บทที่ 620 การประชุม (9)
เฟฮี ถาม อีเรน ว่าทำไมเขาถึงร้องไห้ อีเรนรีบเช็ดน้ำตาของเขาและรีบตอบเธอกลับไปว่าเขาไม่ได้ร้อง เฟฮียกยิ้มแล้วมองดาบของ อีเรนที่ผูกติดอยู่ที่เอวของเขา อีเรนเห็นดังนั้นจึงค่อยๆหันดาบไปทางด้านหลังของเขาช้าๆ
เฟฮีถามขึ้น“ เธอชื่ออะไร”
อีเรน ตอบว่า“ กระผมชื่อ อีเรนขอรับ เป็นอัศวิน”
“ฉันรู้ ฉันเคยได้ยินเรื่องของเธอมาบ้างแล้ว”
เจ้าหญิงพยักราวกับว่าการพบกันของพวกเขาเป็นเรื่องบังเอิญ ในความเป็นจริง มีข่าวลือเกี่ยวกับอัศวินหนุ่มชื่อ อีเรน ที่ได้รับการผลัดเปลี่ยนหน้าที่ในพระราชวังบ้างใมบางครั้ง แม้แต่โรเมโรผู้ติดตามของเฟฮีก็ชื่นชมอัศวินหนุ่มคนนี้ เขาเคยพูดว่า“ ถ้าเขาเกิดเมื่อ 10 ปีก่อน ชะตากรรมของอาณาจักรของเราคงจะเปลี่ยนไป”
เฟฮีโลภมาก เธอต้องการอัศวินที่แข็งแกร่งที่สามรถร่วมทางไปกับความใฝ่ฝันของเธอได้
“ ฉันได้ยินมาว่ามาสเตอร์ของเธอป่วย”
เฟฮีถาม เวลานี้อีเรนรู้สึกลังเลที่จะตอบคำถามนั้น
“…”
แม้ว่าเขาจะยังคงนิ่งเงียบแต่อีเรนไม่สามารถอดทนที่จะรอปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ Puharen ผู้ซึ่งเขาสาบานว่าจะจงรักภักดีได้ยอมแพ้ต่อการรักษาของมาสเตอร์ คนรับใช้ของ Puharen เข้ามาหาเขาด้วยตัวเองและพูดว่า“ เราขาดเงินทุนและเวลา”
อีเรน รู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องเข้าใจ เนื่องจากอาจารย์ของเขาเข้าใจในจุดนั้นอีเรนก็ต้องทำเช่นกันเช่นกัน
เฟฮีถามอีกครั้ง “ เขาป่วยหรือไม่? ฉันยังไม่ได้คำตอบเลย”
“ …เขาป่วยขอรับ” อีเรนพยักหน้า
เฟฮีเปิดประตูห้องที่อีเรนเพิ่งเดินออกมาโดยมีอีเรนเดินตามเจ้าหญิงเข้าไปติดๆ
“…”
เฟฮี มองมาสเตอร์ของ อีเรน ที่นอนอยู่บนเตียงของเขา เธอรู้จักอัศวินที่ตอนนี้เเห้งเหี่ยวจนแนบติดกระดูกคนนี้
‘จินเคนส์.’
อัศวินยศเล็กๆที่มีข้อจำกัดที่เห็นได้ชัด เขาเริ่มต้นในระดับล่างๆและอยู่ระดับนั้นจนตลอดชีวิตของเขา ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังถือว่าเขามีประโยชน์ เพราะเขาได้นำเด็กชายผู้มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมคนนี้มาสู่เมืองหลวง
“ฉันรู้จักเขา จินเคนส์ คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์”
เฟฮีจ้องมองจินเคนส์
“ ฉันได้ยินมาว่า เขารับใช้ราชวงศ์มาเกือบ 20 ปีแล้ว ฉันแน่ใจว่าอดีตกษัตริย์จะจำเขาได้เช่นกัน….”
เมื่อเสียงของ เฟฮี เริ่มนุ่มนวลลง ความหวังของ อีเรนเหมือนได้ถูกจุดประกายมากยิ่งขึ้น บางที เฟฮี อาจช่วยมาสเตอร์ของเขาได้
‘ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันควรขอความช่วยเหลือจากเธอ หรือฉันควรรอให้เธอพูดก่อนกัน?’ อีเรนสงสัยในใจ
แต่แล้วหลังจากนั้น
ทันใดนั้นเจ้าหญิงก็หันกลับมามอง อีเรน
“ อัศวินหนุ่มเอ๋ย”
“…พะยะค่ะฝ่าบาท.”
อีเรนคุกเข่าต่อหน้าเจ้าหญิงและก้มหน้าลง เฟฮี สามารถรู้สึกได้ถึงความคาดหวังและความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นจาก อีเรน เจ้าหญิงผู้เขี้ยวลากดินซ่อนรอยยิ้มของเธอและพูดต่อด้วยท่าทางที่เด็ดเดี่ยว
“ ฉันจะช่วยเธอเอง”
“… !”
ในขณะนั้นหัวใจของ อีเรน เต้นแรงขึ้นไปด้วยความดีใจ เงื่อนไขที่ตามมา – แต่หากเธอสัญญาว่าจะรับใช้ฉันนับจากนี้เป็นต้นไป – ก็จะถูกมองข้ามไปอย่างง่ายดาย
อีเรน มองไปที่ เฟฮี ภายใต้แสงจันทร์สีซีด เจ้าหญิงน้อยผู้นี้กำลังส่องแสงสีเงินสุกใสเสมือนดาวแห่งความหวังของเขา
**
[โลก – เกาหลี]
ผมส่งพิกัดหอคอยแห่งปาฏิหาริย์ไปให้ยูยอนฮา หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ยูยอนฮาจึงเปลี่ยนเป็นการสนทนาทางวิดีโอแทน หน้าจอขนาดใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาเต็มไปด้วยใบหน้าของ ยูยอนฮา ผมรีบลดขนาดหน้าจอลงทันที
– ทำไมที่นี่ทุกอย่างดูกระทันหันไปซะหมด? มันคือหอคอยแห่งปาฏิหาริย์ ใช่มั้ย?
ยูยอนฮา ขมวดคิ้วแน่นพลางชี้ไปที่พิกัดที่ผมเพิ่งส่งไป เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่เข้าใจถึงความต้องการของผม
“ เมเดีย อยู่กับฉัน ตอนนี้”
ผมปรับมุมของ smartwatch เพื่อให้เห็นเมเดีย เมเดียยิ้มบางๆและโบกมือ ยูยอนฮา สะดุ้ง
– อะไร … ทำไม เมเดีย ถึงอยู่ทีนั่น …
“ เมเดียนำจดหมายอย่างเป็นทางการจาก ครีบวอน มาให้ฉัน เธอควรอ่านมันก่อน “
ผมสแกนจดหมายด้วย smartwatch แล้วส่งไปที่ ยูยอนฮา ยูยอนฮาเบิกตากว้างหลังจากอ่านจดหมายก่อนที่ผมจะเริ่มอธิบายซะอีก เธอเข้าใจอะไรได้รวดเร็วเช่นเคย
-…นี่.
“ใช่. เธอเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นใช่มั้ย”
โทเมอร์เขียนไว้ในจดหมาย“ ราชินีอราฮาผู้พิชิตชั้นที่ 9 ได้ประกาศครีบวอนเป็นจักรวรรดิและกลายเป็นจักรพรรดินี เธอต้องการที่จะช่วยคุณ แต่ในหอคอยไม่มีพลังที่จะทำให้เราสามารถใช้สำหรับการลงไป โลกของคุณมีพลังนนั้นหรือไม่?”
และพลังนั้น มันมีอยู่บนโลก
– คุณคิดจะใช้มิติเอนโทรปีหรอ?
“ถูกตัอง”
ผมหักนิ้วดังกร๊อบ
[มิติเอนโทรปี]
“ ถ้าเราส่งผ่านพลังงานไปที่หอคอย เราจะสามารถสร้างเส้นทางชั่วคราวได้”
– อืม…ให้เวลาฉันสักครู่
ยูยอนฮา ในหน้าจอเริ่มคิดอย่างถี่ถ้วน นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีฟ้าและเส้นผมของเธอได้ยาวตั้งตรงเหมือนกำลังหยุดนิ่ง ทั้งหมดนี้เกิดจากทักษะพิเศษของ ยูยอนฮา ที่เพิ่มความสามารถในการคิดอย่างมีลอจิค
ประมาณ 3 นาทีต่อมา
– ฉันไม่รู้ว่ามันจะทำงานไหม เพราะฉันไม่มีข้อมูลเพียงพอ ฉันไม่สามารถคำนวณได้อย่างถูกต้อง … แต่ฉันคิดว่านี่เป็นทางเลือกเดียวของเราและ…ฉันจะทำมัน.
ยูยอนฮา พยักหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว ผมเหลือบไปมอง เมเดีย
“ เมเดีย โปรดกลับไปที่ ครีบวอนและปรับเวลา”
ก่อนที่จะทำการอัญเชิญครั้งใหญ่แบบนี้ เวลาของเราจะต้องสอดคล้องกับ ครีบวอน และ ครีบวอน ยังต้องการเวลาในการเตรียมกองทัพให้พร้อมด้วยเช่นกัน
“ …มันจะสำเร็จใช่ไหม?”
เมเดีย ถามด้วยความสงสัย
ผมจึงพยักหน้าตอบกลับไป.
“ ใช่ มันจะสำเร็จแน่นอน แต่คุณต้องรีบไป”
เรายังคงอยู่ภายใต้อิทธิพลของ ‘การสะสมโชค’ ของผม
นอกจากนี้ ผมยังมีโชคเหลืออยู่สำหรับการใช้งานครั้งสุดท้าย
“ โอเค ถ้าคุณแน่ใจแบบนั้น”
เมเดีย ท่องคาถาอย่างรวดเร็ว หลังจากบริบทนั้นซึ่งรวดเร็วมากจนฉผมเข้าใจผิดว่าเป็นกระแสลมด้วยซ้ำ เมเดีย ก็ได้หายตัวไปแล้ว
“….”
ผมสงบสติตัวเองลงด้วยการสูดหายใจลึกและหันมามองสปาร์ตันบนไหล่ของตัวเอง
“สปาร์ตัน”
-Pururu
สปาร์ตันอ่านความคิดของผมและพยักหน้าก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร
ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมยกยิ้มและสั่งคำสั่งของตัวเองดัง ๆอีกครั้ง
“ ไปหา ยูยอนฮา กันเถอะ”
**
[โคลอสเซียมของ วาสโก้ – สนามกีฬา]
“…”
“…”
ชอคจุนกยอง และ จินเซยอน จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าพวกเขาอย่างไม่วางตา
ที่ห้องบัลลังก์ที่เป็นที่สำหรับวาสซาโกโดยเฉพาะ สร้างขึ้นที่จุดสูงสุดของโคลอสเซียม นี่คือสิ่งที่ผู้ท้าชิงคนสุดท้ายจะต้องเผชิญหน้ากับ วาสโก้ ในระหว่างการดวลครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ชอคจุนกยอง และ จินเซยอนจ้องมองวาสโก้ อย่างสงบนิ่ง พวกเขาไม่รู้สึกถึงการถูกคุกคามหรือความหวาดกลัว แต่สับสนในลักษณะที่ปรากฏของ วาสโก้ เท่านั้น วาสซาโกไม่เพียงดูอ่อนแอเท่านั้น แต่เธอยังงดงามจนไม่เหมือนปีศาจเลยแม้แต่น้อย
เส้นผมสีฟ้าที่ค่อนข้างยาวของเธอปลิวเหมือนคลื่นในมหาสมุทร จมูกและปากของเธอกลมกลืนกันราวกับดวงจันทร์และดวงดาวบนท้องฟ้า และดวงตาของเธอเปล่งประกายราวกับว่าพวกมันมีแสงสว่างทั้งหมดของโลกอยู่ในนั้น
“… ฮึ่ม.”
ไม่มีคำใดที่จะบรรยายความงามนี้ได้อย่างเหมาะสม เธอรู้สึกว่าความมั่นใจของตัวเองหายไป จินเซยอน หันจ้องมองที่ ชอคจุนกยอง
สายตาของ ชอคจุนกยองจับอยู่ที่ วาสโก้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คำนึงถึงมารยาทหรือการควบคุมตัวเอง จินเซยอนหยิกชอคจุนกยองอย่างแรง แต่เล็บของเธอไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาได้
“ฉันชอบมาก”
ในเวลานั้น วาสโก้ ก็พูดขึ้นมาในที่สุด
“คุณชอบอะไรหรือ?”
จินเซยอน ถามอย่างระมัดระวัง วาสโก้ยกยิ้มขึ้นและแตะบนบัลลังก์สองครั้ง เก้าอี้ที่ทำโดยแบล็กโลตัสซึ่ง ชอคจุนกยองยกให้ให้กับ วาสโก้ (?)
“ เก้าอี้ตัวนี้ ฉันชอบมันมาก.”
วาสซาโกพึงพอใจกับมันอย่างแท้จริง จินเซยอนพยักหน้าแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
——————–2——————–