TB:บทที่ 209 โชค (3)
การที่โชคของเขาที่เพิ่มขึ้นแปดเท่านั้นสุดยอดมาก ไม่ว่าใครจะเป็นผู้สับไพ่ เฉินหลงเป็นคนที่มือขึ้นที่สุด ราวกับว่าไพ่ฟลัช*นั้นจะอยู่เฉพาะในมือของเฉินหลง เพราะในแต่ละครั้งเฉินหลงเป็นคนที่ได้ครอบครองมันเพียงคนเดียวเท่านั้น
ไม่นาน เฉินหลงก็ได้กลายเป็นผู้ชนะ และได้รับเงินห้าล้านจากทั้งสามคน
ในทำนองเดียวกัน ใบหน้าของคนจีนสองคน จากเดิมที่พวกเขาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา ในตอนนี้มันกลับบิดเบี้ยวจนดูไม่น่ามองเอาเสียเลย ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเป็นฝ่ายแพ้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแพ้โดยที่ไม่สามารถโต้กลับอีกฝ่ายได้เลยสักครั้งเดียว และที่สำคัญที่สุดคือเฉินหลงยังไม่ได้ใช้วิธีสกปกอะไรในการเล่นไพ่อีกต่างหาก น่าเจ็บใจนัก!
ทางด้านชาวต่างชาติคนนั้น เขากำลังสงสัยอะไรบางอย่าง เขาหันไปมองเฉินหลง ไม่ว่าจะเป็นวิธีสับไพ่ของเฉินหลง หรือสีหน้าที่ไม่ปกปิดอะไรเลยแบบนั้น ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายเล่นไม่เก่ง แต่ถ้าเล่นไม่เก่งจริงๆ แล้วทำไมถึงได้ไพ่ดีถึงขนาดที่เขาเองยังไม่มีโอกาสหาทางเอาชนะอีกฝ่ายได้เลยล่ะ
“เอ่อ พวกคุณจะเล่นต่อไหมครับ?” เฉินหลงเอ่ยถามพวกเขาทั้งสามคน
ทั้งสามคนต่างหันมามองหน้ากัน และส่งสายตาให้สัญญาณให้กันว่าพวกเขาจะสู้ต่อ
“เล่นสิ ทำไมจะไม่เล่นล่ะ พวกฉันแต่ละคนจะเล่นอีกสิบล้าน และวางไพ่ตาละสองหมื่น แต่ถ้าเราหมดตัว พวกเราก็จะเลิกเล่น นายว่ายังไงล่ะ?” ชายคนที่พูดก่อนหน้านี้หันไปมองอีกสองคนที่เหลือ
ชาวต่างชาติพยักหน้าด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาเข้าใจภาษาจีน
และชาวจีนอีกคนก็เห็นด้วยกับเขาเช่นกัน
ถ้าพวกเขายืนยืนที่จะเล่นต่อ เงินของพวกเขาก็จะกลายมาเป็นเงินของเฉินหลง เพราะวันนี้เฉินหลงโชคดีสุดๆ ทำให้ทั้งสามคนสูญเสียเงินทั้งหมดไปอีกรอบ
แต่ถึงอย่างนั้น เงินสิบห้าล้านหยวนไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถปั้นยิ้มได้อีกและกล่าวคำล่ำลาต่อเฉินหลง
มีเพียงชาวต่างชาติคนนั้นที่ยังคงนั่งอยู่กับที่เดิม
“คุณมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?” หลังจากที่เฉินหลงเก็บชิพให้เข้าที่เข้าทาง ผู้อ่อนประสบการณ์หันไปถามผู้มากประสบการณ์
“คือว่าผมสงสัยในตัวคุณมากเลยจริงๆ” ชาวต่างชาติพูดกับเฉินด้วยสำเนียงจีนที่เป็นเอกลักษณ์แบบชาวต่างชาติ
“ขอโทษนะครับ แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก” เมื่อได้ยินคำพูดของชาวต่างชาติ ทันใดนั้นเฉินหลงก็รู้สึกถึงดอกเบญจมาศที่อัดแน่นเหมือนกับสบู่ก้อนหนึ่งที่กำลังจะตกพื้น
ถึงแม้ว่าชาวต่างชาติคนนี้จะหล่อมากขนาดไหน แต่เขาก็เป็นคนตรงๆแบบ 100% ถ้าเขากล้ากระดิกนิ้ว อีกฝ่ายได้เข้ามาฆ่าเขาแหงๆ
คำตอบของเฉินหลงถึงกับทำให้ชาวต่างชาติเบิกตาโพลง นี่อีกฝ่ายคิดว่าคนอย่างเขากำลังคิดอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ? “โอ้ คุณครับ คุณเข้าใจผมผิดแล้ว ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
“ก็คำพูดของคุณ ฟังแล้วมันคิดว่าเป็นเรื่องดีๆไม่ได้นี่ครับ แล้ว…ทำไมคุณถึงสงสัยในตัวผมกันละครับ?” เฉินหลงรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินว่าชาวต่างชาติคนนี้ไม่ใช่คนแบบที่เขาคิด
“คือคุณเพิ่งเคยเล่นโป๊กเกอร์เป็นครั้งแรกใช่ไหมล่ะครับ?”
“ใช่ครับ” เฉินหลงหันไปมองชาวต่างชาติด้วยความสงสัย เหลือบมองชาวต่างชาติเล็กน้อย เรื่องแค่นี้ เขารู้หรอกน่า
เฉินหลงไม่คิดว่าฝีมือสับไพ่ของเขาหรือการที่เขาไม่กล้าสู้หน้า จะทำให้เขาดูเป็นคนขี้ขลาดหรือไอ้ขี้แพ้สักหน่อย
“ขนาดว่าคุณเพิ่งเคยเล่นกับผมครั้งแรก ก็ได้เงินจากพวกผมทั้งสามคนไปคนละ 15 ล้านแล้ว ผมสงสัยจริงๆนะครับ ว่าคุณทำได้ยังไง?” ชาวต่างชาติจ้องหน้าเฉินหลง เขาต้องการมองเฉินหลงอย่างถี่ถ้วน
“ผมจะพูดชัดๆเลยนะว่าผมไม่ได้โกง ผมคิดว่าที่ผมชนะมาได้ก็เพราะโชคดี สองวันนี้ผมโชคดีมากจริงๆครับ ผมชนะแล้วได้เงินทุกการพนันเลย” เฉินหลงดูใสซื่อเล็กน้อย
“ผมเข้าใจดีครับ ไม่อย่างงั้นคุณคงไม่มาถึงจุดนี้ได้หรอก” สิ่งที่ชาวต่างชาติพูดดูเหมือนว่าจะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง
ชาวต่างชาติคนนี้เป็นนักเล่นไพ่ เขารู้ดีว่าเฉินหลงไม่ได้เล่นโกงเลย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ปล่อยให้เฉินหลงพูดอยู่อย่างนี้หรอก
“คือว่า ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบ เฉินหลงก็เดินออกจากห้องวีไอพีไปพร้อมกับชิป
“ผมชื่อบลองเชอร์ ผมหวังว่าครั้งหน้าเราจะได้พบกันอีกนะครับ”
เฉินหลงพยักหน้าโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมอง เขายังคงก้าวเดินต่อไป
ความสามารถของบลองเชอร์ไม่เลวเลย เขาเป็นถึงเขตของปรมาจารย์ระดับสูง แต่สำหรับคนอย่างเฉินหลง เขาไม่จำเป็นต้องให้อีกฝ่ายอยู่ในสายตาเลยสักนิด
“เป็นยังไงบ้างครับท่าน” เมื่อเห็นเฉินหลงเดินออกมาห้องวีไอพี หยางเจียงก็รีบตรงเข้าไปถามเขา
“ไม่แย่เท่าไหร่ครับ ผมกินเรียบเลย ส่วนนี่เป็นค่าตอบแทนสำหรับคุณ แล้วก็รบกวนคุณพาผมไปแลกชิปด้วยครับ” เฉินหลงมอบชิปให้หยางเจียงมูลค่าหนึ่งแสนหยวน
เมื่อหยางเจียงได้รับชิปไป เขาหัวเราะและรีบตอบอีกฝ่ายไปว่า “ขอบคุณครับ รบกวนตามผมมาทางนี้เลยครับ ผมจะพาคุณไปแลกชิปที่เหลือ”
ในตอนที่เขาได้เห็นชิปในมือของเฉินหลง หยางเจียงรู้สึกตกใจเล็กน้อย มือโปรพวกนั้นเอาชนะได้ยากมาก ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาสามารถเอาพวกเขาทั้งสามคนได้ แถมยังเป็นมือโปรชื่อดังอย่างบลองเชอร์ ที่เล่นเก่งมากอีกด้วย
ในไม่ช้า หยางเจียงก็ช่วยเหลือเฉินหลงในการเปลี่ยนชิปเป็นเงินเกือบหกสิบล้าน และทำการโอนมันเข้าไปในบัญชีของเฉินหลง
หลังจากได้รับเงิน เฉินหลงก็กลับไปยังห้องพักของตัวเอง
หลังจากที่เล่นการพนันมาสองวันแล้ว เฉินหลงก็เริ่มรู้สึกเบื่อเล็กน้อย เขาจึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้เขาจะไม่ไปที่คาสิโน และดื่มด่ำกับช่วงเวลาดีๆบนเรือสำราญ
ความคิดนี้ของเฉินหลงเข้าท่า แต่ก็มีบางคนไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้น
วันต่อมา หลังเวลาอาหารเช้า เฉินหลงกับลั่วฮุ่ยได้ไปยังดาดฟ้าของเรือ เพื่ออาบแดดและชมวิทะเล นอกจากนี้เฉินหลงยังได้ดูสาวผมบลอนด์ในชุดบิกินี่อีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น คนอย่างเฉินหลงก็ทนดูมันได้ไม่นาน
ในเวลาเดียวกัน สาวผมบลอนด์สุดฮอต ก็ได้เข้ามาอยู่ในจุดตัดเก้าช่อง**ของเฉินหลงเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังเดินเข้ามาหาเขา เฉินหลงก็อดไม่ได้ที่จะผิวปากเป็นการหยอกล้อตามประสาคนหนุ่มสาว แต่เมื่อเขานึกถึงหญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาแล้ว เขาก็หุบปากลงในทันที…
เมื่อสาวฮอตเดินตรงมาทางเฉินหลง จู่ๆเธอก็เข้าไปกระซิบข้างหูของเขา
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ใบหน้าของเฉินหลงผุดยิ้มขึ้นแวบนึง และจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง
สาวสวยคนนั้นได้จุ๊บแก้มเฉินหลงหนึ่งที จากนั้นเธอก็เดินจากไปจากเฉินหลง แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็ได้หันกลับมาทางเขาอีกครั้ง และกระดิกนิ้วชักชวนให้เฉินหลงเดินตามเธอไป
“พี่สี่ ผมมีธุระต้องทำ เชิญพี่เล่นไปก่อนเลยนะครับ” เฉินหลงหันไปพูดกับลั่วฮุ่ย จากนั้นก็เดินตามหญิงสาวคนนั้นไปทันที
เห็นเฉินหลงเดินตามสาวต่างชาตินิรนามไป อันหยาก็ได้กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับก่นด่าอีกฝ่าย “ฮึ่ย! สาวต่างชาติคนนั้นมีอะไรดีนักหนา? คิดดีแล้วเหรอที่ทำแบบนั้น? ผู้ชายนี่ยังไง ทำไมต้องทำตัวเป็นคนดีด้วย แค่เธอชวนนิดชวนหน่อยก็ปฏิเสธไม่ลงแล้วเหรอ!?”
“เสี่ยวหยา เธอชอบเขาเหรอ?” เจิ้งหยู่หันไปถามอันหยาที่ตอนนี้กำลังโกรธจัด
“ใค.. ใครจะชอบเขากัน!? ฉันแค่ไม่คิดว่าผู้ชายจะมีอะไรดีต่างหากล่ะ!” อันหยาตอบด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
เมื่อได้ยินคำตอบของอันหยา ลั่วฮุ่ยถึงกับยิ้มอย่างขมขื่น น้องสะใภ้กำลังว่าเขาอยู่นี่นา…
เมื่อเขานึกถึงคำพูดของเฉินหลงแล้ว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันต้องมีเรื่องไม่ชอบมากลเกิดขึ้น เขาคิดแล้วคิดอีกว่ามันคือเรื่องอะไร พอคิดดูแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนสี
“ฮุ่ย คุณเป็นอะไรรึป่าว? คุณรู้สึกไม่ดีเหรอ?” อันหมินซีที่กำลังรอให้เฉินหลงกลับ เพราะมีเรื่องที่ต้องคุยกัน ได้หันมาถามลั่วฮุ่ยด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเขามีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ลั่วฮุ่ยส่ายหน้าแล้วตอบเธอไปว่า “ฉันไม่ได้รู้สึกไม่สบายอะไรหรอก แต่ฉันกำลังคิดว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเฉินหลงก็ได้”
“เรื่องอะไร? สาวต่างชาตินั่นเป็นตัวอันตรายเหรอ? ถ้าอย่างนั้น พวกเราไปจัดการนางกันเถอะ!” อันหมินซีรีบตอบ
“ถึงพวกเราตามเขาไป ก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอก ถ้าไปแล้วรังแต่จะเป็นภาระให้เฉินหลงน่ะสิ บางที เมื่อกี้นี้ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะขู่เฉินหลงเรื่องพวกเราก็ได้นะ เฉินหลงถึงได้ยอมตามเธอไป” ลั่วฮุ่ยเหลียวมองไปตามทางที่เฉินหลงเดินไปแล้วตอบอย่างช่วยไม่ได้
*สเตรทฟรัช คือกรณีที่เป็นไพ่เรียง 3 ใบแล้วยังมีดอกไพ่เดียวกันอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการทำ 3 เด้งและเรียงพร้อมกันนั่นเอง
**จุดตัด 9 ช่อง คือในกรอบมีช่องสี่เหลี่ยม 9 ช่อง และจะมีจุดตัดอยู่ในเฟรม / ในที่นี้หมายถึง เธอได้เข้ามาอยู่ในสายตาของเฉินหลงแล้วนั่นเอง