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง? พอโผล่หน้าออกมาก็เจอกับยมราช เกรงว่าเจ้าคงจะรับมือไม่ไหวหรอก” นางคิดไปถึงจอมมารอย่างเสินฟางที่อยู่ในโลงทองแดงหลังนั้น…. 

 

 

ตอนนั้นขนาดชือหลีเองก็ยังไม่กล้าลงมือกับเขาเหมือนกัน 

 

 

ตู๋กูซิงหลันในตอนนี้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก หากว่าพลังของฉู่เจียงใกล้จะฟื้นฟูได้สมบูรณ์แล้วละก็ พวกนางทั้งสองคนคงต้องดับอนาถอยู่ที่นี่ 

 

 

“อยากพึ่งใจฝ่อสิ จะอย่างไรเจ้าก็เป็นถึงเทพแห่งสายน้ำ” ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองดูชือหลีครั้งหนึ่ง “ตอนที่ต่อสู้กับข้า เจ้าเก่งกาจมากเลยนะ” 

 

 

ชือหลี “ข้าผู้เป็นเทพเอาชนะเจ้าไม่ได้ ทั้งยังถูกเจ้าควบคุมเอาไว้อีกต่างหาก” 

 

 

ตู๋กูซิงหลัน “…….” ทำเป็นพูดดีพอชือหลีพูดออกมา ทำไมถึงได้ฟังดูเหมือนว่านางจะภาคภูมิใจเสียอย่างนั้น 

 

 

“ถ้าหากว่าติ๊งต๊องและราชาสุนัขป่าอยู่ที่นี่ด้วยละก็ พวกเราก็ยังนับว่ามีแต้มต่ออยู่บ้าง แต่ว่าเจ้าสองตัวนั้นอยู่ในป่าลึก บนเขา ไอ้เจ้าถวนจื่อตัวดำของเจ้าก็ดีแต่พูด ใช้การอะไรไม่ได้ ผ่านมาก็ตั้งหนึ่งเดือนแล้วยังไม่ฟื้นขึ้นมา” ชือหลีว่าต่อไป “หรือพวกเราจะถอยก่อน?” 

 

 

“ถอยไม่ได้แล้ว” ตู๋กูซิงหลันส่ายศีรษะ ขณะเดียวกันชือหลีก็พานางหลบหลีการโจมตีของฉู่เจียงอีกหลายระลอก 

 

 

“หากถอยตอนนี้ เหลียงเซิงเซิงก็ต้องตายสถานเดียว” ตู๋กูซิงหลันพูด ขณะที่เขวี้ยงยันต์อีกหลายแผ่นในมือออกไป 

 

 

ถึงแม้ว่าร่างกายจะพิการไปแล้ว แต่ว่าชิ้นส่วนของหยกสรรพชีวิตที่เสินฟางมอบให้นางมาทั้งหกชิ้นยังคงผนึกอยู่ในจิตวิญญาณของนาง 

 

 

นางไม่ได้อ่อนแอเท่าไหร่นัก 

 

 

“พี่สาว เจ้ากลายเป็นคนใจดีมีเมตตาชอบช่วยเหลือผู้คนตั้งแต่เมื่อไหร่?” ชือหลีถามออกมาตรงๆ ในใจของนาง ตู๋กูซิงหลันนั้นเป็นเหมือนกับดอกบัวสีดำดอกหนึ่ง สามารถแทงดาบใส่คนได้โดยไม่กระพริบตา นี่แสดงว่าตอนที่อยู่ในช่องว่างมิตินั้นสมองคงจะได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย คิดจะช่วยเหลือคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนางเพื่ออะไร? 

 

 

“กฏของสำนักหุบเขาภูติของข้าคือไม่อาจเห็นความตายโดยไม่ช่วยเหลือ” 

 

 

ชือหลี “……” 

 

 

ยังดีที่การเคลื่อนไหวอย่างอึกทึกครึกโครมเช่นนี้ สร้างความสนใจให้ผู้คนในจวนจวิ้นอ๋องแล้ว 

 

 

เหลียงจวิ้นอ๋องมาถึงเป็นคนแรก พอเห็นสถานการณ์ตรงหน้า สีหน้าของเขาก็มืดครึ้มลงไปในทันที 

 

 

เขาไม่พูดไม่จาก็ก็กระชับหอกสีเงินขึ้นมา ผู้ติดตามทั้งหลายก็มิได้แตกตื่น พากับรายล้อมเอาไว้กระชับวงเข้ามา 

 

 

พอเห็นศีรษะมนุษย์ที่แขวนอยู่นอกหน้าต่าง ในใจของพวกเขาก็พากันหวาดกลัวขึ้นมา 

 

 

ปีศาจตนนั้นถึงกับกล้าบุกเข้ามาจนถึงภายในจวนของจวิ้นอ๋องของพวกเขา ทั้งยังคิดจะลงมือกับคุณหนูน้อย? 

 

 

เหลียงจวิ้นอ๋องจะอย่างไรก็เป็นคนเฉียบขาด มีฝีมือสูงส่ง เขาแทงหอกออกไปหลายครั้ง แต่ละครั้งล้วนเปี่ยมไปด้วยไอสังหาร ชนิดที่ต่อให้เป็นภูติผียังต้องหลบหลีก 

 

 

ฉู่เจียงโอบสาวน้อยเอาไว้ในอ้อมอก มองดูผู้คนที่มากันจนเต็มสวน 

 

 

ทั้งยังเหลือบดูมุมมืด คนพวกนี้เขามิได้หวาดกลัว เพียงแต่คนที่อยู่ในมุมมืดนั่น….ปะทะกันไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ยังดูไม่ออกว่าซุกซ่อนอยู่ตรงไหนกันแน่ 

 

 

เขาใช้มืออีกข้างคว้ายันต์สีเหลืองเอาไว้ ยันต์สีเหลืองในฝ่ามือแผดเผาผิวหนังบนฝ่ามือไปชั้นหนึ่ง 

 

 

ดวงตาสีมรกตคู่นั้นมีเส้นเลือดผุดขึ้นมา 

 

 

หยกสรรพชีวิต ถือเป็นของวิเศษล้ำค่า แม้แต่พวกเขาที่เป็นสิบยมราชก็ยังไม่อาจควบคุมได้ 

 

 

ถึงแม้ว่าเขาจะได้ครอบครองหยกมาบ้าง แต่ก็ไม่อาจแสดงพลังของพวกมันออกมาได้อย่างเต็มที่ เมื่อควบคุมไม่ได้ก็อาจจะถูกครอบงำแทนเสียด้วยซ้ำ 

 

 

ภายในจวนจวิ้นอ๋อง ถึงกับมีผู้สูงส่งเช่นนี้อยู่? 

 

 

เขาชักอยากจะเห็นหน้าขึ้นมาสักครั้ง ในขณะที่เขาเผลอใจลอยอยู่นั้น หอกของเหลียงจวิ้นอ๋องก็พุ่งมาถึง 

 

 

ครั้งนี้ถึงกับกระแทกถูกหลังมือของเขาโดยไม่มีผิดเพี้ยน 

 

 

ฉู่เจียงคลายมือออก สาวน้อยที่ถูกเขาโอบอุ้มเอาไว้อย่างแนบแน่นมาตลอดก็ร่วงลงมา 

 

 

เหลียงจวิ้นอ๋องรีบโฉบเข้ามารับตัวหลานสาวเอาไว้ 

 

 

ผู้คนทั้งหลายต่างก็ฮือกันเข้ามาโอบล้อมฉู่เจียง เมืองกู่เย่วเกิดมีปีศาจเช่นนี้อยู่จะต้องไม่สงบสุขเป็นแน่ 

 

 

จะต้องจัดการกำจัดเขาทิ้งเสีย! 

 

 

ฉู่เจียงสะบัดแขนเสื้อเกิดเป็นสายลมรุนแรงที่เย็นยะเยือกจากพลังหยินขุมหนึ่งพัดขึ้น 

 

 

เสื้อเกราะของผู้คนทั้งหลายถูกพัดจนปลิดปลิวกระจัดกระจาย กระทั่งเนื้อหนังยังถูกกรีดขาด 

 

 

ฉู่เจียงเองก็มิได้รั้งรอ ในขณะที่ฝูงชนกำลังเจ็บปวดทรมาน เขาก็กลายเป็นหมอกสีแดงหอบหนึ่งสลายหายไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

เกี้ยวสีแดงเลือดและสาวใช้ในชุดแดงทั้งแปดนางก็หายไปพร้อมๆ กับเขาเช่นกัน 

 

 

ทั่วทั้งสวนตะวันออกเงียบสงบลงอีกครั้ง 

 

 

เหลียงจวิ้นอ๋องโอบอุ้มเหลียงเซิงเซิงเอาไว้ด้วยสีหน้าร้อนรน 

 

 

บนลำคอของเหลียงเซิงเซิงมีรอยเลือดลึกสองรอย ตอนนี้นางสลบไสลไม่ได้สติ เรียกอย่างไรก็ไม่ยอมตื่น 

 

 

“เร็วเข้า รีบไปเชิญท่านหมอเจียงมา!” เหลียงจวิ้นอ๋องอุ้มหลานสาวของตนเองเข้าไปภายในเรือนอย่างรวดเร็ว 

 

 

“เก็บกวาดสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่างนั่นไปให้หมด” พอมองออกไปเห็นศีรษะมนุษย์ที่แขวนเรียงรายอยู่โทสะของเขาก็พลุ่งพล่าน 

 

 

หลานสาวผู้เป็นดั่งดวงใจของเขากลับต้องมาประสบพบเจอกับเรื่องแบบนี้ ทำให้เขาอยากจะฆ่าคนขึ้นมา 

 

 

ไอ้ปีศาจที่สมควรตายนั่น แม้แต่หลานสาวของเขาก็ยังกล้าแตะต้อง เขาจะต้องไม่ปล่อยมันเอาไว้อย่างแน่นอน! 

 

 

เหลียงเซิงเซิงนอนอยู่บนเตียง ด้วยใบหน้าซีดขาว 

 

 

เพียงครู่เดียว ก็เห็นท่านหมอชราในชุดสีเขียวผู้หนึ่งเข้ามา 

 

 

เขาแบกกล่องยาเอาไว้ด้วยท่าทางรีบร้อน 

 

 

ในมุมมืด ชือหลีที่ดูเหตุการณ์อยู่ถึงกับคิดร้องด่าออกมาแล้ว! 

 

 

“ไอ้เฒ่านั่นมิใช่บอกว่าจะไม่รักษาคนต้าโจวหรือ? ทำไมพอเป็นหลานสาวของเหลียงจวิ้นอ๋องเขาถึงได้ช่วยกันเล่า?” ไฟโทสะของชือหลีลุกท่วมสามจั้ง 

 

 

เจียงชวี่ปิ้งไอ้เฒ่าชราผู้นี้ ที่จริงก็เป็นแค่เจ้าที่เจ้าทางเล็กๆ ผู้หนึ่ง แต่พออยู่ต่อหน้านางกลับทำท่าทำทางถือดีนัก 

 

 

ก่อนหน้านี้ตอนที่นางพาตู๋กูซิงหลันไปขอให้เขาทำการรักษา ท่าทางยโสของเขาทำเอานางอยากจะเหยียบให้จมดินนัก 

 

 

ดีนักเชียว แคว้นต้าโจวทำลายแคว้นกู่เย่ว เขาเกลียดชังคนต้าโจว นางก็สามารถเข้าใจได้ 

 

 

แต่ทำไมคำพูดคำจาถึงได้เสมือนผายลมเช่นนี้ พอเหลียงจวิ้นอ๋องเรียกหาเขาก็รีบมาเลยหรือ? 

 

 

ชือหลีบิดแขนเสื้อไปมา นัยตาของนางเปล่งประกายวาววับ 

 

 

ตู๋กูซิงหลันนั่งอยู่บนบ่าของนาง “เยือกเย็นไว้” 

 

 

 

 

 

—— 

 

 

คุยกันนิดนึง: 

 

 

ไรท์: งานนี้มีคนตายแน่นอน เล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับชือหลี เฮอะ! 

 

 

ตอนต่อไป: รักษาโรคด้วยวิธีหลับนอน 

 

 

แค่ชื่อตอนก็……….