ตอนที่ 688 โซ่ตรวนรัก (3) โดย Ink Stone_Romance
สุดท้ายถังซ่งพยักหน้าตัดสินใจเองให้ไป๋ซู่เย่อยู่ต่อ
อาจเป็นเพราะความรักที่แยกไม่ออกว่าจริงหรือปลอมที่ฉายออกทางแววตาของเธอ หรืออาจเป็นเพราะความเหนื่อยที่สั่งสมมาทั้งวันของเขา หลายวันนี้เขาเครียดตึงตลอดเวลาแทบไม่เคยผ่อนคลายสักชั่วยาม ตอนนี้มีคนคอยเฝ้าเย่เซียวแทนตน ก็ไม่แย่
ถังซ่งทำแผลเสร็จออกไปแล้ว
ก่อนไปมองเธอแวบหนึ่ง พยักพเยิดปลายคางไปที่ห้องอาบน้ำข้างๆ “ถือโอกาสที่ตอนนี้อาการของเขายังคงที่ คุณเข้าไปเปลี่ยนชุดข้างในนั่นก่อน เช็ดผมด้วย ใส่เสื้อเย่เซียวก่อนแล้วกัน เสื้อของเขาอยู่ในตู้ด้านนั้น”
ไป๋ซู่เย่พยักหน้ารับยืนส่งถังซ่งออกไป
หลังถังซ่งออกไปภายในห้องจึงเหลือเพียงเธอกับเย่เซียวสองคน
เปิดหน้าต่างปล่อยให้ลมข้างนอกพัดเข้ามา เสื้อที่เปียกโชกของเธอแนบกายยิ่งขับให้หนาวเหน็บกว่าเดิม ถ้าอยู่อย่างนี้ต่อไปกลัวว่าจะเป็นหวัดเข้าจริงๆ หากแผลเธอติดเชื้ออาการจะยิ่งแย่ลง
ไป๋ซู่เย่เงียบไปชั่วครู่ ตามองชายหนุ่มบนเตียงที่หัวคิ้วเริ่มคลายตัวลงแวบหนึ่ง เดินย่องเข้าไปเบาๆ เพื่อดึงผ้าห่มคลุมตัวเขาให้ดี
สายตาของเธอทิ้งอยู่บนใบหน้าเขาพักใหญ่ พาลนึกถึงเรื่องราวในอดีตมากมายขึ้นมารางๆ พวกเธอในวันนี้อาจจะเผชิญหน้ากันได้อย่างสงบแค่ตอนที่อีกฝ่ายหลับใหลเท่านั้นกระมัง
ระหว่างพวกเธอ วาดฝันอนาคตไม่ได้…
ในใจอดรู้สึกเศร้าขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
กลัวอารมณ์นี้จะพลุ่งพล่านกว่าเดิมเธอจึงไม่ได้คิดต่อ ลุกขึ้นเปิดตู้เสื้อผ้าของเขาพบว่าข้างในเต็มไปด้วยเสื้อเชิ้ตกับเสื้อสูทเรียงเป็นแถว ตู้ข้างๆ ถึงจะเป็นชุดนอนของเขา
ไป๋ซู่เย่เลือกหยิบตัวใหม่มาลวกๆ หมุนตัวเข้าไปในห้องน้ำ
ถอดชุดนอนที่เปียกโชกบนตัวลงก่อนสวมใส่ของเขา เขาตัวสูงขนาดนั้นจึงทำให้ชุดนอนหลวมโคร่ง พออยู่บนตัวเธอยิ่งขับให้เธอดูตัวเล็กอ้อนแอ้นกว่าเดิม เธอยืนตรงหน้ากระจกหยิบไดร์เป่าผมที่เปียกปอน ยิ้มขมขื่นให้ตัวเองที่สะท้อนบนกระจก เมื่อก่อนตอนอยู่กับเย่เซียวเธอจะชอบแอบเอาชุดนอนเขามาสวมใส่ทุกครั้งที่เขาไม่อยู่ข้างกายเพราะไปปฏิบัติภารกิจ เธอชอบให้กลิ่นของเขาโอบล้อมบนตัวเธอ ความรู้สึกอย่างนั้นราวกับว่าเขาอยู่ข้างกายตน
ไป๋ซู่เย่ตกอยู่ในภวังค์พลางหยิบผ้าขนหนูเช็ดผมตัวเองไปเป่าผมไป ทันใดนั้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากข้างนอกทำให้เธอขมวดคิ้วน้อยๆ แทบจะปิดไดร์เป่าผมทันที อย่างที่คาดไว้ไม่มีผิดเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเนืองๆ
อีกทั้งเสียงฝีเท้ากำลังมุ่งตรงสู่ห้องน้ำที่เธออยู่
ใคร?
คิ้วเรียวของเธอย่นเข้าหากัน เปิดประตูฉับพลัน คนข้างนอกคล้ายคิดไม่ถึงว่าจะมีคนอยู่ข้างใน เห็นเธอก็อึ้งไปชั่วขณะ
วินาทีถัดมาดวงตาที่พร่ามัวมองไม่ชัดคู่นั้นหรี่ลง หลากหลายอารมณ์ฉายผ่านแววตาคู่นั้น คล้ายว่าเขาเริ่มแยกไม่ออกว่าภาพตรงหน้านั้นตนกำลังฝันไปหรือเป็นความจริง
“เย่เซียว?” ไป๋ซู่เย่เองก็ตกใจนิ่งไปพักหนึ่งถึงเอ่ยขานชื่อนี้จากปากได้ บนตัวเขาเป็นชุดสำหรับผู้ป่วยสีขาวตัวใหญ่และบนหลังมือเสียบยาแก้อักเสบไว้อยู่ ราวเหล็กถูกเขาเคลื่อนมาด้วย เนื่องด้วยเมื่อสักครู่เขาเพิ่งไข้ขึ้นทำให้ใบหน้าขาวซีดขึ้นสีระเรื่อจางๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุด…
“ถังซ่งฉีดกล่อมประสาทให้คุณไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณถึงตื่นเอาตอนนี้ได้ล่ะ?” เธอวางผ้าขนหนูกับไดร์เป่าผมในมือลง
ในที่สุดเย่เซียวก็เริ่มแยกความจริงกับความฝันออกได้แล้ว พูดประชดเสียงเย็น “ผมไม่ได้นอนหลับไปตลอดกาล ทำให้คุณผิดหวังงั้นเหรอ?”
เป็นความจริงที่ยาสงบฉีดลงไปทำให้เขาหมดเรี่ยวแรง แต่ตั้งแต่เล็กจนโตผ่านการฝึกฝนสุดโหดมามากนักทำให้เขาประคองสติได้เป็นอย่างดี ยากล่อมประสาทแค่นั้นยังทำให้เขาหมดสติไม่ได้หรอก
ไป๋ซู่เย่ไม่อยากทะเลาะกับเขาเลยไม่ได้ตอบกลับเขา แค่ยกมือวัดอุณหภูมิหน้าผากเขา มืออ่อนนุ่มทาบทับเข้ามาพร้อมกลิ่นหอมประจำตัวเธอทำให้เขาหายใจติดขัดและรู้สึกสติวูบโหวงไปชั่ววูบ โดยเฉพาะบนกายเธอในเวลานี้ยังใส่ชุดนอนของเขาอยู่…
ผมยาวที่ทิ้งบนไหล่ลวกๆ…
ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้ามีเพียงเชือกตรงเอวที่ผูกไว้ไม่แน่นหนาเท่าไรเผยให้เห็นเอวคอดเล็กของเธอ บริเวณอกที่เปิดกว้างเผยให้เห็นไหปลาร้าแสนเซ็กซี่วับๆ แวมๆ ผิวขาวเนียนทั้งเย้ายวนและกระตุ้นอารมณ์
เธอไม่รู้หรือว่าการที่ผู้หญิงใส่เสื้อผ้าผู้ชายมันบ่งบอกอะไร? นั่นเป็นการยั่วยวนที่แนบเนียนและได้ผลดีที่สุด! หรือว่าคืนนี้เธอจงใจ!
เย่เซียวเกลียดความรู้สึกที่ถูกเธอปั่นหัว ขมวดคิ้วจับมือเธอที่ทาบหน้าผากลง กล่าวด้วยเสียงหงุดหงิด “ไสหัวไป! ให้เวลาคุณหนึ่งนาที หายไปจากสายตาของผม!”
แม้จะเป็นเพียงเสียงคำรามทุ้มต่ำแต่เสียงกลับแหบแห้งและฟังดูอ่อนแรงเล็กน้อย ในเมื่อยากล่อมประสาทก็ออกฤทธิ์อยู่บ้าง
มือของไป๋ซู่เย่ถูกเขาสะบัดทิ้งจนเธอครางฮึมด้วยความเจ็บที เผลอกุมนิ้วที่ถูกเขาหักเมื่อก่อนหน้าไว้โดยไม่รู้ตัว
หน้าผากสวยชื้นด้วยเหงื่อบางๆ
ขณะนั้นเย่เซียวเองก็เริ่มจับผิดสังเกตได้ เพียงแต่คิดว่าแรงสะบัดของเขาเมื่อสักครู่ไปโดนแผลยิงบนไหล่เธอเข้า สีหน้าคลายลงวินาทีเดียวแต่ก็รีบเกร็งใบหน้าในวินาทีถัดไป เอ่ยปากพูดเสียงเรียบ “ถ้าไม่อยากโดนอีกนัด ก็อย่ามารังควานผม!”
“ฉันสัญญากับถังซ่งว่าคืนนี้จะอยู่ดูแลคุณที่นี่” ไป๋ซู่เย่เก็บความรู้สึกเจ็บเมื่อกี้ไว้แล้ว สีหน้ากลับสู่ความเรียบนิ่งก่อนหน้า “คุณจะเข้าห้องน้ำใช่ไหม ถ้าใช่ เข้ามาสิ ฉันไปหยิบเครื่องวัดอุณหภูมิมาให้คุณ”
ปล่อยเย่เซียวเดินเข้าห้องน้ำ เธอหันหลังเตรียมเดินออกไปเพราะไม่อยากทะเลาะกับเขา สภาพร่างกายและพละกำลังของเขาไม่อนุญาต
แต่ขณะที่ทั้งคู่เดินสวนไหล่กัน เย่เซียวคว้าข้อแขนเธอไว้ด้วยมือเดียว “สัญญากับถังซ่งว่าจะดูแลผม คุณดูแลผมอย่างนี้เหรอ?”
สายตาของเขากวาดมองผ่านตัวเธอ “วิ่งโร่มาที่ห้องผมในสภาพผมเปียกปอน เปลี่ยนเป็นชุดนอนของผม รัฐมนตรีไป๋ ขอถามคุณสักประโยคสิ นี่กำลังดูแล หรือว่า…กำลังยั่ว?”
คำสุดท้ายเขากัดฟันแน่น
ไป๋ซู่เย่รู้ว่าเขาแค่อยากพูดเหยียดหยามตนอีก ไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะ หัวเราะอย่างน่าหลงใหล “ที่แท้คุณเย่เซียวยั่วง่ายขนาดนี้เชียว แค่ใส่เสื้อผ้า ไม่ต้องทำอะไรก็ยั่วคุณได้แล้วเหรอ?”
“ไม่ได้จริงๆ!” เย่เซียวโอบเอวด้านหลังเธอไว้กระชับแขนรั้งตัวเธอเข้าไปใกล้ บนตัวเขาเต็มไปด้วยกลิ่นยารุนแรงรวมถึงกลิ่นคาวเลือด ไป๋ซู่เย่มุ่นคิ้วเพราะเป็นห่วงว่าเขาจะใช้แรงเกินไปจนกระตุกโดนแผลอีก ได้แต่ยืนตัวเกร็งไม่กล้าขัดขืน เขามองเธอด้วยสายตาเย้ยหยัน เสียงแหบแห้งพ่นถ้อยคำร้ายกาจออกมา “เหมือนคราวก่อน ถอดเสื้อผ้าคลานขึ้นบนเตียงผมเอาใจผม บางทีผมอาจจะยอมมองคุณอีกสักหน่อย”
ไป๋ซู่เย่ยังคงยิ้มมองเขา “ฉันรู้”
เย่เซียวใจว้าวุ่นเพราะรอยยิ้มของเธอ “คุณรู้อะไร?”
“รู้ว่าตอนนี้คุณก็ได้แค่มองเท่านั้น เจ็บขนาดนี้ทำอะไรก็ไม่ได้ ใครยั่วคุณก็แค่เป็นการเสียแรงเปล่า ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น”
“ไป๋ซู่เย่!” เย่เซียวกัดฟันกรอด ผู้หญิงคนนี้กำลังดูถูกเขา?
……………………………