บทที่ 1876 - มีใครบางคนในมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์กำลังตามหาเจ้า

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1876 – มีใครบางคนในมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์กำลังตามหาเจ้า
  พลังที่บังเอิญได้รับมาใหม่ช่างเป็นสิ่งที่ดีจริงๆแม้จะต้องเผชิญหน้ากับมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ ชิงสุ่ยก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
  ”กลับเขาเรื่องของพวกเรากันดีกว่าข้ายังไม่ได้กินอะไรเลย นี่ก็ถึงเวลาอาหารแล้วเดี๋ยวข้าไปจัดเตรียมอาหารให้กับพวกเจ้าเอง”ชิงสุ่ยยิ้มและพูดคุยกับคนอื่นๆ
  ”เจ้าจริงจังกับการรักษานายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวจริงๆหรือนี้?”ฉินชิงถามด้วยความสับสน
  ชิงสุ่ยพยักหน้า”ก็อย่างที่ข้าบอกไป ข้าตั้งใจรักษาเขาจริงๆ”
  ”แต่ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ทำการรักษาให้กับคนไม่ดี?”ฉินชิงกำลังสับสนในสิ่งที่เห็น
  ”ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือเลวพวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์มนุษย์ทุกคนก็วนกระวายหาเหตุผลที่จะอยู่รอด พวกเราเป็นหมอ มีหน้าที่รักษาคนไข้ ถ้าเจ้าลองมองภาพที่กว้างขึ้น ห่วงโซ่อาหารก็มีพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของมัน แม้ว่าเราจะเป็นเหยื่อของผู้อื่น แต่เราเลือกที่จะหยุดวงจรห่วงโซ่อาหารนี้ได้ ในอดีตที่ผ่านมา ตัวข้านั้นจิตใจคับแคบ มองเห็นเพียงแค่มิตรและศัตรู……แต่เมื่อเราเปิดใจกว้าง ข้าถึงเข้าใจ และเลือกที่จะรักษาเขาแทน”
  ฉินชิงไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ชิงสุ่ยพูดแต่เธอรับรู้ได้ถึงขอบเขตพลังที่เพิ่มขึ้นในตัวชิงสุ่ย แม้ว่าชิงสุ่ยจะมองนายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวไม่ใช่ศัตรู แต่สำหรับนายน้อยฮัว ชิงสุ่ยก็ยังคงเป็นศัตรูของเขาอยู่ดี
  ”เอาล่ะหยุดคิดเรื่องนี้ ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี แม้ท้องฟ้าจะพังทลายข้าก็ยังคงยืนยันจะช่วยเหลือพวกเจ้า”ชิงสุ่ยคว้ามือของเธอและพาเดินออกไปข้างหน้า
  ฉินชิงยิ้ม”วันนี้เป็นวันที่ข้าไม่เข้าใจเจ้ามากที่สุด”
  ”ในอนาคตเมื่อเราอยู่ด้วยกันข้าจะทำให้เจ้าเข้าใจ โดยเฉพาะร่างกายของข้า”
  ฉินชิง”…………………”
  ……………………………………………..
  ทันทีที่ปัญหาจบลงหอคอยจักรพรรดิก็กลับคืนสู่ความวุ่นวาย อวี้เนียงและเทียนยี่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ลูกๆของทั้ง 2 แบบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ละคนล้วนมีปัญหาและวิธีการแก้ไขของตนเอง แม้ว่าครอบครัวนี้จะใช้ชีวิตอยู่ภายในหอคอยจักรพรรดิ แต่พวกเขาก็มีทางเลือกเป็นของตน
  เด็กน้อยคนแรกที่ตามติดอวี้เนียงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในขณะที่ทั้งสองคนให้กำเนิดลูกน้อยอีก 3 คน
  ชิงสุ่ยมองดูทุกคนที่กำลังมีความสุขโดยไม่ทันสังเกตว่าเวลาล่วงเลยไปนานเขาไม่กล้าคิดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะการกระทำในอดีตเกือบทำให้ทุกคนตกอยู่ในสภาวะขับขัน หากว่านายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวบ้าพลังเลือกที่จะสังหารทุกคน ชิงสุ่ยคงจะต้องเสียใจเป็นอย่างมาก
  บ่อยครั้งที่เราไม่อาบคาดเดาการตัดสินใจของผู้อื่นได้เช่นเดียวกับตอนที่ชิงสุ่ยลงมือทำร้ายและไว้ชีวิตนายน้อยที่สอง วันนี้เขาเลยตัดสินใจที่จะทำการรักษาสิ่งที่ผิดพลาด ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ก็ตาม
  ……………………………………
  ชิงสุ่ยเลือกที่จะพักอยู่ในหอคอยจักรพรรดิในขณะที่หญิงสาวอีกหลายคนเลือกพักอยู่ที่นี่ต่ออีกสักช่วงหนึ่งก่อนจะเดินทางกลับไปยังพระราชวังอาทิตย์อัสดง
  ในวันนี้นายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวได้เดินทางกลับมาเพื่อทำการรักษา เขายืนยันว่าจะมาที่นี่ทุกวันจนครบกำหนด 2 เดือน โดยที่วันนี้ก็เป็นวันที่ 5 แล้ว
  นายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวเดินทางมาพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเขารู้สึกภูมิใจและมีความสุขมากกว่าทุกๆวัน เสื้อผ้าภายนอกของเขาได้เปลี่ยนจากเสื้อผ้าผู้หญิงกลับคืนสู่เสื้อผ้าผู้ชาย แต่เขาก็ยังคงความแข็งแกร่งและความสวยงามเอาไว้เหมือนเดิม
  ”ข้ารู้สึกว่าร่างกายของข้าเปลี่ยนแปลงตลอดในช่วง5 วันนี้”นายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวนั่งลงหลังจากกล่าวทักทายชิงสุ่ย
  หลังจากได้พูดคุยกันช่วง2-3 วันแรก ทั้งสองคนเริ่มคุ้นชิน เหมือนคำพูดที่ว่าสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นนายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวก็ไม่ใช่นายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวที่หยิ่งผยองอีกต่อไป เขาละทิ้งตัวตนในอดีต เปลี่ยนแปลงนิสัยใจคอ กลายเป็นคนใหม่ที่ไม่น่ารำคาญเหมือนคนก่อน
  ชิงสุ่ยยิ้ม”ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนั้น? หรือว่าเจ้าเพิ่งผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่”
  ”คนเราต้องเปลี่ยนแปลงตนเองในบางจุดหากไม่เปลี่ยนแปลง ก็จะต้องเผชิญหน้ากับการถูกทอดทิ้ง หากครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราเจอกันก็คงจะดี”นายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล มันเป็นน้ำเสียงที่ผู้คนไม่อาจแยกแยะอารมณ์ภายในจิตใจของเขาได้
  ”บางทีชีวิตของคนเราก็ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวมากมาย เมื่อไหร่ที่เราเข้าใจในโอกาส โอกาสก็จะมาถึง”ชิงสุ่ยยิ้มและตอบกลับ
  ”จริงอย่างที่จะว่าเออ ดูเหมือนจะมีใครบางคนจากมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์กำลังตามหาเจ้าอยู่” “นายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
  ชิงสุ่ยไม่รู้สึกแปลกใจมันเป็นเรื่องปกติที่คนของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์จะออกตามหาเขา และจุดประสงค์ของพวกมันก็คงเป็นการบีบบังคับให้เขาคอยรับใช้มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์
  ”คนคนนั้นน่าจะเป็นเจ้าใช่หรือไม่?”ชิงสุ่ยจ้องนายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัว  ”ยังมีคนอื่นอีกเพียงแต่เขาคงกำลังติดธุระอยู่”นายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวกล่าวตอบอย่างเชื่องช้า
  ชิงสุ่ยเข้าใจดีว่านายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวกำลังพยายามสร้างสัมพันธไมตรีเขาจึงได้เอ่ยปากข่าวเรื่องราวตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อให้ชิงสุ่ยได้เตรียมตัว
  ”เจ้าพอจะรู้เหตุผลหรือไม่ว่าทำไมมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ถึงได้กำลังตามหาข้า?”ชิงสุ่ยถามต่อเผื่อจะได้คำตอบ
  ”ประการแรกพวกเขาต้องการให้เจ้าคอยรับใช้มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ และประการที่สอง ภายในมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ มีคนที่อยากให้เจ้ารักษา”
  ชิงสุ่ยยังคงนิ่งเงียบทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดคิด ปัญหาเรื่องการรักษาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ผู้ฝึกตนบางคนก็เป็นโรคเร้นลับที่ไม่มีผู้ใดรักษาได้ เมื่อเจอข่าวลือเรื่องหมอเทวดาสามารถรักษาอาการเจ็บปวดได้ พวกเขาก็พร้อมที่จะขอความช่วยเหลือ  หลังจากทำการรักษานายน้อยที่สองแห่งตระกูลฮัวเสร็จสิ้นชิงสุ่ยก็เดินไปส่ง
  ชิงสุ่ยไม่ได้รู้สึกเกลียดชังนายน้อยที่สองคนนี้เลยก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยก็เคยกังวลเรื่องมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง แต่หลังจากที่พลังของเขาพัฒนา มหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ก็ไม่น่ากลัวต่อไป