บทที่ 428 ธงรบโลหิตจักรพรรดิ

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 428 ธงรบโลหิตจักรพรรดิ

หลิงตู้ฉิงใช้เวลา 3 เดือนเพื่อช่วยเหลียงเฟ่ยเอ๋อปรับแต่งหม้อเอกภพให้กลายเป็นสมบัติแห่งชะตาชีวิตของนาง

แน่นอนว่าหม้อเอกภพในตอนนี้รูปทรงของมันไม่บิดเบี้ยวเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว มันกลายเป็นหม้อสามขาธรรมดา ๆ

หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงก็ชี้แนะให้เหลียงเฟ่ยเอ๋อทำการบ่มเพาะต่อไป

สำหรับหลิงตู้ฉิง เมื่อเขาจัดการเรื่องของเหลียงเฟ่ยเอ๋อเสร็จ เขาก็นำแร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์ที่เขาแลกเปลี่ยนมาจากสีเป่ยเซียะขึ้นมา และหลอมรวมมันกับวัสดุพิเศษกว่าสิบรายการที่เขาเก็บรวบรวมมาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ

จากนั้นเขาก็เริ่มสร้างอาวุธให้กับหลิงว่านจุน

ในบรรดาลูก ๆ ของเขา เคล็ดวิชาที่เขามอบให้กับหลิงฟ่างหัวนั้นแย่ที่สุดหากเทียบกับลูก ๆ คนอื่น

ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงได้พยายามหาสิ่งของต่าง ๆ ที่สามารถพัฒนาทักษะในด้านมิติของนางอยู่เรื่อย ๆ

แต่ถ้าจะพูดถึงว่าใครที่ได้รับการช่วยเหลือน้อยจากเขาที่สุดตั้งแต่ที่ผ่านมาก็คือ หลิงยี่เทียน และ หลิงว่านจุน

แต่ก่อนหน้านี้ที่หลิงยี่เทียนได้รับผลึกดวงใจสวรรค์ไปแล้ว และเขายังช่วยปูทางในอนาคตให้หลิงยี่เทียน แถมเขายังจะเปิดการบรรยายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของหลิงยี่เทียน

ดังนั้นตอนนี้หลิงว่านจุนที่ได้รับความช่วยเหลือจากเขาเพียงแค่ที่เขาเคยถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้เพียงอย่างเดียว จึงกลายเป็นผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเขาน้อยที่สุดไปเป็นที่เรียบร้อย

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงจึงต้องหาอะไรบางอย่างมาเติมเต็มให้กับหลิงว่านจุน เพื่อไม่ให้พี่น้องคนอื่น ๆ ของเขาเหลื่อมล้ำไปมากกว่า

ดังนั้นการแก้ไขของหลิงตู้ฉิงก็คือการสร้างอาวุธวิเศษชิ้นนี้ให้กับหลิงว่านจุน ด้วยแร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้รับมาก่อนที่เขาจะเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ

หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงก็ใช้เวลาไปถึงครึ่งปี กว่าที่อาวุธของหลิงว่านจุนจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โม่หยูถังเองก็ได้แจ้งให้หลิงว่านจุนและหลิงยู่ชานทราบแล้วว่า พ่อของพวกเขาจะเปิดการบรรยาย ส่งผลให้ทั้งสองรีบกลับจากแนวหน้าทันที

นอกเหนือจากพวกเขาสองคนแล้ว หลิงว่านจุนยังหยุดการถอยกองทัพของเขามาอยู่ที่แนวหลังและนำเหล่าทหารหัวกะทิของเขาเองกว่า 190 นายติดตามเขากลับมาฟังการบรรยายของพ่อเขาด้วย

ซึ่งทหารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นแม่ทัพที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของหลิงว่านจุน ซึ่งนับได้ว่าพวกเขาเป็นกระดูกสันหลังของกองทัพมังกร

ส่วนทางด้านของหลิงยู่ชาน เขาเองก็พาภรรยาของเขา หมิงจู้ และพี่เขยของเขา หมิงซิ่ว กลับมาที่คฤหาสน์สราญรมย์ด้วยเช่นกัน

เมื่อหลิงว่านจุนมาถึงเมืองหลวง เขาจึงสั่งให้เหล่าแม่ทัพของเขาเองไปพักผ่อนเพื่อรอเวลาการบรรยาย และหลังจากนั้นพี่น้องที่เหลือทั้งหมดก็กลับมาที่คฤหาสน์สราญรมย์เช่นกัน

ขณะที่พวกเขาเข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์ หลิงว่านจุนก็เห็นมี่ไลและรีบตะโกนว่า “ป้ามี่ ท่านพ่อของข้าอยู่ไหน? ว่าแต่พวกท่านออกไปข้างนอกรอบนี้ พวกท่านมีของฝากอะไรกลับมาให้ข้าบ้างไหม?”

มี่ไลยิ้มและพูดว่า “แน่นอนสิว่าป้าต้องนำของฝากกลับมาให้เจ้าด้วย แต่ของที่ป้านำมาให้เจ้ามันคงเทียบไม่ได้กับของที่พ่อของเจ้ากำลังจะมอบให้เจ้าหรอกนะ!”

“ป้ามี่ งั้นท่านพ่ออยู่ที่ไหน?” หลิงว่านจุนถามอย่างรีบร้อน

“เขากำลังสร้างอะไรบางอย่างอยู่ในลานหลังคฤหาสน์” มี่ไลตอบกลับพร้อมกับชี้ไปยังทิศทางที่หลิงตู้ฉิงอยู่

เมื่อได้รับคำตอบ หลิงว่านจุนก็รีบวิ่งออกไปด้วยสีหน้าตื่นเต้น

หลังจากนั้นหลิงยู่ชานก็โค้งคำนับให้มี่ไล และพูดว่า “ป้ามี่ รอบนี้ที่พวกท่านออกไปข้างนอกพวกท่านเป็นยังไงกันบ้าง ได้พบกับอันตรายใด ๆ บ้างรึเปล่า?”

มี่ไลหัวเราะ “มีพ่อของเจ้าอยู่ด้วยแล้วพวกเราจะเจอกับอันตรายอะไรได้ยังไง พวกเราทุกคนปลอดภัยดีจ๊ะ”

“งั้นข้าก็โล่งใจ” หลิงยู่ชานหัวเราะ

มี่ไลยิ้ม ขณะที่นางยื่นกล่องให้พวกเขาและพูดว่า “นี่คือของฝากที่ข้าเตรียมไวให้กับพวกเจ้าทั้งสองคน แต่แน่นอนว่ามันคงไม่ล้ำค่าเท่ากับของที่พ่อของเจ้าเตรียมไว้ให้หรอกนะ”

“ขอบคุณ ป้ามี่!” หลิงยู่ชานและหมิงจู้รับของขวัญแล้วเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ป้ามี่ ถ้างั้นเดี๋ยวข้ากับหมิงจู้ขอตัวไปพบกับท่านพ่อก่อนนะ”

“ไปเถอะ” มี่ไลพยักหน้า

เมื่อมองไปที่ ‘ลูกชาย’ เหล่านี้ หัวใจของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ นางอดไม่ได้ที่จะลูบท้องของนางพลางพึมพำกับตัวเองเบา ๆ นางจะสามารถให้กำเนิดบุตรได้เมื่อใด?

อีกด้านหนึ่ง หลิงว่านจุนในตอนนี้ได้มาถึงด้านข้างของหลิงตู้ฉิง จากนั้นเขาจึงถามขึ้นว่า “ท่านพ่อกำลังสร้างอะไรอยู่?”

หลิงตู้ฉิงมองขึ้นไปที่หลิงว่านจุนและยิ้ม “เจ้าเดาไม่ได้จริง ๆ เหรอ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงว่านจุนก็มองไปที่สิ่งที่ดูเหมือนหอกยาวและผืนผ้าที่หลิงตู้ฉิงกำลังวาดอะไรบางอย่างอยู่บนมัน เขาถามด้วยความประหลาดใจ “ทั้งสองสิ่งนี้มันอยู่ร่วมกันใช่ไหมท่านพ่อ? ท่านกำลังพยายามสร้างธงใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เจ้าเดาถูกครึ่งหนึ่ง!”

อันที่จริงแล้วอาวุธวิเศษชิ้นนี้ในมือของเขาเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้มันอยู่ในขั้นตอนการปรับแต่งสุดท้ายเท่านั้น เมื่อปรับแต่งเสร็จแล้ว และรวมทั้งสองสิ่งนี้เข้ากัน อาวุธวิเศษชิ้นนี้ก็ถือได้ว่าสำเร็จอย่างสมบูรณ์

“นี่เป็นทั้งธงและหอกในเวลาเดียวกัน” หลิงตู้ฉิงอธิบาย “ในส่วนของหอกยาวที่ใช้เป็นด้ามธง เนื่องจากที่มันถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุหลักอย่าง แร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์ มันจึงมีความแข็งแกร่ง ยืดหยุ่นและความคมเหนือกว่าอาวุธวิเศษทั่ว ๆ ไปอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แถมมันยังมีพลังแห่งกฎของโลหะธาตุแฝงอยู่ ซึ่งทำให้อำนาจของมันในการสร้างความเสียหายหรือเจาะทะลวงจะยิ่งมากขึ้นไปอีก”

“สำหรับผืนธงนี้ พ่อได้ผสานเศษเสี้ยวของพลังมหาวิถีแห่งพิษลงไป ซึ่งส่งผลให้มันสามารถดูดกลืนพิษได้ทุกชนิดเป็นจำนวนมากและยังสามารถปล่อยพิษที่มันดูดกลืนเข้าไปออกมาได้อีกด้วย และมันยังมีเต๋าแห่งภาพมายา ซึ่งมันสามารถสร้างภาพลวงตา หรือแม้แต่การเปิดเผยร่างเงาของศัตรูได้ และมันยังเสี้ยวพลังของชิ้นไม้แรกกำเนิด ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้กับตัวเจ้าได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้มันยังมีส่วนหนึ่งของเจตจำนงแห่งการสังหาร ซึ่งเจ้าสามารถใช้กลิ่นอายของมันกดดันศัตรูได้อย่างรุนแรง และสุดท้ายมันมีมหาเต๋าแห่งวิญญาณทั้งหมด 17 ประเภทอยู่ภายใน เจ้าจงศึกษามันอย่างตั้งใจ!”

“แต่ว่าพลังเหล่านี้ที่แฝงอยู่ในมันนั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของรูปแบบพลังงานต้นกำเนิดและไม่สมบูรณ์ ดังนั้นพวกมันจะสามารถพัฒนาไปได้ถึงขนาดไหนนั้นมันจะขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเจ้าเอง สำหรับชื่อของมันพ่อตั้งชื่อมันว่า ธงรบโลหิตจักรพรรดิ”

ในขณะที่หลิงตู้ฉิงกำลังพูด เขาก็ได้นำผืนธงที่วาดอักขระต่าง ๆ ลงไปเสร็จแล้วเชื่อมต่อเข้ากับด้ามหอก จากนั้นอาวุธที่เรียกว่า ธงรบโลหิตจักรพรรดิ ก็เสร็จสมบูรณ์และเปล่งรัศมีออกมาราวกับว่ามันมีชีวิต!

หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงก็ส่งมันให้กับหลิงว่านจุน พร้อมตบไหล่ของหลิงว่านจุนและพูดว่า “ดูแลมันให้ดีล่ะ!”

หลิงว่านจุนถือธงรบโลหิตจักรพรรดิอย่างตื่นเต้นและเริ่มวิเคราะห์มัน

แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของหลิงตู้ฉิง เกี่ยวกับเต๋าและมหาวิถีต่าง ๆ ที่อยู่ข้างใน แต่เขาก็มั่นใจว่าหลังจากศึกษามันอย่างละเอียดในอนาคตแล้วเขาก็คงสามารถเข้าใจพวกมันได้หมดอย่างแน่นอน

หลังจากลูบไล้มันจนพอใจแล้ว หลิงว่านจุนก็พูดขึ้นว่า “ท่านพ่อ ข้ารู้สึกได้เลยว่าถ้าข้าใช้ธงรบโลหิตจักรพรรดิเมื่อไหร่ ความแกร่งของข้าจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยก็สิบเท่า!”

เมื่อพูดจบเขาก็เดินเข้ากอดหลิงตู้ฉิงอย่างตื่นเต้นและพูดต่อว่า “ขอบคุณท่านพ่อ สิ่งนี้เหมาะกับข้ามาก!”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ธงรบโลหิตจักรพรรดิ มีศักยภาพพอที่จะกลายเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้ในอนาคตแน่นอน แต่มันจะกลายเป็นอาวุธเทวะได้หรือไม่นั้นมันจะขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง”

“เข้าใจแล้ว ท่านพ่อ!” หลิงว่านจุนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าจะพัฒนาให้มันกลายเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน และข้าจะทำให้ไม่มีผู้ใดในมหาพิภพไร้ขอบเขตไม่รู้จักชื่อของมัน!”

เมื่อรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นของหลิงว่านจุน ธงรบโลหิตจักรพรรดิก็เริ่มกระพืออย่างรุนแรงราวกับว่ามันกำลังแสดงความตื่นเต้น