บทที่ 618

The Novel’s Extra

Chapter 618 Meeting (7)

อีเรนเริ่มต้นเป็นคนรับใช้ภายใต้คำสั่งของอัศวินแห่งปูฮาเรน ในขณะที่เจ้านายของเขาเสนอ ‘oath of guarantee หรือคำมั่นของอัศวินให้

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด หน้าที่หลักของเขาคือทำความสะอาดและทำอาหาร และเขามีเวลาเพียง 1 ชั่วโมงก่อนนอนเท่านั้นในการฝึกฝนการใช้ดาบ

แต่อีเรนไม่เคยยอมแพ้ ในความเป็นจริง เขามองทุกอย่างในแง่ดี แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่โครงสร้างร่างกายที่ดีของเขาก็เหมาะกับหน้าที่ของผู้ชาย ซึ่งทำให้เขาสามารถทำงานได้โดยไม่เหนื่อยมากนัก และเขาคิดว่าการเฝ้ามองอัศวินที่ทรงพลังฝึกฝนเป็นโอกาสในการเรียนรู้ที่ดี อีเรนใช้เวลาในตอนกลางคืนที่เหลืออยู่ทั้งหมดในการฝึกฝน

โชคดีที่อัศวินของปูฮาเรนไม่เพิกเฉยต่อความพยายามของเด็กชาย เพียงเวลาไม่นานอีเรนก็ได้รับเชิญให้ฝึกฝนร่วมกับคนอื่น ๆ

แม้ว่าสังคมของอัศวินจะไม่เรียบง่ายและค่อนข้างหยาบกระด้าง แต่อีเรนก็สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วเพราะสิ่งนั้น

แต่โชคก็ได้ห่างไกลออกไปจากเรื่องราวของอีเรน ราวกับว่าการได้พบพานกับมาสเตอร์เป็นสิ่งที่หยุดยั้งความโชคดีของเขาเอาไว้
ในตอนนั้นอีเรนพบว่ามาสเตอร์ของเขาป่วยด้วยโรคที่ไม่มีทางรักษาหาย นี่เป็นสาเหตุที่เขาถูกผลักไสไปยังหมู่บ้านในชนบทที่เขาจากมาในตอนแรก มาสเตอร์ของอีเรนต้องการสัมผัสกับโลกกว้างในเวลาที่เหลืออยู่

ถึงแม้ว่ามาสเตอร์ของเขาจะมีความสุขแต่ความรู้สึกของอีเรนกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม อีเรนแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆในวัยเดียวกัน แต่เขาก็ยังเป็นเด็กที่มีหัวใจ มันเร็วเกินไปสำหรับการจากลาตลอดกาลและเขาไม่สามารถซ่อนความเจ็บปวดไว้ข้างในหัวใจของเขาได้
อีเรนไปเยี่ยมมาสเตอร์ของเขาทุกคืน เฝ้าดูเขาที่อ่อนแอลงเรื่อยๆและเข้าใกล้ความตายขึ้นเรื่อยๆ

อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่อีเรนกำลังกล้ำกลืนน้ำตาแห่งความเศร้าโศกของเขาอยู่ข้างมาสเตอร์ ในตอนนั้นเองที่เขาได้พบกับเจ้าหญิงที่ชื่อ ‘เฟฮี’

**

[โลก – เกาหลี]

ผมส่งผู้สังเกตการณ์ไปทั่วโลกเพื่อรวบรวมข้อมูล มันใช้เวลาเพียงไม่นานที่ทำให้ผมเข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้ว่ามันแย่แค่ไหน

-แบล็กรออยู่ที่นั่น จุดสีแดงตรงนี้คือจุดการเริ่มต้นการต่อสู้ ฉันจะติดต่อคุณอีกที

ชอคจุนกยอง และ จินเซยอน ผู้ที่เข้ามาในโคลอสเซียมของ วาสโก้ ดูเหมือนจะมีแผนของตัวเอง แต่สังคมโลกกำลังพังทลายภายใต้ความชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ที่สืบเชื้อสายมาอย่างยาวนาน

[ปีศาจรูปนกตัวนี้เข้ามาในโตเกียว มันเรียกตัวเองว่า ‘พีเนก’ มันเริ่มร้องเพลงแห่งความตายบนท้องฟ้าของโตเกียว … ]
[‘วีนวล’ กำลังทำลายกำแพงของวลาดิวอสต็อก…]

“สปาร์ตัน?”

สปาร์ตันปรากฏตัวขึ้นทันทีที่ผมเรียก ดูเหมือนว่าเขาจะใหญ่ขึ้นจากครั้งสุดท้ายที่ผมเจอซะอีก

-ฟี้

สปาร์ตันทำเสียงฟี้คล้ายแมวอย่างน่ารัก ผมยิ้มอย่างขมขื่นและลูบหัวของเขา
น่าเสียดายที่ผมไม่มีเวลาเล่นด้วยมากนัก

Guooooooo …

พลังเวทย์มนตร์จำนวนมหาศาลปะทุขึ้นจากจุดที่โมแรกซ์อยู่ มันไม่ได้เป็นพลังปีศาจ แต่เป็นพลังเวทมนตร์จากธรรมชาติที่บริสุทธิ์มาก พลังเวทย์มนตร์นี้เข้าปะทะกับพลังของโมแรกซ์
ผมรู้ทันทีว่านี่คือพลังของ แชจูชึล

-คุณอยู่ที่ไหน?

ในขณะนั้นเอง เสียงของ ยูยอนฮา ดังขึ้นจากสมาร์ตวอทช์ของผม

“ฉันกำลังจับตาดูโมแรกซ์อยู่ แล้วเธอล่ะ?”

ผมตอบกลับไปและหยิบ [ธนูดอกบัวดำ]ออกมา

– ฉันอยู่ในบังเกอร์ใต้ดินค่ะ

“ เธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

-โดยรอบๆแล้ว ดูเหมือนว่าโลกกำลังจะล่มสลาย

“…โอ้ ใช่?”

ผมหัวเราะเบา ๆ ที่เธอพูดมาไม่ผิดเลยเพราะบาอัลเคยทำลายโลกได้ภายใน 3 วัน เนื่องจากมันใช้เวลาวันแรกในการอัญเชิญปีศาจเหมือนในตอนนี้ เวลาจริงๆที่มันทำลายโลกได้น่าจะน้อยกว่านั้น

“เฮ้ออ”

ผมถอนหายใจและตรวจสอบสติกม่าของตัวเอง อย่างที่ผมคิดไว้ มันไม่เหลือแม้แต่ออนซ์เดียว
เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ [Time Reversal (การกลับเวลา)] การฟื้นฟูเลยช้าลงถึงแม้ว่าจะใช้ [ลูกแก้วฟื้นฟู]ก็ตาม ผมสามารถทะลายขีดจำกัดเพื่อสร้างขึ้นอีกได้ … แต่ก็ต้องรอเวลาที่ดีในการทำเเบบนั้น

– ทางด้านคุณเกิดอะไรขึ้นบ้าง? ฉันคิดว่าคุณรู้อะไรบางอย่างนะ

“ อ่า…ฉันไม่รู้ จริงๆนะ”

– ฉันเดาว่าเราน่าจะถึงคราวเคราะห์แล้วล่ะ เพราะฉันคิดอะไรไม่ออกเลย

ยูยอนฮา ส่งข้อมูลที่เธอรวบรวมผ่าน smartwatch มาให้ผม

รัสเซีย, วลาดิวอสต็อก – วาล
ญี่ปุ่น, โตเกียว – พีเนก
สเปน, มาดริด – แอสทารอท
ยุโรปทั้งหมด – กองทัพของ วาเลค
เกาหลี – บาอัล และ โมแรกซ์

โชคดีที่ เลราจ และ วาสโก้ ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวอันตรายน้อยลง ปีศาจตัวอื่น ๆ เหมือนเป็นตัวบอสของสัตว์ประหลาด แต่สองตัวนี้เหมือนเป็นภารกิจเลยล่ะ

“ ฉันพยายามติดตามอะไรบางอย่าง ฉันจะบอกคุณทันทีที่ฉันรู้”

– เข้าใจแล้ว

Kwaaaaa-!

แขนของโมแรกซ์และหมัดอมตะปะทะกันเกิดคลื่นกระแทกขนาดใหญ่แผ่กระจายวงกว้างไปทั่วทุกทิศทางและอากาศธาตุได้สร้างคลื่นกีดขวางรอบตัวผมโดยอัตโนมัติ

หลังจากนั้นทันทีที่แสงสีทองและพลังเวทย์มนตร์ขนาดใหญ่ตัดผ่านอากาศ คิมซูโฮ และ แชนายอน ได้เข้าร่วมการต่อสู้

ผมยก [ธนูดอกบัวดำ] ขณะที่เฝ้าดูการต่อสู้ไปด้วย เมื่อ [Athena’s Mystic Arrow] ถูกทำลายเมื่อมันโค่นปราสาทของบาอัลสำเร็จ ผมรีบยกลูกธนูสีเข้มขึ้นทันที

ในตอนนั้น

“เฮ้.”

ทันใดนั้นมีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังเข้ามาในหูของผม หัวของผมเย็นลงทันที ผมกลอกตาไปด้านข้าง

“มันสักพักแล้วนะ”
อึก. ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากและสำรวจใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่ผมจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ อ่า คุณทำให้ผมตกใจ”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ .”

หญิงสาวหัวเราะอย่างสนุกสนานในขณะที่เธอแหย่แก้มของผมไปด้วย ผมก้าวถอยหลังไปนิดหน่อยแล้วจ้องมองเธอ

“มันคืออะไร?”

มันคือ เมเดีย
หลังจากปรากฏตัวออกมาโดยผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว เธอยื่นเศษกระดาษบางอย่างให้กับผม

“ เอาไปสิ”

“ นี่คืออะไร แทนที่จะไปช่วยพวกเขาต่อสู้กับโมแรกซ์ คุณยังไม่ลืมเกี่ยวกับสัญญาของเรา ใช่ไหม?”

“ มันเป็นข้อความจาก ครีบวอน”

“…ฮะ?”

ผมรีบคว้ามันจากมือของ เมเดีย ก่อนที่จะก้มมองลงไปที่กระดาษและเริ่มอ่านมันโดยละเอียด

[คุณสบายดีไหมคิมฮาจิน? นี่คือ โทเมอร์ ของดัชเชสแห่งจักรวรรดิครีบวอน ถูกต้องแล้ว เราไม่ได้เป็นอาณาจักรอีกต่อไป แต่เป็นจักรวรรดิแล้ว … ]

เมเดีย พูดขณะที่ผมกำลังอ่านข้อความ

—————————-2—————————