Kill the Hero 034-2
ในวันที่ 4 ของการรักษาตัวในโรงพยาบาล ของขวัญอีกชิ้นได้ถูกส่งมาให้กับคิมวูจินที่ยังคงรักษาตัวอยู่
ไม่ใช่อะไร มันคือแบคคัส (เครื่องดื่มชูกำลังของเกาหลี) หนึ่งขวดในกล่อง
คิมวูจินรู้สึกสับสน เมื่อเห็นของขวัญราคาถูกนี้
‘นี่มัน’
ของขวัญชิ้นนี้ ต้องเป็นโอเซชานส่งมาแน่นอน
อย่างที่คิดไว้ มันคือสิ่งที่โอเซชานส่งมา
‘วิทยุสื่อสาร? ’
มีแบคคัสหนึ่งขวด และเครื่องส่งสัญญาณอยู่ในกล่อง
คิมวูจินเปิดวิทยุทันที
“นี่คิมวูจิน”
– ฉันโอเซชานเอง ขอแสดงความเห็นใจอย่างสุดซึ้งกับการบาดเจ็บของคุณ
คิมวูจินที่ได้ยินคำพูดนั้นก็เยาะหยันขณะหยิบแบคคัสขวดเดียวในกล่องออกมา
“ทั้งหมดที่คุณส่งมาให้นี่ เพราะฉันเข้าโรงพยาบาลใช่ไหม?”
– ขอโทษด้วย ฉันไม่คุ้นเคยกับการส่งของแบบนั้นเท่าไร คุณคาดหวังอะไรล่ะ? เมื่อได้ยินว่าผู้เล่นเข้าโรงพยาบาล ส่วนใหญ่พวกเขามักจะไปอยู่ในห้องเก็บศพ ไม่ใช่ห้องผู้ป่วย
“แต่แบคคัสขวดเดียวนี่น้อยไปหน่อยนะ…”
– ตอนนี้ เรามาพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงกันดีไหม? ฉันเกรงว่าเราจะคุยกันได้ไม่นานนัก เพราะแบตเตอรี่ที่จะใช้ไม่พอ โอ้ อย่าทิ้งวิทยุนะ เรายังใช้ซ้ำได้อีก
“ได้”
คิมวูจินไม่คิดจะกดดันเขาอีกต่อไป
– คุณต้องการซื้อดันเจี้ยนระดับ A 2 ชั้น ใช่ไหม?
“ใช่ ฉันจะซื้อมันในราคา 5 พันล้านวอน”
– คุณเลเวลเท่าไร?
มันเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกะทันหัน แต่คิมวูจินก็ตระหนักถึงความตั้งใจของเขาทันที และตอบกลับไปตามนั้น
“ตอนนั้น คุณไม่ได้ทดสอบความสามารถของฉันไปแล้วเหรอ?”
– ฉันทำไปแล้ว แต่นั่นเป็นการทดสอบดันเจี้ยน 1 ชั้น แต่ตอนนี้คุณกำลังขอดันเจี้ยน 2 ชั้น มันเหมือนกับการขอขับรถบัส โดยใช้ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ หื้ม? คุณก็รู้ว่ามันไร้สาระแค่ไหนใช่ไหม?
“ไม่ว่าฉันจะตายหรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของนายหน้า นั่นเป็นเหตุผลที่คุณจะได้รับเงินล่วงหน้า 5 พันล้านวอน และค่าธรรมเนียมแยกต่างหากในภายหลังไม่ใช่เหรอ?”
เสียงของคิมวูจินดุดันขึ้น
อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มบางเบายังคงปรากฏใบหน้าของคิมวูจิน
รอยยิ้มเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขามีความประทับใจที่ดีต่อโอเซชาน
มันเป็นเรื่องธรรมดา
นายหน้าที่กังวลเกี่ยวกับชีวิตของผู้เล่น
นายหน้าส่วนใหญ่ไม่สนใจว่าผู้เล่นจะเคลียร์ดันเจี้ยนได้หรือไม่
เพราะแค่แนะนำดันเจี้ยนให้กับผู้เล่น นายหน้าก็ทำเงินได้มากพอแล้ว จึงไม่สำคัญว่าผู้เล่นจะอยู่หรือตาย
แม้ว่าความยากของดันเจี้ยนจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ผู้เล่นล้มเหลว แต่ก็ไม่มีทางที่ผู้เล่นจะรู้ได้ว่านายหน้าได้ซ่อนความจริงเอาไว้แค่ไหน
ในทางตรงกันข้าม ดันเจี้ยนบางแห่งมีราคาแพงขึ้นเพราะเหตุนี้
ดันเจี้ยนที่ผู้เล่นล้มเหลวหลายครั้งนั้นอันตราย แต่มันก็หมายความว่าจะมีไอเทมที่ผู้เล่นทิ้งเอาไว้ก่อนตายมากขึ้นด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น โอเซชานสามารถรับเงิน 5 พันล้านวอนได้ เพียงแค่ยอมรับคำขอของคิมวูจิน ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตาย
ไม่มีเหตุผลที่เขาจะหยุดคิมวูจินด้วยเหตุนี้
– ใช่ มันไม่สำคัญสำหรับฉันมากนัก ว่าคุณจะตายหรือไม่ แต่คุณไม่สามารถมองดูคนตายได้ใช่ไหม? มันมีเส้นแบ่งในโลกที่ไม่ควรข้ามไป และโลกก็ต้องการใครสักคน เพื่อปกป้องเส้นนั้น
ตอนนั้นเอง คิมวูจินก็พูดขึ้น
เป็นเพราะเขาจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนได้
“งั้นคุณจะขายดันเจี้ยนให้ฉันไหม? ช่วยพูดให้ชัดเจนหน่อย”
แม้จะมีเสียงหัวเราะของเขา แต่คำพูดข่มขู่ก็หลุดออกมาจากปากของเขาเช่นกัน
จากนั้นโอเซชานพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
– คุณมั่นใจจริงเหรอ?
“ฉันไม่มีงานอดิเรกอย่างการพยายามฆ่าตัวตาย ถ้าฉันมีงานอดิเรกแบบนั้น ฉันจะอยู่ในห้องเก็บศพ ไม่ใช่ห้องผู้ป่วย”
– เอาล่ะ งั้นฉันจะขายมัน
“ขอบคุณ”
– ฉันจะให้คำแนะนำแทน
“คำแนะนำ? “
– คุณต้องการซื้อไอเทมใด ๆ หรือไม่?
คำพูดที่ออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้คิมวูจินขมวดคิ้ว แทนที่จะรู้สึกไม่พอใจ มันเป็นการแสดงความสงสัยเกี่ยวกับข้อเสนอที่ไม่คาดคิดมากกว่า
ราวกับเขาไม่ได้สนใจว่าปฏิกิริยาของคิมวูจินจะเป็นอย่างไร โอเซชานก็พูดต่อ
– มีเซตไอเทมสำหรับล่าลิซาร์ดที่น่าทึ่งอยู่ในมือของฉัน สิ่งนี้เรียกว่า เซตนักฆ่าลิซาร์ดแมน! ด้วยไอเทมชุดนี้คุณสามารถเหยียบลิซาร์ดแมนได้เหมือนกับที่ซูเปอร์มาริโอ้เหยียบคูป้า! ถ้าคุณซื้อเป็นเซต ฉันจะลดราคาให้ โอกาสเช่นนี้ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ นะ” (TL : คูป้า คือ เต่าในเกมมาริโอ้)
โอเซชานที่จู่ ๆ ก็กลายมาเป็นคนขายสินค้าข้างถนนได้โฆษณาผลิตภัณฑ์ของเขา เมื่อได้ยินการโปรโมตของโอเซชาน คิมวูจินก็พิจารณาอย่างจริงจัง
‘มีไว้ก็ไม่เสียหาย’
ปัจจุบันคิมวูจินไม่มีไอเทมสำหรับล่าลิซาร์ดแมนอยู่ในมือ
ดังนั้นคิมวูจินจึงวางแผนที่จะซื้อไอเทมเพื่อล่าลิซาร์ดแมนโดยเฉพาะ
ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้อเสนอของโอเซชานน่าสนใจมาก
‘แต่เขาเตรียมพร้อมถึงระดับนี้แล้วเหรอ? ’
ในขณะเดียวกัน คิมวูจินก็ประหลาดใจกับการเตรียมการของโอเซชาน
ในสายตาของโอเซชาน ธุรกิจก็คือธุรกิจ แต่ไม่มีนายหน้าคนไหนที่ทำธุรกิจในลักษณะนี้
เหตุผลแรกคือ นายหน้าส่วนใหญ่จะมองไปที่ผลกำไรทันที และเหตุผลที่สองคือ มีนายหน้าไม่น้อยที่มีไอเทมจำนวนมากที่เหมาะสมกับดันเจี้ยน
ความจริง นายหน้าขายไอเทมจะยุ่งอยู่กับการพยายามกำจัด และหมุนเวียนไอเทมให้เร็วที่สุด
เป็นเพราะราคาของไอเทมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ถ้ามูลค่าของไอเทมชิ้นนั้นสูงอยู่แล้ว ในวงการนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะขายไอเทมนั้นทันทีที่คุณได้ครอบครอง
ในสถานการณ์เช่นนี้ อะไรคือการเก็บเซตไอเทมตามลักษณะดันเจี้ยนของตัวเอง?
‘เขากำลังบอกว่า เขามีระบบที่เหมาะสมในการเคลียร์ดันเจี้ยนหรือเปล่า? ’
นั่นหมายความว่าเขามีระบบที่มีประสิทธิภาพในการเคลียร์ดันเจี้ยน
มันคงไม่แปลก ถ้าสมาคมจะมีระบบเช่นนี้
แต่โอเซชานไม่ใช่สมาคม
‘หมอนี่ไม่ธรรมดาเลย’
คิมวูจินประเมินการมีอยู่ของโอเซชานอีกครั้ง
เขาตอบ
“ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ”
– เป็นการเลือกที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันจะเสนอให้คุณในราคาที่พิเศษมาก ฉันจะให้คุณได้มีไมล์สะสมที่มากมายเช่นกัน (TL : ไมล์สะสม ก็คือระยะทางสะสมเวลาขับรถ ในที่นี้ใช้ประมาณสะสมไว้ก่อนที่จะได้เปลี่ยนหรือรับอะไรบางอย่าง)
“แต่ฉันมีเรื่องจะขอจากคุณ”
– ทุกอย่างเพื่อลูกค้าผู้โดดเด่นของฉัน อย่าลังเลที่จะถาม
“ฉันขอยืมเงินหน่อยได้ไหม?”
เกิดความเงียบขึ้นอย่างกะทันหัน
– หือ? อะไรนะ?
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง โอเซชานก็ถามซ้ำอีกครั้ง และคิมวูจินก็ถามคำถามเดิมอีกครั้งอย่างใจเย็น
“ตอนนี้ฉันมีเงินไม่พอ ดังนั้นฉันสงสัยว่าจะกู้เงินได้ไหม…”
– ชี่ – ซี่, ชิก – ชี่! ฉันไม่ค่อยได้ยินคุณเลย ชี่ ชี่ … ไอ้เวรนี่ ไอ้วิทยุขยะ ไอ้! @$%^%&…ชี่ ชิก ซี่ ซิก….
คิมวูจินหัวเราะออกมากับปฏิกิริยานั้น
“ถ้าไม่ได้ งั้นเป็นไปได้ไหมที่จะแลกเปลี่ยนกับไอเทม?”
– อ่า ฉันได้ยินคุณแล้ว แน่นอน! มันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องจัดการกับสินค้าที่ถูกขโมยมาทั้งหมด
“ฉันไม่ได้พูดถึงการขาย แต่เป็นการแลกเปลี่ยน ถ้าฉันขายมันเหมือนสินค้าที่ขโมยมา ฉันจะต้องจ่ายค่านายหน้า และเมื่อฉันซื้อสินค้าใหม่ คุณก็จะให้ฉันจ่ายค่าคอมมิชชั่นอีก”
– คุณเก่งเรื่องการคำนวณนะ คุณเป็นนักบัญชีที่ดีเลย เอาล่ะ มาแลกเปลี่ยนรายการไอเทมกันก่อน โอ้ แค่เอาวิทยุใส่กล่องแล้วทิ้งลงถังขยะ จากนั้นเราจะจัดการเอง ขอให้เพลิดเพลินกับแบคคัสของคุณ ฉันจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมใด ๆ
การทำข้อตกลงได้สิ้นสุดลง
“ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม? เขาตั้งใจจะเรียกเก็บเงินค่าไอ้นี่จากฉัน? ”
คิมวูจินมองไปที่ขวดแบคคัส และยิ้มอย่างจนใจ
ในขณะนั้น โอเซชานพูดกับคิมวูจิน
– ระวังสมาคมหัวกะโหลก ฉันแค่หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นได้แค่เรื่องไร้สาระ
ตอนที่โอเซชานพูดจบ ดวงตาของคิมวูจินก็เริ่มเปล่งประกายดุดัน
“ระวังสมาคมหัวกะโหลก ฉันก็หวังว่าคำแนะนำนี้จะไม่มีอะไรนอกจากเรื่องไร้สาระเท่านั้น”
หลังจากปิดวิทยุ และจบการสนทนาโอเซชานก็ยิ้มอย่างขมขื่น
ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจ
‘ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น? ‘
เขาอาจจะพูดอะไรที่ไม่จำเป็นกับคิมวูจิน
‘ในเมื่อเขาต้องการแค่นายหน้าเท่านั้น’
อย่างไรก็ตาม โอเซชานอดจะเตือนเขาไม่ได้
‘แต่ฉันไม่อาจสูญเสียผู้เล่นตัวจริงที่ได้พบหลังจากค้นหามานานเพราะพวกเขาได้’
โอเซชานเชื่อว่าคิมวูจินเป็นผู้เล่นที่เคลียร์ดันเจี้ยนเพื่อจบเกม
‘และนี่เป็นแค่ครั้งที่สองที่ฉันได้พบกับคนโรคจิตที่มีความสามารถขนาดนี้’
หลักฐานคือเขาพยายามที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนที่ยุ่งยาก ซึ่งอาจจะเกินระดับความแข็งแกร่งของเขาด้วยซ้ำ
ถ้าเขาเป็นผู้เล่นที่สนใจแต่ตัวเอง เขาจะพยายามเคลียร์ดันเจี้ยนแบบนี้ไปทำไม?
เพราะอย่างนั้น ฉันถึงแนะนำให้เขาระมัดระวัง แม้ว่าจะเสี่ยงต่อการทำร้ายความสัมพันธ์ของเราก็ตาม
โอเซชานรู้
‘ตอนที่เขาฆ่าคนเก็บกวาดของสมาคมหัวกะโหลก สหพันธ์ยามาโตะ และสมาคมหัวกะโหลกก็ได้หมายหัวว่าคิมวูจินเป็นบุคคลสำคัญเอาไว้แล้ว และตราบใดที่ปาร์คยองวานยังพยายามจะใช้คิมวูจินเป็นเหยื่อล่อ คิมวูจินก็ไม่อาจปลอดภัยได้’
สมาคมหัวกะโหลกเป็นสมาคมแบบไหน ใครอยู่เบื้องหลัง และใครพยายามใช้คิมวูจิน …
‘ถึงแม้ตามสัญชาตญาณของฉันแล้ว ฉันคิดว่าเขาตั้งใจให้เรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้ก็ตาม…’
เขายังคาดเดาว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแผนของคิมวูจิน
อันที่จริงนั่นคือสาเหตุที่โอเซชานไม่อาจติดต่อกับคิมวูจินได้
‘ให้ตายเถอะ ฉันจะไปพบเขาเป็นการส่วนตัว ถ้าฉันมั่นใจว่าเขาไม่ได้ติดต่อกับสมาคมเมสสิอาห์ …’
การกระทำของคิมวูจินมีเหตุผล แต่ก็ไม่มากพอที่จะเสี่ยง
นั่นทำให้โอเซชานไม่สามารถติดต่อกับคิมวูจินได้
‘เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับสมาคมเมสสิอาห์ใช่ไหม? ให้ตายเถอะ ฉันไว้ใจใครไม่ได้เลย ‘
เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงนี้ โอเซชานก็ถอนหายใจยาว ๆ
Woo-woong!
ขณะนั้นโทรศัพท์ของโอเซชานสั่น
โอเซชานดูหมายเลข และรับสายทันที
“อ่า อืม มีอะไร? คุณมีหน้ากากรีปเปอร์เหรอ?”
โอเซชานกำหมัดแน่นหลังจากได้ยินคำตอบนั้น
‘ใช่ วิธีเดียวที่จะจบเกมนี้ได้ก็คือการโอเวอร์เกียร์! ’ (TL : การใช้ยุทธภัณฑ์ที่เหนือกว่า)