ตอนที่ 704 : หน้ากากเหล็กผมขาว
ท่ามกลางเสียงหัวเราะและการสนทนา จิตใจของเย่ฉางนั้นรู้สึกอบอุ่น เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมาและมองดูคนของเขาที่กําลังพูดคุยเกี่ยวกับบทละคร แต่เมื่อริมฝีปากของเขาจิบชา คลื่นของความเย็นยะเยือกก็ไหลผ่านร่างกายของเขา และไม่สามารถรับรู้ถึงความร้อนจากภายในถ้วยชาได้ราวกับว่ามีมือสีดําอยู่ข้างหลังกําลังดึงเขาเข้าไปในเหวที่ไร้สิ้นสุด เขาไม่มีพลังที่จะต่อต้านหรือดิ้นรน ด้วยความสิ้นหวังดวงตาของเขาหลั่งน้ำตาออกมา ขณะที่เขาจับจ้องไปที่กลุ่มอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในอีกเสี้ยววิต่อมาเย่ฉางฟื้นคืนความรู้สึกของเขาและเช็ดน้ำตา เขาแสร้งยิ้มและจิบน้ำชา ในขณะที่นั่งบนเก้าอี้โยกเหมือนผู้เฒ่าที่สนุกกับชีวิตหลังเกษียณอายุ
สุดท้ายเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับบทละครมากเกินไป พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะทําสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาต้องการยกเว้นการอยู่เบื้องหลัง เย่ฉางมองดูบทสรุปโดยรวม มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของสามก๊ก แต่เห็นได้ชัดว่ามีวีรบุรุษ และปีศาจในเรื่องด้วยซึ่งรวมไปถึงสโนว์ไวท์
ณ.อเวจี (นรกไร้สิ้นสุด)
ชายผมขาวสวมหน้ากากเหล็กเปิดดวงตาของเขาอย่างช้าๆ หลังจากที่อวัยวะทั่วร่างกายของเขาถูกหนอนกัดกิน “ถ้าฉันให้เวลากับนายมากพอ นายอาจจะท้าทายโชคชะตาได้ แต่นายเป็นเพียงแค่จินตภาพของฉัน นายเป็นโคลนที่ทํามาจากจิตวิญญาณของฉัน เรานั้นเป็นร่างเดียวกัน แต่นายกลับพยายามที่จะลืมซินหยู่”
ทันใดนั้นเขาก็โกรธ “ทําไมกัน?! นายลืมสัญญาที่เราให้ไว้งั้นเหรอ?! คําสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป! ทําไม?!”
ในเวลานี้แฟรี่สวมชุดสีขาวในนรกไร้สิ้นสุดก็ได้เห็นกลิ่นอายของปีศาจที่เกิดจากความโกรธแค้นของเขา ในไม่ช้าสถานที่ทั้งหมดก็กลับสู่ภาวะปกติ และชายผมสีขาวก็ก้มหัวลง “นายเป็นเพียงแค่ร่างโคลนของฉัน! แต่นายไม่ใช่ฉัน! แม้ว่าจิตวิญญาณของฉันจะดับสลายไป แต่ฉันก็จะไม่ยอมให้นายกลับสู่ร่างกายของฉัน นายไม่คู่ควรที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของฉันอีกต่อไป…”
“คุณ…” แฟรี่ลอยลงมาต่อหน้าชายคนนั้นและพูด “ที่จริงแล้วฉันเชื่อว่าคุณนั้นคงเข้าใจดี แม้ว่าคุณจะสามารถเปิดหนังสือแห่งความหวังได้ก็ตาม แต่สิ่งต่างๆมันก็ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อยู่ดี”
“แล้วไง? ฉันอยากจะลบการดํารงอยู่ของฉันมากกว่าที่จะอยู่ในโลกที่ไม่มีเธอ…” เขาหลับตาลงทันทีที่พูดจบ และไม่ได้วางแผนที่จะตอบคําถามอีกต่อไป
แฟรี่มองไปที่หน้ากากเหล็กของเขาด้วยความเศร้าโศก และรู้สึกเจ็บที่บริเวณหน้าอก “หน้ากากนี้ป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกมา และชะลอการถูกนรกไร้สิ้นสุดกลืนกิน”
ที่บ้านหลังเล็กริมชายหาดในเวลาเที่ยงคืน
หลังจากแต่งเพลงใหม่ และคิดท่าเต้นเสร็จแล้ว เย่ฉางก็บิดขี้เกียจและเดินมาที่ระเบียง เขาพิงพนักด้วยข้อศอก และจ้องมองออกไปที่ทะเลภายใต้แสงจันทร์ “เทศกาลตรุษจีน ฤดูกาลของการเตรียมลั่งเปามาถึงอีกครั้งแล้ว ช่างวุ่นวายเหลือเกิน” หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่าง เขาจึงตัดสินใจเข้าสู่โลกเสมือนจริงเพื่อเดินเล่น “ฉันอยู่ในเกมมานานแล้ว มันนานมากแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ฉันอยู่ที่นี่ เขาปรับเสื้อผ้า, ปัดชุดทักซิโด้, ผูกผมของเขา และเทเลพอร์ตไปที่สโมสร ซึ่ง ThornyRose และคนอื่นๆกําลังฝึกซ้อมกันอยู่ เย่ฉางยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์และยิ้ม “เธอเป็นคนขยันจริงๆ” จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นนักดาบประกายแสง
พวกผู้หญิงต่อสู้กันอย่างหนักในโหมด 5v5
ทันใดนั้นพวกเธอก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับการไหลของเวลา พวกเธอเห็นหยดเหงื่อลอยอย่างช้าๆอยู่ตรงหน้า และการเคลื่อนไหวของพวกเธอช้าลง จากมุมสายตาของ ThornyRose เธอเห็นเงาที่คุ้นเคยเข้าสู่เวทีฝึกซ้อม จากนั้นเขาก็กลายเป็นลําแสงที่พริ้วไหวไปมาและได้ยินเสียงกรี้กของดาบที่เก็บเข้าไปในฝัก หญิงสาวทั้งสิบคนถูกแทงที่คอหรือที่หัวใจ ก่อนที่พวกเธอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เวลาก็กลับสู่สภาพปกติ และเลือดก็สาดกระเซ็นออกมา
เมื่อ ThornyRose ที่เพิ่งฟื้นคืนชีพกําลังจะด่าว่าเขา เย่ฉางก็ออกจากสโมสรไป “ไอ้เวรนี้!”
“พี่สาวโรส เราสามารถจํากัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมของเขาได้หรือไม่?” GreenDew ถาม
“มันเป็นไปไม่ได้! เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของที่นี่!” ThornyRose กัดฟัน
เย่ฉางมาถึงที่ถนนอย่างรวดเร็ว และซ่อนช่องข้อความของ ThornyRose ลงไป จากนั้นเขาก็เดินไปรอบๆอย่างมีความสุข เหมือนสุนัขที่แกว่งหางไปมา
ในทางกลับกันหลินเซ็นกําลังฝึกสอนหลินหลีในความฝันของเขา
“เฮ้ มีสระน้ำสีน้ำเงินอยู่ตรงนั้น!” หลินหลี่เห็นสถานที่ที่ดูเหมือนสระน้ำจากที่สูง
“นั่นไม่ใช่สระน้ำธรรมดา! นั่นคือจุดพลังงานที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง นายต้องขอบคุณพี่ชายผมขาวของนายนะ หากมีการใช้สระเพลิงเหมันต์นี้อย่างชาญฉลาด มันจะเป็นประโยชน์ต่อนาย แต่จะเป็นผลร้ายกับศัตรู มันร้อนดั่งไฟและเย็นดังน้ำแข็ง อุณหภูมิสระนั้นต่ํามาก แม้แต่การสัมผัสเพียงนิดเดียวก็ทําให้นายเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส!” หลินเซ็นที่มีผมสีขาวและตาสีแดงจ้องมองไปที่ทะเลแห่งดวงดาวอันไร้สิ้นสุด เจตจํานงของหลินหลี่เกือบที่จะเหมือนกับหลินหลินมาก! มันเป็นเพราะว่าไอ้เจ้านั่นมีต้นไม้สวรรค์และคัมภีร์บาป! อิ่ม! ฉันสงสัยว่า ตอนนี้เขากําลังทําอะไรอยู่นะ?” จากนั้นเขาหันไปรอบๆเพื่อดูหลินหลีกระโดดลงในสระน้ำด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า และถึงกลับตกตะลึงไปชั่วครู่ เมื่อเห็นหลินหลี่กําลังพักผ่อนอย่างสบายในสระ ภาพของลูกตัวเองพุ่งทะลุผ่านจิตใจของเขา จากนั้นเขาก็วิ่งเข้าไปหาหลินหลี่อย่างรวดเร็ว
ณ.ดินแดนแปลกๆบางแห่ง
“เด็กน้อยแห่งนิกายสวรรค์ลี้ลับถือดียังไง ถึงกล้าบุกรุกเข้ามาในวิหารมืดลี้ลับของฉัน” นักบุญดาบเสื้อคลุมสีดําจ้องไปที่ชายหนุ่มผมสีขาว ลึกเข้าไปภายในใจ เขารู้สึกตกใจมาก ชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถที่ยิ่งใหญ่ในวัยเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?! เขายังเป็นผู้นํานิกายด้วยงั้นเหรอ?!” “เฮ้ เด็กน้อย! นายเป็นใครกัน?”
“ฉันเป็นผู้นํานิกายสวรรค์ลี้ลับ – หลินหลิน” หลินหลินยิ้มอย่างไร้เดียงสาและสุภาพ สาวกที่อยู่ด้านหลังของเขาประกอบไปด้วย ผู้อาวุโส, เด็ก และมนุษย์ปีศาจ พวกเขาต่างก็เซถอยไปข้างหลังเมื่อได้ยินปีศาจเสื้อแดงตะโกน “เฒ่าสวรรค์คลั่ง! เห็นแก่ที่เราเคยดื่มด้วยกันครั้งหนึ่ง รีบคุกเข่าและแสดงความเคารพต่อ อาจารย์ เร็วเข้า! เขาอาจจะพิจารณาไว้ชีวิตคุณ! ฉันเชื่อว่าคุณไม่ต้องการทราบผลของการต่อต้านจะเป็นเช่นไร!”
“ปีศาจภูเขาทมิฬ?! คุณว่าไงนะ” เฒ่าสวรรค์คลั่งมองคนที่กําลังพูดอย่างระมัดระวัง
“เหอะ! ฉันไม่ได้ชื่อปีศาจภูเขาทมิฬอีกต่อไปแล้ว ภายใต้อิทธิพลของผู้นํานิกายสวรรค์ลี้ลับที่หล่อเหลาและยอดเยี่ยม ฉันเป็นแค่สาวกคนที่ 36! ดังนั้นกรุณาเรียกชื่อฉันว่า “ปีศาจ..” เอ๊ะ!”
ทันใดนั้นปีศาจที่รู้จักกันในชื่อปีศาจภูเขาทมิฬก็ตกลงมาบนพื้น และกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่โดนวัชระกระแทกใส่ เฒ่าสวรรค์คลังตกใจมาก เขาถูกโจมตีได้อย่างไร!”
“นายพูดมากเกินไปแล้ว! ฉันเกลียดคนที่พล่ามมากที่สุด!” ในขณะที่หลินหลินกํามือ วัชระก็กลับลอยกลับไปที่มือของเขา เขาจ้องมองไปที่สาวกวิหารมืดลี้ลับอีกครั้ง ขณะที่เขาเดินไปหาพวกเขา และรักษารอยยิ้มที่ไร้เดียงสาเอาไว้
ในขณะที่สมาชิกของสํานักเข้มแห่งสวรรค์กลืนเข้ามาความเย็นก็ท่วมท้นไปทั่วทั้งศาลทันที
ในขณะที่สาวกนิกายสวรรค์ลี้ลับกลืนน้ำลาย ครูต่อมาก็ได้ยินเสียงโหยหวน และเสียงกรีดร้องขออภัยดังออกมา
ตัดฉากกลับไปที่บ้านหลังเล็กในหลินไห่
จางเจิ้งเฉียงสังเกตเห็นล็อกพันธุกรรมตัวใหม่ปรากฏขึ้นมา แต่เขาไม่กล้าทําลายมัน เพียงความหนาวเย็นจากมันก็เพียงพอแล้วสําหรับเขาที่จะไม่ผลีผลาม “ฉันจะจัดการกับมันเมื่อฉันปลดล็อคอันที่ห้าเสร็จแล้ว ฉันสงสัยว่าเพื่อนอยู่ในระดับไหนแล้ว?” แม้แต่จางเจิ้งเฉียงก็ไม่ทราบว่าเย่ฉางได้ปลดล็อกยืนไปถึงระดับไหนแล้ว สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือเย่ฉางนั้นน่ากลัวมาก “เขาน่ากลัวมากตอนอยู่ในนิกายดาบสวรรค์ในแง่ของการฟื้นฟูเซลล์ และความเร็วในการเคลื่อนที่อย่างน่าเหลือเชื่อ ราวกับว่าเขาไม่สามารถถูกฆ่าได้ และความแข็งแกร่งของเขาก็ยิ่งใหญ่ราวกับเทพเจ้า เมื่อไหร่ฉันจะเป็นเหมือนเขาได้นะ? ในสักวันฉันต้องปกป้องเพื่อนของฉันให้ได้! ฉันไม่สามารถให้เขาปกป้องฉันได้ตลอดกาล เขาทรมานเพราะพี่สาวกับฉันมามากพอแล้ว…”