กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1448
“พ่อเข้าใจ! พ่อเข้าใจ!” จาค็อบพยักหน้าอย่างตื่นเต้นในขณะที่พูดซ้ำ ๆ ว่า “พ่อจะไม่ใส่นาฬิกาเรือนนี้ที่บ้าน”
ถึงแม้ว่าชาร์ลีจะนั่งอยู่ข้าง ๆ โดยไม่พูดอะไรเลยมานาน เขาก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนี้
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับพ่อตาของเขาในตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ จริง ๆ แล้วเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาต้องยอมกล้ำกลืนฝืนทนเอเลนมาตลอดหลายปีนั้น ก็เป็นเพราะแคลร์นั่นแหละ
ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวของเขา เขาก็คงไม่ยอมทนอยู่ได้นานขนาดนั้นหรอก ดังนั้นจึงมองได้ว่าพ่อตาของเขาก็ไม่ได้เป็นคนไร้ประโยชน์ อย่างน้อย ๆ ความรักของพ่อที่มีต่อแคลร์ก็ถือว่ายิ่งใหญ่นัก
ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ตอนที่แคลร์ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จาค็อบก็ไม่เคยพูดถึงเลยสักครั้งว่าสาเหตุที่เขาต้องทนทุกข์กับเรื่องมากมายมาตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมานั้นก็เป็นเพราะแคลร์ เขาช่างคู่ควรกับคำกล่าวที่ว่า ความรักของพ่อนั้นช่างยิ่งใหญ่และเสียสละอย่างแท้จริง
***
เมื่อพวกเขากลับมาถึงธอมป์สัน เฟิร์ส ชาร์ลีกำลังจะขับรถเข้าไปในเขตวิลล่า แล้วจู่ ๆ เขาก็มองเห็นนานาโกะที่สวมแมสก์ปิดบังใบหน้ากำลังยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าหมู่บ้าน
แม้ว่าแมสก์นั้นจะปิดบังใบหน้าของเธอเกือบหมด แต่ชาร์ลีก็ยังจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนานาโกะ โดยดูจากรูปร่าง ทรงผม และการแสดงออกทางอารมณ์ของเธอ
เมื่อเห็นว่ารถของเขาใกล้เข้ามาแล้ว นากาโกะก็เดินเข้าไปใกล้ ๆ รถอีกสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่เธอหยุดอยู่กับที่เมื่อเห็นจาค็อบและแคลร์นั่งอยู่ในรถกับชาร์ลีด้วย
ชาร์ลีรู้ว่าเขาไม่สามารถหยุดรถเพื่อทักทายนานาโกะ และเพื่อถามว่าเธอมาหาเขาทำไม เนื่องจากพ่อตาและภรรยานั่งอยู่ในรถด้วย เขาจึงทำได้เพียงขับรถเข้าไปในเขตวิลล่า เขาคิดภายในใจว่าเดี๋ยวจะหาข้อแก้ตัวเพื่อออกมาดูว่าทำไมนานาโกะถึงตามหาเขา
พวกเขาเดินทางมาถึงธอมป์สัน เฟิร์สอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชาร์ลีจะจอดรถ จาค็อบก็เตรียมเก็บนาฬิกาที่มาทิลด้ามอบให้เขาแล้ว
หลังจากชาร์ลีจอดรถเสร็จเรียบร้อย จาค็อบก็รีบเปิดประตูลงจากรถแล้วซ่อนนาฬิกาไว้ในรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูของเขาเอง
เมื่อแคลร์มองเห็นดังนี้ เธอก็อดถอนหายใจเบา ๆ ไม่ได้ แล้วพูดกับชาร์ลีเบา ๆ ว่า “จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าพ่อช่างเป็นคนที่น่าสงสารจริง ๆ เขาต้องทนทุกข์กับความคับแค้นใจมาตลอดหลายปีเลยใช่ไหม?”
ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “พ่อต้องทนทุกข์ทรมานมากอย่างน้อยยี่สิบหกถึงยี่สิบเจ็ดปีเลยนะ ถ้าเป็นคนอื่น อีกฝ่ายคงพังทลายไปนานแล้ว”
ในเวลานี้นี่เองที่แคลร์ถามเขาว่า “คุณรู้เรื่องนี้มานานแล้วใช่ไหมคะ? ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณไม่ได้แปลกใจอะไรเลย?”
ชาร์ลีตอบว่า “ผมได้ยินเพื่อนนักเรียนของพ่อพูดถึงเรื่องนี้ ตอนที่ตามไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นที่โรงเรียนเก่าของพ่อเมื่อหลายปีมาแล้ว”
แคลร์พยักหน้าด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จู่ ๆ จะถามเขาว่า “แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกฉัน…”
ชาร์ลีตอบอย่างช่วยอะไรไม่ได้ “หลังจากเหตุการณ์นี้ แม่ก็ประสบอุบัติเหตุและหายตัวไป ในเวลานั้นคุณดูเหมือนกำลังทุกข์ใจ และเฝ้าตามหาแม่ของคุณโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น แล้วผมจะไปเพิ่มเรื่องทุกข์ใจให้คุณอีกได้ยังไงล่ะ?”
แคลร์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง
จู่ ๆ ชาร์ลีก็นึกถึงนานาโกะที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้านเมื่อกี้นี้ เขาจึงพูดขึ้นว่า “คุณเข้าบ้านไปกับพ่อก่อนนะ ผมจะออกไปข้างนอกสักพักหนึ่ง”
แคลร์ถามด้วยความสงสัย “นี่ก็ดึกแล้ว คุณจะออกไปทำไมอีกคะ?”
ชาร์ลีตอบว่า “ผมจะออกไปซื้ออาหารเสริมที่ช่วยบำรุงตับให้พ่อ พ่อดื่มมาหนักไม่ใช่เหรอ?”
แคลร์ตอบว่า “ฉันไปแทนก็ได้ค่ะ”
ชาร์ลีโบกมือปฏิเสธแล้วพูดว่า “คุณควรเข้าบ้านไปพร้อมกับพ่อ ถ้าแม่มาหาเรื่องพ่ออีก คุณจะได้ช่วยทำสถานการณ์ให้เบาลงไงล่ะ!”