บทที่ 552 ย้อนกลับ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 552 ย้อนกลับ
ในประเทศ เมืองA

เมื่อเส้นหมี่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ไม่รู้ว่าเพราะเธอมีกำลังใจที่ดีหรือเปล่า เธอถึงดูมีชีวิตชีวามาก

แน่นอนจะดีกว่าถ้าไม่มีอาการเจ็บตามร่างกาย

“ตื่นแล้วหรอ”

แสนรักบังเอิญขึ้นไปชั้นบนพอดี เมื่อเขาเห็นเธอตื่นแล้ว เขาก็ยกน้ำอุ่นที่เพิ่งทำเสร็จเข้ามา

นี่เป็นสิ่งที่ไม่ดีในการอยู่ในคฤหาสน์หลังเก่า

มันเก่าแก่ทั้งหมด เนื่องจากเป็นอาคารเก่า ชั้นบนจึงยังไม่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ทันสมัย ​​และคุณท่านเองก็ไม่ชอบสิ่งเหล่านั้นมากนักในตอนนั้น และยืนกรานที่จะใช้วิธีดั้งเดิม

ดังนั้นนอกจากการอาบน้ำแล้ว น้ำดื่มและอื่นๆจะต้องต้ม และนำมาจากครัวด้านล่าง

เส้นหมี่มองดูเขาเทน้ำเดือดลงในอ่างล้างหน้า แล้วเอาเสื้อคลุมหนาๆมาสวม “ตอนนี้กี่โมงแล้ว วันนี้คุณจะไปบริษัทไหม”

“แล้วคุณล่ะ”

แสนรักถามอย่างไม่เป็นทางการขณะถือผ้าเช็ดตัวให้เธอ

เส้นหมี่คิดสักพัก

เธออยากกลับไปที่บ้านของเธอ แม้ว่าเธอจะทานอาหารเย็นกับพ่อเมื่อวานแล้ว แต่ก็มีคนมากมายทำให้สองพ่อลูกไม่มีเวลาคุยกัน

อีกทั้งพ่อของเธอยังไม่ได้เห็นลูกทั้งสามของเธอดีๆเลย

เมื่อเส้นหมี่นึกถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “พี่คะ ขอฉันพาเด็กๆไปหาคุณตาได้ไหม ฉันยังไม่ได้ให้เขาดูดีๆเลยเมื่อวาน”

“ได้สิ ให้พี่จัดรถไปส่งไหม”

“ไม่ต้องๆ ฉันจะขับไปเอง อ้อ ไปกินข้าวเที่ยงที่นั่นเป็นไง คุณก็ไปด้วยนะ ยังไงก็ต้องกินตอนเที่ยงอยู่แล้วนี่นา”

เธอเป็นเหมือนสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆ เมื่อเธออยู่ต่อหน้าเขา ดวงตาหวานของเธอก็กะพริบอย่างอ้อนวอน

แสนรักจะเห็นด้วยหรือไม่

แต่เขาไม่ตอบเธอ แต่หลังจากเห็นเธอดูไม่เรียบร้อย เขาก็เช็ดผ้าขนหนูร้อนในมือบนใบหน้าเล็กๆของเธอ และในวินาทีต่อมาเขาก็จูบเธออย่างดุเดือด

“อื้ม……”

ย่อมต้องมีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับเจตนาร้าย

เส้นหมี่พาลูกสามคนไปที่คฤหาสน์วชิรนันท์ ตอนเที่ยงของวันนั้น

แน่นอนว่าเมื่อเธอจากไป ภาราดาซึ่งเคยเล่นกับหลานตลอดก็ร้องจะไปด้วยเช่นกัน แต่เส้นหมี่ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ หลังจากนึกถึงสิ่งที่เธอพูดเมื่อวานนี้

เธอก็ไม่ได้พาไปด้วย

เธอมีลางสังหรณ์ว่าหลังจากที่แม่ยายคนนี้ได้พบกับพ่อของเธอ จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

เมื่อคฤหาสน์วชิรนันท์ก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ดิลกมีความสุขมากหลังจากได้เห็นหลานตัวน้อยที่ร่าเริง มารยาทดี และน่ารักทั้งสามคนของเขา

“คุณตา หนูชื่อรินจัง เป็นคนที่สวย น่ารัก และเชื่อฟังที่สุด”

รินจังไม่ได้อ่อนน้อมถ่อมตนเลย หลังจากเห็นคุณตาของเธอ เธอก็หมุนกระโปรงตัวน้อยที่สวยงามของเธอทันที และยกย่องตัวเองต่อหน้าปู่ของเธอ

ใจของดิลกละลายเมื่อได้เห็น

“ใช่ หนูเป็นเด็กที่เชื่อฟัง และสวยที่สุดในครอบครัวเรา มาให้ตากอดหน่อย” จากนั้นเขาก็อ้าแขนกอดเจ้าก้อนตัวน้อย

เด็กอีกสองคนที่ตามมาข้างหลังก็งอนทันที

แน่นอนว่าที่ชัดเจนที่สุดคืออิคคิว

“คุณตา แล้วผมล่ะ ฉันเป็นหลานของคุณเหมือนกัน”

“ใช่ เป็นหลานของตาด้วย มานี่ๆมาให้ตากอดด้วยกัน”

“…”

โชคดีที่ชินจังไม่ได้ชอบป่วนเหมือนน้องชายและน้องสาวของเขา เหมือนกับพ่อ เขามีบุคลิกที่เย็นชา ดังนั้นเขาจึงไม่ปล่อยให้คุณตาสูงอายุต้องเอวหักเพราะเขา

ปู่หลานเล่นกันอยู่พักหนึ่ง จนสักพักเด็กๆก็วิ่งไปเล่น และเส้นหมี่ก็เข้ามา

“พ่อ เป็นยังไงบ้าง กลับมาบ้านชินมั้ย”

“แน่นอน ที่นี่คือบ้านของเรา ทำไมจะไม่ชินล่ะ แต่แม่ของลูกไม่อยู่แล้ว” ดิลกยืนอยู่ในสนามมองดูทิวทัศน์ที่คุ้นเคยรอบตัวเขา ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็หม่นลง

ใช่ มีทุกอย่าง แต่ขาดคนๆไปนั้นเท่านั้น

เมื่อเส้นหมี่ได้ยินสิ่งนี้ เธอก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวในใจ

ส่วนเรื่องแม่ เธอโทษตัวเองมาตลอด เพราะตอนที่ที่บ้านมีเรื่อง เธอไปเรียนต่อ พอกลับมา พ่อโดนจับ แม่ก็ตาย

แต่หลังจากนั้นหนึ่งปีเธอก็ไม่สนใจอะไร และแต่งงานกับตระกูลวชิรนันท์

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เส้นหมี่ก็รู้สึกผิดมากขึ้น “พ่อ หนูขอโทษ ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลของหนู หนู…”

“ไม่ต้องขอโทษ พ่อก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น”

“ห๊ะ”

จู่ๆ เส้นหมี่ ก็เงยหน้าขึ้นและมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา “คุณ คุณบอกว่าเห็นด้วย เป็นไปได้ยังไง ตอนนั้นคุณ…”

ดิลกถอนหายใจ “ธนากร เคยไปหาพ่อมาก่อน พ่อรู้ว่าจริงๆเขามีเจตนาแฝง แต่พ่อคิดว่า ถ้าลูกสามารถแต่งงานเข้าไปในบ้านนั้น จะเป็นการดีต่อลูกที่จะได้ที่พักพิงพ่อจึงเห็นด้วย แต่ไม่คิดว่าหลังจากนั้นลูกจะ…”

ประโยคต่อจากนั้น ชายที่เพิ่งออกมาจากคุกก็พูกต่อไปไม่ได้

เหลือแต่ตาแดงๆ พร้อมน้ำตาและเสียงสะอื้น

เส้นหมี่เหมือนถูกฟ้าผ่า!

เธอไม่เคยคิดเลยว่าพ่อของเธอจะรู้เรื่องนี้

แถมเขายังรู้ด้วยว่าธนากรต้องการให้เธอเป็นลูกสะใภ้ แต่เขาก็ยังเห็นด้วย ตอนนั้นเขาเก็บความเจ็บปวดและความกังวลไว้อย่างไร

ในเมื่อเพิ่งส่งลูกสาวไปในมือคนอื่น