บทที่ 642 แผนร้าย

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 642 แผนร้าย
“คุณชายใหญ่ของตระกูลเปาทำตัวเหมือนเด็กเล่นหายของเกินไปแล้ว การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต จะหนีไปง่าย ๆ อย่างนี้ได้อย่างไร? และสองพ่อลูกตระกูลเปาถกเถียงกันอยู่ในโมเมนต์วีแชท”

หวางซีรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เธอเข้าไปดูรายการคำค้นหายอดนิยมแล้ว การพบกันครั้งที่แล้วเธอรู้สึกว่าเปาเจิ้นเป็นคนขรึมมาก แต่นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เย่เซิ่งเทียนกล่าวยิ้มว่า “เท่าที่ผมรู้ หยางจิ้งของตระกูลหยางเป็นผู้หญิงที่ดุมาก เธอเพิ่งปลดประจำการจากกองทัพ มีนิสัยที่ดุร้าย ซึ่งชื่อนั้นไม่ตรงกับลักษณะนิสัยของเธอเลย ส่วนเปาจี้จู่เป็นเพลย์บอย นิสัยไม่เลว เพียงแต่เป็นคนที่ค่อนข้างจะเจ้าชู้”

“การที่เปาจี้จู่หนีการแต่งงานนั้นเป็นเพราะเขากลัวหยางจิ้ง ว่ากันว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง เปาจี้จู่ไปจีบผู้หญิงและบังเอิญไปพบกับหยางจิ้ง จึงถูกเธอเล่นงานอย่างหนัก ต่อมาทั้งสองครอบครัวได้จัดให้มีการนัดบอด เปาจี้จู่ถึงได้จำหยางจิ้งได้ และเขาก็ถูกเธอเล่นงานอีกครั้ง”

“คราวนี้การที่ตระกูลเปาและตระกูลหยางเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงาน มันจะทำให้ตระกูลเปาสามารถครอบครองตลาดยาทั้งหมดในเจียงหนานได้ แต่น่าเสียดายที่เปาจี้จู่ไม่เอาถ่าน ไม่สามารถปราบเสือสาวของตระกูลหยางได้ ซีเอ๋อร์ ถ้าคุณต้องการเข้าสู่ตลาดยา คุณสามารถติดต่อปาเจิ้นได้”

หวางซีส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “เรื่องนี้ช่างมันเถอะ ทางเขตเศรษฐกิจใหม่เฉียนถังยังก่อสร้างไม่เสร็จ ฉันยังไม่เข้าใจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มที่ ส่วนทางด้านภาพยนตร์และความบันเทิงทางโทรทัศน์นั้นเพิ่งจะเริ่มต้น ให้สองธุรกิจนี้มั่งคงก่อนดีกว่า เกรงว่าถ้าก้าวใหญ่เกินไปแล้วมันจะมีปัญหา”

การที่หวางซีสามารถคิดเช่นนี้ได้ ทำให้เย่เซิ่งเทียนไม่กังวลอีกต่อไป ตอนนี้ธุรกิจของบริษัทหัวหยวนมีขนาดใหญ่มาก และเขากังวลว่าหวางซีจะถูกผลประโยชน์มหาศาลบังตา และไม่สามารถมองเห็นวิกฤตที่อยู่ในตลาดได้

“จริงสิ! เมื่อสักครู่รั่วรั่วโทรมาบอกว่าบริษัทหัวหยวนได้รับการปลดล็อกแล้ว คราวนี้พวกเราเป็นหนี้บุญคุณเลขาเวินอีกครั้งแล้ว ส่วนทางหลี่ซื่อกรุ๊ปวางไว้ก่อน เลขาเวินช่วยเหลือพวกเรามามากแล้ว ตอนนี้ฉันเกรงใจที่จะไปขอความช่วยเหลือจากเขาอีก”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวเยาะเย้ย “หลี่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้รับปลดล็อกเช่นกัน แต่ต้องให้ตระกูลหลี่ได้รับบทเรียนบ้าง มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่หลาบจำ”

หวางซีถอนหายใจและกล่าวว่า “เดิมทีฉันคิดจะใช้โอกาสนี้เพื่อขยายหลี่ซื่อกรุ๊ปให้ใหญ่ขึ้น แต่พวกเขานั้นทำให้ฉันผิดหวังและเสียใจ นอกจากนี้ ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบหลี่เย็นหราน แต่ในเมื่อหลี่เย็นหรานมาขอโทษและยอมรับผิดกับพวกเราแล้ว คุณก็อย่าได้เอามาใส่ใจ เย็นหรานมีนิสัยเอาแต่ใจ ช่วงที่ผ่านมาเกิดเรื่องมากมาย ทำให้เธอโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก คุณเป็นพี่เขยก็ใจกว้างกับเธอหน่อย”

“ถ้าเธอสำนึกผิดจริง ๆ ผมก็ไม่ถือสาอยู่แล้ว”

เย่เซิ่งเทียนกล่าวอย่างไม่แยแส

เวลาตอนเย็น หายากที่หลี่เย็นหรานจะทำอาหารอยู่ในห้องครัว เธอบอกว่าต้องการแสดงความจริงใจในการยอมรับผิด

หลี่หลานทำได้เพียงให้เธอเป็นผู้ช่วย

เย่เซิ่งเทียนสังเกตเธอมาแล้วหนึ่งวัน พบว่าหลี่เย็นหรานไม่มีอะไรผิดปกติ เขาแอบสงสัยว่าหลี่เย็นหรานกลายเป็นคนดีแล้วจริง ๆ เหรอ?

ที่โต๊ะอาหาร หลี่เย็นหรานกล่าวว่า “พี่ซี ฉันช่วยซือซือติดต่อโรงเรียนอนุบาลดีที่สุดในเมืองโมตูแล้ว และฉันรู้จักผู้อำนวยการใหญ่ของโรงเรียนนั้น และตกลงกันเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้พวกเราเลี้ยงข้าวเธอสักมื้อก็พอแล้ว”

หวางซีไม่คิดมาก ไม่ว่าอย่างไรสถานศึกษาที่เมืองโมตูนั้นดีกว่าเมืองเฉียนถังอยู่แล้ว และแน่นอนว่าคนที่เป็นพ่อแม่ต้องการให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น

สิ่งที่ทำให้เย่เซิ่งเทียนประหลาดใจคือตอนนี้ทางตระกูลซ่งยังไม่ปฏิกิริยาใด ๆ พวกเขาสามารถข่มอารมณ์ไว้ได้จริง ๆ

ประจวบเหมาะที่เขายังไม่มีข้ออ้างที่จะใช้โจมตีตระกูลกู่ แต่ตระกูลซ่งกลับเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน นี่เป็นโอกาสดีที่จะจัดการกับตระกูลกู่

เพราะอย่างไรเสียตระกูลกู่ก็เป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลเก่าแก่ ถ้าเขาเป็นโจมตีโดยตรง จะทำให้เจ็ดตระกูลเก่าแก่ตื่นตระหนก ซึ่งมันไม่เป็นผลดีต่อประเทศต้าเซี่ย

จึงทำได้เพียงโจมตีทีละตระกูลเท่านั้น

ตอนนี้เขาคว้าช่องโหว่อย่างตระกูลซ่งเอาไว้แล้ว และเขาไม่เชื่อว่าตระกูลกู่จะไม่ติดกับ

ตอนนี้มีเพียงตระกูลกู่เท่านั้นที่รู้เบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับแม่ เย่เซิ่งเทียนต้องไปที่ตระกูลกู่สักครั้ง

และขณะเดียวกัน

อีกฝั่งหนึ่ง

ไอ้อู๋กำลังรายงานข่าวให้เหย้ซูหลิงทราบ

“คุณหนู หลี่เย็นหรานได้รับความไว้วางใจจากหลี่หลานและหวางซีแล้ว พรุ่งนี้หลี่เย็นหรานจะพาพวกเธอไปพบผู้อำนวยใหญ่ของโรงเรียนอนุบาล และเย่เซิ่งเทียนคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่านี่คือเกมต่อเนื่อง”

เหย้ซูหลิงกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “พรุ่งนี้ฉันจะเป็นคนลงมือเอง จะคอยดูว่าเย่เซิ่งเทียนจะทำลายเกมอย่างไร! ยาของหลี่เย็นหรานเตรียมพร้อมหรือยัง?”

ไอ้อู๋กล่าวด้วยความกังวลว่า “เตรียมพร้อมแล้ว เพียงแต่การที่คุณหนูจะลงมือด้วยตนเอง มันจะไม่ค่อยเหมาะสม? ฉันขอแนะนำว่าให้หลี่เย็นหรานเป็นคนทำแทนดีกว่า”

เหย้ซูหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “มีเพียงฉันลงมือจัดการตนเองเท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้เกมนี้สมบูรณ์แบบ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเมื่อหวางซีเห็นสามีและน้องสาวของเธอนอนด้วยกัน เธอจะไม่แยแส!”